New Mazda CX-30

หลังจากโหมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้านยอดขายในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะรถอเนกประสงค์ในตระกูล CX-Series ที่เติบโตสูงถึง 21% วันนี้ถึงเวลาตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำความสำเร็จ มาสด้าเปิดตัว Mazda CX-30 ใหม่  พร้อมแนวคิด “LIFE’S ALWAYS ON” ครอสโอเวอร์เอสยูวีที่พร้อมเติมเต็มความหมายให้กับทุกด้านของชีวิตอย่างมีสไตล์ มอบความคุ้มค่าและลงตัวในการใช้งานในทุกมิติ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ครบครันยิ่งขึ้นตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น พร้อมความพรีเมี่ยมที่เหนือระดับกับสีใหม่ล่าสุด บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ Platinum Quartz มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มต้นชีวิตคู่ในสไตล์ใหม่พร้อมเติมเต็มทุกประสบการณ์ในหลากหลายมิติของชีวิตคู่ได้อย่างลงตัว ด้วยทางเลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย วางราคาจำหน่ายเท่าเดิมเริ่มต้นเพียง 989,000 บาท พร้อมข้อเสนอสุดคุ้มรับเปิดตัว กับดอกเบี้ย 1.99%1 และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ผู้ที่สนใจสามารถทดลองขับและจองซื้อได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมส่งมอบรถใหม่ได้ทันที คุณชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รถครอสโอเวอร์เอสยูวี Mazda CX-30 ได้เผยโฉมสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก จนเกิดกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมและสร้างชื่อเสียงกระหึ่มไปทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ ความพรีเมี่ยมสง่างามของรูปลักษณ์จากการออกแบบที่โดดเด่นตามแนวคิด Kodo: Soul of Motion ได้รับการยกระดับดีไซน์เพื่อให้เกิดความงดงามจากแสงและเงาที่ตกกระทบลงบนตัวรถในขณะขับเคลื่อนหรือแม้ขณะจอดนิ่งอยู่กับที่ พร้อมคัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพสูง จนเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้พบเห็นส่งผลทำให้รถรุ่นนี้สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับมาสด้าบนเวทีระดับโลก ด้วยการเป็นรถแบรนด์ญี่ปุ่นเพียงแบรนด์เดียว ที่ติด 1 ใน 3 รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก ปี 2563 (Top Three in the World – World Car of the Year) รวมถึงรางวัลมากมายจากเวทีการประกวดในประเทศต่างๆ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบของ Mazda CX-30 ในทุกมิติ และเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าในระดับนานาชาติ สำหรับ Mazda CX-30 ในประเทศไทย ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงและได้รับความนิยมจากลูกค้าเช่นกัน ซึ่งภายหลังจากเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2563 สามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยยอดจองสูงถึง 2,000 คัน ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ รวมถึงเป็นรุ่นหลักที่สร้างยอดขายให้กับรถอเนกประสงค์ในตระกูล CX-Series ของมาสด้าอย่างต่อเนื่อง และปี 2564 ที่ผ่านมา รถรุ่นนี้ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 30.9% เมื่อเทียบกับปี 2563 และมียอดจำหน่ายสะสมแล้วกว่า 14,000 คัน ในระยะเวลาเพียง 22 เดือน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นว่าความนิยมและความต้องการซื้อของลูกค้าต่อรถรุ่นนี้ยังคงมีอยู่มาก และลูกค้าก็ยังคงให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม แม้ว่าจะอยู่ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ก็ตาม สำหรับการปรับโฉม New Mazda CX-30 ครั้งนี้ มาสด้ามุ่งมั่นเพื่อส่งมอบรถครอสโอเวอร์เอสยูวีที่ล้ำสมัย ดีไซน์หรูหราสง่างาม อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันให้มากที่สุด โดยเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และยังถ่ายทอดภาพลักษณ์ของความพรีเมี่ยม โดดเด่น และทรงพลัง ด้วยดีไซน์ภายนอกและภายในที่หรูหราประณีตพิถีพิถันทุกรายละเอียดด้วยวัสดุคุณภาพสูง ควบคู่กับการแนะนำสีภายนอกใหม่ล่าสุดบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ โดยเป็นสีที่บ่งบอกถึงความมีคุณภาพสูง เหนือระดับ มอบความหรูหราพรีเมี่ยมในทุกมุมมอง ด้วยคุณสมบัติใหม่เหล่านี้ มาสด้าจึงมั่นใจว่า Mazda CX-30 ใหม่ จะมาเติมเต็มความหมายและความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเคย”  ด้าน คุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“การเปิดตัวแนะนำรถครอสโอเวอร์เอสยูวี Mazda CX-30 ใหม่ ในครั้งนี้ มาพร้อมกับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นเพื่อให้ตัวรถมีความเพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบมากที่สุดในคลาส พร้อมส่งมอบความคุ้มค่าและลงตัวในการใช้งานได้ครบทุกมิติและหลากหลายด้านมากยิ่งขึ้น โดยยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับพรีเมี่ยม ที่พร้อมเติมเต็มความหมายให้กับทุกด้านของชีวิตอย่างมีสไตล์ บนแกนแนวคิด “LIFE’S ALWAYS ON” เพื่อเป็นรถอเนกประสงค์ที่จะเข้ามาเติมเต็มการใช้ชีวิตของลูกค้าที่กำลังมองหาครอสโอเวอร์ในกลุ่ม B-SUV เพื่อออกไปค้นหาและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ในทุกมิติ พร้อมปรับตัวเพื่อรับทุกการเปลี่ยนแปลงในหลากหลายด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนผ่านของชีวิตจากบทบาทหนึ่งไปสู่อีกบทบาทหนึ่ง อาทิ จากคนโสดสู่การเริ่มต้นชีวิตครอบครัว ต่อเนื่องไปสู่การเป็นครอบครัวขนาดเล็กที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน และการใช้เวลาร่วมกันในทุกโมเมนต์ของชีวิต ออกเดินทางร่วมกันไปค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ Mazda CX-30 ใหม่ ได้รับการออกแบบตามแนวคิดKodo: Soul of Motion ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม “Less is More” ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ตามแบบฉบับยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวี ภายในห้องโดยสารยังคงความโดดเด่นด้วยการออกแบบที่พิถีพิถันเสมือนงานทำมือ คัดสรรเลือกใช้เฉพาะวัสดุเกรดพรีเมี่ยมในทุกจุดสัมผัสดุจงานศิลปะชั้นสูงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  เพื่อถ่ายทอดความหรูหรามีระดับในทุกมิติ และมาพร้อมกับความพรีเมี่ยมอีกระดับกับสีใหม่ บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ที่เปิดตัวเป็นรุ่นที่สามของรถมาสด้าในประเทศไทยสะท้อนความมีสไตล์และตัวตนอันมีเอกลักษณ์ของผู้ขับขี่ แตกต่างในแบบที่เป็นตัวเองไม่ซ้ำใคร ให้ความรู้สึกหรูหรา ทรงพลัง และสง่างามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม Mazda CX-30 ใหม่ ได้ถูกพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานความต้องการของลูกค้า ที่มีไลฟ์สไตล์และกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้นในสังคมยุคปัจจุบัน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์รูปแบบของการใช้งานได้อย่างแท้จริง โดยมาพร้อมทางเลือก 3 รุ่นย่อย ภายใต้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตรSKYACTIV-G ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมและคล่องตัวทุกการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง ด้วยความแรงสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างแม่นยำในทุกรอบความเร็วให้การขับขี่สนุกในทุกเส้นทางและทุกมิติของการใช้งาน เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่พร้อมกับบุคคลสำคัญ รถมาสด้ารุ่นนี้จึงมาพร้อมสกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นจากการศึกษาเชิงลึกด้านสรีรศาสตร์และธรรมชาติการเดินของมนุษย์ เพื่อพัฒนารถยนต์ที่ให้ความรู้สึกเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย และยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus เทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้าที่ถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ให้ผู้ขับขี่และรถเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เพียงเท่านี้ มาสด้ายังมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น และตอบโจทย์ทุกความต้องการที่แตกต่างและหลากหลาย โดยเฉพาะเทคโนโลยีความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ทันสมัยและครบครัน จึงได้ถูกเพิ่มเข้ามาใน Mazda CX-30 ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน LED Signature, ไฟท้ายแบบ LED Signature, ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง, กล้องมองหลัง และระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS และเพิ่มความเร็วสูงสุดของระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS ให้สามารถทำงานได้ถึง 145 กม./ชม. รวมถึงสามารถตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ด้วยระบบการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ผ่านระบบ Mazda Connect ที่สามารถรองรับทั้ง Apple CarPlay® และ Android AutoTM* สามารถใช้งานฟังก์ชั่นสำคัญๆ ได้ โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander พร้อมมอบความโดดเด่นที่เหนือระดับด้วยระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ที่ช่วยสร้างความประทับใจที่เหนือระดับไปตลอดการเดินทาง” ภายในห้องโดยสารได้ถูกพัฒนาภายใต้ปรัชญา HMI (Human-Machine Interface) ที่จัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานในตำแหน่งศูนย์กลาง พร้อมมอบประสบการณ์และความสะดวกสบายในการขับขี่ที่เหนือระดับ ด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง คอนโซลกลางและที่วางแขนด้านหน้าที่กว้างสบายรองรับช่อง USB และมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ พร้อมด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้าWindshield Active Driving Display แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอล แบบ TFT LCD พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสีขนาด 7 นิ้ว พนักพิงเบาะหลังสามารถแยกพับ 60:40 อิสระจากกัน เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง และใช้งานได้หลากหลายรูปแบบตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครอสโอเวอร์เอสยูวี Mazda CX-30 ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น โดดเด่นตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานติดตั้งมาอย่างครบครันในทุกรุ่น รุ่น 2.0…

 
Read More

มิตซูขอนแก่นยนต์ไพบูลย์

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น พร้อมมอบการบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าโดยล่าสุดได้ร่วมมือกับ บริษัท มิตซูขอนแก่นยนต์ไพบูลย์ จำกัด เปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ภายใต้ชื่อ บริษัท มิตซูขอนแก่นยนต์ไพบูลย์ จำกัด (สาขาน้ำพอง) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการบริการให้แก่ลูกค้าที่พักอาศัยอยู่ในอำเภอน้ำพอง และพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดขอนแก่น พร้อมมุ่งมั่นในการส่งมอบยานยนต์คุณภาพและการบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า บริษัท มิตซูขอนแก่นยนต์ไพบูลย์ จำกัด ถือเป็นหนึ่งในเครือข่ายผู้จำหน่ายที่เติบโตเร็วที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดยปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 9 สาขาที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้า โดยในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมีทั้งหมด 6 สาขารวมทั้งสาขาล่าสุดที่อำเภอน้ำพอง และอีกจังหวัดละ 1 สาขาในเขตพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดร้อยเอ็ด มร.เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เครือข่ายผู้จำหน่ายถือเป็นหัวใจหลักที่สำคัญในการดำเนินงานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เพราะเป็นสถานที่ที่ลูกค้าจะได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมทั้งในด้านการบริการและรถยนต์คุณภาพสูงของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ตั้งแต่ครั้งแรก โดยการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการฯ แห่งใหม่ที่อำเภอน้ำพองนี้ ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อให้สามารถส่งมอบยานยนต์คุณภาพและบริการที่ดีที่สุดของเราให้แก่ลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เรายังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้ครอบคลุมเพิ่มมากยิ่งขึ้น” นอกจากการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีมีคุณภาพแล้ว โชว์รูมและศูนย์บริการ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ ยังได้คำนึงถึงสุขอนามัยและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ได้แก่ การตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้าศูนย์บริการ พนักงานที่ใกล้ชิดลูกค้าจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หมั่นเช็ดทำความสะอาดภายในโชว์รูมและศูนย์บริการโดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง ตลอดจนการทำความสะอาดภายในห้องโดยสารก่อนส่งมอบหลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกท่านจะมีความปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีเมื่อมาใช้บริการที่โชว์รูมและศูนย์บริการ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ บริษัท มิตซูขอนแก่นยนต์ไพบูลย์ จำกัด (สาขาน้ำพอง) พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่านด้วยบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม ครบครันด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย โดยภายในศูนย์บริการฯ แห่งใหม่นี้ยังตกแต่งด้วยดีไซน์ใหม่ภายใต้แนวคิดกลยุทธ์แบรนด์ระดับโลก ‘Drive your Ambition’ ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกของ มิตซูบิชิมอเตอร์ส มั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยการดูแลจากเจ้าหน้าที่ผู้มีประสบการณ์สูงจำนวน 10 ท่านที่ได้ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่พร้อมส่งมอบการบริการที่ดีที่สุด รวมทั้งการให้คำแนะนำสำหรับการซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ คันใหม่ และการซ่อมบำรุงรถยนต์ มิตซูบิชิ คันปัจจุบันให้แก่ลูกค้าทุกท่าน และในปี 2564 ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย สามารถคว้า 2 รางวัลอันทรงเกียรติจากเวทีการประกวดธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมประจำปี 2564 หรือ TAQA Awards 2021 ได้แก่ รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านบริการหลังการขาย ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และ รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ด้านบริการหลังการขายประเภทรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า เพื่อส่งมอบการบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อบริการหลังการขายของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้อย่างดีเยี่ยม บริษัท มิตซูขอนแก่นยนต์ไพบูลย์ จำกัด (สาขาน้ำพอง) ตั้งอยู่ที่เลขที่ 256 หมู่ 7 ตำบลม่วงหวาน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น 40140 โทร. 0-4300-0088  

 
Read More

บริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชียปี 2021

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้รับรางวัล “บริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชียปี 2021” (Best Companies to Work For in Asia 2021) จาก HR Asia ซึ่งมอบรางวัลนี้ให้กับองค์กรที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย ซึ่งมีบริษัทในประเทศไทยได้รับรางวัลนี้รวมทั้งหมด 52 แห่ง โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์เพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ในปีนี้ มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ถือว่าได้รับเกียรติอย่างสูงที่บริษัทของเราได้รับรางวัลนี้ รางวัลนี้เป็นรางวัลที่มอบให้กับพนักงานของเราทุกคนและผมอยากขอบคุณพนักงานของเราและทีมงานฝ่ายบุคคลสำหรับการอุทิศตนและความพยายามอย่างเต็มที่สำหรับการทำงานให้ออกมาดีที่สุดภายใต้สถานการณ์ที่มีความท้าทาย ผมเชื่อว่าการให้ความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพกายและใจให้แข็งแรงอยู่เสมอสำหรับพนักงานเมอร์เซเดส-เบนซ์คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราสามารถบรรลุผลสำเร็จภายใต้วิสัยทัศน์ของเราได้ เพราะการทำงานที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยนั้น พนักงานทุกคนร่วมกันทำงานด้วยความมุ่งมั่นตรงตามสโลแกนที่ว่า “The Best or Nothing” เสมอ และเราจะยังคงมุ่งมั่นต่อการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ทั้งให้แรงบันดาลใจและมีความปลอดภัย บนเส้นทางสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต่อไป” อนึ่ง รางวัล “บริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชียปี 2021” (Best Companies to Work For in Asia 2021) จาก HR Asia เป็นรางวัลที่มอบให้กับองค์กรที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย โดยพิจารณาจากการบริหารจัดการภายในองค์กรที่ดี การเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วม การดูแลเอาใจใส่และสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในการทำงาน และการส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีม โดยในปีนี้มีองค์กรไทยที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมเพื่อพิจารณาการมอบรางวัลกว่า 269 แห่ง ทั้งนี้ เหตุผลสำคัญที่ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยได้รับรางวัลนี้ในปีนี้มีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการที่พนักงานได้รับการสนับสนุนให้สามารถบริหารสมดุลการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะการให้ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น และการให้วันลาหยุดพิเศษ (sabbatical leave) และวันลาหยุดประจำปีมากถึง 22 วันต่อปี การมอบสวัสดิการที่ดีแก่พนักงานเพื่อดูและสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงานให้มีความปลอดภัยและทำให้สบายใจที่จะทำงานอย่างเต็มที่ การสนับสนุนเรื่องความหลากหลาย (diversity & inclusion) และกระตุ้นให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอสินค้าและบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ตลอดจนการตอบแทนคืนสู่สังคมและชุมชน ผ่านโครงการ CSR ด้านการศึกษาหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการเป็นพันธมิตรระยะยาวที่ให้ความช่วยเหลือโรงเรียนเยาววิทย์ จังหวัดพังงา ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 16 ปี และการสนับสนุนการฝึกอาชีพแก่คนรุ่นใหม่ โดยให้พนักงานของบริษัทได้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกโครงการ  

 
Read More

ฮอนด้า ชวนลูกค้าเข้ารับบริการ

เพื่อรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี โครงการ “ช้อปดีมีคืน 2565” ณ โชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ 229 แห่ง ตั้งแต่ 1 ม.ค.- 15 ก.พ. 2565 บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ชวนลูกค้าฮอนด้าเข้ารับบริการเพื่อรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี โครงการ“ช้อปดีมีคืน 2565” ณ โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า 229 แห่งทั่วประเทศ โดยลูกค้าสามารถนำใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบจากยอดค่าใช้จ่ายจริง สูงสุด 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2565 มาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี 2565 ซึ่งค่าใช้จ่ายงานบริการที่เข้าร่วมเงื่อนไขในโครงการ “ช้อปดีมีคืน”* ได้แก่ งานตรวจเช็กตามระยะทาง (PM) งานซ่อมทั่วไป (GR) และงานซ่อมตัวถังและสี (BP) ประเภทลูกค้าเป็นผู้ชำระเงิน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการซื้อชุดอุปกรณ์ตกแต่งที่โชว์รูมและศูนย์บริการอีกด้วย ลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง (Honda Call Center) โทร. 0 2341 7777 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมของการบริการต่าง ๆ และเลือกการบริการที่ใช่สำหรับคุณได้ที่ www.honda.co.th/service  

 
Read More

อุตสาหกรรมญี่ปุ่น เยี่ยมโตโยต้าไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น นายโคอิจิ ฮากิอูดะ เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงาน ณ  บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คณะผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้การต้อนรับ มร. โคอิจิ ฮากิอูดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น และ มร. นาชิดะ คาสุยะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำราชอาณาจักรไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ณ สำนักงานใหญ่โรงงานโตโยต้า สำโรง การเยี่ยมชมการดำเนินงาน ณฯ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ของ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ในครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นตลอดจนเป็นการสนับสนุนในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก โดยมีบริษัทและหลากหลายองค์กรจากประเทศญี่ปุ่นเป็นภาคส่วนสำคัญในการพัฒนาและผลักดันภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดยนอกจากกิจกรรมการเยี่ยมชมกระบวนการผลิตรถยนต์ของ บริษัท โตโยต้าฯ แล้ว คณะผู้บริหารของโตโยต้า นำโดย นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ให้ข้อมูลในด้านแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯโดยกล่าวว่า “ปี 2565 นี้ นับเป็นวาระสำคัญของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบรอบ 60 ปี นอกเหนือจากการดำเนินงานในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ เรายังพัฒนาทรัพยากรบุคคลและสิ่งแวดล้อมเพื่อขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน เรายินดีและพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ต่อนโยบายของภาครัฐ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรและทุกภาคส่วนที่มีแนวคิดตรงกันเพื่อร่วมกันผลักดันให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนโดยเร็วที่สุดด้วยการแนะนำเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบเข้าสู่ประเทศไทย”  

 
Read More

“SKILL DRIVING JUNIOR”

การร่วมมือกับ “THE MALL” ของงาน “SKILL DRIVING JUNIOR” จัดการเรียนรู้ ฝึกวินัยจราจรให้เด็ก และเยาวชน โดย คุณชไมพร ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการโครงการ ขับเป็น…ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล ร่วมงาน “THE MALL KIDS FUNTASIA : KIDDO HERO” โดยจัดกิจกรรม“โตไป…ขับเป็น”(SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR) อบรมวินัยจราจรแก่เด็ก และเยาวชน ขับขี่ในถนนจำลองที่ปลอดภัย ณ MCC HALL THE MALL บางกะปิ สัปดาห์ที่ผ่านมา  

 
Read More

ฮอนด้า ส่งนักแข่ง เริ่มออกเดินทางครั้งใหม่

“ก้อง-สมเกียรติ”เหินฟ้าสู่สเปนสู้ศึกโมโตทูปีที่ 4 ตั้งเป้ายกระดับผลงานคว้าโพเดี้ยม โดย “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทูเดอะ ดรีม บินลัดฟ้าร่วมทัพต้นสังกัด อิเดมิตสึฮอนด้า ทีม เอเชีย ที่แดนกระทิงดุ เตรียมความพร้อมก่อนลุยศึกโมโตทู ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ประจำฤดูกาล 2022 เจ้าตัวเผยสภาพร่างกายและจิตใจสมบูรณ์เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะบอสฮอนด้าเชื่อมั่นศักยภาพและประสบการณ์ จะสามารถยกระดับผลงานจากปีก่อนที่คว้าท็อปไฟว์ ปีนี้มีลุ้นคว้าโพเดี้ยมฝากแฟนชาวไทยแน่นอน ความเคลื่อนไหวของ “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทยในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตทู เจ้าของหมายเลข 35 สังกัดทีมแข่งอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีมเอเชีย ซึ่งลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ล่าสุด เมื่อช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 นักบิดดาวรุ่งชาวไทยวัย 23 ปี ได้ออกเดินทางสู่ประเทศสเปนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเข้าโปรแกรมฝึกซ้อมโค้งสุดท้ายกับต้นสังกัด และเตรียมสตาร์ทการแข่งขันสนามแรกที่สนามโลแซล อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคมนี้ โดยมี ดร.อารักษ์พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ไปให้กำลังใจถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิ สมเกียรติ จันทรา กล่าวว่า “ในช่วงพักเบรกปิดฤดูกาล ตัวผมยังคงมีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อมรถจักรยานยนต์ทางฝุ่น การขี่จักรยาน การเข้าเวทเทรนนิ่ง และที่สำคัญได้เข้าร่วมแคมป์ฝึกซ้อมของไทยฮอนด้าที่มีความเข้มข้นเป็นอย่างมาก ตอนนี้สภาพร่างกายและจิตใจมีความสมบูรณ์เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ผมจะนำประสบการณ์ที่ได้ไปแก้ไขรายละเอียดอีกเล็กน้อย เพื่อทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ฝากติดตามและเป็นกำลังใจเชียร์ผมด้วยครับ” ขณะที่ ดร.อารักษ์ พรประภา บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวว่า “สมเกียรติ เป็นหนึ่งในผลผลิตจากโครงสร้างการพัฒนานักแข่ง ภายใต้โครงการ ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม ในฐานะตัวแทนหนึ่งเดียวของไทยในศึกระดับโลก จากปีก่อนที่คว้าอันดับท็อปไฟว์มาได้เป็นครั้งแรก ในรายการออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสมเกียรติเทียบชั้นนักบิดแถวหน้าของโลก และผมเชื่อมั่นว่าในปีนี้ด้วยประสบการณ์ที่มี เจ้าตัวมีโอกาสยกระดับผลงานคว้าโพเดี้ยมมาฝากแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยอย่างแน่นอน ช่วยส่งกำลังใจและติดตามเชียร์นักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทยคนนี้ด้วยครับ” แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารของ “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา พร้อมส่งกำลังใจเชียร์นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกโมโตจีพี รุ่นโมโตทู ตลอดฤดูกาล 2022 รวมถึงนักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH #WhatStopsYou  #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #SC35  #Moto2  #RaceToTheDream  #HondaRacingThailand  #IdemitsuHondaTeamAsia  

 
Read More

“MOTOR EXPO”จับรางวัลใหญ่ รถยนต์ 3 คัน บิกไบค์ 1 คัน

คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์” พร้อมด้วยผู้แทนค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์รวมถึงสักขีพยานจาก สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ร่วมงานจับรางวัล จากกิจกรรมคืนกำไรให้ผู้ชมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38” MOTOR EXPO 2021 ซื้อรถ…ชิงรถ / ซื้อบัตร…ชิงรถ / ซื้อสินค้า…ชิงรถ / ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์ และชม Motor Expo Online ชิงรางวัล ณ ห้องจูปิเตอร์ 4-6 IMPACT เมืองทองธานี วันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา สำหรับรายชื่อผู้โชคดีที่ผ่านการตรวจสอบว่าปฏิบัติตามกฎกติกาของการชิงรางวัล จะประกาศทางwww.motorexpo.co.th, www.autoinfo.co.th, Line @motorexpo ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และทางนิตยสาร ฟอร์มูลา, 4 WHEELS ฉบับประจำเดือนเมษายน 2565 พบกับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39” วันที่ 1-12 ธันวาคม 2565 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ติดตามข้อมูล MOTOR EXPO ได้ทาง www.motorexpo.co.th, FB : MotorExpo,  IG : Motorexpoth, Youtube : IMCOnlineTH,   Line : Motorexpo และ Twitter : MotorExpoTH  

 
Read More

TOYOTA ALTIS GR Sport

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์นั่งยอดนิยม  โคโรลล่า อัลติส GR Sport ปรับปรุงโฉมใหม่ล่าสุดในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด HEV GR Sport และรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร GR Sport เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมสมรรถนะการขับขี่ และความทนทาน สบายใจตลอดอายุการใช้งาน ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิต และการเดินทางให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าโคโรลล่า อัลติสทุกรุ่น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำหนึ่งในตำนานของรถยนต์โตโยต้าที่การันตีด้วยคุณภาพมากกว่า 55 ปี นับตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นล่าสุด มียอดขายมากกว่า 50 ล้านคันทั่วโลก แสดงถึงการยอมรับในพื้นฐานอันสำคัญทางด้านคุณภาพ (Quality) ความทนทาน (Durability) และความน่าเชื่อถือ (Reliability) หรือ QDR ซึ่งสืบทอดจนถึงรุ่นปัจจุบัน โดยมีการพัฒนาด้านสมรรถนะการขับขี่ ด้วยสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA เสริมประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ (Fun-to-drive) พร้อมระบบช่วงล่างด้านหลังอิสระแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone) ทั้งมอบความมั่นใจสูงสุด กับระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า Toyota Safety Sense ในปีนี้ โตโยต้า เปิดศักราชด้วยการเสริมทัพรถยนต์นั่งยอดนิยม เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ กับโคโรลล่าอัลติส GR Sport รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ กับรุ่น HEV GR Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด และรุ่น 1.8 GR Sport กับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีดพร้อม Sequential Shift พร้อมสัมผัสของสมรรถนะในการขับขี่ที่เร้าใจกว่าที่เคย ด้วยช่วงล่างปรับจูนใหม่แบบสปอร์ต ประกอบด้วยชุดคอยล์สปริงและช็อคแอบซอร์บเบอร์ พร้อมเหล็กกันโคลงด้านหลังที่พัฒนาใหม่ มอบความรู้สึกในการขับขี่ที่หนักแน่น เกาะถนนดีเยี่ยม ควบคุมได้ตามใจสั่ง โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส GR Sport สะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์ภายนอกแบบสปอร์ต ออกแบบให้รองรับการขับขี่ตามหลักอากาศพลศาสตร์  กับแพ็กเกจชุด GR SPORT ประกอบด้วย กันชนหน้า, กระจังหน้า, ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่, สเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง, ล้ออัลลอย 17  นิ้วออกแบบใหม่โดยเฉพาะ พร้อมสัญลักษณ์ GR Sport บริเวณท้ายรถ ภายในสะท้อนความเป็น GR ด้วยการตกแต่งเบาะหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง พนักพิงศีรษะและปุ่มกดสตาร์ทตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ GR มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ช่องเสียบ USB แบบType C ในช่องเก็บของคอนโซลกลาง, หน้าจอ HUD แสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี, เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า (Lumbar Support), ระบบ Illuminate entry system, ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS และ 3 สี พิเศษเฉพาะรุ่น ได้แก่ สีขาวมุก (Platinum White Pearl) สีแดง (Red Mica Metallic) และสีดำ (Attitude Black Mica)  โคโรลล่า อัลติส GR รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ RACE YOUR SPORTY AMBITION…ขีดสุดความเร้าใจ อะไรก็หยุดไม่ได้ ใหม่ ดีไซน์ภายนอก,,,BRAND NEW RACER BRAND NEW FEELING โคโรลล่า อัลติส ฟิลเรซซิ่ง ใหม่ สายพันธุ์ GR -กันชนหน้าใหม่ GR Sport -กระจังหน้าใหม่ GR Sport -ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ -กระจกมองข้างสีดำและสเกิร์ตข้าง GR Sport -สเกิร์ตหลัง GR Sport -ล้อแมกซ์ขนาด 17 นิ้ว GR Sport -สัญลักษณ์ GR Sport บริเวณประตูท้าย ใหม่ ดีไซน์ภายใน…GR SPORT RACING INSIDE…

 
Read More

ฮอนด้า คว้าอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่ง

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2564 สามารถครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี 2564 ในประเทศไทย (มกราคม – ธันวาคม 2564) ด้วยยอดจำหน่ายสะสมรวม 88,692 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 27.9% และครองอันดับ 1 ต่อเนื่องอีกปี อีกทั้งเป็นผู้นำใน 4 เซกเมนต์หลัก ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ยอดนิยมในประเทศไทย พร้อมเดินหน้าสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าด้วยการยกระดับการบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ภายใต้มาตรฐานเดียวกันจากโชว์รูมและศูนย์บริการ 229 แห่งทั่วประเทศ มร.โนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “ฮอนด้าขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในแบรนด์ฮอนด้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2564 
ที่ผ่านมานับเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับการทำงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เรา
ต้องปรับเปลี่ยนการทำงาน ให้สอดคล้องและทันกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการ
และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการทำงานของฮอนด้า ผู้จำหน่าย 
และทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนฮอนด้า ส่งผลให้เราได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 88,692 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งด้วยสัดส่วนถึง 27.9% ซึ่งในปี 2565 คาดว่าการแพร่ระบาดของ    โควิด-19 และเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น ฮอนด้าก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนที่ดีเช่นนี้ต่อไป” ฮอนด้าสามารถครองอันดับ 1 ใน 4 เซกเมนต์หลัก ได้แก่ 1.กลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ ซีดาน (B and B-Eco Sedan segments) 
ยอดจำหน่ายสะสม23,490 คัน คิดเป็น 28.2% •ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ยอดจำหน่ายสะสม 21,221 คัน •ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ยอดจำหน่ายสะสม 2,269 คัน 2.กลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ ซีดานและแฮทช์แบ็ก (B and B-Eco Sedan and Hatchback segments) ยอดจำหน่ายสะสม 47,962 คัน คิดเป็น 29.8% •ฮอนด้า ซิตี้ ซีรีส์ ยอดจำหน่ายสะสม 47,962 คัน 3.กลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ (C-segment) ยอดจำหน่ายสะสม 16,092 คัน คิดเป็น 65.9% •ฮอนด้า ซีวิค ยังครองความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง ยอดจำหน่ายสะสม 14,755 คัน •ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ยอดจำหน่ายสะสม 1,337 คัน 4.กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (L-SUV segment) ยอดจำหน่ายสะสม 4,938 คัน คิดเป็น 45.7%  •ฮอนด้า ซีอาร์-วี ยอดจำหน่ายสะสม 4,938 คัน ในปีที่ผ่านมา ฮอนด้าได้นำเสนอระบบการขับขี่ที่ชาญฉลาดและทรงพลังให้กับลูกค้าชาวไทย ด้วยยนตรกรรม
ฟูลไฮบริด อี:เอชอีวี ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ซึ่งครอบคลุม
ในหลากหลายเซกเมนต์ ได้แก่ ฮอนด้า เอชอาร์–วี อี:เอชอีวี ใหม่  ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว รวมทั้ง ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี และ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ส่งผลให้
ยนตรกรรมอี:เอชอีวี ฟูลไฮบริด ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น โดยสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้
ทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม สำหรับการดำเนินงานในปี 2565 ฮอนด้าจะยังคงเดินหน้าสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนายนตรกรรมคุณภาพที่ล้ำสมัยที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและความปลอดภัย โดยมุ่งไปสู่สังคมปลอดมลพิษและสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุ ตามเป้าหมายปี 2593 รวมทั้งยกระดับการบริการหลังการขาย ที่เพิ่มความสะดวกสบายและอุ่นใจในการใช้บริการแบบครบวงจรภายใต้มาตรฐานเดียวกันจากโชว์รูมและศูนย์บริการทั้ง 229 แห่งทั่วประเทศ พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ อีกทั้งแพ็กเกจบริการต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในผลิตภัณฑ์และการบริการของฮอนด้า  

 
Read More
Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed