ภาคใต้ ณ อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ “ควิกเลน” พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่ายสู่ 45 สาขาทั่วประเทศในปี 2566 ควิกเลน ศูนย์บริการยางและรถยนต์ประเภทเร่งด่วน มาตรฐานระดับโลก รุกเปิดสาขาใหม่ล่าสุด ณ เขาพนมจังหวัดกระบี่ สะท้อนพันธกิจระดับโลกที่จะส่งมอบบริการฟาสต์ฟิตคุณภาพสูงให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์อะไหล่และยางรถยนต์คุณภาพระดับโลก รวมถึงบริการมาตรฐานระดับสากลที่ “สะดวกกว่า วางใจได้จริง” มาพร้อมโปรโมชั่นฉลองเปิดสาขาใหม่ ซื้อยาง 3 เส้น แถมฟรี 1 เส้น (สินค้ามีจำนวนจำกัด) ตลอดเดือนกันยายนเฉพาะลูกค้าสาขากระบี่เท่านั้น โดยศูนย์บริการยางและรถยนต์ควิกเลนดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือกับนักลงทุนรายใหม่ๆ อัดแน่นไปด้วยความเชี่ยวชาญทางด้านรถยนต์จากการผลักดันของแบรนด์รถยนต์ระดับโลกฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ล่าสุดได้เปิดตัวควิกเลนสาขาเขาพนม จังหวัดกระบี่ ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์โดยบริษัท รวยเจริญ เซอร์วิส จำกัด พันธมิตรใหม่ของควิกเลน นับเป็นสาขาที่ 4 ในภาคใต้ แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ของควิกเลนในการร่วมมือกับพันธมิตร พร้อมสนับสนุนการตลาดและการประชาสัมพันธ์ เพื่อเปิดสาขาในจังหวัดท่องเที่ยวหลักของประเทศไทย เพื่อดึงดูดลูกค้าทั้งผู้อยู่อาศัยในจังหวัด รวมไปถึงนักท่องเที่ยว คุณสันติ จิตพิชิตชัย ผู้อำนวยการ ควิกเลน ประเทศไทยกล่าวว่า “เรามองเห็นแนวโน้มของธุรกิจฟาสต์ฟิตที่จะเติบโตขึ้น หลังจากลูกค้าเริ่มกลับมาเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น การได้ร่วมมือกับพันธมิตรเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดกระบี่นั้น นับเป็นโอกาสที่ดีที่ควิกเลนจะได้ขยายเครือข่าย เพิ่มศักยภาพ และประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ควิกเลนมีเป้าหมายที่จะเพิ่มเครือข่ายศูนย์บริการในประเทศให้ถึง 45 สาขาภายในปีหน้า เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงบริการมาตรฐานระดับโลกและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม รองรับรถยนต์ทุกแบรนด์” นอกจากนี้ ควิกเลนยังร่วมฉลองการเปิดแฟรนไชส์ใหม่ พร้อมส่งมอบข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับลูกค้าคนรักรถที่เข้ามาใช้บริการที่สาขาเขาพนม จังหวัดกระบี่เท่านั้น โดยนำเสนอโปรโมชันซื้อยาง 3 เส้น แถมฟรี 1 เส้น ตลอดเดือนกันยายน 2565 ควิกเลนมีสาขามากกว่า 1,000 สาขาทั่วโลก โดยควิกเลนสาขาเขาพนม จังหวัดกระบี่ ทำให้ประเทศไทยมีควิกเลนเปิดให้บริการแล้วทั้งหมด 7 สาขา ในกรุงเทพและปริมณฑล และอีก 9 สาขาในต่างจังหวัด รวมทั้งสิ้น 16 สาขาทั่วประเทศ พร้อมมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้แก่ผู้บริโภค ด้วยบริการบำรุงรักษารถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ตั้งแต่ส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพจากต่างประเทศ อาทิ อะไหล่ออมนิคราฟท์ (Omnicraft) ที่มากับการรับประกันที่ยาวนานรวมถึงยางคุณภาพจากแบรนด์ระดับโลกในราคาที่คุ้มค่า พร้อมการรับประกันคุณภาพยางรถยนต์นานสูงสุด 6 ปีโดยลูกค้าสามารถผ่อนชำระยางทุกรุ่น ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 15 เดือนกับบัตรเครดิตชั้นนำ นอกจากนี้ยังให้บริการโดยช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญและทีมงานมากประสบการณ์ที่ได้ผ่านการอบรมและผ่านมาตรฐานระดับโลกของควิกเลน ควิกเลนทั้ง 16 สาขาเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-20.00 น. ไม่มีวันหยุด โดยลูกค้าสามารถเข้ารับบริการได้โดยไม่จำเป็นต้องนัดล่วงหน้า ผู้ที่สนใจเข้ารับบริการสามารถสอบถามข้อมูลสินค้า ราคาและโปรโมชั่น ได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ควิกเลน ที่หมายเลข 02-039-5798 หรือที่https://www.facebook.com/QuickLaneThailand
Year: 2022
นิสสัน พบผู้ว่าฯ
นิสสัน ประเทศไทย เข้าพบ คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดย มร.อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย ได้ร่วมพูดคุยถึงวิสัยทัศน์ด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งนี้การส่งเสริมการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในพันธกิจของนิสสัน และการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสังคมที่ไร้มลพิษอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ นิสสัน ยังได้แนะนำโครงการ Blue Switch ที่มุ่งส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการบรรเทาปัญหาทางสังคม โครงการ Blue Switch ถูกริเริ่มในปี 2561 ที่ประเทศญี่ปุ่น และขยายสู่ภูมิภาคอาเซียนในเดือนมกราคม 2565 มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมบทบาทของรถยนต์ไฟฟ้า เช่น นิสสัน ลีฟ ที่เป็นได้มากกว่ายานพาหนะ ด้วยคุณสมบัติของการแบ่งปันพลังงานด้วยการชาร์จที่ทำได้สองทิศทาง (bi-directional charging) ซึ่งที่ผ่านมานิสสัน ลีฟ สามารถช่วยเหลือชุมชนด้วยการแบ่งปันพลังงานไฟฟ้า ช่วยลดคาร์บอน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ALL NEW TOYOTA YARIS ATIV
