เต็มแล้วจ้า หลังจากการแถลงข่าว บุรีรัมย์ มาราธอน 2019 ได้ไม่นาน การเปิดรับสมัครทางอินเตอร์เน็ต ก็มีชาวนักวิ่งทั้งหลาย แห่เข้ามาสมัครจนเต็มในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
คุณเนวิน ชิดชอบ ประธาน บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด พร้อมด้วย คุณอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และพลเอกหม่อมหลวง ประสบชัย เกษมสันต์ ณ อยุธยา อุปนายกอาวุโส สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ , ดร.ก้องศักด ยอดมณี ว่าที่ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมผู้สนับสนุนภาคเอกชนร่วมแถลงข่าวจัดการแข่งขันวิ่งรายการ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2019” งานวิ่งมาตรฐานระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “YOUR ULTIMATE DESTINATION – สวรรค์ของนักวิ่ง” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1,650,000 บาท ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยจะชิงชัยในวันที่ 10 ก.พ. 2562 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
คุณเนวิน ชิดชอบ ประธาน บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด กล่าวว่า “เรามีเป้าหมายที่จะยกระดับงานวิ่งบุรีรัมย์ มาราธอน สู่ระดับโลกภายในเวลา 4 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่จัดการแข่งขันมา เห็นได้ชัดเจนว่าเรามีพัฒนาการในการจัดงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงจำนวนนักวิ่งที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากปีแรก 7,000 คน และปีที่สอง 13,000 คน อีกทั้งมีนักวิ่งอีกจำนวนมากที่ไม่ได้ร่วมงานเนื่องจากโควตาเต็ม ดังนั้นในปีที่3 นี้เราจึงขยายโควต้านักวิ่งเพิ่มเป็น 20,000 คน โดยในวันที่ 13 ก.ย. จะเปิดรับสมัครล่วงหน้าสำหรับนักวิ่งเก่าที่เคยวิ่งในรายการนี้มาแล้ว และในวันที่ 14 ก.ย. จะเปิดรับสมัครนักวิ่งทั่วไปที่ต้องการมาร่วมงานครั้งแรก และที่สำคัญที่สุดก็คือเราอยากเชิญชวนนักวิ่งทุกคนมาร่วมจารึกประวัติศาสตร์และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน บุรีรัมย์ มาราธอน สู่ระดับโลก เพราะหลังจบการแข่งขันปีนี้เราจะยื่นเรื่องต่อสมาพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) ขอรับรองมาตรฐานให้ บุรีรัมย์ มาราธอน เป็นงานวิ่งระดับบรอนซ์ เลเบิล ก่อนก้าวสู่ระดับซิลเวอร์และโกลด์ตามเป้าหมายใหญ่ที่เราตั้งใจไว้ต่อไป ส่วน ปีนี้ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้เตรียมแคมป์ ซึ่งเป็นเต็นท์ที่พักบุคคล ภายในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับนักวิ่งเพิ่มขึ้นอีก 3-4 พันคน “เราการันตีว่าปีนี้นักวิ่งทุกคนจะมีที่พักแน่นอน เพราะนอกจากเต็นท์ที่พักบริเวณสนามกีฬาเขากระโดงสเตเดี้ยม ที่ทาง อบจ.บุรีรัมย์ จัดเตรียมไว้ให้แล้ว ปีนี้เรายังมีเต็นท์ให้บริการเพิ่มภายในสนามช้างฯ ด้วยเช่นกัน โดยนักวิ่งจะเสียค่าใช้จ่ายเพียงค่าน้ำและค่าทำความสะอาดเท่านั้น ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าลงสมัครร่วมวิ่งแล้วจะหาที่พักไม่ได้ เราอยากแสดงให้เห็นว่า บุรีรัมย์ มาราธอน ไม่ใช่เป็นเพียงสวรรค์ของนักวิ่งอย่างเดียว แต่เรายังใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับนักวิ่งที่สามารถชนะตัวเองได้ จากรางวัลพิเศษที่เรามีให้กับนักวิ่งที่สามารถทำลายสถิติตัวเอง และนักวิ่งที่ยกระดับระยะทางการวิ่งเพิ่มมากขึ้นจากครั้งก่อน”
การจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนุบสนุนเป็นอย่างดีจากภาคเอกชนอย่างมากมายนำโดยเครื่องดื่มตราช้าง ธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) ,บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด, บิ๊กซี , บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด , บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR , บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน), บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ.พี ฮอนด้า จำกัด,บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด (ไทเกอร์ บาล์ม) ,โรงพยาบาลสมิติเวช
อนึ่ง งานวิ่ง “บุรีรัมย์ มาราธอน 2019” รับรองการจัดการแข่งขันโดย สมาพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) สหพันธ์กรีฑาเอเชีย (AAA) สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (AAT) มีเส้นทางวิ่งผ่านเส้นทางประวัติศาสตร์ และเส้นทางธรรมชาติ พร้อมเสียงเชียร์ให้กำลังใจจากชาวท้องถิ่นทุก 500 เมตร บนความปลอดภัยสูงสุด ตามมาตรฐานสากลด้วยการปิดการจราจร 100% พร้อมด้วยจุดปฐมพยาบาลตลอดเส้นทางถึง 29 จุด และรถพยาบาลคอยเตรียมพร้อมให้บริการอีก 24 คัน ออกสตาร์ทที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งรถระดับโลกที่เตรียมจัดการแข่งขันโมโตจีพี 2018 วิ่งผ่านสันเขื่อนห้วยจระเข้มาก, สนามฟุตบอล ช้างอารีนา, พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, บ้านเรือนและร้านค้ากลางเมือง, วัดกลางพระอารามหลวง, สวนสาธารณะ , โรงเรียนอนุบาลธีราและศาลากลางจังหวัด(หลังเดิม) ก่อนเข้าเส้ยชัยที่ บุรีรัมย์ คาสเซิ่ล
เพียงเปิดรับสมัครวันที่ 13 ก.ย.61 ปรากฏว่าภายใน 24 ชั่วโมง ก็มีการสมัครเต็มทุกรุ่น ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ระยะทาง คือ มาราธอน 42.195 กม. (ค่าสมัคร 800 บาท), ฮาล์ฟ มาราธอน 21.1 กม. (ค่าสมัคร 600 บาท), มินิ มาราธอน 10 กม. (ค่าสมัคร 400 บาท) และฟันรัน 7 กม. (ค่าสมัคร 300 บาท) นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จ่ายค่าสมัครครึ่งราคา และผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ไม่เสียค่าสมัคร ติดตามได้ที่ www.burirammarathon.com