ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา จนถึงปีนี้ 2017 BT50 Pro ก็ยังขายได้ต่อเนื่อง อะไรเป็นจุดเด่นของปิคอัพคันนี้ จาก บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด อย่างนั้นหรือ?
อาจจะเป็นเรื่องราคาไม่แพงมาก อาจจะเป็นรูปลักษณ์ที่สวยงามหรือ อาจจะเป็นสมรรถนะที่สมบุกสมบัน ทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่าง หรือเป็นเพราะแบรนด์ของ มาสด้า ที่อยู่ในเมืองไทยมาเนิ่นนาน จนเป็นที่ไว้วางใจเสมอมา
ความคุ้มค่า คุ้มราคา นอกจากดีไซน์ภายนอกที่สวยดุดัน เข้มทุกรายละเอียด ช่วงล่างหนึบแน่นอันเลื่องชื่ออย่าง ซูเปอร์ ดีอี-เอส (SUPER DE-S) ที่ผ่านบทพิสูจน์ความทรหดจากการเดินทางสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญด้วยการขับจากประเทศไทยไปถึงมองโกเลียด้วยระยะทางกว่า 20,000 กิโลเมตร ซึ่งรายการ MOTORS RADIO ทางคลื่น FM101 เคยรายงานไปแล้ว ทีนี้ ถึงครา www.autosawasdee.com
จะไม่ให้รักได้อย่างไร รูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งดุดัน โดดเด่นทุกมุมมองสะท้อนเอกลักษณ์ของมาสด้าได้อย่างชัดเจน ฉีกกฎปิกอัพในอดีตในสไตล์เดิมๆ ดูจากด้านหน้า เรียบง่าย กระจังขนาดใหญ่ มันมีเสน่ห์ที่โลโก้ปีกรูปตัวเอ็ม ที่ไม่เป็นเพียงรูปกล่องสี่เหลี่ยมเท่านั้น มีสไตล์เป็นของตัวเอง ไม่ซ้ำใคร ตัวนี้เป็นแบบ 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ขับง่าย
สัมผัสความสะดวกสบายครบครันภายในห้องโดยสาร ด้วยห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย โทนสีดำ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเทา หรูหรา พรีเมียม ดุจรถยนต์นั่ง ลงตัวด้วยดีไซน์สไตล์ค๊อกพิท (Cockpit Design) พร้อมเบาะนั่งหุ้มหนัง (Leather Seat) ให้สัมผัสที่โอบกว้าง นุ่มนวล สะดวกสบายในทุกตำแหน่งโดยสาร ห้องโดยสารด้านหลังกว้างขวาง เบาะนั่งลาดเอียงในองศาที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ช่องเก็บสัมภาระพร้อมฝาปิด เพิ่มเติมความเหนือระดับขั้นสุดด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น DVD & NAVIGATION SYSTEM เครื่องเล่นดีวีดีพร้อมระบบนำทาง จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ ANTI-GLARE SCREEN ลดแสงสะท้อน ช่วยให้ภาพคมชัดมากยิ่งขึ้น เพิ่มเครื่องเสียงวิทยุ CD & MP3 พร้อมระบบบันทึกซีดีจำลอง VIRTUAL DISCS CDC สามารถบันทึกซีดีได้ถึง 6 แผ่นด้วยกัน และเพิ่มความสะดวกสบายอีกขั้นด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา
ต้องบอกว่า มาสด้า บีที-50 โปร มาพร้อมสมรรถนะสุดแกร่งด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอลเรลใหม่ Di-THUNDER PRO เป็นรุ่นดับเบิ้ลแค็ป DBL Hi-Racer เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร Di-THUNDER PRO 2.2 ที่ทำงานร่วมกับเทอร์โบแปรผันใหม่ (VARIABLE-NOZZLE TURBOCHARGER) และอินเตอร์คูลเลอร์ DOHC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า (110 กิโลวัตต์) ที่ 3,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 375 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที นอกจากนี้มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ยังมาพร้อมเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราทดแต่ละเกียร์ที่สัมพันธ์กัน ภายใต้คันเกียร์แบบสั้น (Short Shifter) ช่วยให้สามารถควบคุมการส่งกำลังที่ดี ตั้งแต่รอบเครื่องต่ำ ง่ายต่อการเปลี่ยนเกียร์ ประหยัดน้ำมันและช่วยลดมลพิษไอเสียในบรรยากาศอีกด้วย ใครบอกว่าขับกระบะเมื่อย บีที50 ตัวนี้ ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด
เรื่องความปลอดภัย ช่วงล่างด้านหน้าแบบปีกนกคู่ (DOUBLE-WISHBONE) กับคอยล์สปริง นุ่มสบาย และดูดซับแรงสะเทือนไม่ใช้เข้าถึงห้องโดยสารได้อย่างดีเยี่ยม เสริมด้วยเหล็กกันโคลงหน้า (STABILIZER BAR) ช่วยเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัว ช่วงล่างด้านหลังแบบคานแข็งและชุดแหนบ (LEAF-SPRING) รับน้ำหนักบรรทุกได้เหลือเฟือและมีประสิทธิภาพสูงในการยึดเกาะถนน พร้อมให้สมรรถนะการบังคับควบคุมที่ดี โครงสร้างตัวถังขึ้นรูปจากเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (ULTRA HIGH TENSILE STEEL) ที่แข็งแกร่งและมีน้ำหนักเหมาะสมกับขนาดเครื่องยนต์ยิ่งขึ้น และมีระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS (TRACTION CONTROL SYSTEM) ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ROM (ROLL-OVER MITIGATION) ระบบควบคุมน้ำหนักบรรทุกแปรผัน LAC (LOAD ADAPTIVE CONTROL) ระบบเพิ่มแรงเบรกฉุกเฉิน EBA (EMERGENCY BRAKE ASSIST) ระบบเบรกอัตโนมัติ BOS (BRAKE OVERRIDE SYSTEM)ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินกะพริบเมื่อเบรกฉุกเฉิน ESS (EMERGENCY STOP SIGNAL) เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ 3 จุด 2 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว DSC (DYNAMIC STABILITY CONTROL) ระบบเบรก ABS 4 ล้อ (4W-ABS ANTILOCK BRAKING SYSTEM) และ ระบบกระจายแรงเบรก EBD (ELECTRONIC BREAK FORCE DISTRIBUTION)
MAZDA รุ่น BT-50 ดับเบิ้ลแค็ป DBL Hi-Racer มีสีให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, สีขาวมุก สโนว์เฟลก, สีขาว คูลไวท์, สีเงินอลูมินัม เมทัลลิค, สีดำเจ็ท แบล็ก, สีแดง ทรู เรด, สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู แน่นอนว่าราคาจับต้องได้ถึงจะมีความสะดวกสบายมากขึ้น แค่ 773,000 บาท เท่านั้น