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์ Compact sedan รุ่นใหม่ล่าสุด ภายใต้ปรัชญา“People beloved car” หรือ “รถยนต์ที่เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน” อันเป็นผลสำเร็จจากการศึกษาความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงในทุกด้าน ทำให้ได้รถยนต์ที่จะเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง พร้อมด้วย Package การขายที่จะทำให้ผู้ที่ครอบครองเป็นเจ้าของ ALL NEW YARIS ATIV ได้รับมากกว่ารถยนต์ ด้วยประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่า สะดวกสบาย พร้อมความพึงพอใจสูงสุดในการเป็นเจ้าของ แนวคิดหลักในการสร้างสรรค์รถยนต์ ที่จะเป็นที่ชื่นชอบของคนไทย (Beloved car) 1.ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด YARIS ATIV ใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดในการพัฒนา ดังต่อไปนี้ – ความภาคภูมิใจ (Proudful) ด้วยการออกแบบภายนอกสไตล์ Fastback พร้อมการออกแบบภายในที่หรูหรา – ความสะดวกสบาย (Comfortable) ด้วยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม – ราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย (Affordable) ด้วยองค์ประกอบที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงเหนือระดับ และความคุ้มค่า 2.ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ด้วย Package สินเชื่อรถยนต์รูปแบบใหม่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น เช่นPackage ประกันภัย PHYD : Pay How Your Drive ที่ลดอัตราดอกเบี้ยประกันภัยสำหรับลูกค้าที่ขับขี่อย่างปลอดภัยและ TFSR : Toyota Connected Frequent Service Reward เพื่อตอบแทนลูกค้าที่นำรถเข้าศูนย์เพื่อรับบริการตรงตามเวลาที่กำหนด 3.การขับเคลื่อนที่ดีที่สุด ด้วยบริการ T-Connect ที่จะคอยดูแลผู้ขับขี่ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านระบบต่างๆ เช่น ระบบติดตามรถหาย (Theft Track) การแจ้งเตือนการบำรุงรักษาผ่านระบบดิจิทัล (Digital Maintenance Reminder) การจองผ่านระบบดิจิทัล (Digital booking) ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS และบริการผู้ช่วยส่วนตัว (Concierge service) สเป็คพิเศษ สำหรับประเทศไทย จากการศึกษาความต้องการของลูกค้าชาวไทยอย่างลึกซึ้ง จึงนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนไทยเป็นพิเศษ ผ่านองค์ประกอบต่างๆ ได้แก่ 1.ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient light) 64 เฉดสี แนวเส้นไฟส่องสว่างได้รับการออกแบบติดตั้งอยู่บริเวณแผงหน้าปัด เพื่อเพิ่มความรู้สึกหรูหรา ล้ำสมัย ให้กับพื้นที่ภายในห้องโดยสาร 2.เบาะหนังสีแดง เพื่อมอบความรู้สึกพึงพอใจเหนือระดับให้กับลูกค้าที่มองหาความหรูหราภายในห้องโดยสาร 3.ชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกสีเทเมทัลลิก ช่วยเน้นความโดดเด่นให้กับรูปลักษณ์ทรงสปอร์ต และช่วยเสริมบุคลิกอันโฉบเฉี่ยวให้กับรถคันนี้ 4.ลำโพงระดับ Premium เนื่องจากความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในตลาดรถยนต์ปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดนี้ จึงติดตั้งระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง มอบเสียงเพลงอันไพเราะ ทรงพลัง เพื่อให้ลูกค้าเพลิดเพลินยิ่งขึ้นในระหว่างการขับขี่ จุดเด่นผลิตภัณฑ์ -ตัวถังสไตล์ ”Fastback style” ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมในรถยุโรปหลายรุ่น หรูหรามากขึ้น และยังส่งผล ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำเพียงแค่ 0.284 นอกจากนี้ YARIS ATIV ใหม่ ทุกรุ่นจะมาพร้อมไฟหน้าแบบ Full LED ล้ออัลลอยด์ Two tone ขนาด 16 นิ้ว และยังมีไฟท้ายแบบ Full LED Light-guiding ไฟเลี้ยวSequential ใหม่ การออกแบบรถสามารถต่อยอดการตกแต่งได้หลากหลาย ครอบคลุมความชอบของลูกค้าหลายๆกลุ่ม –ดีไซน์ภายใน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ และยกระดับคุณภาพของรถยนต์นั่งขนาด เล็ก ด้วยการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในที่มีคุณภาพ ดีไซน์เรียบหรู และเพิ่มความล้ำสมัยเหนือระดับด้วยการเป็นBrand แรกที่มีเบรคมือไฟฟ้า EPB รวมทั้งไฟ “Ambient light” สร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร สามารถปรับได้ถึง64 เฉดสี รวมถึงและหน้าปัด Full digital รวมทั้งมีภายในสีแดงให้เลือกที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร –อุปกรณ์ความปลอดภัย จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานทุกรุ่น เช่น Airbag 6 ตำแหน่ง ระบบ ABS / EBD / BA / VSC…
Mercedes-Maybach ในประเทศไทย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เดินหน้าทำตลาดรถยนต์ Mercedes-Maybach ในประเทศไทย หลังได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่สะท้อนให้เห็นทิศทางการเติบโตของยานยนต์ระดับอัลตร้าลักชัวรีในประเทศไทย พร้อมประกาศเปิดไลน์การประกอบรถยนต์ Mercedes-Maybach รุ่นปลั๊กอินไฮบริดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เป็นหนึ่งในสองประเทศแรกในโลกร่วมกับประเทศจีนที่ได้เริ่มทำตลาดยานยนต์ระดับอัลตร้าลักชัวรีรุ่นนี้ ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์วางแผนส่งมอบให้กับลูกค้าภายในไตรมาสแรกของปี 2566 นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังเผยแนวทางใหม่ในการสร้างสรรค์บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์สำหรับงานจัดแสดงรถยนต์และงานมหกรรมยานยนต์ที่กำลังจะมาถึงในช่วงปลายปี ทั้งการเลือกใช้ “ดิจิทัลไกด์” ผู้ให้คำแนะนำเรื่องรถยนต์ที่รู้จริงแบบไม่จำกัดเพศ การสร้างสรรค์บูธแบบอินเทอร์แอคทีฟภายใต้คอนเซ็ปต์ “Vision of the Beyond” นำเสนอประสบการณ์ยานยนต์แบบฉบับเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่โดดเด่นเหนือระดับ และไฮไลต์ของรถยนต์หลากหลายรุ่น อาทิEQS 500 4MATIC AMG Premium ยานยนต์พลังไฟฟ้า 100% รุ่นประกอบในประเทศคันแรกที่ผสานทั้งเทคโนโลยีดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน และการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน Mercedes-AMG SL 43 รถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตำนานที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความยินดีที่จะประกาศการเดินหน้าการทำตลาดโดยมีแผนการประกอบรถยนต์Mercedes-Maybach ในประเทศ เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในประเทศไทยได้สัมผัสกับที่สุดของความเป็นยนตรกรรมระดับอัลตร้าลักชัวรีที่มอบความหรูหราจากเมอร์เซเดส-มายบัคได้อย่างเต็มที่ ซึ่งความพิเศษก็คือ ไทยจะเป็นหนึ่งในสองประเทศแรกในโลก ร่วมกับประเทศจีน ที่จะเริ่มทำตลาดรถยนต์ Mercedes-Maybach รุ่นปลั๊กอินไฮบริดภายในประเทศ ก่อนหน้านี้เมอร์เซเดส-มายบัคได้เปิดตัวเอสยูวีระดับอัลตร้าลักชัวรีรุ่น “Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium” ที่ถือเป็นที่สุดแห่งนวัตกรรมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงการแนะนำ “Mercedes-Maybach S 580 4MATIC Premium” รุ่นประกอบนอก โดยที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม วันนี้ เรายังจะเพิ่มMercedes-Maybach S 680 4MATIC Premium เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกใหม่ของยนตรกรรมสุดหรูหราในตระกูลนี้ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาสและความสะดวกสบายเหนือระดับให้กับลูกค้าอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดและจับจองได้ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการแบบเอ็กซ์คลูซีฟทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ เบนซ์บีเคเค กรุ๊ป, ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์, สตาร์แฟลก และทีทีซี มอเตอร์ ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า นอกจาก Mercedes-Maybach จะเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมที่ทั้งหรูหรา สะดวกสบาย และพร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบรับทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดรถยนต์ระดับอัลตร้าลักชัวรีในประเทศไทยนั้นเติบโตไปในทิศทางที่ดี และด้วยความพรั่งพร้อมในทุก ๆ ส่วน ทั้งในด้านการผลิต การจัดเตรียมอะไหล่ ตลอดจนการบริการหลังการขายจากทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างเข้มข้นภายใต้มาตรฐานระดับสากล นี่จึงเป็นที่มาให้เรามีแผนในการประกอบรถยนต์ Mercedes-Maybach ในประเทศไทย” มร.บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้กำหนดเทรนด์ใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอยู่เสมอ นั่นจึงเป็นที่มาของการริเริ่มทำสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของเราภายในการจัดงานแสดงรถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ที่กำลังจะมาถึงในช่วงเดือนธันวาคมนี้ เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้ “ดิจิทัลไกด์” เพื่อให้คำแนะนำและนำเสนอข้อมูลรถยนต์ด้วยความเชี่ยวชาญในรูปแบบดิจิทัล โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเพศใด การนำเสนอบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ภายใต้คอนเซ็ปต์“Vision of the Beyond ” ในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่ลูกค้าสามารถเข้ามาโต้ตอบกับ AI Artist โดยจะแสดงข้อความต้อนรับเข้าสู่บูธแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ดื่มด่ำกับประสบการณ์ใหม่ของการเลือกชมรถยนต์รุ่นใหม่ได้อย่างสอดคล้องกับตัวตน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ผ่านแพลตฟอร์ม Midjourney นอกจากนี้เรายังมีไฮไลต์ของรถยนต์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากมายมาให้ลูกค้าได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า 100% ที่ประกอบในประเทศอย่าง “EQS 500 4MATIC AMG Premium” รวมถึง “Mercedes-AMG SL 43” ยานยนต์สปอร์ตพลังแรงตามแบบฉบับรถยนต์เอเอ็มจีที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และ “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม” สำหรับไฮไลต์ของรถยนต์รุ่นใหม่จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ลูกค้าจะได้พบภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ได้แก่“EQS 500 4MATIC AMG Premium” ยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม เรื่อยไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายในที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวพร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 108.4 kWh ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.8 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด702 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง EQS 500 4MATIC AMG Premium วางจำหน่ายในราคา 7,900,000 บาท “Mercedes-AMG SL 43” รถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตำนานจากแบรนด์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย กับความเป็นที่สุดในทุกด้าน ทั้งความสะดวกสบายในทุกสัมผัส อารมณ์ความรู้สึกสปอร์ตถึงขีดสุดจากภายนอกถึงภายใน และขุมพลังความแรงที่ไม่อาจต้านทานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ พร้อมเทอร์โบชาร์จ มอบพละกำลังในการขับขี่ตามแบบฉบับของรถยนต์เอเอ็มจีด้วยกำลังสูงสุด 381 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ดีไซน์ภายนอกคือการบรรจบกันระหว่างเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตพลังแรงและความเป็นรถยนต์ซีดานที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา ส่วนห้องโดยสารภายในให้รายละเอียดที่โดดเด่นตามแบบฉบับของรถยนต์มอเตอร์สปอร์ต 2 ประตูพร้อมเบาะที่นั่งแบบ 2+2 ที่มอบความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับการขับขี่ในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะการมาพร้อมระบบ MBUX เจเนอเรชันล่าสุด ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาสให้แฟนรถยนต์รุ่นSL ตัวจริงในทุกวินาทีที่อยู่ในห้องโดยสาร Mercedes-AMG…
เมอร์เซเดส เผย “EQS 500 4MATIC AMG Premium” รุ่นประกอบในประเทศ และ “Mercedes-AMG SL 43”
เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเผยแนวทางใหม่ในการสร้างสรรค์บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์สำหรับงานจัดแสดงรถยนต์ ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ทั้งการเลือกใช้ “ดิจิทัลไกด์” ผู้ให้คำแนะนำเรื่องรถยนต์ที่รู้จริงแบบไม่จำกัดเพศ การสร้างสรรค์บูธแบบอินเทอร์แอคทีฟภายใต้คอนเซ็ปต์ “ Vision of the Beyond” นำเสนอประสบการณ์ยานยนต์แบบฉบับเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่โดดเด่นเหนือระดับ และ ไฮไลต์ของรถยนต์หลากหลายรุ่น อาทิ “EQS 500 4MATIC AMG Premium” ยานยนต์พลังไฟฟ้า 100% รุ่นประกอบในประเทศคันแรกที่ผสานทั้งเทคโนโลยี ดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งานและการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน “Mercedes-AMG SL 43” รถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตำนานที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และ “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม รวมถึงอีกหลายรุ่นที่พร้อมให้แฟน ๆ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ตื่นเต้นตลอดงานมหกรรมยานยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธันวาคมนี้ มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“เมอร์เซเดส-เบนซ์มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้กำหนดเทรนด์ใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอยู่เสมอ นั่นจึงเป็นที่มาของการริเริ่มทำสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของเราภายในการจัดงานแสดงรถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่39 ครั้งนี้ด้วย เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้ “ดิจิทัลไกด์” เพื่อให้คำแนะนำและนำเสนอข้อมูลรถยนต์ด้วยความเชี่ยวชาญในรูปแบบดิจิทัล โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเพศใด การนำเสนอบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Vision of the Beyond ” ในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่ลูกค้าสามารถเข้ามาโต้ตอบกับ AI Artist โดยจะแสดงข้อความต้อนรับเข้าสู่บูธแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ดื่มด่ำกับประสบการณ์ใหม่ของการเลือกชมรถยนต์รุ่นใหม่ได้อย่างสอดคล้องกับตัวตน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ผ่านแพลตฟอร์ม Midjourney นอกจากนี้ เรายังมีไฮไลต์ของรถยนต์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากมายมาให้ลูกค้าได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า 100% ที่ประกอบในประเทศอย่าง “EQS 500 4MATIC AMG Premium” รวมถึง “Mercedes-AMG SL 43” ยานยนต์สปอร์ตพลังแรงตามแบบฉบับรถยนต์เอเอ็มจีที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย และ “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม” ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมงานด้วยคอนเซ็ปต์ “Vision of the Beyond” เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำจากยนตรกรรมแห่งโลกอนาคต ผ่านรถยนต์ไฮไลต์โมเดลใหม่ 3 รุ่น ที่เสมือนเป็นตัวแทนของ Vision ในอนาคตของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่ว่าจะเป็น Vision of Innovation กับการพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยความพร้อมในการบุกเบิกและคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์ยนตรกรรมแห่งโลกอนาคต Vision of Performance กับยานยนต์ที่ยกระดับสมรรถนะความแรงไปอีกขึ้นกับเครื่องยนต์ที่ได้รับการสร้างสรรค์ออกมาราวกับงานฝีมือสุดประณีต และ Vision of Sustainability ที่สะท้อนความมุ่งมั่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในการพัฒนาระบบปลั๊กอินไฮบริดให้มีประสิทธิภาพลดการเผาผลาญพลังงานเชื้อเพลิง เป็นมิตรต่อโลกมากยิ่งขึ้น ส่วนประสบการณ์ของการได้เข้ามาสัมผัสบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่งานมหกรรมยานยนต์ในปีนี้ก็พิเศษไม่แพ้รถยนต์ไฮไลต์ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เมอร์เซเดส-เบนซ์นำเทคโนโลยี AI มาสร้างสรรค์ภาพโลกอนาคตจาก Vision ผู้เข้าร่วมงาน เพียงลงทะเบียนล่วงหน้าตอบคำถามสั้น ๆ ว่า “ภาพโลกอนาคตของคุณเป็นอย่างไร?” ระบบ AI จะนำคำตอบไปสร้างเป็นภาพโลกอนาคตในแบบคุณ พร้อมโชว์ผ่านจอขนาดยักษ์ในงาน ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟได้แบบเต็ม ๆ สำหรับไฮไลต์ของรถยนต์รุ่นใหม่จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ลูกค้าจะได้พบภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ได้แก่ “EQS 500 4MATIC AMG Premium” ยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม เรื่อยไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายในที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคตจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่พร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 108.4kWh ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.8 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 702 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง EQS 500 4MATIC AMG Premium วางจำหน่ายในราคา 7,900,000 บาท “Mercedes-AMG SL 43” รถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตำนานจากแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่แฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์ตัวจริงรอคอย กับความเป็นที่สุดในทุกด้าน ทั้งความสะดวกสบายในทุกสัมผัส อารมณ์ความรู้สึกสปอร์ตถึงขีดสุดจากภายนอกถึงภายใน และขุมพลังความแรงที่ไม่อาจต้านทานของเครื่องยนต์จาก AMG แบบ One Man, One Engine ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ พร้อมเทอร์โบชาร์จ มอบพละกำลังในการขับขี่ตามแบบฉบับของรถยนต์เอเอ็มจี ด้วยกำลังสูงสุด 381 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด480 นิวตันเมตร ดีไซน์ภายนอกคือการบรรจบกันระหว่างเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตพลังแรงและความเป็นรถยนต์ซีดานที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา ส่วนห้องโดยสารภายในให้รายละเอียดที่โดดเด่นตามแบบฉบับของรถยนต์มอเตอร์สปอร์ต 2 ประตูพร้อมเบาะที่นั่งแบบ 2+2 ที่มอบความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับการขับขี่ในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะการมาพร้อมระบบ MBUX เจเนอเรชันล่าสุด ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาสให้แฟนรถยนต์รุ่น SL ตัวจริงในทุกวินาทีที่อยู่ในห้องโดยสาร Mercedes-AMG SL 43 วางจำหน่ายเริ่มต้นในราคา 11,700,000 บาท “Mercedes-Benz…
เมอร์เซเดส-เบนซ์ มอบประกาศนียบัตร
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรโครงการนักเรียนช่างฝึกหัดที่ผ่านการรับรองคุณภาพเมอร์เซเดส-เบนซ์ตามมาตรฐานการศึกษาทวิภาคีเยอรมัน ในสาขาวิชาเมคคาทรอนิคส์ยานยนต์เพื่อความเป็นเลิศในการศึกษาทวิภาคีและเพื่อพัฒนาศักยภาพ ของนักเรียนอาชีวะสู่การเป็นช่างเทคนิคมืออาชีพที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานเดียวกับประเทศเยอรมนี โดยมีประธานในพิธีคือ มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยมร. ฮันส์ อูลริช ซึดเบคอัครราชทูตและหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ สถานเอกอัคราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย และ ดร. โรลันด์ ไวน์ ผู้อำนวยการบริหาร หอการค้าเยอรมัน-ไทย ร่วมกับตัวแทนสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการกับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้ผ่านการทดสอบจากสมาคมหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเยอรมนี หรือAssociation of German Chambers of Commerce and Industry (DIHK) และเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองในด้านการฝึกอาชีพ ในระดับอาชีวศึกษาและฝึกอบรมทวิภาคีในประเทศไทยตามหลักสูตรเยอรมันหรือ Certificate ระดับ บี (Level B) ในปีพ.ศ. 2561 และเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองถึงระดับอาชีวศึกษาและฝึกอบรมทวิภาคีหลักสูตรเยอรมันในต่างประเทศ หรือ Certificate ระดับ เอ (Level A) ในปีพ.ศ. 2562 ซึ่งทั้งสองระดับเป็นหลักสูตร 2 ปีของการเรียนการสอนในภาคปฏิบัติที่ควบคุมโดยผู้ฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการฝึกอบรมจากบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติกับรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ณ ศูนย์ฝึกอบรม “Mercedes-Benz Training Center” ถนนบางนา-ตราด กม. 19 และศูนย์บริการของผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ โดยในปีนี้มีนักเรียนช่างฝึกหัดเมอร์เซเดส-เบนซ์สำเร็จการศึกษา รุ่นที่ 31 จำนวน 75 คนและ รุ่นที่ 32 จำนวน 44 คน จากผู้จำหน่าย 21 แห่ง ได้รับประกาศนียบัตร Certificate Level A มีจำนวนทั้งสิ้น 20 คน และประกาศนียบัตร Certificate Level B มีจำนวนทั้งสิ้น 99 คน โดยทั้งนักเรียนช่างฝึกหัดและเจ้าหน้าที่ทุกคนจะนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนไปรับใช้เพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้าที่ดีที่สุด และสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าทุกท่านที่เข้ารับบริการกับผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส -เบนซ์อย่างเป็นทางการทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาทุกคนจะได้รับการบรรจุเข้าทำงานในบริษัทของผู้จำหน่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ รวมทั้งสิ้น 21 แห่ง คือ บริษัท เค้งหงษ์ทอง จำกัด, บริษัท เบนซ์ ตลิ่งชัน จำกัด, บริษัท เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป จำกัด, บริษัท เบนซ์ พระราม 3 จำกัด, บริษัท เภตรา อยุธยา จำกัด, บริษัท เมโทร ออโต้เฮ้าส์ จำกัด, บริษัท เอ็มบี สุขุมวิท จำกัด, บริษัท แอทต้า ออโต้เฮ้าส์ จำกัด, บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด, บริษัท จันทบุรี เจพี มอเตอร์ จำกัด, บริษัทจิตต์ชัยชลบุรี จำกัด, บริษัท ทองหล่อ-รามอินทรา จำกัด, บริษัท ที เอส ที หัวหิน จำกัด, บริษัท ทีเอสที เมอร์เซเดส-เบนซ์ จำกัด, บริษัท ทีทีซี มอเตอร์ จำกัด, บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด (สาขาลุมพินี), บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด (สาขา งามวงศ์วาน), บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด (สาขา ราชดำเนิน), บริษัท บีเคเค ออโตเฮาส์ กาญจนาภิเษก จำกัด, บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด และ บริษัท สวนหลวง ออโต้เฮ้าส์ จำกัด ภายในงาน ทางบริษัทฯ ยังได้มอบประกาศนียบัตรแก่เจ้าหน้าที่ของทางผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ อันได้แก่ประกาศนียบัตรในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาการขายที่ผ่านการรับรอง (Certified Salespeople) จำนวน 52 คนเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาการบริการที่ผ่านการรับรอง (Certified Service Advisor) จำนวน 17 คน และเจ้าหน้าที่ช่างวิเคราะห์ที่ผ่านการรับรอง (Certified Diagnosis Technician) จำนวน 4 คน จากผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ 18 แห่งดังต่อไปนี้ – บริษัท เบนซ์ เภตรา จำกัด, บริษัท เบนซ์ ตลิ่งชัน จำกัด, บริษัท เบนซ์บีเคเค กรุ๊ป จำกัด, บริษัท เบนซ์ บีเคเค วิภาวดี จำกัด, บริษัท เบนซ์ พระราม 3 จำกัด, บริษัท เบนซ์ ราชครู จำกัด, บริษัท เบนซ์ อุดรธานี จำกัด, บริษัท เมโทร ออโต้เฮ้าส์ จำกัด, บริษัท แอทต้า ออโต้เฮ้าส์ จำกัด, บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด, บริษัททองหล่อ-รามอินทรา จำกัด, บริษัท ทีทีซี มอเตอร์ จำกัด, บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด (สาขาลุมพินี), บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด (สาขา งามวงศ์วาน), บริษัท บีเคเค ออโตเฮาส์ กาญจนาภิเษก จำกัด, บริษัท พรีเมจ ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด และ บริษัท สวนหลวง ออโต้เฮ้าส์ จำกัด พร้อมกันนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้มอบประกาศนียบัตรแก่ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ผ่านการรับรองระหว่างปี 2564- 2565 (Certified Body & Paint Service Center) จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ บริษัท เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป จำกัด, บริษัท เบนซ์ ภูเก็ต จำกัด, บริษัท เอ็มบี สุขุมวิท จำกัด, บริษัท แอทต้า ออโต้เฮ้าส์ จำกัด, บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด, บริษัท ทีเอสที เมอร์เซเดส-เบนซ์ จำกัด, บริษัท ทีทีซี มอเตอร์ จำกัด และบริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด (สาขาลุมพินี)
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้ มร.มาร์ติน ชเวงค์ เป็น CEO คนใหม่
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ประกาศแต่งตั้ง มร. มาร์ติน ชเวงค์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด คนใหม่ ต่อจากมร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ซึ่งจะไปรับตำแหน่งใหม่ที่สำนักงานใหญ่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศเยอรมนี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ภายใต้การบริหารงานที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์มีบทบาทสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท ทั้งยังช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย มร. โรลันด์ยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายของแบรนด์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่จะก้าวไปสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวในอนาคต ทั้งการเตรียมความพร้อมในการเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ตลอดจนการผลักดันให้เกิดโครงการ Charge to Change ซึ่งทั้งหมดคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จที่ก้าวนำเทรนด์ นอกจากนี้ การผลักดันนโยบายการทำงานด้านดิจิทัลยังส่งผลให้บริษัทบรรลุผลสำเร็จทางธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ที่สามารถวัดผลได้ชัดเจนทั้งในเรื่องของยอดขายและการบริการลูกค้า มร. มาร์ติน ชเวงค์ ซึ่งจะมารับตำแหน่งต่อจากมร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เริ่มต้นการทำงานกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ในปี 2535 เมื่อเขาเข้าร่วมทำงานใน ‘Mercedes-Benz-Nachwuchsgruppe’ ที่เมืองสตุตการ์ตในตำแหน่งวิศวกรผู้ควบคุมคุณภาพ หลังจากการทำงานในหลากหลายหน้าที่ทางด้านคุณภาพและการเงินในโรงงานผลิตหลายแห่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ใน เมืองรัสแตท ประเทศเยอรมนี มาร์ตินก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกควบคุมการวางแผนการผลิตที่ตั้งขึ้นใหม่ในซินเดลฟิงเงน จากนั้น ตั้งแต่ปี 2549 ถึงปี 2558 มาร์ตินได้เข้าไปดูแลงานด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเงินและการควบคุม ทั้งในแอฟริกาใต้ ออสเตรีย รวมถึงการทำงานในตำแหน่งประธานบริหารด้านการเงิน (CFO) ของ MBUSI ในสหรัฐอเมริกา ในปี 2558 มาร์ตินย้ายไปเมืองปักกิ่ง ประเทศจีนเพื่อรับตำแหน่ง CFO ให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เซลส์ในประเทศจีนมาร์ตินมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงความก้าวหน้าของโครงการสำคัญ ๆ และกระบวนการทางธุรกิจมากมายในประเทศจีน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 มาร์ตินเข้ารับตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (อินเดีย) จำกัด โดยเขามีบทบาทสำคัญในการเตรียมเมอร์เซเดส-เบนซ์ อินเดียเพื่อก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงในอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนและผลักดันการริเริ่มการทำงานเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและดิจิทัล เขายังมีส่วนสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์การเติบโตของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์สันดาปหลักในตลาด การบุกเบิกการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าระดับลักชัวรีด้วยรถยนต์รุ่น EQC การยกระดับกลยุทธ์เครือข่ายการค้าปลีกด้วยรูปแบบการค้าปลีกMAR 2020 และการนำโมเดลธุรกิจ ‘การค้าปลีกแห่งอนาคต’ ไปใช้งานได้อย่างดีและประสบความสำเร็จในอินเดีย ตลอดช่วงเวลาที่เขาทำงานอยู่ที่อินเดีย เมอร์เซเดส-เบนซ์ อินเดียประสบความสำเร็จในการบรรเทาวิกฤติโควิด-19 ทั้งยังเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นในฐานะองค์กรที่มีความยืดหยุ่น ภายใต้วิสัยทัศน์ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ การมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งกับผู้คน คู่ค้า และลูกค้าของเขา ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรที่พร้อมรับมือกับอนาคต มีความโปร่งใส และมุ่งเน้นที่ผู้คนเป็นศูนย์กลาง การได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งใหม่ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยของมร. มาร์ติน ชเวงค์ในวันนี้ บริษัทมีความมั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์กว่า 3 ทศวรรษในอุตสาหกรรมยานยนต์ในหลากหลายทวีปของเขา จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจและนำพาให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ก้าวสู่ความสำเร็จใหม่ในอนาคตที่น่าตื่นเต้นของเทรนด์การขับเคลื่อนใหม่ ๆ ที่กำลังมาในโลกยานยนต์
Mercedes-Benz S 350 d Exclusive เสริมทัพบริการระดับ 6 ดาว
Mercedes-Benz S 350 d Exclusive เป็นรถยนต์รุ่นใหม่เจเนอเรชันล่าสุดในครอบครัวเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสคลาส ที่พร้อมนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดภายใต้ความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยขั้นสูงสุด ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำหน้าที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้ กับเครื่องยนต์ดีเซลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น การออกแบบทั้งภายในและภายนอกใหม่หมดจด ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sensual Purity ในภาษาดีไซน์ที่ได้รับการยกระดับขึ้นในทุก ๆ ส่วน พร้อมตอบรับความต้องการของผู้โดยสารในทุกที่นั่งด้วยประสบการณ์ดิจิทัลที่เป็นที่สุด โดยเฉพาะระบบมัลติมีเดีย MBUX7 เจเนอเรชันใหม่ และระบบความปลอดภัยสุดล้ำหน้า ที่พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ขึ้นอีกขั้นในทุกรายละเอียด งานนี้ มร.บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบรถยนต์ “Mercedes-Benz S 350 d Exclusive” จำนวน 6 คัน ให้กับ มร.เคลาส์ คริสตันเดิล ผู้จัดการทั่วไปโรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ โดยมี มร.แซม เฉีย รองผู้จัดการใหญ่ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ คุณปัญจวิไล สงค์อิ่ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเรียนเต็ลทรานซ์ แอนด์ คาร์ เซอร์วิซ จำกัด ผู้ให้บริการรถลิมูซีนสำหรับโรงแรมชั้นนำของเมืองไทย และ คุณกรกฎ วารวิจิตร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายรถยนต์ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์(ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส คลาสรุ่นใหม่ ซึ่งโรงแรม เดอะเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เลือกใช้เป็นรถยนต์นั่งสำหรับแขกผู้เข้าพักในโรงแรม เพื่อยกระดับการบริการที่พร้อมมอบทั้งความหรูหราและความสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับทุกคน
เตรียมพบกับ NEW MG4 ELECTRIC…รีวิวเต็มวันเสาร์ที่ 26 พย.นี้ทาง YOUTUBE
NEW MG4 ELECTRIC รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมคอมเซ็ปต์ “ICON” นิยามของการเป็น“ต้นแบบ” และมาตรฐานใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุก โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ตอกย้ำการเป็นอีวี สายพันธุ์แท้ด้วยนวัตกรรม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยADVANCED SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM ให้อุ่นใจในทุกการขับขี่ ภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC เต็มประสิทธิภาพทั้งในด้านสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM โครงสร้างการออกแบบ “เนบิวลา” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อยนตรกรรมไฟฟ้าโดยเฉพาะ ครั้งแรกของ NEW MG4 ELECTRIC กับการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ดีไซน์มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ กับความสามารถในการนำไปปรับใช้ร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ครอบคลุมหลากหลายเซกเมนต์ หลายขนาด ตั้งแต่รถแฮทช์แบ็ค ซีดานไปจนถึงรถกระบะรวมถึงรองรับแบตเตอรี่หลากหลายความจุ คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากจุดเริ่มต้นในการเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกให้กับตลาดยานยนต์ EV สู่ประเทศไทยกับ MG ZS EV จนถึงปัจจุบัน ที่เราพร้อมนำเสนอ NEW MG4 ELECTRIC ที่จะเข้าเติมเต็มและพลิกโฉมวงการยานยนต์ไฟฟ้าอีกครั้งกับ “The First Rear Wheel Drive EV”พร้อมกับนวัตกรรมอันล้ำสมัยที่ทางเอ็มจีได้พัฒนา ที่นอกจากจะมัดรวมความคุ้มค่าทั้งด้านดีไซน์ที่สะดุดตาและเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ให้ประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าสนุกและคล่องตัวยิ่งขึ้นอีกด้วย และยังให้ความมั่นใจในด้านความปลอดภัยเมื่ออยู่บนท้องถนน โดยนอกจากความมุ่งมั่นในการก้าวสู่การเป็นผู้ริเริ่มของตลาดรถยนต์ EV แล้ว เอ็มจียังเล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้กับลูกค้าที่ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยการพัฒนาสถานีชาร์จ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากกว่า 128 แห่งทั่วประเทศ และสร้างความมั่นใจด้วยศูนย์บริการที่สามารถรองรับรถยนต์ไฟฟ้าจาก เอ็มจี ได้ทุกรุ่นกว่า 160 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์พลังงานสะอาดได้มั่นใจยิ่งขึ้น” ICONIC DESIGN โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบ NEW MG4 ELECTRIC ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตรอบคัน โฉบเฉี่ยวในทุกการเคลื่อนไหว · การออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN · ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS …
อีซูซุ เช็กความฟิตก่อนเดินทางเที่ยวปีใหม่
ข่าวดี! ของผู้ใช้รถอีซูซุทั้งหลาย พารถเก่าเข้าศูนย์ รับโปรสุดคุ้มจากอีซูซุ งานนี้กลุ่มตรีเพชรโดย คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เชิญชวนลูกค้าอีซูซุมาตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทางเที่ยวปีใหม่ โดยขอมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าผู้ใช้รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์อีซูซุทุกรุ่นที่จำหน่ายก่อนปี ค.ศ. 2011 (อีซูซุดราก้อนเพาเวอร์ อีซูซุดีแมคซ์รุ่นปี ค.ศ. 2003 – 2011 และอีซูซุมิว-เซเว่น) เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุพร้อมรับโปรโมชั่นดีๆ ดังนี้ · แพ็กเกจสุดคุ้มเมื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตรีเพชร ดีดีไอแมคซ์ จำนวน 7 ลิตร พร้อมไส้กรองน้ำมันเครื่องอะไหล่แท้ตรีเพชรรวมค่าแรง ฟรี! ค่าบริการตรวจเช็กสภาพรถ 30 รายการ สำหรับน้ำมันเครื่องเกรดมาตรฐาน SAE 15W-40 API CI4 ราคาเพียง 1,390 บาท และ น้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์ SAE 10W-30 API CI4 ราคา 1,690 บาท · ส่วนลดอะไหล่แท้ตรีเพชร 15% สำหรับอะไหล่ช่วงล่าง เบรก คลัตช์ ซีลล้อ ลูกปืนล้อ และรับส่วนลดสุดคุ้มเพิ่มเติมในกลุ่มอะไหล่บำรุงรักษาเชิงป้องกันเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากชิ้นส่วนที่ไม่ได้อยู่ในรอบการบำรุงรักษาปกติ ได้แก่ ท่อยางน้ำมัน เกียร์อัตโนมัติ สายเกียร์อัตโนมัติ ลูกปืนล้อหน้าด้านใน/ ด้านนอก ปั๊มน้ำ ท่อยางระบบหล่อเย็น แม่ปั๊มคลัตช์บน แม่ปั๊มคลัตช์ล่าง เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้รถอีซูซุทุกท่าน ใช้รถได้อย่างปลอดภัย และสบายใจมากขึ้น · คูปองส่วนลดค่าบริการมูลค่ารวมสูงสุด 3,000 บาท เพียงนำรถอีซูซุคันเก่าของท่านเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุตามเงื่อนไข โปรโมชั่นพิเศษทั้ง 3 นี้สามารถใช้ร่วมกันได้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2565 สอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุทั่วประเทศ หรือสายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0-2118-0777 หรือ www.isuzu-tis.com