ข้อมูลที่น่าสนใจ………..
เครื่องยนต์ เบนซิน ขนาด 1,197 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 86 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4000 รอบต่อนาที
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 15 วินาที
ความเร็วสูงสุด 170+ กม./ชม.
เกียร์D ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 1,500 รอบต่อนาที
เกียร์D ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 1,800 รอบต่อนาที
เกียร์D ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 2,200 รอบต่อนาที
เกียร์D ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 2,800 รอบต่อนาที
เกียร์D ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. 3,200 รอบต่อนาที
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 20กม./ลิตร
ราคา 489,000-619,000 บาท มีสีให้เลือกทั้งหมด 7 สี
คะแนนความสวยงาม + + + +
คะแนนสมรรถนะ + + +
คะแนนความคุ้มค่า + + + +
โตโยต้า ยาริส รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ รถ 5 ประตู ที่เคยเป็นรถระดับกลาง เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 แต่ถึงตอนนี้ มันจะกลายเป็นอิโคคาร์ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรแล้วก็ตาม ก็ใช่ว่าจะอืดอาดแม้ ซีซี จะลดน้อยลง
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้แนะนำรถยนต์โตโยต้ายาริส คอมแพคแฮทช์แบ็คยอดนิยมเข้าสู่ตลาดประเทศไทยในปีไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ก็คงต้องมาดูกันว่า จะเรียกกระแสความนิยม จากยอดจองได้มากน้อยแค่ไหน เป็นไปตามเป้าหรือไม่ อยู่ที่แผนการตลาด ซึ่งจะได้นำเสนอใน SPECIAL STORY ต่อไป
คอลัมน์ TEST RUN ครั้งนี้ เป็นการเผยสมรรถนะของ ยาริส โดยตรง “New YARIS…YES, THAT’S RIGHT!” ที่สุดของความมีสไตล์ ภายนอกมีความครบครัน เน้นความสปอร์ตด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมไฟ LED Light Guiding ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light แบบ LED และไฟตัดหมอกหน้า ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding สะท้อนถึงความหรูหรา ทันสมัยอย่างลงตัว ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED พร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว มือจับประตูโครเมียมพร้อมระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry ยาริส มีด้วยกัน 4 รุ่น 7 สี
ที่สำคัญภายในตอบรับไลฟ์สไตล์ที่เหนือกว่า ห้องโดยสารดีไซน์ล้ำสมัยเน้นความกว้างขวางสะดวกสบาย พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน อีกทั้งยังเงียบและนุ่มนวลเหนือระดับรถยนต์ซับคอมแพคแฮทช์แบ็ค ด้วยการเพิ่มวัสดุซับเสียงรบกวนรอบคัน ถึงแม้จะดูรถเล็กๆ แต่นั่งสบาย คนตัวใหญ่ขายาว สูง 180-190 เซนติเมตร ก็ยังไม่อึดอัด พวงมาลัยหุ้มหนัง พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะMID เครื่องเล่นวิทยุ CD/ MP3/ WMA พร้อมช่องต่อ USB/ AUX และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมจอ LCD พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบเพื่อการเข้า – ออกสะดวก เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่วางขวดน้ำบริเวณประตูผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า ช่องเสียบชาร์จไฟ 12V พร้อมช่องเก็บของข้างเบรกมือ กล่องเก็บของอเนกประสงค์ใต้ที่วางแขนตรงกลาง เป็นต้น
สมรรถนะ ขับสนุก ต้องบอกว่าควบคุมได้ง่าย ด้วยความที่ใช้เครื่องยนต์ DUAL VVT-i ขนาด 1.2 ลิตร ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ให้การตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างยอดเยี่ยม ความเร็วปลายได้กว่า 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รหัสเครื่องยนต์ 3NR-FE มีปริมาตรบรรจุกระบอกสูบ 1,200 ซีซี 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 86 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ แบบ EFI รองรับสูงสุด E20มาตรฐานไอเสียEURO4 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 20กม./ลิตร อย่างนี้ถึงเรียก อิโคคาร์ ตัวจริง
สุดท้ายกับ ระบบความปลอดภัย ระบบสัญญาณเตือนสิ่งกีดขวางขณะถอยหลัง ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control) ระบบไฟส่องสว่างหลังจากดับเครื่องยนต์ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) และถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง
เจ้าอิโคคาร์คันนี้ มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาแตกต่างกันไป รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 619,000 บาท รุ่น E เกียร์อัตโนมัติราคา569,000 บาท รุ่น J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 539,000 บาท รุ่น J ECO เกียร์อัตโนมัติ ราคา 489,000บาท ราคาที่จับต้องได้ง่ายๆ จริงๆ
