โตโยต้า อินโนวา คริสต้า ใหม่ แล้วคุณจะลืม อินโนวา ตัวเก่าไปสิ้น

ในปี พ.ศ. 2547 โตโยต้า อินโนวา (Toyota INNOVA) ได้เข้าสู่ตลาดไทย หลายคนจับจ้อง แต่ไม่ได้สัมผัส อาจจะได้นั่งบ้างในบางคราที่เจอแท็กซี่นำมาให้บริการ แต่หลายคนก็ได้เป็นเจ้าของด้วยตัวเอง จากวันนั้นถึงวันนี้ โตโยต้า อินโนวา คริสต้า ตัวใหม่ เปิดตัวปี 59 และมาขับในปี 60 ต้องยอมรับว่าดีต่อใจ


รถอเนกประสงค์ประเภท MPV หนึ่งในนั้นต้องยกให้ โตโยต้า อินโนวา คริสต้า เพราะถึงวันนี้ ได้รับการยอมรับในวงกว้าง TOYOTA INNOVA CRYSTA สะท้อนถึงภาพลักษณ์ใหม่ ด้วยความหรูหราและสะดวกสบาย รวมถึงความกว้างขวาง ที่จะเดินทางกัน 7 คนพร้อมสัมภาระ ก็ไม่ขี้เหร่เลย All New INNOVA CRYSTA โดยเนื้อแท้ เน้นถึงการเข้าใจความต้องการของลูกค้าที่ปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นปรัชญาการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าไทย เน้นว่าลูกค้าไทย แรกๆ อินโนวา ออกแบบยังไม่โดดใจคนไทยเท่าในตอนนี้


SUV ระดับหรู ที่ดีไซน์มาตอกย้ำความต้องการ ซึ่งใช้คำว่า Premium Crossover MPV ดังนั้นแล้วเจ้า TOYOTA All New INNOVA CRYSTA โดดเด่น เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์กับเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและพริ้วไหว ตอบรับทุกความต้องการกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ แน่นอนว่า สวยและใกล้เคียงกับรถเก๋ง มากกว่ารถ PPV ไฟหน้าใหญ่แต่โฉบเฉี่ยว ความกว้างของกระจกหน้า ทำให้ทัศนวิสัย ดีเป็นพิเศษ รวมไปถึง “All New INNOVA CRYSTA” คือจุดเปลี่ยนของรถยนต์อเนกประสงค์แบบเดิม มาเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับหรูสำหรับผู้บริหาร นักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มีความทันสมัย เนื่องจากต้องการนั่งคนเดียว หรือหากจะต้องการไปกันทั้งครอบครัว อินโนวา คริสต้า ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี All New INNOVA CRYSTA มีให้เลือกถึง 3 รุ่น และมีสีให้เลือกทั้งสิ้น 4 สี คือ White Pearl Crystal / Super White II / Silver Metallic และ Attitude Black ก่อนขับ เราสังเกตได้ว่า กระจังหน้าโครเมียมพร้อมสเกิร์ต มิติใหม่ของดีไซน์ ทุกเส้นสายหรูหราโฉบเฉี่ยว ไฟหน้า LED Projector พร้อม Daytime Running Lights ดีไซน์ล้ำ สะกดทุกสายตา ไฟตัดหมอกหน้า สว่างไสว เพิ่มทัศนวิสัย ไฟท้ายดีไซน์เรียบหรู มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มองเห็นเด่นชัดในระยะไกล กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว และไฟ Welcome Light อีกระดับความหรูหรา มือจับประตูโครเมียม ดีไซน์สวยหรู โดดเด่นมีระดับ ระบบช่วยปิดประตูท้าย ตอบรับความสะดวกสบายและแถมยังมีเจ้าสปอยเลอร์หลัง พร้อมเสาอากาศแบบ Shark Fin เรียกว่า โค-ตะ-ระ เท่ห์ระเบิด


Luxury ของห้องโดยสาร เน้นด้านความสะดวกสบาย ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง เบาะนั่งปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างอิสระลงตัว และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เราขับรถเดินทางกันไปถึง บุรีรัมย์ ทำให้ได้มีเวลาอยู่กับมันนานหน่อย จากการดีไซน์ภายใน หรูหราอย่างมีเอกลักษณ์ เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบซ่อนฝ้า PREMIUM ILLUMINATION LED หรูหราล้ำสไตล์ แผงควบคุมไฟห้องโดยสารและเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุม สั่งการทุกระบบง่ายดาย ครบครันทุกการควบคุม มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID หน้าจอสีแบบ TFT ดีไซน์ล้ำ คมชัดทุกรายละเอียด ระบบ Push Start สตาร์ทเครื่องยนต์ง่าย เพียงปลายนิ้วสัมผัส ระบบ Smart Entry ควบคุมการล็อก-ปลดล็อกประตูอัจฉริยะ เพียงพกกุญแจ Smart Key ให้อยู่ในระยะทำงาน เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat อีกขั้นแห่งความมีระดับ เพิ่มความสะดวกสบายด้วย ที่พักแขน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control รักษาความเร็วให้คงที่โดยไม่ต้อง เหยียบคันเร่ง หรือจะเป็นความสุนทรีย์ขณะเดินทางอย่าง DVD & NAVIGATOR ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมรองรับระบบ T-CONNECT และช่องต่อ USB เชื่อมต่อทุกความบันเทิงเต็มรูปแบบ พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายตามความต้องการ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เข้าถึงสัมผัสล้ำที่พร้อมตอบทุกความสะดวกสบาย เบาะปรับเปลี่ยนได้อิสระลงตัว หลากหลายเพื่อการใช้งาน ทั้งแบบ Privy Relaxed แบบ Long Space และ แบบ Rear Space ระบบปรับเลื่อนที่นั่งด้านหน้า Easy Slide Front ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้ผู้โดยสารแถวที่ 2 ระบบปรับพับเบาะจังหวะเดียว 1-Touch Tumble เพิ่มความสะดวกสบายในการปรับเบาะ ช่องเก็บของแบบ Cool Box เติมเต็มความสดชื่นตลอดการเดินทาง และที่วางของอเนกประสงค์ Seat Back Table


ทีนี้ ถ้าใช้งานในเมือง ก็ขอแนะนำ เจ้าตัวเบนซิน 2.0 ลิตร กำลังเหลือเฟือ ใช้งานง่ายคล่องตัว เป็นเครื่อง DUAL VVT-i หากแต่เราเดินทางไกล เลยใช้ตัว เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร GD EFFICIENT BOOST อัตราเร่งดี ความเร็วปลายไหลลื่น ประหยัดน้ำมัน แถมมีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift ระบบส่งกำลังสุดล้ำ ตอบสนองทันใจ สวิตช์ปรับรูปแบบการขับขี่ Drive Mode Switch ตอบสนองทุกสภาพการขับขี่ ทั้งแบบประหยัด Eco Mode และแบบเต็มสมรรถนะ Power Mode หรือจะเป็นความแม่นยำในการควบคุมพวงมาลัย ดีเด่นเป็นพิเศษ ยิ่งระบบกันสะเทือนหน้าและหลัง เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล และการทรงตัวที่ดีเยี่ยม เหนียวหนึบ แต่ไม่ย้วยหรือแข็งกระด้าง ยิ่งโครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA เทคโนโลยีเสริมความแข็งแกร่ง โดยการใช้เหล็กกล้าแรงดึงสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับ และกระจายแรงกระแทกจากการชน ระบบเบรก ABS Anti-lock Brake System ป้องกันล้อล็อก อันนี้สำคัญมาก แม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่ก็มีฝนตกลงมาให้ลื่นได้ การลื่นไถลจากการเบรกกะทันหัน ABS จะช่วยให้ควบคุมรถได้แม้ในสถานการณ์คับขัน รถไม่หมุน ไม่ตกข้างทาง เท่านั้นก็ปลอดภัย หากขับตามกำลังที่กฎหมายกำหนด ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-start Assist Control ป้องกันรถไหล ขณะออกตัวบนทางลาดชัน ระบบควบคุมการทรงตัว VSC และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ควบคุมรถให้ทรงตัวอย่างมั่นคงบนทางโค้ง หรือถนนที่เปียกลื่น และป้องกันอาการล้อหมุนฟรี ซึ่งเป็นสาเหตุให้รถลื่นไถลเสียการทรงตัว ที่สำคัญรถใหญ่ๆ เวลาถอยหลังลำบาก ไม่เห็นมอเตอร์ไซค์ หมา เด็กข้างหลัง เจ้าอินโนวา คริสต้า มีกล้องมองหลัง พร้อมฟังก์ชันการมองเห็นปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ ช่วยให้ถอยจอดได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้น ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 จุด มั่นใจอีกขั้น ในทุกสภาวะการขับขี่ เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานที่สำคัญไม่ดูเป็นผู้ใหญ่จนเกินไป เรียกง่ายๆ ไม่ดูแก่เกินวัย


และถ้าจะเป็นเจ้าของ โตโยต้า อินโนวา คริสต้า ใหม่ มีให้เลือก 3 ราคา รุ่น 2.8V เกียร์อัตโนมัติ (เครื่องยนต์ดีเซล)ราคา 1,399,000 บาท รุ่น 2.8G เกียร์อัตโนมัติ (เครื่องยนต์ดีเซล)ราคา1,235,000 บาท และรุ่นสุดท้าย 2.0E เกียร์ธรรมดา(เครื่องยนต์เบนซิน) ราคา 1,129,000 บาท รุ่นสุดท้ายขอแนะนำเลย ว่าถ้าใช้ในเมือง ไม่ค่อยได้ไปต่างจังหวัดมากนัก ตัวหลังนี่เหมาะจริงๆ

 

Related posts

Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed