การเดินหน้าสู้เคียงข้างก่อสร้างไทยโดย ซานี่ ไทยยนต์ แจกโชค 4 ชั้น มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท พร้อมกับรถขุดรุ่นยอดนิยมราคาสุดพิเศษ สถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องนานนับปี และมีการปิดแคมป์งานก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นมา ทางภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เพื่อให้ธุรกิจต่างๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทาง บริษัท ซานี่ไทยยนต์ จำกัด ขอเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างกำลังใจให้กับผู้ดำเนินธุรกิจก่อสร้างไทย ในการต่อสู้กับโควิด จึงได้ออกแคมเปญ “มหกรรมจองรถขุด SANY EP. ซานี่ไทยยนต์ สู้เคียงข้างก่อสร้างไทย” โดยจัดโปรโมชั่นพิเศษสุด กับรถขุดรุ่นยอดนิยม SY135C และ SY200C รุ่นพิเศษ เพียงรุ่นละ 99 คัน นอกจากนี้ ทางซานี่ยังแจกโชค 4 ชั้นมูลค่ารวมกว่า 12 ล้านบาท เพียงลูกค้าที่ซื้อและรับมอบรถขุด SANY (รุ่น 13 ตันขึ้นไป) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2564 จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัล (1 สิทธิ์ต่อการซื้อรถ 1 คัน) ลุ้นโชค โชคชั้นที่ 1 รับทันทีส่วนลดเงินดาวน์มูลค่า 100,000 บาท *เมื่อซื้อคันที่ 2* โชคชั้นที่ 2 ลุ้นรับ Gift Voucher อะไหล่ SANY มูลค่ารางวัลละ 50,000 บาท จำนวน 10 รางวัลทุกเดือน โชคชั้นที่ 3 ลุ้นรับรถกระบะ Toyota Revo มูลค่ารางวัลละ 584,000 บาท จำนวน 1 คันทุกเดือน โชคชั้นที่ 4 ลุ้นรับ Mercedes Benz E300e Avantgarde มูลค่ารางวัลละ 3,190,000 บาท จำนวน 3 รางวัล ร่วมลุ้นโชคได้ตั้งแต่วันนี้ -31 ธันวาคม 2564 การจับรางวัล จับรางวัลครั้งที่ 1 วันที่ 15 ตุลาคม 2564 live จับรางวัลผ่านเพจ SANY THAIYONT จับรางวัลครั้งที่ 2 วันที่ 15 พฤษจิกายน 2564 live จับรางวัลผ่านเพจ SANY THAIYONT จับรางวัลครั้งที่ 3 วันที่ 15 ธันวาคม 2564 live จับรางวัลผ่านเพจ SANY THAIYONT จับรางวัลครั้งที่ 4 วันที่ 14 มกราคม 2565 live จับรางวัลผ่านเพจ SANY THAIYONT นอกจากนี้ ทางซานี่ไทยยนต์ ขอเรียนเชิญลูกค้าให้เข้าร่วมกิจกรรม Facebook Live จับรางวัล ผ่านทาง Facebook SANYThaiYont ทุกเดือน เพื่อลุ้นรับของพรีเมี่ยมสุดพิเศษ ที่ซานี่เตรียมมอบให้กับแฟนพันธุ์แท้รถขุดซานี่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 061-636-3588 หรือ FB Page:SANY Thaiyont หรือ LINE@: SANY Thaiyont และ Website : www.sanythaiyont.com
Author: GIANT Autosawasdee
TOYOTA แนะนำ YARIS และ ATIV รุ่นปรับปรุงใหม่
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำอีโคคาร์ยอดนิยมรุ่นปรับปรุงใหม่ แฮทช์แบ็ค YARIS และซีดาน ATIV เติมความโฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์ใหม่ มาmujกสดหกสด พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและฟังก์ชันความปลอดภัยที่ครบครัน คุ้มค่าตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานได้อย่างลงตัว พร้อมแนะนำชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ โดดเด่น สะดุดตา บ่งบอกตัวตนความเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์เฉพาะตัว YARIS อีโคคาร์แฮทช์แบ็คยอดนิยม เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ทำการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2556 เพื่อตอบสนองความต้องการรถเครื่องยนต์ขนาดเล็กในประเทศไทย และในเดือนสิงหาคมปี 2560 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของรถในเซ็กเมนท์อีโคคาร์ โตโยต้าจึงได้เปิดตัว ATIV รถอีโคคาร์ซีดาน ที่โดดเด่นด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมสมรรถนะการขับขี่คล่องตัว ให้ความรู้สึกสนุกสนานในทุกการขับขี่ “Fun-To-Drive” พร้อมฟังก์ชันสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันสูงสุด พร้อมด้วยการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากอาเซียน เอ็นแคป (ASEAN NCAP) และในเดือนสิงหาคมปี 2563 ที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีการปรับดีไซน์ภายนอก และเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถยนต์โตโยต้า “Toyota Safety Sense” ที่เหนือกว่ารถยนต์ระดับเดียวกัน ทำให้ครองใจลูกค้าชาวไทยด้วยดีตลอดมา โดย YARIS สามารถสร้างยอดขายสูงสุดในตลาดอีโคคาร์แฮทช์แบ็ค ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า285,700 คัน และ ATIV มียอดขายสะสมในตลาดรถยนต์อีโคคาร์ซีดานของประเทศไทยมากกว่า 113,900 คัน คุณสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า “บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีความยินดีแนะนำ YARIS และ ATIV รุ่นปรับปรุงใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาในด้านดีไซน์ให้มีความสปอร์ต พรีเมียม ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้าด้านบนสีดำเงา วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอก สเกิร์ตด้านข้าง และด้านหลัง สปอยเลอร์หลังตลอดจนล้ออัลลอยปัดเงาสีดำตกแต่งด้วยขอบสีเงินขนาด 15 นิ้ว และภายในได้ปรับพวงมาลัยแบบ Soft Touch หุ้มหนังชนิดนุ่มพิเศษ สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่หลากหลาย พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน “Fun-To-Drive” เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน ที่สำคัญประหยัดน้ำมันสูงสุดในราคาที่สมเหตุสมผล มีความคุ้มค่าและง่ายต่อการเป็นเจ้าของ โดย YARIS และ ATIV มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นมาตรฐานและเพิ่มรุ่นภายในตกแต่งพิเศษสีทูโทน Terra Rossa และสีดำอีก 2 รุ่น ควบคู่ไปกับชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ X-URBAN เพื่อให้ YARIS โดดเด่นยิ่งขึ้นไปกับสไตล์ที่แตกต่าง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกเป็นเจ้าของตามสไตล์ที่ชื่นชอบอีกด้วย ทั้งนี้ชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ X-URBAN โดยบริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด ออกแบบภายใต้แนวคิด Modern & Cool โดดเด่นสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับเพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่ ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตครอสโอเวอร์รอบคันล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมโช๊คอัพและสปริงแบบยกสูงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อเอาใจ Urbanista ที่ชอบความโดดเด่น ไม่ซ้ำใครโดยเฉพาะ ทั้งนี้ลูกค้าที่ชื่นชอบ YARIS ในชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ X-URBAN สามารถติดต่อได้ที่ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศนอกจากนี้ผมขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้าผู้ชื่นชอบดีไซน์สปอร์ตด้วยชุดตกแต่งพิเศษ FLASH II PACKAGE ที่เสริมความโฉบเฉี่ยวและดูโดดเด่นสะดุดตาให้กับ YARIS และ ATIV มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังมีกล่องควบคุมคันเร่งไฟฟ้า ACTIVE SPEED เติมความสปอร์ต ตอบสนองรวดเร็วในขณะออกตัว เพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ โดยลูกค้าจ่ายเพิ่มเพียงเดือนละ 228 บาทต่อเดือนในยอดการผ่อนชำระรายเดือนเท่านั้น (คำนวณจากโปรแกรมเช่าซื้อปกติ ATIV รุ่น ENTRY ดาวน์ 25% ระยะเวลา 84 เดือน ผ่านบริษัท โตโยต้า ลีซซิ่ง“ ที่สำคัญเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของ YARIS และ ATIV ได้ง่ายยิ่งขึ้น ทางโตโยต้าขอนำเสนอ ประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่เพื่อเป็นทางเลือกที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้า ได้แก่ โปรแกรม Easy To Buy กับข้อเสนอ 0% เงินดาวน์ หรือ รับฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care มูลค่า 25,000 บาทพร้อมโปรแกรมช่วยผ่อนเดือนละ 2,000 บาท นาน 12 เดือน โปรแกรม CAL (Connected Auto Loan) เพื่อให้การอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ของลูกค้าเป็นไปได้ง่ายขึ้น และยังสามารถเลือกใช้โปรแกรมประกันภัย PAYD (Pay As You Drive) ที่ช่วยลดภาระค่าเบี้ยประกันให้กับลูกค้า (ขึ้นอยู่กับระยะทางการขับขี่) โปรแกรม KINTO อิสรภาพใหม่ของการใช้รถจากโตโยต้า กับข้อเสนอใหม่ที่ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้นเมื่อครบสัญญา เลือกผ่อนต่อเป็นเจ้าของ หรือ เลือกรถคันใหม่* (*เมื่อครบสัญญา ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ โดยมีค่าผ่อนชำระใกล้เคียงเดิม) ไม่ต้องมีคนค้ำ ไม่ต้องดาวน์” YARIS และ ATIV รุ่นปรับปรุงใหม่…ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม ฟังก์ชันครบครัน คุ้มค่าทุกการใช้งาน ดีไซน์ภายนอก…ใหม่ กระจังหน้าด้านบนสีดำเงา…สไตล์โดดเด่นแบบมีเอกลักษณ์ วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอก…เท่ห์ทันสมัย สเกิร์ตด้านข้างซ้าย–ขวา (เฉพาะ ATIV รุ่น Sport Premium / Sport) สเกิร์ตด้านหลัง (เฉพาะ YARIS และ ATIV รุ่น Sport Premium / Sport) สปอยเลอร์หลัง (เฉพาะ ATIV รุ่น Sport Premium / Sport) ล้ออัลลอยปัดเงาสีดำตกแต่งด้วยขอบสีเงิน ขนาด 15 นิ้ว (เฉพาะ YARIS และ ATIV รุ่น Sport Premium) ดีไซน์ภายใน…ใหม่ พวงมาลัยหุ้มหนังนุ่มพิเศษตกแต่งด้วยด้ายสีเทา (เฉพาะ ATIV รุ่น Sport Premium / Sport) พวงมาลัยหุ้มหนังนุ่มพิเศษตกแต่งด้วยด้ายสีฟ้า (เฉพาะ YARIS รุ่น Sport Premium / Sport) YARIS รุ่นพิเศษ Sport Premium X และ Sport X ที่เหมาะกับการติดตั้งชุดตกแต่งพิเศษ X-URBAN โดดเด่น สไตล์ครอสโอเวอร์…
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมโชว์วิสัยทัศน์
เกรท วอลล์ มอเตอร์ โชว์วิสัยทัศน์ระดับโลก ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ของไทย ในงานสัมมนา ZEV Thailand Policy: Road to EV ASEAN Production Hub พร้อมแลกเปลี่ยนความเห็นและเสนอแนะแนวทางการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน ร่วมกับผู้นำจากอุตสาหกรรมยานยนต์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งงานสัมมนาในปีนี้จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ รองประธานฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เป็นตัวแทน เข้าร่วมเสวนาเพื่อแสดงวิสัยทัศน์และข้อเสนอแนะจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในหัวข้อ Game changing “Future Directions of Thailand’s Future Mobility” ในงานสัมมนาออนไลน์ ZEV Thailand Policy: Road to EV ASEAN Production Hub ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังการสัมนาเป็นจำนวนมาก นอกจากการตั้งฐานการผลิตเต็มรูปแบบในประเทศไทยและอีกหลายแห่งทั่วโลกแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้มีการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนากว่า 10 แห่ง ใน 7 ประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างสรรค์รถยนต์เทคโนโลยีพลังงานทางเลือก (New Energy Technology) ต่างๆ ในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle) ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) ยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (Battery Electric Vehicle) ตลอดจนยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงพลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Energy Fuel Cell Electric Vehicle) เป็นต้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตลาดยานยนต์ไฟฟ้าโลก รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้แก่ GWM Electrification Technology ที่ครอบคลุม 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ แบตเตอรี่ มอเตอร์ และระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ โดยการรวมโมดูลที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และมีประสิทธิภาพสูง มีการใช้พลังงานต่ำ และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน จนสามารถใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 12.5 กิโลวัตต์ ต่อระยะการขับขี่ 100 กิโลเมตรได้ ซึ่งจะทำให้รถไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) อย่างแพลตฟอร์ม GWM LEMON ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะระดับโลก ที่มีคุณสมบัติเด่น 5 ประการ ได้แก่ 1) น้ำหนักเบา (Lightweight) 2) ใช้พลังงานจากไฟฟ้า (Electrification) 3) สามารถใช้งานได้หลายหลายรูปแบบ (Multi-purpose) 4) มีระบบการปกป้องรอบด้าน (Omni-protection) และ 5) มีความสามารถในการเชื่อมโยงเครือข่าย (Network) โดยแพลตฟอร์ม GWM LEMON จะสามารถสนับสนุนระบบส่งกำลังได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสำหรับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal combustion engine : ICE) เครื่องยนต์ไฮบริดแบบ Dual Hybrid Transmission แบบ P2 P2+ หรือP4 รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) หรือรถยนต์ประเภทเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle :…
บริดจสโตน ร่วมยินดี 4 นักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทย
บริดจสโตนประเทศไทยต้อนรับ 4 นักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทย และในฐานะทีมบริดจสโตนประเทศไทย พร้อมมอบเงินสนับสนุนแก่เจมส์-วรวุฒิ แสงอำภา นักกีฬาบอคเชีย ทีมชาติไทย หลังสิ้นสุดภารกิจ ใน “โตเกียว 2020 พาราลิมปิกเกมส์” ที่โชว์ฟอร์มอย่างสุดกำลังคว้าเหรียญทอง ประเภททีม ในมหกรรมกีฬาระดับโลกได้เป็นผลสำเร็จ พร้อมส่งมอบเงิน 100,000 บาท จากโครงการ “1 กำลังใจให้ยกกำลัง 10” แก่ “มูลนิธิเมาไม่ขับ” เพื่อส่งต่อพลังไล่ล่าความฝันนี้แปรเปลี่ยนเป็นพลังยิ่งใหญ่สู่ผู้พิการในสังคมไทย มร.เคอิจิ ชูมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด เผยว่า “ตลอดระยะเวลาการจัดการแข่งขัน โตเกียว2020 โอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ที่ผ่านมา บริดจสโตนได้ทุ่มเททำหน้าที่ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนหลักการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับโลกครั้งนี้อย่างรอบด้าน ทั้งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนำเสนอโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์ด้านการเดินทาง และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดให้มีโปรแกรมอาสาสมัครที่ส่งเสริมให้พนักงานหลายร้อยคนได้มีโอกาสร่วมมือกับผู้จัดงาน สำหรับบริดจสโตนในประเทศไทยนั้น ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการร่วมผลักดันนักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยในสังกัดทีมบริดจสโตนประเทศไทยที่ได้สร้างชื่อเสียงแก่ประเทศชาติ โดยในส่วนของเจมส์–วรวุฒิ แสงอำภา นักกีฬาบอคเชียทีมชาติไทย สามารถคว้าเหรียญทอง จากการแข่งขันประเภททีมผสม BC1/BC2 ทำให้ทีมชาติไทยครองแชมป์สมัยที่ 3 ต่อเนื่องได้เป็นผลสำเร็จ พร้อมเงินรางวัลสนับสนุนจากบริดจสโตน จำนวน 300,000 บาท สำหรับบีม–ชัยวัฒน์ รัตนะ นักกรีฑาวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทย เจน–เจนจิรา ปัญญาทิพย์ นักกรีฑาคนพิการทีมชาติไทยประเภทกระโดดไกลหญิง และสรณ์–จ่าเอก อนุสรณ์ ไชยชำนาญ นักกีฬา ยิงปืนคนพิการทีมชาติไทย สามารถทำผลงานพร้อมสะสมสถิติการแข่งขันได้ดีเป็นที่น่าพอใจ แม้จะเพิ่งเป็นการเดินทางไปร่วมแข่งขันเป็นปีแรกก็ตาม นอกจากการสนับสนุนนักกีฬาพาราลิมปิกทั้ง 4 คน ในฐานะพนักงานของบริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด แล้วนั้น เรายังได้จัดทำแคมเปญพิเศษ “1 กำลังใจให้ยกกำลัง 10” เชิญชวนแฟนกีฬาชาวไทยส่งข้อความให้กำลังใจแก่นักกีฬา ผ่านwww.bridgestonechaseyourdream.com เพื่อเสริมสร้างกำลังใจในการไล่ล่าความฝัน ไปพร้อมกับการทำประโยชน์ส่งคืนกลับสู่สังคมผ่านมูลนิธิเมาไม่ขับ โดยทุก 1 ข้อความ บริดจสโตนจะร่วมสมทบ 10 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากแฟนกีฬาเป็นอย่างดี โดยบริดจสโตนจะยังคงทุ่มเทการสนับสนุนเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้ยั่งยืนยิ่งขึ้นไปด้วยพันธกิจ “รับใช้สังคมด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า” ในทุกโอกาสที่สามารถจะทำได้ในอนาคต” โอกาสนี้ บริดจสโตน ประเทศไทย ได้มอบเงิน จำนวน 100,000 บาท จากแคมเปญพิเศษ “1 กำลังใจให้ยกกำลัง10” แก่มูลนิธิเมาไม่ขับ เพื่อร่วมกันต่อยอดให้เกิดพลังการเอาชนะอุปสรรคสู่สังคมและผู้พิการ ให้ “Chase Your Dream” หรือไล่ตามความฝันต่อไปได้ในอนาคต โดยมี คุณนันธกา สาตราภัย ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด เป็นผู้แทนส่งมอบเงินจำนวน 100,000 บาท และนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เป็นผู้รับมอบ ร่วมติดตามกิจกรรมของบริดจสโตนในโอกาสต่อไปได้ทาง www.bridgestone.co.thหรือwww.facebook.com/BridgestoneTH
คาลเท็กซ์ ฮาโวลีน โปรดีเอส ฟูลลี่ ซินเธติก อีโค่
บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น คาลเท็กซ์ ฮาโวลีน® แนะนำผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องใหม่ สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ฮาโวลีน® โปรดีเอส™ ฟูลลี่ ซินเธติก อีโค่ (Havoline® ProDS™ Fully Synthetic Eco) SAE 0W-20 / 5W-30 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ได้มาตรฐาน API SP / ILSAC GF-6A มีวางจำหน่ายในขนาด 4 ลิตรและ 1 ลิตร สูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อรถอีโค่ คาร์ เครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่า 1,300 ซีซี เครื่องยนต์ไฮบริด และระบบฉีดตรง(GDI) ช่วยปกป้องการสึกหรอของทุกชิ้นส่วนในเครื่องยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ลดแรงเสียดทาน จึงช่วยประหยัดเชื้อเพลิงทำให้เครื่องยนต์รวมไปถึงระบบฉีดตรงแบบเทอร์โบชาร์จ สามารถทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะ ตอบโจทย์การใช้งานและเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ภายใต้แนวคิด Smart Product เติมเต็มประสบการณ์แห่งความสุขในการขับรถอย่างลื่นไหลเต็มพลัง ปกป้องเครื่องยนต์เบนซิน อย่างเหนือชั้น พร้อมเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่กับ ฮาโวลีน® โปรดีเอส™ ฟูลลี่ ซินเธติก อีโค่ SAE 0W-20 / 5W-30 ตั้งแต่วันนี้ ที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ และตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องคาลเท็กซ์ทั่วประเทศ พร้อมจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Lazada และ Shopee สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ได้ที่โทร.02 081 4492 ติดตามข้อมูลข่าวสารพร้อมกิจกรรมดี ๆ จากคาลเท็กซ์ได้ที่ www.caltex.co.th และwww.facebook.com/CaltexThailand แอดไลน์ @iLoveCaltex หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าโทร. 02 081 4123
BMW R nineT ใหม่ ราคาเริ่มต้น 739,000 บาท
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย นำจิตวิญญาณแห่งความคลาสสิกที่ข้ามผ่านกาลเวลานับทศทวรรษมาให้ไบค์เกอร์ชาวไทยได้สัมผัสกันอีกครั้ง กับบีเอ็มดับเบิลยู R nineT ใหม่ถึงสี่รุ่น โดยหลังจากการเปิดตัวรุ่นแรกไปเมื่อปี2556 บีเอ็มดับเบิลยู R nineT ก็กลายเป็นมอเตอร์ไซค์ที่เป็นตัวแทนของเอกลักษณ์อันคลาสสิก สอดประสานเทคโนโลยีทันสมัยและการออกแบบที่ละเอียดประณีต แต่ยังเปิดพื้นที่ให้ไบค์เกอร์สร้างความเฉพาะตัวด้วยการแต่งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ซึ่งมอเตอร์ไซค์ในตระกูล R nineT ล้วนสื่อถึงจิตวิญญาณแห่งการขับขี่ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S ที่เผยโฉมในปี 2523 สานต่อตำนานเอ็นดูโร่จาก R 80 G/S บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Scrambler ที่มาพร้อมแก่นแท้แห่งความเรียบง่ายสไตล์คลาสสิก และบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Pure มอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์ในดีไซน์แบบเปลือย สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู R nineT รุ่นใหม่ ได้รับการยกระดับอย่างรอบด้าน ทั้งสมรรถนะ อุปกรณ์มาตรฐาน และตัวเลือกอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากรุ่นก่อนหน้า โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมันที่ได้มาตรฐาน EU5 สร้างแรงบิดได้ทรงพลังกว่าที่เคย แต่ลดการปล่อยมลพิษยิ่งกว่า มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบPro ระบบเบรก ABS Pro ระบบ Dynamic Brake Control ระบบ Dynamic Traction Control ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) ระบบกันสะเทือนใหม่แบบ WAD ที่ทั้งคล่องตัวและนุ่มนวลยิ่งกว่าขณะขับขี่ และไฟ LED ครบชุด มร.มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู R nineT กลายเป็นหนึ่งในมอเตอร์ไซค์ที่โดดเด่นที่สุดบนท้องถนนประเทศไทย มีจุดกำเนิดที่สืบทอดมาจากมอเตอร์ไซค์คลาสสิกของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีฐานลูกค้าในเซกเมนต์นี้มากที่สุดในโลก นอกจากนี้ เอกลักษณ์ที่ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู R nineT ครองใจแฟน ๆ ชาวไทยไม่เสื่อมคลาย คือดีไซน์ที่เปิดกว้างสำหรับการเสริมอุปกรณ์แต่งเฉพาะตัว ซึ่งเป็นปรัชญาการออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยู R nineT นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรก และในไทยยังมี R nineT ที่ได้รับการสร้างสรรค์จากนักสะสมบิ๊กไบค์จนโด่งดังในระดับโลกมากมายความพิเศษของบีเอ็มดับเบิลยู R nineT ยังอยู่ที่การผสานกลิ่นอายความคลาสสิกเข้ากับความทันสมัยของเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว เพื่อมอบสมรรถนะที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงความสะดวกสบายและความปลอดภัยเหนือกว่าที่เคย” BMW R nineT Pure ใหม่ ราคา 739,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) BMW R nineT Scrambler ใหม่ ราคา 799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) BMW R nineT Urban G/S ใหม่ ราคา 799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) BMW R nineT ใหม่ ราคา 859,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) BMW R nineT Option 719 Night Black matt/ Aluminum mat ใหม่ ราคา 919,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) BMW R nineT Option 719 Mineral White metallic/ Aurum ใหม่ ราคา 919,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มอเตอร์ไซค์ในตระกูล R nineT ใหม่ มาใน 4 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู R nineT, R nineT Pure, R nineT Scrambler และ R nineT Urban…
Rolls-Royce Motor Cars ประกาศแต่งตั้ง Irene Nikkein
สำหรับ Irene Nikkein ร่วมงานกับ Rolls-Royce Motor Cars ภายหลังจากที่ดำรงตำแหน่ง Head of Brand Communication & Product Management ที่ MINI ประเทศญี่ปุ่น ด้วยประสบการณ์การทำงานเกือบ 15 ปี รวมการรับตำแหน่งระดับอาวุโสภายในองค์กรของ BMW Group Asia ได้แก่ Regional Experiential & Sponsorship Manager ของBMW และ Regional Marketing Manager ของ MINI Henrik Wilhelmsmeyer ตำแหน่ง Director of Sales and Brand, Rolls-Royce Motor Cars กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีที่จะให้ การต้อนรับ Irene Nikkein สู่ Rolls-Royce Motor Cars ในฐานะ Asia-Pacific Regional Director ทั้งนี้ Irene เป็นผู้มีประสบการณ์การทำงานที่ยอดเยี่ยมและมีประสบการณ์ที่หลากหลายผนวกกับความรู้ที่กว้างขวางเกี่ยวกับภูมิภาค ทำให้เธอเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับตำแหน่งที่สำคัญนี้” Nikkein เป็นชาวอินโดนิเซีย เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเกียรตินิยม คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการตลาดจากมหาวิทยาลัย RMIT ประเทศสิงคโปร์
นิสสัน รับรางวัลอุตสาหกรรม
ณ โรงงานผลิตรถยนต์ของนิสสัน ประเทศไทย ในจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) จากกระทรวงอุตสาหกรรม ด้วยการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง รางวัลนี้ยกย่องการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของนิสสัน ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กร และตลอดห่วงโซ่อุปทานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว หรือ Green Industry ริเริ่มโดยกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความตระหนักของบริษัทอุตสาหกรรมในประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้รางวัลแก่อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยการรับรองระดับ ผ่าน “ตราสัญลักษณ์ อุตสาหกรรมสีเขียว หรือ Green Industry Mark โดยผลจากการได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวครั้งนี้ทำให้ โรงงานผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของนิสสัน ที่ถนนบางนา-ตราด กม.22 เป็นหนึ่งในสองโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในระดับดังกล่าว โดยมีระบบการจัดการ เช่น ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (solar rooftop) การคัดแยกขยะ การจัดการมลพิษน้ำ และการจัดการมลพิษกากอุตสาหกรรม มร.อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ทุกคนที่นิสสันในประเทศไทยรู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากมายแก่พนักงาน องค์กร และชุมชนรอบพื้นที่โรงงาน อีกทั้งยังแสดงถึงความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมต่าง ๆ ที่สนับสนุนและปกป้องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน นี้ยังเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นระดับโลกของเราในการเพิ่มคุณค่าชีวิตของผู้คนและบรรลุการไม่เพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใหม่สู่ชั้นบรรยากาศในการดำเนินงานของบริษัทและวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ภายในปี พ.ศ. 2593” ในฐานะศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของนิสสันในเอเชียและโอเชียเนีย บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ค่าสาธารณูปโภค ต้นทุนการจัดการของเสีย รวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กรและห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ยังมีการดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกคนในเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของพนักงานและสังคม
HONDA เปิดตัว All New CBR150R
ความเป็นซูเปอร์สปอร์ตขั้นสุดจากสนามแข่ง รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด “All New CBR150R” จากตระกูล CBR Series ดีไซน์ล้ำสมัยให้ความเป็นซูเปอร์สปอร์ตในทุกมิติ ติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการขับขี่ด้วย Assist Slipper Clutch และโช้กหัวกลับ และเบรก ABS วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มร.ทาคาโนริ มารุยามะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า “รถสปอร์ตฮอนด้าในตระกูล CBR Series ได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดซูเปอร์ไบค์ในดวงใจของนักบิดสายพันธุ์สปอร์ตมาอย่างยาวนาน ด้วยเอกลักษณ์ความโดดเด่นทั้งในเรื่องของดีไซน์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ได้รับการถ่ายทอดจากรถแข่งโมโตจีพีของฮอนด้าที่สร้างเกียรติประวัติคว้าแชมป์ในรายการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกมาแล้วมากมาย ในครั้งนี้ All New CBR150R มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ถือว่าเหนือชั้นที่สุดในคลาสรถสปอร์ต 150 ซีซี ทั้งการออกแบบตัวรถและอุปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรถซูเปอร์สปอร์ตระดับท็อป เรามั่นใจว่า All New CBR150R จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเปิดประสบการณ์การขับขี่และสัมผัสความแรงสไตล์เรซซิ่งสปอร์ต ก่อนต่อยอดสู่สปอร์ตไบค์ในตระกูล CBR Series ในพิกัดที่สูงขึ้นต่อไป” All New CBR150R ได้รับการพัฒนาภายใต้คอนเซปต์ “For The Real Racing Heart แรงเท่าที่ใจอยากแรง” ออกแบบใหม่ทั้งคันในแบบ Sport Aggressive Design ที่ให้ความโฉบเฉี่ยวและดุดัน ไฟหน้า LED 2 ชั้น แบบ Double-Layered ทั้งหน้าและหลัง มาพร้อมกับ Position Light คู่บน และไฟเลี้ยว LED เฉียบคมด้วยเส้นสายบนตัวรถที่บ่งบอกความเป็นสปอร์ตขั้นสุด ออกแบบตามหลัก Aero Dynamics ให้มีแรงเสียดทานต่ำที่สุด ขับขี่สนุกด้วยการวางตำแหน่งท่านั่งในแบบ “Super Sport Riding Position” ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสอารมณ์ของความเป็นรถซูเปอร์สปอร์ตตัวจริง All New CBR150R มาพร้อมการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ด้วยเครื่องยนต์…
HONDA เปิดตัว New Forza350
รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเปิดตัวบิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับท็อปคลาส “New Forza350” สีสันใหม่สปอร์ตหรูดุดันขึ้น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีมากมายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลอย่างครบครัน พร้อมวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มร.ทาคาโนริ มารุยามะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยเปิดเผยว่า “นับตั้งแต่การเปิดตัวForza350 เมื่อปีที่ผ่านมา บิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ก็ได้กลายเป็นรถท็อปคลาส ที่ตอบโจทย์ได้ทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรรถนะจากเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว ดีไซน์สปอร์ตหรูหราดูมีระดับ และฟังก์ชันทันสมัยเพื่อการขับขี่อีกมากมาย ทำให้ Forza350 ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากในกลุ่มคนไทยที่ต้องการรถที่มีทั้งความแรง และภาพลักษณ์ที่ดูโดดเด่นเหนือใคร ในปีนี้ เราได้ยกระดับ New Forza350 ขึ้นไปอีกขั้น ให้เป็นรถที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสุด ด้วยการติดตั้งระบบที่ล้ำสมัยอย่าง HSVCs (Honda Smartphone Voice Control System) เข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับรถเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ของคนไทยที่มีสมาร์ทโฟนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต โดยเทคโนโลยี HSVCs จะช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมการรับสาย โทรออก เปิดระบบนำทาง ฟังเพลง หรือแม้กระทั่งส่งข้อความได้อย่างง่ายดายด้วยปลายนิ้ว ไม่ต้องปล่อยมือจากแฮนด์รถ หรือละสายตาจากถนน จึงให้ทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน ในส่วนของการออกแบบรถนั้น เรายกระดับ New Forza350 ให้มีความสปอร์ตสุดขั้น เพิ่มความดุดันด้วยสีสันใหม่ และล้อทองในรุ่น Roadsync Type สำหรับ New Forza350 คือรถที่ครบครันไปด้วยสามองค์ประกอบ นั่นคืองานดีไซน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร สมรรถนะความแรงขั้นสุด และเทคโนโลยีเพื่อการใช้งานที่ล้ำสมัยที่สุดในกลุ่มบิ๊กสกู๊ตเตอร์ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฮอนด้าพัฒนาเพื่อคนไทย” New Forza350 ได้รับการยกระดับภายใต้คอนเซปต์ “Only…