All-New MINI Cooper Countryman : ทดลองขับ ทดลองนั่ง ฟังเสียงเครื่องยนต์

รถคันเล็ก ห้องเครื่องโต จากประเทศเยอรมัน นามว่า MINI สำหรับ มินิ เอง มีชื่อเสียงมาเนิ่นนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น คูเปอร์ และยิ่งเป็น คูเปอร์ คันทรี่แมน ด้วยแล้ว ไม่มีใครปฏิเสธทั้งความสวย และความแรงของมัน

   

MINI Cooper Countryman มีอยู่ด้วย 3 รุ่น เป็นพรีเมี่ยมคาร์ ประเภท คอมแพ็ค “Sport Activity Vehicle”ที่ยังคงให้ความรู้สึกแบบรถเล็ก แต่แรง และเกาะถนนเป็นพิเศษ เพราะพอเอ่ยคำว่า มินิ มันมีห้องเครื่องยนต์ใหญ่จริงๆ

ดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกสวยหรู ยิ่งคันนี้ เป็นแบบสีฟ้าตัดกับเส้นสายสีขาว ดูโดดเด่นเป็นพิเศษ คันทรีแมนรุ่นก่อนหน้าว่าสวยแล้ว รุ่นนี้สวยกว่า ทั้งยังตอกย้ำดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมอย่างไร้ข้อกังขา และยังปราดเปรื่องด้วยรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งและโครงสร้างแบบเส้นตรง การออกแบบที่รถยนต์ในแบรนด์มินิ มีร่วมกันยังรวมไปถึงหลังคาแบบ helmet roof  แถบโครเมียมบริเวณ Shoulder Line และทรวดทรงที่โฉบเฉี่ยวสะอาดตา แต่ยังเปี่ยมด้วยดีไซน์สุดคลาสสิคของรถยนต์มินิ แนวคิดการผสมผสานดีไซน์ที่แปลกใหม่กับเอกลักษณ์แบบมินินี้ยังเห็นได้ชัดเจนในทุกองค์ประกอบของตัวรถ อย่างเช่นไฟหน้าที่มาพร้อมกับ daytime running light แบบวงแหวนเป็นครั้งแรก พร้อมให้แสงสว่างที่นวลตาอย่างทั่วถึง เกิดเป็นเอกลักษณ์ที่สะดุดตาทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ยิ่งไฟสูงด้วยแล้ว สว่างไสวกันทั้งถนนเชียว มันดึงดูดสายตาด้วยพื้นผิวตัวถังที่เรียบเนียน แต่ยังเปี่ยมด้วยรายละเอียดมากมาย เช่น การเสริมเส้นขอบโลหะที่ล้อมรอบส่วนแถบสีดำที่โอบล้อมตัวรถและซุ้มล้อ ควบคู่ไปกับเหลี่ยมมุมรอบตัวรถที่เฉียบคมมากขึ้น เข้ากันกับพื้นผิวด้านข้างตัวรถที่ผ่านการออกแบบมายังแม่นยำเพื่อเสริมให้มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ ดูโฉบเฉี่ยว หนักแน่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตอนเปิดฝากระโปรงหน้า แบบดับเบิ้ลล๊อคแล้ว อึ้งกับฝากระโปรงหน้า ที่เจาะเป็นวงรีด้านหน้า เพื่อเวลาปิดครอบลงจะได้ไม่ปิดบังไฟหน้า เท่ห์สุดลิ่ม

   

พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างมากยิ่งขึ้น ทั้ง Headroom Legroom และ Shoulder room มินิ คันทรีแมน ประกอบด้วย 5 ที่นั่งแบบเต็มตัว และช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุเพิ่มขึ้นโดยมีความจุมากถึง  450 ลิตร และยังสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,309 ลิตร เมื่อทำการพับเบาะที่นั่งหลังซึ่งแยกกันที่สัดส่วน 40:20:40 เพื่อความสะดวกสบายและการใช้งานต่างๆ การตกแต่งภายใน ทั้งสะอาดตาและตอบโจทย์ บริเวณที่นั่งคนขับดูกว้างขวางและทันสมัยยิ่งขึ้น ส่วนการใช้วัสดุคุณภาพสูงและการคำนึงถึงการใช้งาน เช่น ไฟ LED ที่แต่งแต้มห้องโดยสารเพื่อสร้างหลากหลายอารมณ์แห่งการขับขี่ และพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง พร้อมช่องเก็บขวดน้ำขนาดหนึ่งลิตรบริเวณ ข้างประตู ยังช่วยเสริมความกว้าง และแต่งเติมบุคลิกของ มินิ คันทรีแมน โฉมใหม่ ให้มีความเฉพาะตัวยิ่งขึ้น มีหน้าจอคอนโซลหน้า 8.8” touch screen นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น MINI Country Timer ที่ช่วยตรวจจับและแสดงข้อมูลขณะขับขี่บนพื้นถนนที่ท้าทาย และ MINI Connected ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวในยามเดินทาง แสดงพิกัดของรถ และข้อมูลต่างๆ ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งแสงไฟส่องจากใต้กระจกมองข้างฝั่งคนขับ ฉายโลโก้มินิบนพื้นทุกครั้งที่เปิดประตูเพื่อเริ่มต้นการเดินทางและเมื่อปิดประตูล๊อครถ แถมแถบเส้นไฟสีแดงที่ประตูด้านในทั้ง 4 บาน

   

อย่างที่บอก มินิ คูเปอร์ คันทรีแมน มีอยู่ด้วยกัน 3 เวอร์ชั่น คือ มินิ คูเปอร์ คันทรีแมน กับ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน และ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม ซึ่ง มินิ คูเปอร์ คันทรีแมน จะเริ่มต้นด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุดอยู่ที่ 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,400-4,300 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 16 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 เพียง 148 กรัมต่อกิโลเมตร และทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีพวงมาลัยหนังแท้แบบมัลติฟังก์ชั่นเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มากับตัวรถ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมความสะดวก สบายด้วยฟังก์ชัน Easy Opener ให้สามารถควบคุมการเปิดปิดฝากระโปรงรถเพียงใช้เท้าจ่อบริเวณใต้กันชนท้าย หรือจะเป็นเครื่องยนต์ใน มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน และ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม ขับเคลื่อนด้วยเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่กำลังสูงสุดถึง 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 16 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 143 กรัมต่อกิโลเมตร และทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบสปอร์ต พวงมาลัยหนังแท้แบบสปอร์ตพร้อมมัลติฟังก์ชั่น ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เพื่อให้ขับขี่ได้สนุกทันใจ เรียกว่า 2 ตัวหลัง มันแรงขึ้น

ซึ่งทำให้มินิทั้ง 3 รุ่นนี้มีสมรรถนะโดดเด่นเมื่อเทียบกลุ่มรถยนต์ระดับเดียวกัน นอกเหนือจากสมรรถนะและดีไซน์ที่โดดเด่นของมินิทุกรุ่นแล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการสร้างความพึงพอใจสูงสุด คือ การบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับกำหนดใดที่ถึงก่อน) นอกจากนี้ มินิยังมีโปรแกรมการรับประกันที่ขยายขอบเขตการคุ้มครองเป็นตลอดระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งรวมกับค่าตัวรถ คือ MINI COOPER COUNTRYMAN ราคา 2,299,000 บาท MINI COOPER S COUNTRYMAN ราคา 2,659,000 และ MINI COOPER S COUNTRYMAN HIGHTRIM 2,959,000 บาท

 

Related posts

Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed