Audi Q8 55 TFSI quattro S line

ฤกษ์งาม ยามดี อาวดี้ สำนักงานใหญ่ในประเทศไทย เปิดอย่างเป็นทางการ ถนนเลียบด่วน ย่านธุรกิจใหม่ ที่ใครๆ ก็จับตามอง งานนี้ นอกจากเปิดโชว์รูมสำนักงานใหญ่แห่งใหม่แล้ว ยังเปิดตัว อาวดี้ คิวแปด อีกด้วย

คุณกฤษฎา ล่ำซำ ประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการบริหาร อาวดี้ประเทศไทย  ให้การต้อนรับทีมผู้บริหารบริษัท อาวดี้ เอจี นำโดย มร.ไมเคิล ฟริช  ผู้อำนวยการอาวุโสส่วนงานขายต่างประเทศ อาวดี้ เอจี    ที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี โอกาสเปิด Audi Centre Thailand   สำนักงานใหญ่ของอาวดี้ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ

พร้อมกันนี้ ยังได้ถือโอกาสฤกษ์ดี เปิดตัว Audi Q8 55 TFSI quattro S line ไปด้วย ต่อหน้าสื่อมวลชนนับร้อยคน Audi Q8 ที่เผยโฉมสู่โลกยานยนต์แล้วในวันนี้ ด้วยบรรทัดฐานใหม่ของยนตรกรรมที่ผสมผสานคุณลักษณะที่โดดเด่นของรถเอสยูวีขนาดใหญ่ และรถยนต์ 4 ประตู คูเป้ ที่มีดีไซน์หรูหรา เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว  เป็นบทพิสูจน์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อันเลื่องชื่อของ Audi  ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Audi Q8 55 TFSI quattro S line เป็นรถที่ผ่านการออกแบบโดยสะท้อนแนวคิดใหม่ของ Audi (design language) ซึ่งเริ่มใช้เป็นครั้งแรกในรุ่น A8 ได้อย่างชัดเจน โดยออกแบบให้รถมีรูปทรงที่ดูแข็งแกร่งตามแบบฉบับของ เอสยูวี, กระจังหน้าขนาดใหญ่ รูปทรง 8 เหลี่ยม ช่วยให้รถดูมีพลัง เสริมความหรูหราด้วยเส้นขอบโครเมียมแนวตั้ง 6 เส้น ตัดด้วยเส้นแนวนอนสีเทาเข้ม รับกับกันชนหน้าที่มีช่องรับอากาศ (air inlets) ขนาดใหญ่ เพิ่มความรู้สึกน่าน่าเกรงขาม ดุดัน และแสดงออกถึงความมั่นใจในตนเอง ความโดดเด่นสวยงาม สะดุดตา ของ Audi Q 8   ที่ถือเป็นเอกลักษณ์เลย ก็คือ ไฟหน้าแบบ HD Matrix LED พร้อมไฟสำหรับขับขี่ในเวลากลางวัน (daytime running light) โฉบเฉี่ยวและมีเอกลักษณ์จากการออกแบบในลักษณะเส้นแนวตั้ง เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนยามค่ำคืน และลดการรบกวนเพื่อนรวมทางจากระบบ Matrix ที่ไฟ LED แต่ละดวงทำงานเป็นอิสระเลือกจุดตกกระทบได้อย่างเหมาะสม ลดการส่งแสงรบกวนรบกวนรถคันอื่น แต่มีความสว่างในพื้นที่รอบๆ ช่วยให้มองเห็นเส้นทางได้กว้าง และไกล เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม Audi Q8 55 TFSI quattro S line ยังมาพร้อมกับไฟเลี้ยวแบบไดนามิกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  นอกจากนี้เมื่อมีการล็อก หรือปลดล็อกรถ ไฟทั้งด้านหน้าและด้านหลังจะติดสว่างในรูปแบบไฟแอนนิเมชัน หรือเรียกว่า Light staging นวัตกรรมแห่งการออกแบบอัลกอริทึม (algorithm) การควบคุมการส่องสว่างรูปแบบใหม่ ขณะที่เส้นสาย และรูปทรงต่างๆ ออกแบบได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเส้นแนวหลังคาที่ลาดลงตามแบบฉบับของรถคูเป้ ให้อารมณ์สปอร์ตและหรูหรา  และเส้นสายรอบตัวรถที่เป็นไปตามหลักการอากาศพลศาสตร์ ทำให้รถดูเหมือนพร้อมที่พุ่งทะยานไปยังข้างหน้าตลอดเวลา เติมเต็มด้วยหลังคาพาโนรามิคที่เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า  ขณะที่ตัวถังด้านข้าง นอกจากรูปทรงที่โดดเด่นสวยงาม ยังเพิ่มเติมสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด ด้วยการดึงอารมณ์ของรถคูเป้มาใช้กับกระจกหน้าต่างแบบไร้ขอบ ให้ความรู้สึกหรูหราและสปอร์ตยิ่งขึ้น

Audi Q8 55 TFSI quattro S line โดดเด่นท้าทายทุกสายตาด้วยซุ้มล้อขนาดใหญ่ หนึ่งในอัตลักษณ์ของ quattro DNA จาก Audi มาพร้อมกับล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว ที่จะทำให้ทุกการเดินทางเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ของรถยนต์ เอสยูวี ขนาดใหญ่ได้อย่างแท้จริง   ด้านท้าย สวยงาม ลงตัว กับการออกแบบไฟท้ายแบบแนวนอน พร้อมไฟ LED ที่เชื่อมต่อกันต่อเนื่องระหว่างด้านซ้ายและด้านขวา ทำให้ท้ายรถดูเป็นหนึ่งเดียวกัน แตกต่าง และมีเอกลักษณ์ที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล นอกจากนี้แถบสีดำเชื่อมต่อไฟท้ายซ้าย-ขวา ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Audi  Ur Quattro การออกแบบตัวถังไม่เพียงแต่เน้นให้มีความสวยงาม หรูหราเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญในด้านวิศวกรรมด้วยการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมในรูปแบบของ multi-material construction โดยอลูมิเนียมและเหล็กชนิดต่างๆ จะถูกเลือกใช้ในชิ้นส่วนและตำแหน่งที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมของการใช้งาน Audi Q8 ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานทั้งนอกเมืองและในเมือง หนึ่งในเป้าหมายคือ ความนุ่มนวลภายในห้องโดยสารจะต้องได้รับการพัฒนาเพื่อให้ถูกใจผู้โดยสาร ซึ่ง Q8 ใช้ช่วงล่างระบบถุงลมแบบสปอร์ต สามารถปรับระดับความสูงของตัวถังได้สูงสุดถึง 90 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับสภาพการขับขี่ในแต่ละสถานการณ์ ทำให้ทุกการเดินทางเต็มเปี่ยมไปด้วยความนุ่มนวลที่แฝงไว้ด้วยอารมณ์สปอร์ต

ภายในห้องโดยสาร Audi Q8  ถูกออกแบบให้มีความสะดวกสบาย แต่มีความสปอร์ต ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และการเดินทางท่องเที่ยว  สัมผัสแรกเมื่อเปิดประตู Audi Q8 ทุกท่านจะรับรู้ถึงกลิ่นอายความเป็นสปอร์ต เอสยูวี กับเบาะนั่งคู่หน้าแบบ S Sports หุ้มหนัง Valcona คุณภาพสูง ตัดเย็บและตกแต่งแบบไดมอนด์ คัท พร้อมสัญลักษณ์ S line หนึ่งเดียวในเซ็กเมนต์ที่เหนือกว่า

ภายในของ Audi Q8 เป็นการออกแบบตามแบบแนวคิดใหม่ (design language) จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ภายในห้องควบคุมของนักบิน การออกแบบคอนโซลกลางแบบหรูหรา ทันสมัย โดยลดปุ่มสวิทช์ควบคุมให้น้อยที่สุด แทนที่ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 2 จอ  นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 4 โซน พร้อมม่านบังแดดด้านข้างประตูสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า Audi Q8 ยังเพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทางด้วยเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ ประกอบด้วยลำโพงคุณภาพสูง 17 ตำแหน่ง ให้กำลังขับรวม 730 วัตต์ สร้างความประทับใจในทุกมิติเสมือนนั่งอยู่ในคอนเสิร์ต ฮอลล์

ถึงแม้ว่า Q8 จะมีแนวเส้นหลังคาที่ลาดลงตามแบบฉบับของรถยนต์แบบคูเป้ แต่ยังคงมีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ โดยมีพื้นที่มากถึง 605 ลิตร พร้อมแผ่นปิดสัมภาระแบบไฟฟ้าหนึ่งเดียวในตลาดเดียวกัน และยังสามารถขยายพื้นที่ได้เพิ่มเติมอีกเมื่อพับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง ซึ่งจะทำให้พื้นที่ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 1,755 ลิตร รองรับสำหรับทุกกิจกรรมที่ท้าทาย

Audi Q8  ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดสมรรถนะสูง ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน V6  ขนาด 3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ผสานเทคโนโลยี ไมล์ด ไฮบริด ซึ่งเปลี่ยนมาใช้ระบบกระแสไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์  เทคโนโลยีไมล์ด ไฮบริด ยังทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนในลักษณะลอยตัว (coasting phase) ได้ยาวนานมากขึ้น และยังช่วยเสริมการทำงานของระบบ start-stop ให้มีความราบรื่นยิ่งขึ้นจนผู้ขับขี่แทบไม่รู้สึกถึงการติด-ดับของเครื่องยนต์  และแน่นอนยังเพิ่มความมั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมาเป็นระยะเวลากว่า 38 ปี โดยระบบขับเคลื่อนของ Audi Q8  จะกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและหลังในรูปแบบ 40:60 แต่สามารถปรับการกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้า-หลังได้อย่างอิสระสอดคล้องกับสภาพการขับขี่ในช่วงเวลานั้นๆ ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการควบคุมรถยนต์ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเส้นทางโค้ง หรือการขับขี่บนถนนที่เปียกลื่น เสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตามปรัชญาที่ตั้งไว้ว่า “พละกำลังจะไร้ค่าโดยสิ้นเชิงหากขาดการควบคุม”

สำหรับ Audi Q8 55 TFSI quattro S line จัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้ตลาด ด้วยการเปิดตัวครั้งนี้เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ซึ่งรุ่นนี้นำเข้ามาจำหน่ายในราคา 6,799,000 บาท

 

 

 

 

Related posts

Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed