New Click160 ใหม่

ไทยฮอนด้าเปิดตัว New Click160 ใหม่ ตอกย้ำความเป็นจ่าฝูงด้วยสี Midnight Blue  พร้อมด้วยรุ่นพิเศษ Spirit of Speed Edition โฉบเฉี่ยวเกินใคร ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย เปิดตัว New Click160 โฉมใหม่ มาพร้อมคอนเซปต์ “นำหน้าอย่างจ่าฝูง” เท่ เกินห้ามใจด้วยสีน้ำเงิน Midnight Blue พร้อมกับเปิดตัวรุ่นพิเศษ Spirit of Speed Edition ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก เจ-ชนาธิป นักเตะระดับท็อปของไทย New Click160 โดดเด่นด้วยสีน้ำเงิน Midnight Blue ตัดกับสีดำ และล้อแม๊กสีดำอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกสปอร์ต ปราดเปรียวอย่างผู้นำที่ไม่หยุดนิ่ง ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นจ่าฝูงของ Sport A.T. ได้อย่างเหนือชั้น New Click Spirit of Speed Edition โดดเด่นด้วยเส้นสายกราฟิกสีทอง Special Color Stripe ที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก เจ ชนาธิป นักเตะที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น พลังเหลือล้น ถ่ายทอดเป็นความดุดันเกินต้าน พร้อมที่จะทะยานไปอย่างผู้นำ New Click ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบไฟ LED รอบคัน และ Honda Smart Key กุญแจรีโมตอัจฉริยะ ทั้งยังอัดแน่นด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว 157 ซีซี แรงที่สุดในคลาส บิดติดมือ พร้อมเทคโนโลยีเหนือชั้น ขับขี่สมูท…

 
Read More

New Honda Wave110i ลวดลายใหม่

Honda เผยโฉม New Honda Wave110i ลวดลายใหม่ ลุคสปอร์ตพรีเมียม มาพร้อมเครื่องยนต์ Honda Smart Engine ประหยัด แรง ทนทาน ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นที่ 1 ของ Wave110i โมเดลที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในทุกภาคทั่วประเทศตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งยังครองใจคนไทยมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ด้วยการเปิดตัว New Honda Wave110i ซึ่งมาพร้อมคอนเซปต์ “ทุกทิศทั่วไทย เชื่อใจที่ 1” New Honda Wave110i ดีไซน์ใหม่ สะดุดตาด้วยลายเส้นกราฟิกใหม่รอบคัน ไม่ว่าจะเป็นลายด้านข้าง หรือด้านหน้า ให้ความรู้สึกสปอร์ต เพิ่มความโดดเด่นด้วยเบาะสีแดง (เฉพาะรุ่นล้อแม็กสีขาว) สะท้อนรูปลักษณ์ความเป็นสปอร์ตพรีเมียมได้อย่างลงตัว New Honda Wave110i ยังมาพร้อมความประหยัด แรง ทนทาน กับขุมพลัง Honda Smart Engine เทคโนโลยีที่ดีที่สุดของรถครอบครัว ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 110 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM – FI ให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 76.9 กม./ลิตร วิ่งได้ไกลอย่างต่อเนื่องด้วย Fuel Tank ความจุ 5 ลิตร ให้ทุกการเดินทางไม่ว่าจะเป็นภาคไหนก็เป็นเรื่องง่าย สบายใจเสมอ ทั้งยังใช้งานสะดวกด้วยหน้าปัดเรือนไมล์แบบ Digital และกล่อง U-box ขนาดใหญ่ 10 ลิตรเก็บของได้อย่างจุใจ New Honda Wave110i พร้อมให้คนไทยเลือกเป็นเจ้าของแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น คือ – รุ่นล้อแม็ก สตาร์ตมือ ดิสก์เบรก มี 4 สี ได้แก่ สีขาว-แดง สีดำ-แดง สีน้ำเงิน-เทา และสีแดง ราคาแนะนำที่ 46,400 บาท – รุ่นล้อซี่ลวด สตาร์ตมือ ดิสก์เบรก…

 
Read More

ยามาฮ่า แอร็อกซ์ ใหม่ สปอร์ต…ไม่ทิ้งลาย

ยามาฮ่า แอร็อกซ์ ใหม่ สปอร์ต…ไม่ทิ้งลาย SPORT AUTOMATIC LEADER ในรูปแบบของสปอร์ต…อัจฉริยะ ที่สุดแห่งสปอร์ตออโตเมติก จัดจ้านทุกสีสัน บิดมันส์เร้าใจ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ออโตเมติกของเมืองไทย พร้อมกระตุ้นตลาดรถจักรยานยนต์ด้วยการส่งรถจักรยานยนต์ “ยามาฮ่า แอร็อกซ์ ใหม่” สปอร์ต…ไม่ทิ้งลาย Spice up your challenge! สีใหม่! จัดจ้านทุกสีสัน บิดมันส์เร้าใจ ดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ดุดันตามแบบฉบับรถ Racing Sport ตระกูล R-Series สมรรถนะทรงพลังด้วยความแรงจากเครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี ผสานวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVA พร้อมเทคโนโลยีใหม่ Y-CONNECT เชื่อมต่อข้อมูลรถเพื่อตอบสนองในการใช้งานและมั่นใจในการรับประกันมากกว่า ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร “ยามาฮ่า แอร็อกซ์ ใหม่” …SPORT AUTOMATIC LEADER สปอร์ต…อัจฉริยะ ที่สุดแห่งสปอร์ตออโตเมติก ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างเร้าใจด้วยสมรรถนะแรงเหนือใคร ด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์ 155 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน…

 
Read More

New PCX160 พรีเมียม เอ.ที. สุดหรู สีใหม่เร้าใจสุดสุด

ไทยฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย เปิดตัว New PCX160 สีใหม่ พรีเมียมเกินคลาส มาพร้อมคอนเซปต์ “New Definition Of Pride นิยามใหม่ของความภูมิใจที่เหนือกว่า” โดดเด่นด้วยสีเทาเฉดใหม่ พร้อมด้วยเบาะทูโทน ให้ลุคสปอร์ตพรีเมียมขั้นสุด สะท้อนความเท่เหนือใคร พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั่วประเทศ New PCX160 ยกระดับความภาคภูมิใจ ลุคสปอร์ตหรูหราเกินต้าน โดดเด่นทุกมิติ นำโดยสีเทาใหม่ที่ลงตัวกับเบาะทูโทนสีเทา-ดำ เพิ่มความหรูหราด้วยเอมเบลม PCX สี Copper มีเอกลักษณ์เหนือใคร (เฉพาะในรุ่น ABS) ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยว LED พร้อมด้วยระบบไฟฉุกเฉิน ล้ำหน้าด้วยเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว 157 ซีซี ขุมพลังที่ดีที่สุดในรถพรีเมียม เอ.ที. ระดับเดียวกัน ให้ทุกการขับขี่สมูท ลื่นไหล ควบคู่ไปกับความประหยัดเต็มขั้น เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า New PCX160 มาพร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัล บอกข้อมูลครบครันทุกฟังก์ชัน ขับขี่ได้อย่างมั่นใจด้วยระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ที่ช่วยในเรื่องการทรงตัว และป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ ควบคุมการขับขี่ได้ดีเยี่ยมตลอดเส้นทาง ใช้งานสะดวกสบายด้วยพื้นที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ถึง 30 ลิตร เก็บหมวกกันน็อกได้เต็มใบ ที่ชาร์จไฟสำรอง USB Type-C พรีเมียมไปอีกขั้นด้วยกุญแจรีโมตอัจฉริยะ ชุดควบคุมการทำงานที่สั่งงานง่ายเพียงบิดสวิตช์ และ Blue Ring LED สะท้อนความหรูหราอย่างมีระดับ ปลอดภัยขั้นสุดกับดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมระบบเบรก ABS ล้อหน้า…

 
Read More

New Rebel 500 special edition 80’s The Revolution

สไตล์ใหม่ เข้ม ดุดัน คลาสสิก เท่มาแต่ไกล กับ New Rebel 500 special edition รุ่น 80’s The Revolution จากไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ที่ปลุกตำนานบิ๊กไบค์สไตล์ Retro ยุค 80’s กลับมาสะกดสายตาไบค์เกอร์สาย Custom ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ สะท้อนตัวตนอย่างมีสไตล์ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิงทุกสาขา New Rebel 500 special edition รุ่น 80’s The Revolution โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายใต้แนวคิด Express Yourself เท่ให้ถึงแก่น เผยตัวตนความดิบ ดุดัน ผสานความเป็นคลาสสิกเสมือนได้ย้อนไปในยุค 80’s ด้วยลวดลายเส้นสายสะท้อนเอกลักษณ์ของยุค 80’s บนตัวถังน้ำมันสีดำเป็นอย่างดี พร้อมทั้งชุดอุปกรณ์แต่งแท้รอบคันด้วยคู่สีเงินและดำจาก H2C ไม่ว่าจะเป็นแฮนด์บาร์ ฝาปิดกระปุกน้ำมัน ชุดล็อกหมวกกันน็อกสำหรับแฮนด์ของคิตาโกะ ขนาด 25.4 mm ครอบหม้อน้ำ โครงป้องกันเครื่อง ชุดครอบเครื่องยนต์ด้านขวา ฝาปิดน้ำมันเครื่อง พักเท้าแบบบอร์ด และหมวกปิดจุกลม เสริมภาพลักษณ์ดูเท่ ดุดัน ให้ถึงแก่นตามสไตล์  Rebel 500 อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์ 500 ซีซี บิดได้เต็มกำลังสำหรับการขับขี่ระยะทางไกล ความสูงจากพื้นถึงเบาะเพียง 690 มิลลิเมตร หมดปัญหาเรื่องส่วนสูงในการขับขี่ พร้อมทั้งโครงสร้างเฟรมแข็งแกร่ง ไฟหน้า LED ทรงกลมขนาดใหญ่ ถังน้ำมัน 11.2 ลิตร ดีไซน์ปราดเปรียว โดดเด่นทุกมิติด้วยยาง Fat Bobber Tires ขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Rebel โดยยางหน้าขนาด 190/90 ขอบ…

 
Read More

ALL NEW TOYOTA YARIS ATIV

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์ Compact sedan รุ่นใหม่ล่าสุด ภายใต้ปรัชญา“People beloved car”  หรือ “รถยนต์ที่เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน” อันเป็นผลสำเร็จจากการศึกษาความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงในทุกด้าน ทำให้ได้รถยนต์ที่จะเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง พร้อมด้วย Package การขายที่จะทำให้ผู้ที่ครอบครองเป็นเจ้าของ ALL NEW YARIS ATIV ได้รับมากกว่ารถยนต์ ด้วยประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่า สะดวกสบาย พร้อมความพึงพอใจสูงสุดในการเป็นเจ้าของ แนวคิดหลักในการสร้างสรรค์รถยนต์ ที่จะเป็นที่ชื่นชอบของคนไทย (Beloved car) 1.ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด YARIS ATIV ใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดในการพัฒนา ดังต่อไปนี้ – ความภาคภูมิใจ (Proudful) ด้วยการออกแบบภายนอกสไตล์ Fastback พร้อมการออกแบบภายในที่หรูหรา – ความสะดวกสบาย (Comfortable) ด้วยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม – ราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย (Affordable) ด้วยองค์ประกอบที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงเหนือระดับ และความคุ้มค่า 2.ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ด้วย Package สินเชื่อรถยนต์รูปแบบใหม่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น เช่นPackage ประกันภัย PHYD : Pay How Your Drive ที่ลดอัตราดอกเบี้ยประกันภัยสำหรับลูกค้าที่ขับขี่อย่างปลอดภัยและ TFSR : Toyota Connected Frequent Service Reward เพื่อตอบแทนลูกค้าที่นำรถเข้าศูนย์เพื่อรับบริการตรงตามเวลาที่กำหนด 3.การขับเคลื่อนที่ดีที่สุด ด้วยบริการ T-Connect ที่จะคอยดูแลผู้ขับขี่ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านระบบต่างๆ เช่น ระบบติดตามรถหาย (Theft Track) การแจ้งเตือนการบำรุงรักษาผ่านระบบดิจิทัล (Digital Maintenance Reminder) การจองผ่านระบบดิจิทัล (Digital booking) ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS และบริการผู้ช่วยส่วนตัว (Concierge service) สเป็คพิเศษ สำหรับประเทศไทย จากการศึกษาความต้องการของลูกค้าชาวไทยอย่างลึกซึ้ง จึงนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนไทยเป็นพิเศษ ผ่านองค์ประกอบต่างๆ ได้แก่ 1.ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient light) 64 เฉดสี แนวเส้นไฟส่องสว่างได้รับการออกแบบติดตั้งอยู่บริเวณแผงหน้าปัด เพื่อเพิ่มความรู้สึกหรูหรา ล้ำสมัย ให้กับพื้นที่ภายในห้องโดยสาร 2.เบาะหนังสีแดง เพื่อมอบความรู้สึกพึงพอใจเหนือระดับให้กับลูกค้าที่มองหาความหรูหราภายในห้องโดยสาร 3.ชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกสีเทเมทัลลิก ช่วยเน้นความโดดเด่นให้กับรูปลักษณ์ทรงสปอร์ต และช่วยเสริมบุคลิกอันโฉบเฉี่ยวให้กับรถคันนี้ 4.ลำโพงระดับ Premium เนื่องจากความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในตลาดรถยนต์ปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดนี้ จึงติดตั้งระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง มอบเสียงเพลงอันไพเราะ ทรงพลัง เพื่อให้ลูกค้าเพลิดเพลินยิ่งขึ้นในระหว่างการขับขี่ จุดเด่นผลิตภัณฑ์ -ตัวถังสไตล์ ”Fastback style” ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมในรถยุโรปหลายรุ่น หรูหรามากขึ้น และยังส่งผล ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำเพียงแค่ 0.284 นอกจากนี้ YARIS ATIV ใหม่ ทุกรุ่นจะมาพร้อมไฟหน้าแบบ Full LED ล้ออัลลอยด์ Two tone ขนาด 16 นิ้ว และยังมีไฟท้ายแบบ Full LED Light-guiding    ไฟเลี้ยวSequential ใหม่ การออกแบบรถสามารถต่อยอดการตกแต่งได้หลากหลาย ครอบคลุมความชอบของลูกค้าหลายๆกลุ่ม –ดีไซน์ภายใน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ และยกระดับคุณภาพของรถยนต์นั่งขนาด เล็ก ด้วยการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในที่มีคุณภาพ ดีไซน์เรียบหรู และเพิ่มความล้ำสมัยเหนือระดับด้วยการเป็นBrand แรกที่มีเบรคมือไฟฟ้า EPB รวมทั้งไฟ “Ambient light” สร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร สามารถปรับได้ถึง64 เฉดสี รวมถึงและหน้าปัด Full digital รวมทั้งมีภายในสีแดงให้เลือกที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร –อุปกรณ์ความปลอดภัย จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานทุกรุ่น เช่น Airbag 6  ตำแหน่ง ระบบ ABS / EBD / BA / VSC…

 
Read More

Mercedes-Maybach ในประเทศไทย

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เดินหน้าทำตลาดรถยนต์ Mercedes-Maybach ในประเทศไทย หลังได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่สะท้อนให้เห็นทิศทางการเติบโตของยานยนต์ระดับอัลตร้าลักชัวรีในประเทศไทย พร้อมประกาศเปิดไลน์การประกอบรถยนต์ Mercedes-Maybach รุ่นปลั๊กอินไฮบริดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เป็นหนึ่งในสองประเทศแรกในโลกร่วมกับประเทศจีนที่ได้เริ่มทำตลาดยานยนต์ระดับอัลตร้าลักชัวรีรุ่นนี้ ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์วางแผนส่งมอบให้กับลูกค้าภายในไตรมาสแรกของปี 2566  นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังเผยแนวทางใหม่ในการสร้างสรรค์บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์สำหรับงานจัดแสดงรถยนต์และงานมหกรรมยานยนต์ที่กำลังจะมาถึงในช่วงปลายปี ทั้งการเลือกใช้ “ดิจิทัลไกด์” ผู้ให้คำแนะนำเรื่องรถยนต์ที่รู้จริงแบบไม่จำกัดเพศ การสร้างสรรค์บูธแบบอินเทอร์แอคทีฟภายใต้คอนเซ็ปต์ “Vision of the Beyond” นำเสนอประสบการณ์ยานยนต์แบบฉบับเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่โดดเด่นเหนือระดับ และไฮไลต์ของรถยนต์หลากหลายรุ่น อาทิEQS 500 4MATIC AMG Premium ยานยนต์พลังไฟฟ้า 100% รุ่นประกอบในประเทศคันแรกที่ผสานทั้งเทคโนโลยีดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน และการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน Mercedes-AMG SL 43 รถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตำนานที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความยินดีที่จะประกาศการเดินหน้าการทำตลาดโดยมีแผนการประกอบรถยนต์Mercedes-Maybach ในประเทศ เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในประเทศไทยได้สัมผัสกับที่สุดของความเป็นยนตรกรรมระดับอัลตร้าลักชัวรีที่มอบความหรูหราจากเมอร์เซเดส-มายบัคได้อย่างเต็มที่ ซึ่งความพิเศษก็คือ ไทยจะเป็นหนึ่งในสองประเทศแรกในโลก ร่วมกับประเทศจีน ที่จะเริ่มทำตลาดรถยนต์ Mercedes-Maybach รุ่นปลั๊กอินไฮบริดภายในประเทศ ก่อนหน้านี้เมอร์เซเดส-มายบัคได้เปิดตัวเอสยูวีระดับอัลตร้าลักชัวรีรุ่น “Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium” ที่ถือเป็นที่สุดแห่งนวัตกรรมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงการแนะนำ “Mercedes-Maybach S 580 4MATIC Premium” รุ่นประกอบนอก โดยที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม วันนี้ เรายังจะเพิ่มMercedes-Maybach S 680 4MATIC Premium เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกใหม่ของยนตรกรรมสุดหรูหราในตระกูลนี้ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาสและความสะดวกสบายเหนือระดับให้กับลูกค้าอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดและจับจองได้ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการแบบเอ็กซ์คลูซีฟทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ เบนซ์บีเคเค กรุ๊ป, ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์, สตาร์แฟลก และทีทีซี มอเตอร์ ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า นอกจาก Mercedes-Maybach จะเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมที่ทั้งหรูหรา สะดวกสบาย และพร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบรับทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดรถยนต์ระดับอัลตร้าลักชัวรีในประเทศไทยนั้นเติบโตไปในทิศทางที่ดี และด้วยความพรั่งพร้อมในทุก ๆ ส่วน ทั้งในด้านการผลิต การจัดเตรียมอะไหล่ ตลอดจนการบริการหลังการขายจากทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างเข้มข้นภายใต้มาตรฐานระดับสากล นี่จึงเป็นที่มาให้เรามีแผนในการประกอบรถยนต์ Mercedes-Maybach ในประเทศไทย” มร.บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้กำหนดเทรนด์ใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอยู่เสมอ นั่นจึงเป็นที่มาของการริเริ่มทำสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของเราภายในการจัดงานแสดงรถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ที่กำลังจะมาถึงในช่วงเดือนธันวาคมนี้ เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้ “ดิจิทัลไกด์” เพื่อให้คำแนะนำและนำเสนอข้อมูลรถยนต์ด้วยความเชี่ยวชาญในรูปแบบดิจิทัล โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเพศใด การนำเสนอบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ภายใต้คอนเซ็ปต์“Vision of the Beyond ” ในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่ลูกค้าสามารถเข้ามาโต้ตอบกับ AI Artist โดยจะแสดงข้อความต้อนรับเข้าสู่บูธแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ดื่มด่ำกับประสบการณ์ใหม่ของการเลือกชมรถยนต์รุ่นใหม่ได้อย่างสอดคล้องกับตัวตน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ผ่านแพลตฟอร์ม Midjourney นอกจากนี้เรายังมีไฮไลต์ของรถยนต์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากมายมาให้ลูกค้าได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า 100% ที่ประกอบในประเทศอย่าง “EQS 500 4MATIC AMG Premium” รวมถึง “Mercedes-AMG SL 43” ยานยนต์สปอร์ตพลังแรงตามแบบฉบับรถยนต์เอเอ็มจีที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และ “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม”  สำหรับไฮไลต์ของรถยนต์รุ่นใหม่จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ลูกค้าจะได้พบภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ได้แก่“EQS 500 4MATIC AMG Premium” ยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม เรื่อยไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายในที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวพร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 108.4 kWh ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.8 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด702 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง  EQS 500 4MATIC AMG Premium วางจำหน่ายในราคา 7,900,000 บาท “Mercedes-AMG SL 43” รถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตำนานจากแบรนด์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย กับความเป็นที่สุดในทุกด้าน ทั้งความสะดวกสบายในทุกสัมผัส อารมณ์ความรู้สึกสปอร์ตถึงขีดสุดจากภายนอกถึงภายใน และขุมพลังความแรงที่ไม่อาจต้านทานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ พร้อมเทอร์โบชาร์จ มอบพละกำลังในการขับขี่ตามแบบฉบับของรถยนต์เอเอ็มจีด้วยกำลังสูงสุด  381 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด  480 นิวตันเมตร ดีไซน์ภายนอกคือการบรรจบกันระหว่างเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตพลังแรงและความเป็นรถยนต์ซีดานที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา ส่วนห้องโดยสารภายในให้รายละเอียดที่โดดเด่นตามแบบฉบับของรถยนต์มอเตอร์สปอร์ต 2 ประตูพร้อมเบาะที่นั่งแบบ 2+2 ที่มอบความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับการขับขี่ในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะการมาพร้อมระบบ MBUX เจเนอเรชันล่าสุด ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาสให้แฟนรถยนต์รุ่นSL ตัวจริงในทุกวินาทีที่อยู่ในห้องโดยสาร Mercedes-AMG…

 
Read More

เมอร์เซเดส เผย “EQS 500 4MATIC AMG Premium” รุ่นประกอบในประเทศ และ “Mercedes-AMG SL 43”

เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเผยแนวทางใหม่ในการสร้างสรรค์บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์สำหรับงานจัดแสดงรถยนต์ ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ทั้งการเลือกใช้ “ดิจิทัลไกด์” ผู้ให้คำแนะนำเรื่องรถยนต์ที่รู้จริงแบบไม่จำกัดเพศ การสร้างสรรค์บูธแบบอินเทอร์แอคทีฟภายใต้คอนเซ็ปต์ “ Vision of the Beyond” นำเสนอประสบการณ์ยานยนต์แบบฉบับเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่โดดเด่นเหนือระดับ และ  ไฮไลต์ของรถยนต์หลากหลายรุ่น อาทิ “EQS 500 4MATIC AMG Premium” ยานยนต์พลังไฟฟ้า 100% รุ่นประกอบในประเทศคันแรกที่ผสานทั้งเทคโนโลยี ดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งานและการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน “Mercedes-AMG SL 43” รถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตำนานที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และ “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม รวมถึงอีกหลายรุ่นที่พร้อมให้แฟน ๆ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ตื่นเต้นตลอดงานมหกรรมยานยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธันวาคมนี้ มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้กำหนดเทรนด์ใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอยู่เสมอ นั่นจึงเป็นที่มาของการริเริ่มทำสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของเราภายในการจัดงานแสดงรถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่39 ครั้งนี้ด้วย เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้ “ดิจิทัลไกด์” เพื่อให้คำแนะนำและนำเสนอข้อมูลรถยนต์ด้วยความเชี่ยวชาญในรูปแบบดิจิทัล โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเพศใด การนำเสนอบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Vision of the Beyond ” ในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่ลูกค้าสามารถเข้ามาโต้ตอบกับ AI Artist โดยจะแสดงข้อความต้อนรับเข้าสู่บูธแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ดื่มด่ำกับประสบการณ์ใหม่ของการเลือกชมรถยนต์รุ่นใหม่ได้อย่างสอดคล้องกับตัวตน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ผ่านแพลตฟอร์ม Midjourney นอกจากนี้ เรายังมีไฮไลต์ของรถยนต์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากมายมาให้ลูกค้าได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า 100% ที่ประกอบในประเทศอย่าง  “EQS 500 4MATIC AMG Premium” รวมถึง “Mercedes-AMG SL 43” ยานยนต์สปอร์ตพลังแรงตามแบบฉบับรถยนต์เอเอ็มจีที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และ “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม”  ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมงานด้วยคอนเซ็ปต์ “Vision of the Beyond” เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำจากยนตรกรรมแห่งโลกอนาคต ผ่านรถยนต์ไฮไลต์โมเดลใหม่ 3 รุ่น ที่เสมือนเป็นตัวแทนของ Vision ในอนาคตของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่ว่าจะเป็น Vision of Innovation กับการพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยความพร้อมในการบุกเบิกและคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์ยนตรกรรมแห่งโลกอนาคต Vision of Performance กับยานยนต์ที่ยกระดับสมรรถนะความแรงไปอีกขึ้นกับเครื่องยนต์ที่ได้รับการสร้างสรรค์ออกมาราวกับงานฝีมือสุดประณีต และ Vision of Sustainability ที่สะท้อนความมุ่งมั่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในการพัฒนาระบบปลั๊กอินไฮบริดให้มีประสิทธิภาพลดการเผาผลาญพลังงานเชื้อเพลิง เป็นมิตรต่อโลกมากยิ่งขึ้น ส่วนประสบการณ์ของการได้เข้ามาสัมผัสบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่งานมหกรรมยานยนต์ในปีนี้ก็พิเศษไม่แพ้รถยนต์ไฮไลต์ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เมอร์เซเดส-เบนซ์นำเทคโนโลยี AI มาสร้างสรรค์ภาพโลกอนาคตจาก Vision ผู้เข้าร่วมงาน เพียงลงทะเบียนล่วงหน้าตอบคำถามสั้น ๆ ว่า “ภาพโลกอนาคตของคุณเป็นอย่างไร?” ระบบ AI จะนำคำตอบไปสร้างเป็นภาพโลกอนาคตในแบบคุณ พร้อมโชว์ผ่านจอขนาดยักษ์ในงาน ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟได้แบบเต็ม ๆ สำหรับไฮไลต์ของรถยนต์รุ่นใหม่จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ลูกค้าจะได้พบภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ได้แก่ “EQS 500 4MATIC AMG Premium” ยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม เรื่อยไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายในที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคตจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่พร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 108.4kWh ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.8 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 702 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง EQS 500 4MATIC AMG Premium วางจำหน่ายในราคา 7,900,000 บาท “Mercedes-AMG SL 43” รถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตำนานจากแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย กับความเป็นที่สุดในทุกด้าน ทั้งความสะดวกสบายในทุกสัมผัส อารมณ์ความรู้สึกสปอร์ตถึงขีดสุดจากภายนอกถึงภายใน และขุมพลังความแรงที่ไม่อาจต้านทานของเครื่องยนต์จาก AMG แบบ One Man, One Engine ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ พร้อมเทอร์โบชาร์จ มอบพละกำลังในการขับขี่ตามแบบฉบับของรถยนต์เอเอ็มจี ด้วยกำลังสูงสุด  381 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด480 นิวตันเมตร ดีไซน์ภายนอกคือการบรรจบกันระหว่างเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตพลังแรงและความเป็นรถยนต์ซีดานที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา ส่วนห้องโดยสารภายในให้รายละเอียดที่โดดเด่นตามแบบฉบับของรถยนต์มอเตอร์สปอร์ต 2 ประตูพร้อมเบาะที่นั่งแบบ 2+2 ที่มอบความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับการขับขี่ในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะการมาพร้อมระบบ MBUX เจเนอเรชันล่าสุด ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาสให้แฟนรถยนต์รุ่น SL ตัวจริงในทุกวินาทีที่อยู่ในห้องโดยสาร Mercedes-AMG SL 43 วางจำหน่ายเริ่มต้นในราคา 11,700,000 บาท “Mercedes-Benz…

 
Read More

NEW YAMAHA YZF-R3 สีใหม่!!!

ด้วยคอนเซ็พท์ RIDE THE R ANYTIME…รถสปอร์ตแท้ สายพันธุ์ R-Series ดีเอ็นเอสายพันธุ์แชมป์! จาก ยามาฮ่า ออกสีสันตัวใหม่ ให้ได้เป็นเจ้าของกัน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ส่ง NEW YAMAHA YZF-R3…RIDE THE R ANYTIME สีใหม่! ออกสู่ตลาดรถสปอร์ตเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำรถสปอร์ตของเมืองไทยอีกครั้ง โดยยังคงความเป็นสปอร์ตแท้สายพันธุ์R-Series ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 321 cc เต็มอารมณ์สปอร์ตอีกขั้นกับดีเอ็นเอสายพันธุ์แชมป์ ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ สะท้อนความเป็นซูเปอร์สปอร์ตในทุกองศา ทุกเส้นทาง ทุกช่วงเวลาที่ต้องการ กับสีสันใหม่ 3 สี 3 สไตล์สุดเร้าใจ! ตอกย้ำคุณภาพด้วยการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร สำหรับ NEW YAMAHA YZF-R3 สีใหม่!!! ให้การตอบสนองการขับขี่ในทุกจังหวะทุกการบิดคันเร่งสุดเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ขนาด 321 ซีซี แบบ 2 สูบเรียง 8 วาล์ว ระบบหัวฉีดอัจฉริยะจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยความแม่นยำระบายความร้อนด้วยน้ำ  และเต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีกระบอกสูบไดอะซิล แข็งแกร่ง ทนทาน เอกสิทธิ์เฉพาะยามาฮ่า ลูกสูบอะลูมิเนียมแบบอัดขึ้นรูป น้ำหนักเบา พร้อมออกแบบให้มีระยะ Offset ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมแรงม้าให้อยู่ในกำมือ และสนุก เร้าใจ ไปในทุกเส้นทางได้อย่างเต็มสมรรถนะ นอกจากนี้ NEW YAMAHA YZF-R3 สีใหม่!!! ยังให้ความรู้สึกเต็มอารมณ์รถสปอร์ตด้วย AIR MANAGEMENT ยกระดับด้วยการออกแบบแฟริ่งตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุดที่เพิ่มขึ้น อกีทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำตามสไตล์รถสายพันธุ์ R-Series ตั้งแต่ไฟหน้าและไฟเลี้ยว FULL LED ดีไซน์ใหม่ อารมณ์ซูเปอร์สปอร์ต R-Series สายพันธุ์เรซซิ่งสปอร์ตแท้ สว่างชัดทุกเส้นทาง, โช้คหัวกลับ TELESCOPIC UP SIDE DOWN สปอร์ตเต็มขั้น ด้วยโช้คหัวกลับที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกดีเยี่ยม ควบคุมการเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ พร้อมด้วยระบบเบรก ABS (ANTI-LOCK BRAKE SYSTEM) ทำให้สามารถขับขี่ได้สนุกเต็มอารมณ์สปอร์ต ช่วยหยุดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ป้องกันการลื่นไถลในสถานการณ์คับขัน NEW YAMAHA YZF-R3 สีใหม่!!! ยังมีระบบควบคุม PROUD SUPER SPORTS LOOK ที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มอารมณ์รถซูเปอร์สปอร์ต ไม่ว่าจะเป็น Full LCD Meter หน้าปัดแสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วนและชัดเจนพร้อมไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ (Shift Light), ระบบสวิตซ์สตาร์ทเครื่องยนต์ ดีไซน์เท่ล้ำ บ่งบอกความเป็นบิ๊กไบค์อย่างแท้จริง พร้อมด้วย Handle Crown ดีไซน์ลุคซูเปอร์สปอร์ตสไตล์ลิ่ง ให้ความแข็งแรง และลดน้ำหนักได้มากขึ้น สำหรับ NEW YAMAHA YZF-R3…RIDE THE R ANYTIME สีใหม่!!! มีให้เลือกด้วยกันถึง 2 เฉดสี คือสีน้ำเงิน Deep Purplish Blue Metallic, สีดำ Black Metallic มาพร้อมกับ Accessories อุปกรณ์ตกแต่งแท้ยามาฮ่าที่มีให้เลือกเสริมแต่งให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น ทั้ง บังลมหน้า, ฝาครอบท้ายเบาะ, ชุดเกียร์โยง, ชุดมือเบรก/มือคลัตช์, ชุดแฮนด์ Active, ชุดไฟเลี้ยว LED และ แผ่นเรซินกันฝาถังน้ำมันลายคาร์บอน NEW YAMAHA YZF-R3…RIDE THE R ANYTIME สีใหม่!!! พร้อมวางจำหน่ายในราคา 207,000 บาท…และตอกย้ำคุณภาพด้วยการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263-9999 และสามารถติดตามความเคลื่อนไหว และข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่ Website: www.yamaha-motor.co.th Facebook: Yamaha Society…

 
Read More

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เสริมทัพรถยนต์ 2 รุ่นใหม่

การเพิ่มความแข็งแกร่งใน 2 เซกเมนต์ลักชัวรี กับการเปิดตัว C-Class ใหม่เวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริด พร้อมด้วย Vito รถตู้พรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกสองเซกเมนต์ในตลาดรถยนต์ลักชัวรีพร้อมกันด้วยการเปิดตัว “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” เวอร์ชันใหม่แบบปลั๊กอินไฮบริดของ The new C-Class โฉมปัจจุบันที่ถูกใจแฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่อง และ “Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select” รถตู้อเนกประสงค์สำหรับผู้บริหารยังเจนที่ตอบทุกโจทย์การใช้งานทั้งในวันทำงานและวันหยุด โดยทั้งสองรุ่นมีวางจำหน่ายที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มร.โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้แนะนำ The new Mercedes-Benz C-Class รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลออกมาเป็นคันแรกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมเช่นเคย วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะนำเสนออีกหนึ่งเวอร์ชันใหม่ของรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดรุ่นหนึ่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทยคันนี้ กับ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic รุ่นปลั๊กอินไฮบริดใหม่ที่ผสานขุมพลังเบนซินกับพลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เจเนอเรชันที่ 4 ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจในทุกสภาพถนน ทั้งยังประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะผู้ขับขี่สามารถเลือกขับด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร เท่านั้นยังไม่พอ วันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยัง  ขอแนะนำMercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select ใหม่ ที่สุดแห่งความหรูหราในแบบฉบับอเนกประสงค์ของรถตู้ระดับพรีเมียมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่สามารถจุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 11 ที่นั่ง ตอบโจทย์ทั้งสำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการความกว้างขวางสะดวกสบายในวันทำงาน และการเป็นรถยนต์สำหรับการใช้งานได้อีกหลายรูปแบบในวันหยุดหรือในทุกวันที่ต้องการ การเปิดตัวรถยนต์ทั้งสองรุ่นในวันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ารุ่นใหม่ที่สัมผัสได้ถึงจุดเด่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา และช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในทั้งสองเซกเมนต์ในตลาดรถยนต์ลักชัวรีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” คือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในรุ่น C-Class ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็น เจเนอเรชันที่ 4 ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร โดยรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันนี้สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดจากการขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าได้ถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าหากเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC charger) จะใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ส่วน การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charger) จะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ซึ่งด้วยความสะดวกในการเลือกใช้งานได้ทั้งสองระบบ ประกอบกับการชาร์จพลังไฟฟ้าด้วยเวลาไม่นาน หากเป็นการขับขี่ภายในเมือง ผู้ใช้สามารถใช้รถยนต์คันนี้ได้อย่างสะดวกสบายด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว รถยนต์คันนี้มาพร้อมรายละเอียดของการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ใหม่ในคอนเซ็ปต์ Sensual Purity ที่ให้สัมผัสที่ผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความหรูหรา ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบสปอร์ตและขนาดตัวรถที่กว้างขึ้นในทุกมิติ จึงช่วยมอบความสะดวกสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ส่วนดีไซน์ภายในก้าวไปอีกขั้นกับการตกแต่งที่ถอดแบบมาจากรุ่น S-Class ทั้งหน้าจอ LCD ความละเอียดสูง การปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 แบบ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มด้วยหนัง คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่พร้อม จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่11.9 นิ้วที่เบี่ยงเป็นมุมเฉียงมายังผู้ขับขี่เล็กน้อย ทั้งยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยและมาตรฐานของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ได้รับการยกระดับขึ้นอีกขั้น Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic วางจำหน่ายในราคา 3,350,000 บาท “Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select” ใหม่คือรถยนต์นั่งขนาด 11 ที่นั่งระดับพรีเมียมที่พร้อมตอบทุกช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคนในทุกเส้นทาง ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี เจเนอเรชันล่าสุดที่ให้กำลังมากขึ้นทว่าให้อัตราสิ้นเปลืองที่ลดลง ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ9G-Tronic มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงที่ 9.6 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 205 กิโลเมตร/ชั่วโมงMercedes-Benz Vito ใหม่นำเสนอดีไซน์ภายนอกที่มีความโดดเด่นในทุกเส้นทาง ด้วยกระจังหน้าโครเมียมกับไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light และล้ออัลลอย Multispoke ขนาด 17 นิ้ว พร้อมประตูบานเลื่อนซ้าย-ขวาที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ควบคุมการเปิด-ปิดด้วยรีโมทคอนโทรล ดีไซน์ภายในมีเอกลักษณ์กับห้องโดยสารกว้างขวางที่พร้อมเชื่อมต่อให้ทุกการทำงานของคุณลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกับระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติภายในห้องโดยสาร (Thermotronic) ขับเคลื่อนความสุขและความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของทุกคนได้ตลอดการเดินทาง Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select วางจำหน่ายในราคา 3,100,000 บาท  

 
Read More
Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed