NEW YAMAHA YZF-R3 สีใหม่!!!

ด้วยคอนเซ็พท์ RIDE THE R ANYTIME…รถสปอร์ตแท้ สายพันธุ์ R-Series ดีเอ็นเอสายพันธุ์แชมป์! จาก ยามาฮ่า ออกสีสันตัวใหม่ ให้ได้เป็นเจ้าของกัน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ส่ง NEW YAMAHA YZF-R3…RIDE THE R ANYTIME สีใหม่! ออกสู่ตลาดรถสปอร์ตเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำรถสปอร์ตของเมืองไทยอีกครั้ง โดยยังคงความเป็นสปอร์ตแท้สายพันธุ์R-Series ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 321 cc เต็มอารมณ์สปอร์ตอีกขั้นกับดีเอ็นเอสายพันธุ์แชมป์ ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ สะท้อนความเป็นซูเปอร์สปอร์ตในทุกองศา ทุกเส้นทาง ทุกช่วงเวลาที่ต้องการ กับสีสันใหม่ 3 สี 3 สไตล์สุดเร้าใจ! ตอกย้ำคุณภาพด้วยการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร สำหรับ NEW YAMAHA YZF-R3 สีใหม่!!! ให้การตอบสนองการขับขี่ในทุกจังหวะทุกการบิดคันเร่งสุดเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ขนาด 321 ซีซี แบบ 2 สูบเรียง 8 วาล์ว ระบบหัวฉีดอัจฉริยะจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยความแม่นยำระบายความร้อนด้วยน้ำ  และเต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีกระบอกสูบไดอะซิล แข็งแกร่ง ทนทาน เอกสิทธิ์เฉพาะยามาฮ่า ลูกสูบอะลูมิเนียมแบบอัดขึ้นรูป น้ำหนักเบา พร้อมออกแบบให้มีระยะ Offset ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมแรงม้าให้อยู่ในกำมือ และสนุก เร้าใจ ไปในทุกเส้นทางได้อย่างเต็มสมรรถนะ นอกจากนี้ NEW YAMAHA YZF-R3 สีใหม่!!! ยังให้ความรู้สึกเต็มอารมณ์รถสปอร์ตด้วย AIR MANAGEMENT ยกระดับด้วยการออกแบบแฟริ่งตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุดที่เพิ่มขึ้น อกีทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำตามสไตล์รถสายพันธุ์ R-Series ตั้งแต่ไฟหน้าและไฟเลี้ยว FULL LED ดีไซน์ใหม่ อารมณ์ซูเปอร์สปอร์ต R-Series สายพันธุ์เรซซิ่งสปอร์ตแท้ สว่างชัดทุกเส้นทาง, โช้คหัวกลับ TELESCOPIC UP SIDE DOWN สปอร์ตเต็มขั้น ด้วยโช้คหัวกลับที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกดีเยี่ยม ควบคุมการเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ พร้อมด้วยระบบเบรก ABS (ANTI-LOCK BRAKE SYSTEM) ทำให้สามารถขับขี่ได้สนุกเต็มอารมณ์สปอร์ต ช่วยหยุดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ป้องกันการลื่นไถลในสถานการณ์คับขัน NEW YAMAHA YZF-R3 สีใหม่!!! ยังมีระบบควบคุม PROUD SUPER SPORTS LOOK ที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มอารมณ์รถซูเปอร์สปอร์ต ไม่ว่าจะเป็น Full LCD Meter หน้าปัดแสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วนและชัดเจนพร้อมไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ (Shift Light), ระบบสวิตซ์สตาร์ทเครื่องยนต์ ดีไซน์เท่ล้ำ บ่งบอกความเป็นบิ๊กไบค์อย่างแท้จริง พร้อมด้วย Handle Crown ดีไซน์ลุคซูเปอร์สปอร์ตสไตล์ลิ่ง ให้ความแข็งแรง และลดน้ำหนักได้มากขึ้น สำหรับ NEW YAMAHA YZF-R3…RIDE THE R ANYTIME สีใหม่!!! มีให้เลือกด้วยกันถึง 2 เฉดสี คือสีน้ำเงิน Deep Purplish Blue Metallic, สีดำ Black Metallic มาพร้อมกับ Accessories อุปกรณ์ตกแต่งแท้ยามาฮ่าที่มีให้เลือกเสริมแต่งให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น ทั้ง บังลมหน้า, ฝาครอบท้ายเบาะ, ชุดเกียร์โยง, ชุดมือเบรก/มือคลัตช์, ชุดแฮนด์ Active, ชุดไฟเลี้ยว LED และ แผ่นเรซินกันฝาถังน้ำมันลายคาร์บอน NEW YAMAHA YZF-R3…RIDE THE R ANYTIME สีใหม่!!! พร้อมวางจำหน่ายในราคา 207,000 บาท…และตอกย้ำคุณภาพด้วยการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263-9999 และสามารถติดตามความเคลื่อนไหว และข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่ Website: www.yamaha-motor.co.th Facebook: Yamaha Society…

 
Read More

ALPHA VOLANTIS “INVENTING THE FUTURE”

การเปิดตัวรถจักรยานยนต์พรีเมียมออโตเมติกรุ่นแรกHORIZON 300 ดีไซน์ FuturisticPremiumเติมเต็มกลิ่นอายความคลาสสิกผสานความล้ำสมัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง บริษัท ทริลเลี่ยน มอเตอร์ จำกัด  ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์รายล่าสุดของประเทศไทย เปิดตัวรถจักรยานต์พรีเมียมแบรนด์  ALPHA VOLANTIS  (อัลฟ่า โวแลนทิส) อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “INVENTING THE FUTURE”  สะท้อนความตั้งใจในการสร้างสรรค์และผลิตยนตรกรรมสองล้อดีไซน์ล้ำสมัยระดับพรีเมียมสู่ตลาดรถจักรยานยนต์ในเมืองไทย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่แห่งอนาคตด้วยรถจักรยานยนต์ออโตเมติกรุ่นแรก  HORIZON300 (ฮอไรซอน300) บริษัท ทริลเลี่ยน มอเตอร์ จำกัด  เริ่มต้นจดทะเบียนพร้อมก่อตั้งโรงงาน เพื่อเป็นฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ที่มีกระบวนการผลิต และการจัดการระดับมาตรฐานสากล ด้วยงบประมาณลงทุน 600 ล้านบาท  โดยโรงงานผลิตตั้งอยู่ที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ครอบคลุมพื้นที่ 200 ไร่  ด้วยความต้องการที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์สองล้อให้ตอบสนองความต้องการด้านดีไซน์ที่สวยงามและตอบโจทย์การขับขี่ไปพร้อมๆกัน คุณธีระ ธีรติ  ประธานบริหาร บริษัท ทริลเลี่ยน มอเตอร์ จำกัด   กล่าวว่า “จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในนามของแครี่บอย ผู้นำอุตสาหกรรมหลังคาไฟเบอร์กลาส ชุดแต่งประดับยนต์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรถกระบะมากว่า 40 ปี เรามุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และการออกแบบอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เราเป็นที่ยอมรับในวงกว้างทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ จนถึงทุกวันนี้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมานี้เอง ที่ทำให้เรามองเห็นโอกาสในตลาดรถจักรยานยนต์ในเมืองไทยและต่างประเทศ  ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  ด้วยศักยภาพด้านการผลิต  การออกแบบ และมาตรฐานคุณภาพ  ทำให้เรามีความมั่นใจและมีความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดรถจักรยานยนต์ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์  ภายใต้ชื่อ อัลฟ่า โวแลนทิส เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและความพึงพอใจของผู้บริโภคอย่างสูงสุด ในโอกาสนี้ ผมขอแนะนำ บริษัท ทริลเลี่ยน มอเตอร์จำกัด  ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ อัลฟ่า โวแลนทิส อย่างเป็นทางการ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกท่าน” Alpha Volantis ยนตรกรรมสองล้อระดับพรีเมียม แบรนด์ Alpha Volantis ได้รับแรงใจจากดวงดาว โดยดาวอัลฟ่าได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นดวงแรกและเป็นดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวโวแลนทิส เปรียบเสมือนรถจักรยานยนต์แบรนด์อัลฟ่า โวแลนทิส ที่ได้เริ่มต้นจุดประกายสรรค์สร้างยนตรกรรมสองล้อระดับพรีเมียมรุ่นแรก พร้อมพุ่งทะยานด้วยความสง่างาม สะท้อนตัวตนทุกการขับขี่ โดดเด่นทุกความเป็นคุณในทุกเส้นทาง นายธีรวิทย์ ธีรติ   กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริลเลี่ยน มอเตอร์ จำกัด   กล่าวว่า “แบรนด์ ALPHA VOLANTIS  (อัลฟ่า โวแลนทิส) มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีดีไซน์สวยตอบโจทย์ทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์และพร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มากกว่าการเดินทางให้กับผู้ใช้ รวมถึงการขยายการบริการที่มีคุณภาพระดับมาตรฐานสากล เพื่อรองรับผู้ขับขี่ในอนาคต อีกทั้ง จัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และกิจกรรมเพื่อผู้ใช้รถ เราเชื่อมั่นว่า รถจักรยานยนต์พรีเมียมออโตเมติกรุ่นแรก HORIZON 300 และHORIZON 150 จะตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่และสร้างความโดดเด่นทุกความเป็นคุณอย่างแน่นอน” HORIZON 300 รถจักรยานยนต์พรีเมียมออโตเมติกรุ่นแรก ·      HORIZON 300 เติมเต็มกลิ่นอายความคลาสสิกผสานความล้ำสมัยด้วยดีไซน์ Futuristic Premium ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่อยู่ในมิติตัวรถขนาดคล่องตัว กับขุมพลังเครื่องยนต์ 276 ซีซี  ระบายความร้อนด้วยน้ำ  ให้แรงบิดสูงสุดที่ 21.8 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที     มอบพละกำลังขนาด 13.6 กิโลวัตต์  ที่ 6,500 รอบ/นาที  แรงได้ต่อเนื่องเต็มสมรรถนะ ไร้กังวลในทุกเส้นทางขับขี่แม้ในระยะทางไกล ด้วยถังน้ำมันขนาด 9 ลิตร…

 
Read More

เปิดโชว์รูมใหม่ มาสด้า ย่านนวนคร

มาสด้า เน้นบริการที่เป็นเลิศแบบครบวงจร เพราะความสุขของลูกค้าเราพร้อมดูแลโดย มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เดินหน้ายกระดับประสบการณ์สร้างความสุขให้กับลูกค้าในประเทศไทย จับมือกลุ่ม อาปิโก ไฮเทค ผู้เชี่ยวชาญด้านการดำเนินธุรกิจรถยนต์ และผู้คร่ำหวอดในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับชั้นนำของประเทศไทย เปิดโชว์รูมแห่งใหม่บนทำเลศักยภาพใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ปทุมธานี ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด ด้วยงบประมาณกว่า 150 ล้านบาท พร้อมส่งมอบประสบการณ์แห่งความสุขให้กับลูกค้าด้วยการดูแลแบบครบวงจร บนแนวคิด “เพราะทุกความสุขของลูกค้า เราพร้อมดูแล” มร.ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บรษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้ายังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าให้ดีที่สุดตามเจตนารมณ์ของเรานั่นคือ ALL FOR CUSTOMER เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกค้าของเรามีความสุข และภาคภูมิใจมากที่สุดในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการบริการหลังการขาย โดยเฉพาะลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มาสด้าตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา มาสด้าได้มอบโปรแกรมพิเศษ MAZDA ULTIMATE SERVICE หรือ MUS คือการรับประกันคุณภาพ 5 ปี ฟรีค่าแรง ค่าอะไหล่ และผลิตภัณฑ์ของเหลว ฟรีบริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน ที่สำคัญมาสด้ากำลังได้รับความสนใจจากนักธุรกิจชั้นนำทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งในวงการและนอกวงการรถยนต์ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาเพื่อเข้าร่วมดำเนินธุรกิจกับมาสด้า วันนี้มาสด้ากำลังสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายผู้จำหน่าย และเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขัน รวมทั้งสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนและเพื่อตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด ดังนั้น เพื่อสานต่อปณิธานและความมุ่งมั่นเหล่านี้ มาสด้าจึงเดินหน้าเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดโชว์รูม มาสด้า เอเบิล นวนคร โดยร่วมมือกับพันธมิตร บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด ซึ่งบริหารงานโดย มร. เย็บ ซู ชวน ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศไทย บนทำเลทองใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมนวนคร แหล่งเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ซึ่งมีประชากรและลูกค้ามาสด้าอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ทั้งยังเป็นเขตอุตสาหกรรมที่มีนักลงทุนทั้งต่างชาติและคนไทยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจอย่างยิ่งว่าการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ จะมีลูกค้ามาเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง และจะสามารถส่งมอบบริการที่ประทับใจและตอบสนองความต้องการของคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี มร.เย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) และ ประธานที่ปรึกษาบริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด กล่าวว่า โชว์รูมและศูนย์บริการ มาสด้า เอเบิล นวนคร แห่งนี้ ได้รับการออกแบบให้พร้อมต่อการรองรับและการให้บริการลูกค้าในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการขาย การบริการ การสำรองอะไหล่พร้อมทั้งศูนย์ซ่อมตัวถังและสี บนพื้นที่กว่า 3.5 ไร่ มีพื้นที่โชว์รูมจัดแสดงรถที่กว้างขวาง หรูหรา พร้อมรองรับลูกค้าที่กำลังจะเข้ามาเยือน รวมถึงมีห้องรับรองลูกค้าที่ทันสมัย พร้อมรองรับลูกค้าที่จะนำรถมาเข้ารับบริการ นอกจากนี้ศูนย์บริการของมาสด้า เอเบิล นวนคร ยังเพียบพร้อมไปด้วยทีมช่างเทคนิคที่มีทักษะสูงและเป็นมืออาชีพ พร้อมให้การดูแลรถของลูกค้าด้วยความสะดวกรวดเร็ว โดยมีพื้นกว้างขวางสามารถรองรับการติดตั้งช่องซ่อมได้มากถึง17 ช่องซ่อม และมีศูนย์ซ่อมตัวถังและสีที่สามารถรองรับงานซ่อมได้ถึง 10 ช่องซ่อม หรือรองรับรถยนต์ที่มาใช้บริการได้ถึง 600 คันต่อเดือน ซึ่งลูกค้าสามารถมาเข้ารับบริการได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ มร. เย็บ ซู ชวน ยังได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักปรัชญาในการดูแลลูกค้าของ มาสด้า เอเบิล นวนคร ว่า“เราตั้งใจส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราด้วยความเป็นมิตร และแบบมืออาชีพ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง เราให้คำมั่นสัญญาว่า จะปฏิบัติต่อลูกค้าและพนักงานของเราเฉกเช่นเดียวกับคนในครอบครัวของเรา เพราะนั่นคือการเป้าหมายสูงสุดในการทำงานของเรา เราจะต้องสร้างบรรยากาศที่ดี เน้นการบริการด้วยความจริงใจ และทำให้ลูกค้าเกิดความภาคภูมิใจตลอดการครอบครองรถมาสด้า เพื่อให้ลูกค้ามีความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะทุกความสุขของลูกค้า เราพร้อมดูแล และนี่คือสิ่งที่มาสด้า เอเบิล ตั้งใจที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าทุกคน” สำหรับลูกค้าที่สนใจเลือกซื้อรถยนต์มาสด้า ทดลองขับ หรือเข้ารับบริการหลังการขาย สามารถติดต่อโชว์รูมและศูนย์บริการ มาสด้า เอเบิล นวนคร ได้ที่ 14/9 ถ.พหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี12120 โทรศัพท์ 02-105-4359 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  

 
Read More

ศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกฤดูกาล 2022

“ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เดินหน้าล่าแต้มในศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกรายการ “จูเนียร์จีพี” สนามสุดท้าย ด้วยการไล่บู๊สุดมันส์กับนักบิดดาวรุ่งหัวกะทิทั่วโลกคว้าอันดับ 12 มาครองได้ทั้ง 2 เรซที่ เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน พร้อมเก็บคะแนนรั้งอันดับ 9 ของโลก หลังเจอฤดูกาลสุดเข้มข้นตลอดทั้งปี การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบดาวรุ่งชิงแชมป์โลก รายการ เอฟไอเอ็ม จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2022 สนามสุดท้าย ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ 2 เรซสุดท้ายของปี เมื่อวันอาทิตย์ 30ตุลาคมที่ผ่านมา “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยเจ้าของหมายเลข 33 จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ต้องเจองานสุดท้าทายด้วยการออกตัวจากกริดที่ 13 ก่อนจะบิดคว้าอันดับ 12 มาครองด้วยเวลา 30นาที 33.919 วินาที ตามหลังผู้ชนะเพียง 18.112 วินาที ส่วนเรซที่ 2 ซึ่งแข่งขันห่างกันเพียง 3 ชั่วโมง “ก๊องส์-ธัชกร” ยังคงได้เริ่มเกมจากกริดที่ 13 เช่นเคย โดยนักบิดไทยขับเคี่ยวกับกลุ่มหน้าได้อย่างเข้มข้น ก่อนเข้าป้ายในอันดับ 12 ด้วยเวลา 23 นาที 47.114วินาที ตามหลังผู้ชนะเพียง 12.925 วินาที หลังจบฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความพลิกผัน “ก๊องส์-ธัชกร” คว้าอันดับ 9 บนตารางคะแนนสะสมชิงแชมป์โลกประจำปี 2022 เก็บไปทั้งสิ้น 85 คะแนน จากผลงานการคว้าชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ที่ เซอร์กิโต เดอ เอสโตริล ประเทศโปรตุเกส แฟนกีฬาสามารถติดตามข่าวสารของ นักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH #WhatStopsYou  #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด …

 
Read More

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เสริมทัพรถยนต์ 2 รุ่นใหม่

การเพิ่มความแข็งแกร่งใน 2 เซกเมนต์ลักชัวรี กับการเปิดตัว C-Class ใหม่เวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริด พร้อมด้วย Vito รถตู้พรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกสองเซกเมนต์ในตลาดรถยนต์ลักชัวรีพร้อมกันด้วยการเปิดตัว “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” เวอร์ชันใหม่แบบปลั๊กอินไฮบริดของ The new C-Class โฉมปัจจุบันที่ถูกใจแฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่อง และ “Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select” รถตู้อเนกประสงค์สำหรับผู้บริหารยังเจนที่ตอบทุกโจทย์การใช้งานทั้งในวันทำงานและวันหยุด โดยทั้งสองรุ่นมีวางจำหน่ายที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มร.โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้แนะนำ The new Mercedes-Benz C-Class รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลออกมาเป็นคันแรกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมเช่นเคย วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะนำเสนออีกหนึ่งเวอร์ชันใหม่ของรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดรุ่นหนึ่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทยคันนี้ กับ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic รุ่นปลั๊กอินไฮบริดใหม่ที่ผสานขุมพลังเบนซินกับพลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เจเนอเรชันที่ 4 ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจในทุกสภาพถนน ทั้งยังประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะผู้ขับขี่สามารถเลือกขับด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร เท่านั้นยังไม่พอ วันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยัง  ขอแนะนำMercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select ใหม่ ที่สุดแห่งความหรูหราในแบบฉบับอเนกประสงค์ของรถตู้ระดับพรีเมียมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่สามารถจุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 11 ที่นั่ง ตอบโจทย์ทั้งสำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการความกว้างขวางสะดวกสบายในวันทำงาน และการเป็นรถยนต์สำหรับการใช้งานได้อีกหลายรูปแบบในวันหยุดหรือในทุกวันที่ต้องการ การเปิดตัวรถยนต์ทั้งสองรุ่นในวันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ารุ่นใหม่ที่สัมผัสได้ถึงจุดเด่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา และช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในทั้งสองเซกเมนต์ในตลาดรถยนต์ลักชัวรีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” คือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในรุ่น C-Class ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็น เจเนอเรชันที่ 4 ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร โดยรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันนี้สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดจากการขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าได้ถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าหากเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC charger) จะใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ส่วน การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charger) จะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ซึ่งด้วยความสะดวกในการเลือกใช้งานได้ทั้งสองระบบ ประกอบกับการชาร์จพลังไฟฟ้าด้วยเวลาไม่นาน หากเป็นการขับขี่ภายในเมือง ผู้ใช้สามารถใช้รถยนต์คันนี้ได้อย่างสะดวกสบายด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว รถยนต์คันนี้มาพร้อมรายละเอียดของการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ใหม่ในคอนเซ็ปต์ Sensual Purity ที่ให้สัมผัสที่ผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความหรูหรา ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบสปอร์ตและขนาดตัวรถที่กว้างขึ้นในทุกมิติ จึงช่วยมอบความสะดวกสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ส่วนดีไซน์ภายในก้าวไปอีกขั้นกับการตกแต่งที่ถอดแบบมาจากรุ่น S-Class ทั้งหน้าจอ LCD ความละเอียดสูง การปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 แบบ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มด้วยหนัง คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่พร้อม จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่11.9 นิ้วที่เบี่ยงเป็นมุมเฉียงมายังผู้ขับขี่เล็กน้อย ทั้งยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยและมาตรฐานของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ได้รับการยกระดับขึ้นอีกขั้น Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic วางจำหน่ายในราคา 3,350,000 บาท “Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select” ใหม่คือรถยนต์นั่งขนาด 11 ที่นั่งระดับพรีเมียมที่พร้อมตอบทุกช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคนในทุกเส้นทาง ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี เจเนอเรชันล่าสุดที่ให้กำลังมากขึ้นทว่าให้อัตราสิ้นเปลืองที่ลดลง ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ9G-Tronic มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงที่ 9.6 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 205 กิโลเมตร/ชั่วโมงMercedes-Benz Vito ใหม่นำเสนอดีไซน์ภายนอกที่มีความโดดเด่นในทุกเส้นทาง ด้วยกระจังหน้าโครเมียมกับไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light และล้ออัลลอย Multispoke ขนาด 17 นิ้ว พร้อมประตูบานเลื่อนซ้าย-ขวาที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ควบคุมการเปิด-ปิดด้วยรีโมทคอนโทรล ดีไซน์ภายในมีเอกลักษณ์กับห้องโดยสารกว้างขวางที่พร้อมเชื่อมต่อให้ทุกการทำงานของคุณลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกับระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติภายในห้องโดยสาร (Thermotronic) ขับเคลื่อนความสุขและความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของทุกคนได้ตลอดการเดินทาง Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select วางจำหน่ายในราคา 3,100,000 บาท  

 
Read More

เกรท วอลล์ มอเตอร์ รุกตลาดยุโรป

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (xEV) ระดับพรีเมียมในยุโรปที่งานปารีส มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2565 (Paris Motor Show 2022) พร้อมเผยโฉมยานยนต์ล้ำสมัยสู่สายตาผู้บริโภคนานาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง Funky Cat, Funky Cat GT และ The Next Ora Cat จากแบรนด์ ORA และรถยนต์รุ่นปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) อย่าง Coffee 01 และ Coffee 02 จาก WEY แบรนด์พรีเมียมจากเกรท วอลล์ มอเตอร์ หลังจากที่ได้เปิดตัวในยุโรปที่งานอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ (IAA Mobility) เมื่อปี 2564 ล่าสุดเกรท วอลล์มอเตอร์ ได้เตรียมการรุกตลาดยุโรปเพื่อนำร่องเปิดตัวใน 2 ประเทศแรก ได้แก่ ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยงานปารีสมอเตอร์โชว์ในปีนี้ เป็นการกลับมาจัดงานครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 23 ตุลาคม 2565 เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีสุดล้ำสมัยจากเกรท วอลล์ มอเตอร์ ผ่านยนตรกรรมอัจฉริยะมากมายที่จัดแสดง ณ พาวิลเลียน 6 บูท 641 โดยผู้ที่สนใจยังสามารถทดลองขับรถได้อีกด้วย มร.เฮนรี่ เมิ่ง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยุโรป กล่าวว่า “สโลแกนของปารีส มอเตอร์โชว์ในปีนี้คือ ‘Revolution is on’ ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยึดถือ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนายนตรกรรมพรีเมียมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่และอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำยานยนต์ไฟฟ้าของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ไปจัดแสดงในงานปารีส มอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ นอกจากนี้เราเล็งเห็นว่ายุโรปเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดของเราในการทำการตลาดนอกประเทศจีน ดังนั้นการได้ร่วมปารีส มอเตอร์โชว์จึงเป็นโอกาสที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการนำเสนอแบรนด์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ รวมถึงยานยนต์อัจฉริยะในตลาดยุโรปอย่างเป็นทางการ” เดินหน้าสู่อนาคตอย่างไร้กังวลไปกับ ORA  สำหรับ ORA แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า 100% น้องใหม่สุดทันสมัยของเกรท วอลล์ มอเตอร์ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่หยุดนิ่ง และอาศัยอยู่ในเมือง โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่นำไปจัดแสดงทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ ·      ORA Funky Cat: หลังจากที่ ORA Cat รุ่นบุกเบิกประสบความสำเร็จในการเปิดตัวที่งาน IAA Mobility ในเมืองมิวนิคเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดเกรท วอลล์ มอเตอร์ได้จัดแสดง ORA Funky Cat รถยนต์ไฟฟ้า 100% ดีไซน์สไตล์เรโทร แต่ยังคงความสดใสและล้ำสมัย พร้อมที่จะเผชิญทุกการผจญภัย ซึ่งมีระยะการขับขี่ไกลถึง 310 กิโลเมตรต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง โดยรถยนต์รุ่นนี้จะส่งมอบล็อตแรกในประเทศเยอรมนีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ส่วนประเทศถัดไปที่มีแผนจะส่งมอบคือสหราชอาณาจักรและอิสราเอล ·      ORA Funky Cat GT: เป็นอีกรุ่นของ ORA Funky Cat ที่มีดีไซน์สปอร์ต ปลายด้านหน้าแหลมดูโฉบเฉี่ยว ขณะที่อินเลย์ (inlays) ในกันชนหน้าและกันชนหลังยังมีเอกลักษณ์แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน โดยผู้ขับขี่ GT ยังจะเพลิดเพลินไปกับช่องระบายอากาศแบบใหม่และพวงมาลัยดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่นนี้ ·      The Next Ora Cat: ยานยนต์ไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ต ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบที่หรูหรา และความสบายเหนือชั้น The Next Ora Cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% แบบคูเป้ 4 ประตู หรูหราด้วยการออกแบบที่โค้งมนและประตูไร้เฟรม มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาตรฐานและยางขนาด 19 นิ้ว ด้วยแรงบิดสูงสุด 680 นิวตันเมตร และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที WEY Coffee 01 และ WEY Coffee 02 เมื่อความสะดวกสบายผสานกับเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างลงตัว นอกจากรถยนต์ไฟฟ้า 100% สำหรับใช้ในเมืองแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังจัดแสดงรถเอสยูวีระดับพรีเมียมรุ่นล่าสุดอีกด้วย ทั้ง WEY Coffee 01 และ Coffee 02 ·      WEY Coffee 01: รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดระดับพรีเมียมนี้เป็นรุ่นที่ทำรายได้หลักของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และตรงตามมาตรฐานสูงสุดของยุโรป โดยแนวคิดพื้นฐานที่ทำให้ WEY เป็นผู้บุกเบิกรถยนต์อัจฉริยะรุ่นใหม่ คือ “การขับขี่เหนือระดับ” “ห้องโดยสารอัจฉริยะ” และ “อุปกรณ์อัจฉริยะ” นอกจากนี้ Coffee 01 ยังสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้สูงถึง 150 กิโลเมตร พร้อมอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5 วินาที และเร่งความเร็วได้สูงสุดถึง235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ·    WEY Coffee 02: รุ่นนี้จะคล้ายกับ Coffee 01 ที่มอบความสะดวกสบายและเทคโนโลยีล้ำสมัยสำหรับทั้งครอบครัว โดยมีกล้องสี่ตัวสำหรับมุมมองรอบด้านแบบ 360 องศา ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ หน้าจอสัมผัสมัลติมีเดียขนาด 14.6 นิ้ว และสะดุดตาด้วยพื้นรถที่โปร่งใส Coffee 02 จึงโดดเด่นในด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่สูงขึ้น  

 
Read More

SUZUKI CELERIO ชูความโดดเด่น เหนืออีโคคาร์

ซูซูกิ รถยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ยอดขายเติบโตครองอันดับสี่กลุ่มอีโคคาร์ แฮทช์แบ็ก ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยเงื่อนไขสุดเร้าใจเป็นเจ้าของด้วยโปรโมชั่นพิเศษ  ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท คุณวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศ ไทย) จำกัด กล่าวว่า ในยุคที่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์ประหยัดพลังงาน แต่ด้วยปัจจัยในหลายด้านจึงยังส่งผลต่อความมั่นใจในการเลือกนำมาใช้งาน โดยเฉพาะเรื่องของระบบรองรับการใช้งานขั้นพื้นฐานที่ยังไม่สมบูรณ์แบบ ผู้บริโภคจึงยังคงมองหารถยนต์คุณภาพดี ดูแลรักษาง่าย และประหยัดพลังงาน เพื่อนำไปใช้งานได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ครบครัน สำหรับซูซูกิ เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายไว้รองรับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะรถยนต์ในกลุ่มประหยัดพลังงาน นับว่ามีความโดดเด่นทั้งเรื่องของดีไซน์ สมรรถนะ และความคุ้มค่า จนเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ลูกค้าให้การยอมรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้รถอีโคคาร์สมรรถนะเกินตัวอย่าง SUZUKI CELERIO สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง  โดยนับตั้งแต่เปิดตัวเข้ามาเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้บริโภคในปี 2557 ในฐานะอีโคคาร์ รุ่นที่ 2 ของซูซูกิสามารถสร้างยอดขายรวมได้ทั้งสิ้นจำนวน 22,264 คัน  สำหรับปีนี้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (เดือนมกราคม-กันยายน 2565) มียอดขายรวม 3,195 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 20.61% จากยอดขายซูซูกิทั้งหมด  ซึ่งมีส่วนผลักดันให้ภาพรวมของซูซูกิในปีนี้ มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 5.18%   SUZUKI CELERIO เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มอบความคุ้มค่าคุ้มราคาและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างสูงสุดส่งผลให้ฐานลูกค้าในปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงแค่วัยทำงานรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นหนึ่งในรถทางเลือกของครอบครัวขนาดเล็กยุคใหม่ ที่วางแผนการใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ มองหาความความปลอดภัยในการเดินทาง สมรรถนะการใช้งานที่ดี ราคาคุ้มค่า ประหยัดพลังงาน ซึ่งล้วนแต่จุดเด่นสำคัญของผลิตภัณ์ของซูซูกิ  โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นและต้องการให้ SUZUKI CELERIO เป็นพาหนะคู่ใจ มาจากการเตรียมความพร้อมของบริษัท ในการตอบรับความต้องการของลูกค้าและตลาดรถยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสการขาดแคลนชิ้นส่วนในการประกอบรถยนต์ จนส่งผลให้เกิดการส่งมอบรถล่าช้า แต่ในช่วงเวลาวิกฤติที่ผ่านมา ซูซูกิสามารถส่งมอบรถถึงมือลูกค้าได้ตามกำหนดอย่างรวดเร็วทันต่อความต้องการ ด้วยความโดดเด่นทุกด้านในสไตล์ซิตี้คาร์ จึงอยากตอกย้ำและพร้อมนำเสนอรถยนต์นั่งขนาดเล็กคุณภาพเกินตัวคันนี้ให้ผู้บริโภคเข้าถึงการใช้งานที่แสนจะคุ้มค่า และเป็นเจ้าของได้ง่ายมากยิ่งขึ้น กับแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจ SUZUKI CELERIO เลือกรับข้อเสนอ SUZUKI SUPER FLASH DEAL ขับฟรี 90 วัน พร้อมบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท หรือ เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 5,000 บาท  และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงระยะเวลา 3 ปี อีกทั้งซูซูกิยังคงจับมือกับสถาบันการเงินเพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกด้านการอนุมัติสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อให้แก่ลูกค้า ได้แก่ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด(มหาชน) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ภายใต้เงื่อนไขตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ ทั้งนี้  SUZUKI CELERIO ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดความคุ้มค่าและประหยัดในการใช้งาน รวมถึงความพึงพอใจในการขับขี่ เป็นรถยนต์ที่สามารถตอบสนองการใช้งานจริง มอบความประหยัดคุ้มค่า ขนาดห้องโดยสารที่กว้างสบาย มีพื้นที่รองรับการเดินทางที่สะดวกสบายมากพอ ทั้งห้องโดยสารตอนหน้าและห้องโดยสารตอนหลังพร้อมด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากเกินคาด ตอบสนองการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ที่มอบพละกำลังและความสามารถเกินตัว ทั้งยังโดดเด่นด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากกว่า 20 กิโลเมตร/ลิตร บวกกับรูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสาร ที่ออกแบบให้ดูสะดุดตา เสริมความมั่นใจและความปลอดภัยด้วยระบบและอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ตอกย้ำภาพลักษณ์ของซูซูกิภายใต้ราคาจำหน่ายที่กระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภค SUZUKI CELERIO ตอบสนองการใช้งานด้วย 3 รุ่นทางเลือก ได้แก่ GA/MT ราคาจำหน่ายเพียง 338,000 บาทรวมถึง GL/CVT ราคาจำหน่าย 416,000 บาท และ GX/CVT ราคาจำหน่าย 442,000 บาท มาพร้อมสีภายนอกให้เลือกใช้ 4 สี ได้แก่ สีแดง สีเทา สีดำ และสีขาว (เฉพาะสีขาว เพิ่ม 3,000 บาท)   

 
Read More

“ควิกเลน” จับมือ “เชฟรอน ไทย”

ควิกเลน แบรนด์ศูนย์บริการยางและรถยนต์ประเภทเร่งด่วนมาตรฐานระดับโลก ที่รองรับการบำรุงรักษารถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ผนึกกำลัง บริษัท เชฟรอน (ไทย) จํากัด ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันคุณภาพระดับโลกภายใต้แบรนด์‘คาลเท็กซ์’ จับมือร่วมเป็นพันธมิตรในการศึกษาโอกาสทางธุรกิจเพื่อขยายเครือข่ายธุรกิจบำรุงรักษารถยนต์ร่วมกับสถานีบริการน้ำมัน พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของสองธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตทางธุรกิจให้กับทั้งผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ และผู้สนใจลงทุนในกิจการฟาสต์ฟิตของควิกเลนให้มากยิ่งขึ้น คุณสันติ จิตพิชิตชัย ผู้อำนวยการควิกเลน ประเทศไทย กล่าว “ควิกเลนเดินหน้าขยายเครือข่ายสาขามาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่บุกตลาดเปิดตัวในประเทศไทยในปี พ.ศ.2562 การเป็นพันธมิตรกับบริษัท เชฟรอน (ไทย) จํากัดในครั้งนี้ ไม่เพียงตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อมอบบริการดูแลรักษารถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่ ‘สะดวกกว่า วางใจได้จริง’ ให้กับผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มองหาโอกาสทางธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง อย่างธุรกิจฟาสต์ฟิตอีกด้วย”  คุณสุทัศน์ ลิมปิติกรานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันคุณภาพระดับโลกภายใต้แบรนด์ “คาลเท็กซ์” กล่าว “เชฟรอนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสถานีบริการน้ำมัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าไปอีกขั้น โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้จะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานีบริการน้ำมันให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ด้วยการขยายบริการด้านการบำรุงรักษารถยนต์ที่มีมาตรฐานระดับโลก เราเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญของควิกเลนว่าจะช่วยมอบบริการที่สะดวก รวดเร็ว และไว้วางใจได้ให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังเป็นการตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มองหาสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเพิ่มเติมจากสถานีบริการน้ำมัน อาทิ บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ ร้านอาหาร และการจับจ่ายสินค้าประจำวันควบคู่ไปกับการแวะเติมน้ำมัน จึงถือเป็นการขยายบริการและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมากกว่าการเติมน้ำมันเพียงอย่างเดียว” จากความร่วมมือในครั้งนี้ ควิกเลนคาดหวังโอกาสในการขยายศูนย์บริการบำรุงรักษารถยนต์ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ให้มากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศภายในปี พ.ศ. 2569 และถือเป็นอีกหนึ่งขั้นของความสำเร็จในการผนึกกำลังระหว่างพันธมิตรในธุรกิจบำรุงรักษารถยนต์กับสถานีบริการน้ำมัน ในการเติมเต็มธุรกิจของทั้งสองฝ่ายด้วยการผสานความแข็งแกร่ง ศักยภาพ และความพร้อมจากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดี และความประทับใจให้กับผู้บริโภค ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสอันดีที่จะขยายฐานสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ให้ได้มีโอกาสทดลองใช้บริการของควิกเลน และ สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ที่ต่างนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ปัจจุบัน ควิกเลนมีสาขาในประเทศไทยครอบคลุมทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหลัก รวม 16 สาขาพร้อมให้บริการบำรุงรักษารถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ มาตรฐานคุณภาพระดับโลก โดยช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานมากประสบการณ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ครอบคลุมบริการตั้งแต่การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง เปลี่ยนยางรถยนต์ ตรวจซ่อมระบบเบรค โช้คอัพและระบบช่วงล่างจนถึงแบตเตอรี่รถยนต์ และบริการอื่น ๆ รวมกว่า 14 กลุ่ม  

 
Read More

อีซูซุ เปิดศึก “THAI FIGHT 2022” รอบแรก

อีซูซุเปิดศึกมวยไทยโลก “THAI FIGHT 2022” รอบคัดเลือกรอบแรกรับลมหนาว ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์พร้อมแสดงความยินดีกับ “เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม” แชมป์มวยอีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2022 ซึ่งคว้าชัยตามคาด ชนะน็อกนักชกจากอิหร่านในยกที่ 2 นำเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บรรยากาศการแข่งขัน “THAI FIGHT 2022” รอบแรกเนืองแน่นไปด้วยแฟนมวยชาวกรุงเทพ โดยมี คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน THAI FIGHT พร้อมด้วย คุณวิเชฐ ตันติวานิชอุปนายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวเปิดงาน และ มร. ทาคาชิ  ฮาตะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้ร่วมสนับสนุนหลักการแข่งขันฯ นำ “เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม” พร้อมด้วยขุนพลทีมนักชกไทยก้าวสู่สังเวียนเกียรติยศ ร่วมปะทะลีลาแม่ไม้มวยไทยกับนักชกจากนานาประเทศ ทั้งในแบบสวมนวมและแบบคาดเชือกรวม 9 คู่ โดยคู่เด่นเป็นการพบกันของ มหากาฬเมืองร้อยเกาะ “เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม” แชมป์อีซูซุคัพคนล่าสุด และแชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2022 พบกับ “อาลี โกดราติซาราสคาน” จิ้งจอกแห่งเมืองคาราจ นักชกชาวอิหร่าน ทันทีที่ระฆังยกแรกดังขึ้น เพชรธงชัยเดินหน้าลุยปล่อยอาวุธเต็มกำลัง อาศัยจังหวะดีกว่า         ไล่ต้อนรัวลีลาแม่ไม้มวยไทยใส่คู่ต่อสู้จนชนะน็อกไปได้ในยกที่ 2 ส่งผลให้เพชรธงชัย เข้าสู่ THAI FIGHT 2022 รอบรองชนะเลิศเป็นผลสำเร็จ มร.ทาคาชิ  ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับเพชรธงชัยในการคว้าชัยชนะด้วยความสามารถอันโดดเด่น และขอให้พยามพยามอย่างเต็มที่ในรอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศเพื่อที่จะได้เป็นแชมป์ไทยไฟท์ 2022 และเพื่อรักษาถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรติไว้สำหรับคนไทยต่อไป” ผลการแข่งขัน THAI FIGHT 2022 รอบคัดเลือกรอบแรก มีดังนี้ 1. ฟ้าลิขิต ลูกมหาธาตุ (ไทย) ชนะคะแนน โผน สายบุญเพ็ง (สปป.ลาว) 2. น้องโอ ช.ห้าพยัคฆ์ (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 1 ซาจจาด ซูไบนี่ (อิรัก) 3. ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 2 ธันริทีย์ (กัมพูชา) 4. เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 2  อาลี โกดราติซาราสคาน (อิหร่าน) 5. เวโรว.รุจิรวงศ์ (เมียนมา) ชนะน็อกยกที่ 2  มาเรียน่า เบอร์นาเดส (บราซิล) 6. กิตติ ส.ท.แมนนครระยอง (ไทย) ชนะคะแนน เอเมอร์สัน เบนโต้ (บราซิล) 7. ป.ต.ท. ว.รุจิรวงศ์ (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 1 ธันจันตัค (กัมพูชา) 8. เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 1 หลุยส์ เปาโลเทอร์ร่า (บราซิล)          9. แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (ไทย) ชนะคะแนน เหงียนดวน ลอง (เวียดนาม) สำหรับการแข่งขัน “THAI FIGHT 2022” รอบรองชนะเลิศ จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนรอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม ศกนี้ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ  ซึ่งผู้ครองตำแหน่งแชมป์ “THAI FIGHT 2022” จะได้รับรางวัลรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” พร้อมเงินสดรวม 4 ล้านบาท ไปครองอีกด้วย  

 
Read More

MOTO GUZZI V7 PALACE GUCCI มอเตอร์ไซค์ที่สร้างนิยามใหม่ของการเดินทาง

งานสร้างสรรค์จากแบรนด์มอเตอร์ไซค์และแบรนด์แฟชั่นที่เป็นภาพแทนของอิตาเลียนสไตล์สุดคลาสสิคอย่างMoto Guzzi และ Gucci ร่วมด้วย Palace แบรนด์สตรีทแวร์สัญชาติอังกฤษ ทั้งหมดอยู่ในโฉมของมอเตอร์ไซค์ที่ทุกคนตั้งตารอที่สุดของปีนี้ Moto Guzzi V7 ลิมิเต็ดเอดิชั่น   อนึ่ง การปะทะและรังสรรค์อันยอดเยี่ยมระหว่างโลกที่ดูไม่อาจจะเชื่อมโยงกันได้ทั้งสองใบ ด้วยแรงบันดาลใจจากความหลงใหลในวัฒนธรรมสิงห์นักบิดของ Palace เสริมด้วยวิสัยทัศน์สุดล้ำของ Gucci และที่ขาดไม่ได้คือ V7 หนึ่งในรุ่นรถที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Moto Guzzi มาพร้อมดีไซน์ที่เกิดจากการตีความใหม่ของแบรนด์ระดับโลกทั้งสาม Moto Guzzi V7 Gucci Palace จึงเปี่ยมด้วยรายละเอียดอันเฉียบล้ำ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในโลกมอเตอร์ไซค์ นี่คือโปรเจกต์ที่ขับเคลื่อนด้วย Vault แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ Gucci พัฒนาขึ้นเพื่อค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของการสร้างสรรค์ ซึ่งสอดพ้องกับวิสัยทัศน์ของ Moto Guzzi ที่สรรสร้างมอเตอร์ไซค์เพื่ออุทิศแด่จิตวิญญาณอันเป็นอิสระของผู้ขับขี่ ทั้งนี้ พร้อมกับการวางจำหน่ายทางป๊อบ-อัพสโตร์บางแห่ง Moto Guzzi V7 Gucci Palace จะมีวางจำหน่ายแบบออนไลน์เอ็กซ์คลูซีฟผ่านทาง Vault ด้วยเช่นกัน   คอลแลบอเรชั่นที่น่าตื่นตานี้เริ่มต้นจากการสำรวจปรัชญาของแบรนด์ทั้ง 3 ที่มีร่วมกัน ก่อนจะค้นพบเส้นสาย สไตล์และความเฉพาะตัวอันเกิดจากการผสมผสาน ซึ่งปรากฏอยู่ในทุกรายละเอียดของ Moto Guzzi V7 ไม่ว่าจะเป็นลายพรางบนตัวถังรถที่เป็นลายเซ็นของ Palace เบาะหนังสีน้ำตาลเข้มพร้อมลายโมโนแกรมอันคุ้นตาของ Gucci สอดรับกับลวดลายของกระเป๋าเก็บสัมภาระด้านหลังที่มีทั้งลายพรางของ Palace และโมโนแกรมของ Gucci ซ้อนเข้าด้วยกัน รวมถึงโลโก้นกอินทรีของ Moto Guzzi ที่โดดเด่นเป็นสง่ากลางตัวถัง ด้วยคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของมอเตอร์ไซค์ยุค ‘60s และ ‘70s ในดีเอ็นเอของ V7 ซึ่งถูกนำกลับมานำเสนอใหม่ผ่านลวดลายจากแบรนด์แฟชั่นร่วมสมัย ผลลัพธ์คือมอเตอร์ไซค์ที่หรูหรา มาดมั่นพร้อมลุย และคงไว้ซึ่งความคลาสสิคดั้งเดิม นี่คือพาหนะที่มีดีไซน์ข้ามยุคสมัย อันเป็นส่วนผสมของมรดกทางยนตรกรรมอันทรงค่า กับคัลเจอร์อันน่าตื่นตาของคนรุ่นใหม่  

 
Read More
Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed