น้องจูน กลับมาพบกับทุ๊กทุกท่านอีกแล้ว ในหน้านี้ วันก่อนได้นั่งดูข่าว ตะมุ๊ตะมิ ไปเรื่อยๆ ดูรายการทำอาหาร ชิวชิว ชูชู แต่ที่ชอบสุดอ่ะค่ะ รายการท่องเที่ยว ที่มีหนุ่มหล่อๆ มุ้งมิ้งๆ อันนี้ทำให้ใจดูฟุ้งฟิ้ง
แล้วก็ได้ดูข่าว ที่ประเทศจีน เค้าทำรถไฟความเร็วสูง ที่เร็วที่สุดในโลกแล้ว สามารถวิ่งได้วันละ 14 เที่ยว และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โอ้แม่เจ้า อะไรจะเร็วขนาดนั้น
คือ ประเทศจีน เค้าไปถึงไหนแล้ว ก็ด้วยความเป็นเลิศทางปัญญา และมีระบบระเบียบบังคับ ถึงแม้จะไม่เต็มใจทำเหมือนกับญี่ปุ่นก็ตาม หากแต่จีน เป็นประเทศที่ใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดฝุดๆ ขนาดที่ว่าทำผิด พิพากษา รุ่งขึ้นก็ประหารเลย ถึงอย่างนั้น ก็ยังคงมีอาตี๋ อาหมวย ทำความผิดกันไม่ขาดชิมิ ชิมิ
ซึ่ง จูน เองก็อยากจะให้ กฎหมายบ้านเรา เมืองไทย แบบว่ารุนแรงกว่านี้ และบังคับใช้อย่างจริงจัง แต่ถ้าจะพูดจะเขียนเกี่ยวกับ ยาเสพติด ก็ดูจะไม่ตรงกับคอลัมน์นี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องการจราจรก็น่าจะเหมาะ
แบบว่า จูน กล้าท้าพนันเลยว่า ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์คันไหนในโลกนี้สักคันเลย ว่าทั้งชีวิตของอายุรถจะไม่มีใครขับรถย้อนศรกันเลย โอเคค่า…อาจจะมีการขับย้อนศรหน้าบ้านตัวเอง หรือกลับรถหน้าบ้าน หรือย้อนศรในซอยเล็กๆ ก็ว่ากันไป
เข้าใจค่า เข้าใจ ว่าไม่มีใครขับรถตามทิศทางปกติ หากที่กลับรถเยื้องย้อนไปจากหน้าบ้านตัวเองเล็กน้อย อย่างนี้ฟู่ฟู่ หยวนหยวน กันได้ เพราะไม่มีใครไม่ทำ
แต่หากว่า ขับมอเตอร์ไซค์ย้อนศร สวนทาง กันเป็นหลายๆ กิโลเมตร กลายเป็นเรื่องชินชาสำหรับสังคมชนบท การขับมอเตอร์ไซค์ออกจากซอย โดยไม่ดูรถทางตรง ก็ทำกันมาก หลายครั้งที่พบเห็นการขับรถมอเตอร์ไซค์สวนทาง และขับบนฟุตบาธ ไปเฉี่ยวชนคนบนทางเดินทาง ก็ไม่มีใครรับผิดชอบอ่ะค่า
วนกันไป ในกรณีล่าสุด คือ มอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชนคนบนทางเท้า แล้วเลยถ่ายคลิปไว้ มอเตอร์ไซค์รายนั้น ก็ขู่ทำร้ายร่างกาย อย่างนี้ ขนาดเป็นข่าวแซ่บขนาด ปรากฏว่าเรื่องก็เงียบไป เพราะการยอมรับผิด แล้วก็โดนค่าปรับไป กรณีแบบนี้ จูน ว่าน่าจะลงโทษให้หนัก แล้วต้องประจาษติดต่อกันหลายๆ วัน ก็จะทำให้ต่อมาจะไม่มีคนกล้าทำ ยิ่งแบบว่าขี่มอเตอร์ไซค์สวนเลนท์มาจนถึงซอย ปรากฏว่าอ่ะนะ จูน เห็นคาตา ผู้หญิงขับรถเก๋งออกจากซอย มองรถทางตรงทางขวา ไม่ได้มองซ้าย มีมอเตอร์ไซค์สวนเลนท์มา ก็ชนกันกระเด็น มั๊ยล่า…จะทำกันไปทำมัยล่ะคะ
วันก่อน เพื่อนสาว โทรมาบอก “แกร่ แถวบ้านเรา มีปิคอัพขับย้อนศรชนกับรถที่มาถูกทาง” จูน ก็ตอบกลับไปแบบคนสนิทกัน “มรึง จะไปสนใจอะไรหว่า มันก็ขับย้อนศรกันอยู่แล้ว จังหวัดไหนเค้าก็ทำกัน ทำกันจนเป็นนิสัย” แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น เพราะการขับรถยนต์ รถกระบะ เรียกว่ารถใหญ่สวนเลนท์ มักจะทำกันบนไหล่ทาง บางทีสวนเลนท์กันหลายกิโลเมตร
แต่ครั้งนี้ การขับย้อนเลนท์ ซึ่งมีเกาะกลางถนนขนาดใหญ่ เป็นปิคอัพที่ขับย้อนศร ชิดเลนท์ขวาสุด พอถึงทางโค้ง ปรากฏว่าปิคอัพอีกคัน ที่มาถูกทางมองไม่เห็น ชนประสานงากันตรงทางโค้ง อย่างแรงมาก ปรากฏว่า เด็กที่อยู่ในรถคันที่ถูกต้อง อายุแค่ 6 เดือน เสียชีวิตทันที แล้วคนอื่นๆ ก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จนถึงสาหัส
เลิกได้ยัง การขับรถย้อนศร เกิดเหตุน่าสลด แล้วมีแต่สูญเสีย คำถาม คือ ใครจะรับผิดชอบ คงต้องพึ่งรัฐบาล ต้องกำหนดกฎหมายให้แรงกว่านี้ แล้วจะได้มีคนไม่กล้าทำสักที จริงป่ะ มูชิๆ
