ภารกิจสำรวจเส้นทางจากขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ครั้งแรกของโลก 7 การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ด้วยการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมกว่า 27,000 กิโลเมตรผ่านหลายภูมิภาค นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นประกาศความร่วมมือกับ คริส แรมซีย์ นักผจญภัยชาวอังกฤษ ในภารกิจผจญภัยขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% จากขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้เป็นครั้งแรกของโลกการเดินทางที่กล้าหาญในครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม 2023 แรมซีย์ และทีมจะออกเดินทางด้วย นิสสัน อริยะ (ARIYA) e-4ORCE เป็นระยะทางกว่า 27,000 กิโลเมตรผ่านหลายภูมิภาคและทวีปต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าจะมีช่วงอุณหภูมิที่แตกต่างกันตั้งแต่-30 ถึง 30 องศาเซลเซียส แรมซีย์จะเป็นมนุษย์คนแรกที่ขับขี่รถยนต์จากขั้วโลกหนึ่งไปอีกขั้วโลกหนึ่ง เขาจะเดินทางจากอาร์กติกผ่านทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ก่อนที่จะข้ามไปยังทวีปแอนตาร์กติกา เส้นทางดังกล่าวมีความเป็นที่สุดในทุกๆด้าน ทั้งความทรหด ความรุนแรง ความยากลำบาก และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เริ่มจากภูมิประเทศที่มีน้ำแข็งปกคลุมไปจนถึงการข้ามผ่านเขาสูงชัน หรือลุยไปในเนินทรายอันกว้างใหญ่ภารกิจขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ หรือ Pole to Pole ที่ขับเคลื่อนโดยนิสสัน อริยะจะพาแฟน ๆ เดินทางผ่านเส้นทางที่น่าทึ่งและยังไม่ได้รับการบันทึกลงในแผนที่ฉบับไหน มร.อาซาโกะ โฮชิโน่ รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายการตลาดและการขายระดับโลกของนิสสันกล่าวว่า“นิสสันภูมิใจที่ประกาศความร่วมมือกับคริส แรมซีย์ และทีมสำรวจขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ (Pole to Pole) นิสสันอริยะ รถยนต์เอสยูวีครอสโอเวอร์ไฟฟ้า 100% ช่วยให้คุณไปได้ไกลขึ้น ง่ายขึ้นอย่างสะดวกสบาย และด้วยเทคโนโลยีการควบคุมการขับขี่ e-4ORCE ที่เพิ่มความเสถียรและการยึดเกาะบนพื้นผิวที่หลากหลาย เรารู้ดีว่ามันจะเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับคริสและทีมของเขาในการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% อันสุดท้าทายของพวกเขา” การผจญภัยสุดท้าทายที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนนี้ช่วยส่งเสริมวิสัยทัศน์ระยะยาว Nissan Ambition 2030 เพื่อพัฒนาศักยภาพการขับเคลื่อนด้วยการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นหลักโดยวิสัยทัศน์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งมอบรถยนต์และเทคโนโลยีที่ยกระดับการเดินทางและชีวิตผู้คนในสังคมนิสสัน อริยะ e-4ORCE ของแรมซีย์จะถูกปรับแต่งเสริมความแข็งแกร่งบึกบึนเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บในแถบอาร์กติกและแอนตาร์กติก รวมถึงล้อ ยาง และระบบกันสะเทือนที่ได้รับการอัพเกรดให้เหมาะกับการยึดเกาะบนพื้นผิวที่หลากหลาย ในขณะเดียวกันก็จะมีนิสสัน อริยะ e-4ORCE อีกหนึ่งคันแบบไม่ปรับแต่งร่วมเดินทางไปสนับสนุนทั่วทวีปอเมริกา e-4ORCE คือเทคโนโลยีการควบคุมล้อทั้งสี่ขั้นสูงจากนิสสันที่จัดการการส่งกำลังไปที่ล้อรวมถึงให้การเบรกได้อย่างแม่นยำเพื่อการขับขี่ที่ราบรื่นและมั่นคง ระบบนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่โดยการช่วยให้ขับไปตามทิศทางที่ต้องการบนพื้นผิวถนนเกือบทุกรูปแบบ รวมทั้งถนนที่เปียกและเต็มไปด้วยหิมะ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการหรือรูปแบบการขับขี่
Month: June 2022
มินิ เปิดตัว 2 รุ่นใหม่
รถยนต์ มินิ ผสานรูปลักษณ์สุดสปอร์ตกับความคลาสสิคสไตล์มินิ พร้อมแจ้งปรับราคาสำหรับรถยนต์บางรุ่นตั้งแต่มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป เดินหน้ารุกตลาดเซกเมนต์พรีเมียมคอมแพ็ค เปิดตัวมินิ 2 รุ่นล่าสุด มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Untold Edition และ มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวิร์ตทิเบิลResolute Edition ด้วย 2 รุ่นใหม่ โดดเด่นด้วยการออกแบบภายในห้องโดยสารที่สวยงาม รูปลักษณ์ภายนอกสุดหรูที่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิค และเครื่องยนต์ทรงพลัง ทั้ง 2 รุ่นยังพร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ที่จะยกระดับการขับขี่สนุกสไตล์มินิ รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถปรับแต่งได้ตามสไตล์เฉพาะตัวของผู้ขับขี่ พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้ ณ ผู้จำหน่ายมินิอย่างเป็นทางการ มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Untold Edition ราคาจำหน่าย : 3,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard) มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Untold Edition เป็นรถยนต์พรีเมียมคอมแพ็คที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยแนวหลังคาที่ทอดยาวสะท้อนถึงความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ภายนอกโดดเด่นและสะกดทุกสายตาบนท้องถนนกับชุดแต่งแอโรไดนามิกส์ในสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ สะท้อนภาพลักษณ์สุดโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียว ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร มอบพละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ใน 7.2 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 228 กม./ชม. ภายนอกมาในสีเขียว Sage Green metallic พร้อมดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ตกแต่งด้วยลวดลาย Untold Edition ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้ารถจรดหลังคา ซุ้มล้อและสเกิร์ตด้านล่างรอบคันมาในสีเขียวเข้มเสริมความโดดเด่นล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วลาย Untold Spoke ในสีดำ Jet Black ตัดกับสี Refined Brass โดยสี Refined Brass นี้ยังเสริมเอกลักษณ์โดดเด่นรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณกระจังหน้าและตัวอักษร “Clubman” ที่ประตูท้าย ซึ่งการออกแบบรูปลักษณ์ของรถรุ่นนี้นั้นนอกจากจะสะท้อนถึงความสะดวกสบายในห้องโดยสารแล้ว ยังมาพร้อมกับประตูด้านท้ายรถที่สามารถเปิดปิดแยกซ้าย-ขวาได้ อุปกรณ์ภายในห้องโดยสารยังได้รับการตกแต่งพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย Untold Edition ที่บริเวณด้านล่างของก้านพวงมาลัยและพรมปูพื้นรถ ในขณะที่แถบไฟบริเวณแผงประตูและเบาะนั่งทรงสปอร์ต MINI Yours Leather Lounge ก็มาในสี Sage Green สุดเอ็กซ์คลูซีฟตัดกับเส้นด้ายสีฟ้าอ่อน และเพิ่มความสง่างามด้วยกรอบช่องแอร์สี Refined Brass ทำให้มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Untold Edition โดดเด่นไม่เหมือนใคร นอกเหนือจากการออกแบบสุดพิเศษแล้ว มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Untold Edition ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า Adaptive LED ระบบปรับโหมดการขับขี่ ระบบเครื่องเสียง Harman Kardon, MINI Head-Up-Display, ระบบ Wireless charging พร้อมกับแพ็คเกจ Connected Navigation Plus แสดงผลผ่านจอคอนโซลกลาง ระบบสัมผัสแบบดิจิทัล 8.8 นิ้ว มีฟังก์ชั่นบริการ MINI Connected บริการ Remote Services สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อใช้ Apple CarPlay ระบบนำทางและแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวิร์ตทิเบิล Resolute Edition ราคาจำหน่าย : 3,090,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มพร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard) รถยนต์เปิดประทุน 4 ที่นั่ง จากมินิถือเป็นรถเปิดประทุนระดับพรีเมียมที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครในเซกเมนต์รถยนต์ขนาดเล็ก โดยมินิ คูเปอร์ เอส คอนเวิร์ตทิเบิล Resolute Edition สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดดเด่นเหนือใครทั้งตัวถังภายนอก ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา การออกแบบภายในและชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดคาแร็คเตอร์ความเป็นมินิแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมให้อารมณ์ขับสนุกในสไตล์เปิดประทุนที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของมินิ สมรรถนะทรงพลังที่พร้อมเผชิญทุกเส้นทางท่ามกลางสายลมและแสงแดด ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า เสริมด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ที่ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.1 วินาที ให้อารมณ์ขับสนุกเหมือนโลดแล่นอยู่ในสนามแข่ง ภายนอกของมินิ คูเปอร์ เอส คอนเวิร์ตทิเบิล Resolute Edition ตกแต่งด้วยลวดลายบนฝากระโปรงหน้าและที่กาบบันได ซึ่งมาในเส้นสายที่มีการไล่เฉดสีทองอ่อนไปจนถึงทองเข้มได้อย่างสวยงาม พร้อมสลักชื่อรุ่น“RESOLUTE” ไว้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เข้ากันได้ดีกับตัวถังภายนอกสีเขียว Rebel Green ที่ตัดกันกับสีดำและสีทอง ส่วนประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรอบไฟหน้า กระจังหน้า ช่องดักอากาศ กรอบไฟเลี้ยว มือจับประตู ฝาถังน้ำมัน มาในสี Resolute Bronze ที่ตัดกับฝาครอบกระจกมองข้างและหลังคาผ้าสีดำได้เป็นอย่างดี โดยในรุ่นResolute Edition ได้เสริมความสปอร์ตดุดันด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลาย Pulse Spoke สีดำ การออกแบบด้วยลายเส้นสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะรุ่น Resolute Edition นี้ ยังถ่ายทอดมาสู่ภายในห้องโดยสาร รับกับเบาะนั่งโดยสารทรงสปอร์ต MINI Yours Leather Lounge ในสีดำ Carbon Black ผสมผสานกับไฟ Ambient…
“ก้อง สตาร์ตแถว 6 ลุ้นท็อปเท็น
ในรายการ โมโตทู สนาม 11 “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” คว้ากริดสตาร์ตที่ 16 ในศึกโมโตทูชิงแชมป์โลกสนาม 11 รายการ ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ ลุ้นท็อปเท็นในสุดสัปดาห์นี้ที่ ทีที เซอร์กิต แอสเซ่น ขณะ ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่นจาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 12 ในรุ่นโมโตจีพี ก่อนลุ้นหนักวันอาทิตย์นี้ ผลควอลิฟายในรุ่น โมโตทู ปรากฏว่ายอดนักบิดไทยอย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จากสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ควบรถแข่งคู่ใจหมายเลข 35 คว้ากริดสตาร์ตอันดับ 16 ไปครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 37.444 วินาที ตามหลัง เจค ดิ๊กสัน นักบิดอังกฤษเจ้าของโพลจาก อัสพาร์ ทีม เพียง 0.708วินาที โดยนับเป็นอีกหนึ่งในสนามที่นักบิดไทย ลุ้นขยับขึ้นไปติดท็อปเท็น ส่วนผลควอลิฟายในรุ่น โมโตจีพี ปรากฏว่า ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่นหมายเลข 30 จาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า คว้ากริดที่ 12 ไปครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 32.967 วินาที ช้ากว่าเจ้าของโพล 1.463วินาที ขณะที่ สเตฟาน แบรเดิล…
ลองขับ PAJERO SPORT อารมณ์ RALLIART
ด้วยความที่ มิตซูบิชิ ต้องการปลุกตำนาน จิตวิญญาณแห่งชัยชนะกลับมาอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปหลายปีเลยทีเดียว กับชุดแต่ง แรลลี่อาร์ต ที่มาควบคู่กับรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นต่างๆ หากแต่จะให้สมกับตำนาน แรลลี่อาร์ต ชุดแต่งนี้คงต้องควบคู่กับ มิตซูบิชิ รุ่น ปาเจโร สปอร์ต ด้วย DNA ของเจ้า MITSUBISHI PAJERO SPORT RALLIART กับการออกแบบตกแต่งที่ไม่เหมือนใคร แรงบันดาลใจมาจากรถแข่งแรลลี่ระดับโลก สมรรถนะอันทรงพลังจากเครื่องยนต์แสนอึด ดีเซลเทอร์โบ MIVEC 181 แรงม้า ผสานกับการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ตอนที่ลองขับนึกว่าขับ SUV มากกว่า PPV เสียด้วยซ้ำ ด้วยจิตวิญญาณ ที่ผสานกับสุดยอดเทคโนโลยีการขับขี่จากสนามแข่งทำให้พาทะยานออกไปในทุกๆ เส้นทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกตัว และความเร็วปลายของ MITSUBISHI PAJERO SPORT RALLIART ไม่มีสะดุด นุ่มนวล และเร้าใจ แถมเกียร์ยังมีให้เลือกที่คันเกียร์แบบเกียร์อัตโนมัติและกึ่งแมนวล หากจะเลือกใช้ PADDLE SHIFT ที่พวงมาลัยเพื่อปรับเปลี่ยนเกียร์ก็ได้เช่นเดียวกัน ส่วนเรื่องการยึดเกาะถนน ต้องบอกว่ายอดเยี่ยม แถมช่วงล่างไม่นิ่มเกินไปและแข็งจนกระด้าง การกระจายแรงบิดอย่างเหมาะสมทำให้ขับง่าย ผ่อนคลายเวลาเดินทางไกล ด้านชุดแต่ง แรลลี่อาร์ต มีทั้ง FRONT & REAR UNDER GARNISH RALLIART ชุดตกแต่งใต้กันชนหน้า และหลัง RALLIART รวมไปถึง BI-LED PROJECTOR HEADLAMPS WITH BLACK EXTENSION AND AUTO LEVELING SYSTEM ไฟหน้าโปรเจคเตอร์รมดำแบบ Bi-LED พร้อมระบบปรับลําแสงไฟอัตโนมัติ กับ BLACK TAILGATE…
New Wave110i จาก ฮอนด้า
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดตัว New Wave110i รุ่นใหม่ล่าสุด ตอบสนองการใช้งานของคนไทย ด้วยประสิทธิภาพขั้นสุด และสมรรถนะจากเครื่องยนต์ Honda Smart Engine ที่ให้ทั้งความประหยัด เเรง ทน ตามแบบฉบับของเวฟไม่เปลี่ยนเเปลง มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า “ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปัจจุบันมีแนวโน้มที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มรถครอบครัวที่ได้รับความนิยมจากคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมี Honda Wave110i เป็นผู้นำของตลาดในกลุ่มนี้ด้วยยอดจำหน่ายสูงสุด 13 ปีติดต่อกัน สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจที่คนไทยมีต่อรถรุ่นนี้อย่างชัดเจน สิ่งนี้ทำให้เราพัฒนา Honda Wave อย่างไม่ลดละตลอดหลายปีที่ผ่านมา และในปีนี้เราพร้อมแล้วสำหรับการเปิดตัว New Wave110i ไทป์ใหม่ที่มาพร้อม ENRICH METER รวมถึงเทคโนโลยีอันทันสมัย ใช้งานสะดวกสบาย พัฒนาเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สมกับเป็นรถจักรยานยนต์อันดับ 1 ของคนไทย” New Wave110i ใหม่ มาพร้อมคอนเซปต์ถึงไหนถึงกันกับคนไทย ด้วย ENRICH METER หน้าปัดเรือนไมล์ ANALOG ออกแบบแยกสัดส่วนอย่างลงตัว แสดงผลชัดเจนทุกรายละเอียด พร้อมฟังก์ชันสำหรับการใช้งานที่ทันสมัย และเต็มสมรรถนะการขับขี่จากเครื่องยนต์ Honda Smart Engine เทคโนโลยีที่ดีที่สุดของรถครอบครัว ให้ทั้งความประหยัด ความแรง และความทนทาน สำหรับการใช้งานของคนไทยยุคใหม่ นอกจากสมรรถนะที่เหนือระดับแล้ว New Wave110i ยังมาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุมไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า LED Headlight ส่องสว่างคมชัดทุกเส้นทาง ไฟท้าย Tail light โฉบเฉี่ยว เห็นชัดแม้ระยะไกล ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่ จุมากถึง 5 ลิตร ใส่ของได้เยอะด้วย U-Box ขนาดใหญ่พร้อม โช้กหน้า-หลังซับแรงกระแทกได้ดี แม้บรรทุกของมาก…