กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ขานรับ

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมรุกจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจวาระเปิดประเทศ ประเดิมงานแรก “ดีพร้อม มอเตอร์ โชว์” จังหวัดลำปาง ฟื้นกิจกรรมท่องเที่ยว – งานแฟร์ในระดับภูมิภาค พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม ขานรับมาตรการกระทรวงอุตสาหกรรมในการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ รุกจัดกิจกรรม DIPROM MOTOR SHOW ณ จังหวัดลำปาง ระหว่างวันที่ 9 – 15 กุมภาพันธ์ 2565   เพื่อสร้างมูลค่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งผลักดันให้มีการจัดนิทรรศการและงานแฟร์ได้อย่างต่อเนื่องกระตุ้นการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ  พร้อมดึงผู้ประกอบการในโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือ คพอ. ในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 40  รายเข้าร่วมงาน ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบ ซึ่งคาดว่าตลอดการจัดงานในครั้งนี้ จะมีเงินสะพัดภายในงานกว่า 115  ล้านบาท คุณณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า “อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องด้วยไทยยังคงเป็นฐานสำคัญในการผลิตทั้งชิ้นส่วนยานยนต์ การประกอบรถยนต์ รวมถึงการผลิตรถยนต์เชิงพาณิชย์ ซึ่งสถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี2564   ที่ผ่านมานั้นพบว่าเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีการผลิตรถยนต์ 1.6 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 แบ่งเป็นขายในประเทศ 0.75 ล้านคัน และส่งออกต่างประเทศ 0.85 ล้านคัน ส่วนในปี2565 ได้ประมาณการว่าจะมีการผลิตรถยนต์ 1.7-1.8 ล้านคัน ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญทั้งการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากขึ้น มาตรการส่งเสริมการลงทุนและสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ รวมถึงการส่งออกที่ขยายตัวตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว  ดังนั้น ดีพร้อม จึงได้จับมือกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รวมถึงภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน ร่วมจัดงาน“DIPROM MOTOR SHOW” ซึ่งจะจัดขึ้นที่อาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำปาง ระหว่างวันที่ วันที่ 9-15  กุมภาพันธ์ 2565   และเป็นครั้งแรกที่ ดีพร้อม ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อกระตุ้นตลาดยานยนต์โดยเฉพาะในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ และเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์  โดยมีค่ายรถยนต์และจักรยานยนต์ชั้นนำเข้าร่วมมากกว่า 15 แบรนด์  ซึ่งคาดว่าจากการจัดกิจกรรมนี้จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบภาคการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้กว่า 100  ล้านบาท”  

 
Read More

MG EP รถยนต์ไฟฟ้า100% ต้องการแหล่งพลังงาน

บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ (กลางขวา) ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า MG EP จำนวน 14 คัน ให้กับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) โดยมี นายพีรเวท ณ ระนอง ผู้จัดการส่วนพัฒนาตลาดรัฐและพาณิชย์ (กลางซ้าย) เป็นผู้รับมอบ ณ  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สาขาพระโขนง   บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100% สู่องค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน ล่าสุดส่งมอบถึงมือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) จำนวน 14 คัน เพื่อการใช้ในกิจกรรมภายในองค์กรพร้อมร่วมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ของไทย เดินหน้ายกระดับประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า “MG EP เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100% ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั้งจากกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าองค์กร ทั้งนี้การส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงอย่างรุ่น MG EP ให้กับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคุณภาพที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานได้จริงในทุกรูปแบบ พร้อมอรรถประโยชน์ที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครัน ซึ่งเอ็มจี รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทพลังงานชั้นนำในกลุ่มปตท. ที่พร้อมร่วมกันสร้างสังคมยานยนต์ไฟฟ้าให้เติบโตขึ้นและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมไทยเกิดการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวอีกทั้งยังเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของภาครัฐที่ได้มีการวางเป้าหมายหลักในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero greenhouse gas emission) ภายในหรือก่อนปี พ.ศ. 2608 MG EP ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “EVeryone” ด้วยองค์ประกอบพื้นฐานของการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างแท้จริง ทั้งขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางรองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของ สมรรถนะของ EV ที่ตอบสนองได้อย่างทันใจไม่ต้องรอรอบ ระบบความปลอดภัย ที่ให้มาอย่างครบครัน เสริมความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ ด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และค่าบำรุงรักษาที่ต่ำช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว จึงเหมาะกับการใช้งานสำหรับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับทั้งสมรรถนะของตัวรถและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป” ทั้งนี้ นอกเหนือจากตัวรถที่เอ็มจีออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานได้จริงในทุกรูปแบบ พร้อมอรรถประโยชน์ที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครันแล้ว เอ็มจียังได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นใจในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในทุกๆ มิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าภายใต้ชื่อ MG Super Charge ที่ให้บริการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charge) ซึ่งปัจจุบันติดตั้งไปแล้วกว่า 120 แห่ง ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าให้มีสถานีชาร์จในทุกๆ 150 กิโลเมตรเพื่อให้คนไทยมั่นใจในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นในอนาคต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่ Website: www.mgcars.com   

 
Read More

ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่

ฮอนด้า เปิดตัวโครงการ “ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่” มอบแพคเกจเรียนขับขี่ปลอดภัย พร้อมทดสอบเพื่อรับใบขับขี่ฟรี!          รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ผู้นำวงการขับขี่ปลอดภัยของเมืองไทย เปิดตัวโครงการ “ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่” มอบแพคเกจเรียนขับขี่ปลอดภัย พร้อมเข้ารับการทดสอบเพื่อรับใบขับขี่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าใน 10 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค             มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า “กว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ให้ความสำคัญกับเรื่องขับขี่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ด้านการขับขี่อย่างปลอดภัยสู่สังคมไทย แนวทางของไทยฮอนด้า สอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกันกับทางฮอนด้ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ประกาศวิสัยทัศน์ถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เอาไว้อย่างชัดเจนเมื่อไม่นานมานี้ นั่นคือการลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจากยานยนต์ฮอนด้าลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 และลดลงให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 สำหรับในเมืองไทย ผลโครงการวิจัยเพื่อเมืองไทยไร้อุบัติเหตุ โดยศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทยหรือ TARC ได้เปิดเผยให้เห็นว่าผู้ใช้รถจักรยานยนต์ชาวไทยมากกว่า 90% ยังขาดทักษะขับขี่ที่ถูกต้อง และยังมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์อีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีใบขับขี่ ไทยฮอนด้าได้ตระหนักถึงปัญหาและต้องการเข้ามาร่วมแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เป็นที่มาของการเปิดตัวโครงการพิเศษ ‘ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่’ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะมอบทักษะขับขี่ปลอดภัยให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า และลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ”             ฮอนด้าพร้อมเดินหน้าโครงการ “ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่” ให้กับผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นใน 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, นนทบุรี, ปทุมธานี, ภูเก็ต, พังงา, เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยมอบแพคเกจเรียนขับขี่ปลอดภัย พร้อมเข้ารับการทดสอบเพื่อรับใบขับขี่ โดยใช้เวลาเรียนทั้งสิ้น 15 ชั่วโมง             ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ สามารถเข้าเรียนได้ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย Honda Safety Riding Park ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ, ภูเก็ต และเชียงใหม่…

 
Read More

New CBR250RR SP Tri-Color

การดีไซน์ใหม่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากรถแข่งระดับโลก New CBR250RR SP Tri-Color ซึ่งรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถสปอร์ตอีกครั้ง  ด้วยการเปิดตัว New CBR250RR SP รถสปอร์ตตระกูล Racing Replica ที่มาพร้อมลวดลายใหม่แบบไตรคัลเลอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Honda Racing ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากรถแข่งระดับโลกสู่ท้องถนน อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อประสบการณ์ในการขับขี่แบบเรซซิ่งสปอร์ตขนานแท้ New CBR250RR SP มาพร้อมคอนเซปต์ The Rush to The Race ถ่ายทอด DNA จาก CBR Fireblade ซูเปอร์ไบค์ระดับเรือธงของฮอนด้า โฉบเฉี่ยวด้วยสไตล์ลิ่งแบบ Tri-Color ที่ตัดกับตัวรถสีแดงอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยกราฟิก RR ที่สะท้อนความเป็นเรซซิ่งสปอร์ตตัวจริง New CBR250RR SP มอบความแรงเต็มพิกัดด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่ง แรงกว่าด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง แบบ Parallel Twin DOHC 4 วาล์ว พิกัด 250 ซีซี หัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบเกียร์แบบสปอร์ต 6 สปีด อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การขับขี่แบบเรซซิ่งสปอร์ตเต็มขั้น ประกอบด้วย -ระบบคันเร่งไฟฟ้า Throttle by Wire มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ Sport+, Sport และ Comfort ให้ความเร้าใจในทุกรูปแบบการขับขี่ – ระบบ Assist Slipper Clutch ลดอาการท้ายสะบัดและป้องกันล้อล็อกขณะเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ -เสริมสมรรถนะการควบคุมด้วย Quick Shifter ให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องบีบคลัตช์ -เรือนไมล์ดีไซน์สปอร์ต LCD Digital Meter แสดงข้อมูลครบถ้วน พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์นักแข่ง ด้วย Lap Timer โหมดจับเวลาต่อรอบในสนามแข่งขัน -โช้กอัพหน้าแบบหัวกลับ เพิ่มความยาวขึ้นอีก 5 มิลลิเมตร รองรับแรงกดจากการเบรกที่รุนแรงได้ดียิ่งขึ้น -โช้กอัพหลังแบบ Pro-Link สามารถปรับได้ 5 ระดับ ให้การขับขี่นุ่มนวลพร้อมการยึดเกาะอย่างดีเยี่ยมในทุกสภาพถนนและสนามแข่งขัน -โครงสร้างตัวรถแบบ Truss Frame หรือเฟรมถัก ออกแบบด้วยเทคโนโลยี CAE-Computer Aided Engineering ทำงานร่วมกับ…

 
Read More

TOYOTA PRETTY เปิดรับสมัครแล้ว

พบกับมิติใหม่ TOYOTA PRETTY 2022 ร่วมคัดเลือกเป็นทีมงานโตโยต้าพริตตี้พร้อมรับรายได้ และสิทธิประโยชน์มากมาย รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท คุณสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดประกาศรับสมัครผู้มีบุคลิกภาพดี มากความสามารถ ร่วมคัดเลือกเป็นทีมงาน “โตโยต้า พริตตี้” พร้อมบทบาทการนำเสนอสินค้า และโอกาสใหม่ที่จะก้าวมาเป็น “Online influencer” ในแบบคุณบนทุกPlatform ที่จะสะท้อนความสมาร์ทในตัวคุณอย่างแท้จริง พร้อมรายได้ และสิทธิประโยชน์มากมาย รวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท เปิดรับสมัครแล้ววันนี้! ถึงวันที่ 16 มกราคม 2565 คุณสมบัติผู้สมัคร : 1.เพศหญิง อายุ 18 -25 ปี (อายุต้องไม่ถึง 26 ปี ในวันตัดสิน วันที่ 8 ก.พ. 2565) 2.ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 165 เซนติเมตร 3.สถานภาพโสด 4.บุคลิกภาพดี มีความมั่นใจในตัวเอง และมนุษย์สัมพันธ์ดี 5.กำลังศึกษา หรือจบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป 6.มีความสามารถในการนำเสนองานได้ดี (Presentation Skill) 7.สามารถเดินทางไปปฏิบัติงานต่างจังหวัดได้ 8.สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ หากมีความสามารถพิเศษอื่นๆ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ วิธีการสมัคร : ผู้สนใจเข้าร่วมการคัดเลือกสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์   www.toyotapretty2022.com โดยต้องดำเนินการตามรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1.แนบรูปถ่ายสี เต็มตัว, ครึ่งตัวหน้าตรง และ ครึ่งตัวด้านข้าง อย่างละ 1 รูป (ห้ามใช้รูปที่มีการปรับแต่ง หรือ Retouch และรูปต้องเป็นไฟล์นามสกุล JPG ขนาดไม่ต่ำกว่า 500 KB และต้องเป็นรูปที่ถ่ายมาไม่เกิน 2 เดือน) 2.ทำคลิป Video แนะนำตัวเอง พร้อมแนะนำสินค้า 1 ผลิตภัณฑ์ (***หากเป็นสินค้ารถยนต์ ให้เป็นโตโยต้าเท่านั้น) ความยาวคลิปไม่เกิน 45 วินาที จำนวน 1 คลิป เพื่อแสดงถึงทักษะในการสื่อสาร และการนำเสนอสินค้า ตาม Concept  “Be Smart Be You”  3.กรอกข้อมูลการสมัครในเว็บไซต์ให้ถูกต้อง และครบถ้วน รับสิทธิพิเศษ…เหนือใคร : -รายได้กว่า 600,000 บาท ตลอดระยะเวลาการทำงาน 13 เดือน -รับค่าถ่ายทำคลิปโปรโมทรถยนต์ และอุปกรณ์สำหรับการถ่ายทำครบชุด -ใช้รถยนต์โตโยต้าสำหรับเดินทางไปทำงานฟรี! ตลอดอายุสัญญาจ้าง -เข้าร่วมการอบรมพัฒนาบุคลิกภาพ และอบรมพิเศษหลักสูตรพัฒนาการเป็น Youtuber -ชุดแต่งกายโตโยต้าพริตตี้ โดดเด่น เสริมภาพลักษณ์ -ประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพตลอดอายุสัญญาจ้าง รอบการพิจารณาตัดสิน : รอบคัดเลือก ( “รอบที่ 1” ) วันที่  17-19 มกราคม 2565 ประกาศผลผู้เข้ารอบที่ 1 จำนวน 200 คน ในวันที่ 20 มกราคม 2565  ผ่านเว็บไซต์  www.toyotapretty2022.com รอบที่ 2  วันที่  24-25 มกราคม 2565 ประกาศผลผู้เข้ารอบที่ 2 จำนวน 100 คน  ในวันที่ 26 มกราคม 2565  ผ่านเว็บไซต์  www.toyotapretty2022.com รอบแสดงความสามารถพิเศษ  วันที่ 28 มกราคม  2565  ประกาศผลผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 2 จำนวน 100 คน จะต้องเข้าร่วมกิจกรรมที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สำนักงานการตลาด (บางนา)  เพื่อรับการคัดเลือกให้เหลือ 20 คน รอบตัดสิน วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ทำการคัดเลือกและประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น TOYOTA PRETTY 2022 จำนวน 8 คน สมัครเข้าร่วมการคัดเลือกได้ที่ : เว็บไซต์ www.toyotapretty2022.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : บริษัท ซีทีจี 2002 จำกัด (สำนักงานใหญ่)  หมู่บ้าน บี สแควร์ พระราม9 เหม่งจ๋าย  600/7-8 ซอยรามคำแหง 39 (เทพลีลา1)  แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310    หมายเลขโทรศัพท์ : 082-689-8097 Line Official Account…

 
Read More

ส้ม ปลา น้อย

ยามาฮ่า “ฟินน์” ส่งความสุขส่งท้ายปีสนับสนุนหนังรักสุดฮา “ส้ม ปลา น้อย” นำแสดงโดย โตโน่ และหม่ำ จ๊กม๊ก เรื่องราวหนังไทยในยุคระวังโรคภัยไข้เจ็บ คุณพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร นายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ คุณปัญชลีย์ นิธิจิระโรจน์Managing Director&Executive Producer บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ไนน์ จำกัด ทีมนักแสดงนำ “โตโน่” ภาคิน คำวิลัยศักดิ์พรีเซ็นเตอร์รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ อิษยา ฮอสุวรรณ อภิวัฒน์ บุญเอนก และหม่ำ จ๊กม๊ก ที่รับหน้าที่เขียนบท และกำกับการแสดง ในงานเปิดตัวภาพยนตร์ “ส้ม ปลา น้อย” รอบกาล่า พร้อมรับชมมินิคอนเสิร์ตจากทีมนักแสดงนำ สำหรับภาพยนตร์ “ส้ม ปลา น้อย” ยังมีนักแสดงอารมณ์ดีอีกคับคั่ง ทั้ง ฝน ธนสุนทร, พรศักดิ์ ส่องแสง, สุนารีราชสีมา, ไข่มุก รุ่งรัตน์ ฯลฯ รับชมพร้อมกันทั่วประเทศได้ในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 โดยผู้ซื้อบัตรชมภาพยนตร์เรื่อง “ส้มปลา น้อย” ทุก 1 ที่นั่งรับคูปองชิงโชค 1 ใบ ชิงโชครถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ จำนวน 5 คัน เพียงเขียนชื่อ-ที่อยู่ เบอร์โทรติดกับตั๋วหนัง และหย่อนกล่องชิงโชค ทุกสาขาในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565 ประกาศรางวัลผู้โชคดีผ่านทาง Facebook : Major Group  

 
Read More

THAI FIGHT 2020 รับรางวัลรถปิกอัพ

อีซูซุ จัดรางวัล “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” และเงินสดรวมมูลค่า 1,400,000 บาท สำหรับนักชกผู้ชนะผ่านเวที THAI FIGHT 2020          มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมแสดงความยินดีกับ 4 สุดยอดนักชกไทยที่สามารถคว้าแชมป์ “THAI FIGHT 2020” ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยทั้งประเทศ พร้อมรับรางวัลรถปิกอัพ “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” จำนวน 3 คัน และรางวัลเงินสดรวมมูลค่า 1,400,000 บาทไปครอง          ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงปี พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา จึงทำให้การแข่งขัน THAI FIGHT 2020 ต้องถูกเลื่อนการจัดการแข่งขันเพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา รวมทั้งผู้ชมและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลง การแข่งขันมวยไทยระดับโลก “THAI FIGHT 2020” รอบชิงชนะเลิศ จึงได้จัดขึ้นภายใต้การประกาศผ่อนปรนมาตรการ      โควิด-19 อย่างเคร่งครัด ณ สนามวัดเขาอ้อ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เพื่อร่วมสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและสร้างรายได้ให้ชุมชนในพื้นที่ โดยมีคุณพิพัฒน์รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดกรวยถวายราชสักการะ และคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน THAI FIGHT กล่าวถวายรายงาน ก่อนเข้าสู่พิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วางหน้าพระบรมฉายาลักษณ์          “THAI FIGHT 2020”      รอบชิงชนะเลิศ เป็นการแข่งขันศึกมวยไทยระดับนานาชาติระหว่างนักชกไทยและนักชกจากนานาประเทศรวม 7 คู่ ร่วมประชันหมัดในแบบสวมนวมและแบบคาดเชือก โดยมี 4 คู่เอกของรายการได้แก่ “ก้องไกลเอ็นนี่มวยไทย” ดีกรีแชมป์มวยอีซูซุคัพคนล่าสุด และแชมป์มวยอีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2020 ซึ่งสาดอาวุธใส่นักชกชาวต่างชาติ สร้างตำนานชนะน็อกยกที่ 1 ทั้งในรอบคัดเลือกรอบแรกและรอบรองชนะเลิศอย่างงดงาม เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศพบกับ“อเลสซานโด้ ซาร่า” นักชกจากประเทศอิตาลี ในการชกแบบสวมนวม พิกัด 67 กก. ซึ่งทันทีที่ระฆังยกแรกดังขึ้นก้องไกลรัวแข้งซ้ายใส่อเลสซานโด้ ก่อนจบยกด้วยการสาดแข้งซ้ายแล้วหมุนตัวกลับฟาดหลังหมัดขวาเข้าหน้าอเลสซานโด้จนร่วงคาเวที ส่งผลให้ก้องไกลชนะน็อกยก 1 ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรับรางวัลรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 1.9 ดีดีไอ L DA” มูลค่า 728,000 บาท และรางวัลเงินสด 800,000 บาทไปครอง          ต่อด้วยคู่ชิงแบบมวยคาดเชือก พิกัด 72.5 กก. ระหว่าง “เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง” และ “โทมัส คาร์เพนเตอร์” นักชกจากประเทศอังกฤษ เพียงยกแรกเต็งหนึ่งส่งหมัดซ้ายเข้ากลางลำตัว ทำเอาโทมัสจุก ไปต่อไม่ไหว เต็งหนึ่งชนะน็อกยก 1 ไปตามคาด ได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรางวัลรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 1.9 ดีดีไอ L DA” มูลค่า 728,000 บาท และรางวัลเงินสด 200,000 บาทไปครอง          ปิดท้ายความสนุกกับ “กิตติ ส.ท.แมนระยอง” พบกับ “ดิอาโก้ เทร์เซร์ร่า” นักชกจากประเทศบราซิล คู่ชิงแบบมวยคาดเชือก พิกัด 70 กก. กิตติพกความสดใหม่สาดอาวุธใส่ดิอาโก้ครบทุกกระบวนท่า ครบสามยก กิตติชนะคะแนน ได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรางวัลรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 1.9 ดีดีไอ” L DA มูลค่า 728,000 บาท และรางวัลเงินสด 200,000 บาทไปครอง          ส่วน “เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” และ “รุ่งนภา พ.เมืองเพชร” พบกันในแบบสวมนวม พิกัด 51 กก. นับเป็นมวยหญิงที่ชิงความเป็นหนึ่งแบบสุดมัน ยก 2 เพชรจีจ้าอาศัยความเก๋าเกมกว่า เสยหมัดซ้ายเข้าหน้ารุ่งนภาจนกรรมการต้องนับ ส่งผลให้เพชรจีจ้าชนะน็อกยก 2 สมฉายาสาวหล่อจอมระห่ำ ได้ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และรับรางวัลเงินสด 200,000 บาทไปครอง          มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “ก้องไกล เอ็นนี่มวยไทย นับเป็นนักชกไทยที่มีลีลาแม่ไม้มวยไทยอันเป็นเอกลักษณ์ มีผลงานอันโดดเด่นตลอดการแข่งขัน THAI FIGHT 2020 ทั้ง 2 รอบที่ผ่านมา และรอบชิงชนะเลิศในวันนี้ก้องไกลทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง คว้าแชมป์ THAI FIGHT 2020 ได้เป็นผลสำเร็จ ได้ครองถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรติในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยรางวัลรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 1.9 ดีดีไอ L DA” มูลค่า 728,000 บาท และรางวัลเงินสด 800,000 บาทอีกด้วย นอกจากนี้อีซูซูต้องขอแสดงความยินดีกับนักชกไทยอีก 3 ท่าน ทั้ง เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง, กิตติ ส.ท.แมนระยอง และเพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม ที่สามารถคว้าแชมป์ THAI FIGHT 2020 ในแต่ละรุ่นได้เป็นผลสำเร็จเช่นกัน ได้ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สร้างความปลาบปลื้มใจให้คนไทยทั้งประเทศ ถึงแม้ว่าตลอดระยะเวลาการแข่งขัน THAI FIGHT 2020 ที่ผ่านมา ต้องจัดการแข่งขันในแบบ New Normal และต้องปฏิบัติตามมาตรการโควิด–19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด แต่ยังคงได้รับการสนับสนุนและกำลังใจจากชาวไทยอย่างล้นหลามดั่งเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา อีซูซุหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์      โควิด–19 ในประเทศไทยจะดีขึ้น การแข่งขัน THAI FIGHT ครั้งต่อไปจะได้กลับมาจัดการแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อร่วมสืบสานศิลปะมวยไทยอันเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทยให้คงอยู่ตลอดไป” ผลการแข่งขัน THAI FIGHT 2020 รอบชิงชนะเลิศ มีดังนี้ คู่ที่ 1 แบบคาดเชือก รุ่น 72 กก. ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง (ไทย) ชนะน็อกยก 2 ฟ้าใส ช้างมวยไทยยิม (ไทย) คู่ที่ 2 แบบคาดเชือก รุ่น 69 กก. ป.ต.ท. ว.รุจิวงศ์ (ไทย) ชนะน็อกยก 1 อัมราเน่ อีสคูเน่น (แอลจีเรีย) คู่ที่ 3 แบบสวมนวม 67 กก. แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (ไทย) ชนะน็อกยก 1 โอมาร์ เอ๊าร์ส (โมร็อกโก) คู่ที่ 4 แบบสวมนวม รุ่น 51 กก. เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม (ไทย) ชนะน็อกยก 2 รุ่งนภา พ.เมืองเพชร (ไทย) คู่ที่ 5 แบบสวมนวม รุ่น 67 กก. ก้องไกล เอ็นนี่มวยไทย (ไทย) ชนะน็อกยก 1 อเลสซานโด้ ซาร่า (อิตาลี) คู่ที่ 6 แบบคาดเชือก รุ่น 72.5 กก. เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง (ไทย) ชนะน็อกยก 1 โทมัส คาร์เพนเตอร์ (อังกฤษ) คู่ที่ 7 แบบคาดเชือก รุ่น 70 กก. กิตติ ส.ท.แมนระยอง (ไทย) ชนะคะแนน ดิอาโก้ เทร์เซร์ร่า (บราซิล)   

 
Read More
Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed