Year: 2021

อีซูซุร่วมกับลาซาด้ามอบเซอร์ไพรส์ใหญ่ รถ “อีซูซุ เอ็กซ์ – ซีรี่ส์” ให้แก่ผู้โชคดีจากแคมเพจ์น Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ คุณธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) ส่งมอบรถ “อีซูซุ เอ็กซ์ – ซีรี่ส์” รุ่นสปีด แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์ มูลค่า728,000 บาท ให้แก่คุณรจนา แก่นจันทร์ ผู้โชคดีที่ร่วมสนุกทายผลในแคมเพจ์น Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale ณบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ จำกัด สำนักงานใหญ่ โดยเป็นความร่วมมือของอีซูซุผู้นำตลาดรถปิกอัพในประเทศไทยเปิดร้านFlagship Store อย่างเป็นทางการบน LazMall ของลาซาด้า ห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความร่วมมือสุดยิ่งใหญ่ระหว่างวงการอีคอมเมิร์ซและวงการยานยนต์ และนอกจากนี้ยังส่งมอบดีลส่วนลดสุดพิเศษให้นักช้อปกันอย่างต่อเนื่อง นับเป็นการต่อยอดการช้อปวิถี New Normal ให้นักช้อปและคนรักรถไม่พลาดสินค้าและโปรโมชันดีๆ กันอย่างแน่นอน สามารถติดตามดีลสุดพิเศษจาก Isuzu Flagship Store และรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกhttps://www.lazada.co.th/shop/isuzu  

ขอเชิญชวนลูกค้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของ เอ็มจี มาร่วมสนุกกับกิจกรรม “Let’s Goทั่วไทย…ไปได้กับ EV”ดูรายละเอียดการร่วมกิจกรรมได้จากลิงค์ Facebook : https://www.facebook.com/MGcarsThailand/photos/a.601978883203176/4810528105681545  

รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คว้า สุดยอดแบรนด์ทรงพลัง! The Most Powerful Brands of Thailandในสมัยที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่ง ฮอนด้า  ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทย ด้วยการคว้ารางวัล The Most Powerful Brands of Thailand ครั้งที่ 5 จากการประกาศผลโดยภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ อาคารมหาจุฬาลงกรณ์  รางวัล The Most Powerful Brands of Thailand เกิดขึ้นจากผลสำรวจโดยคณาจารย์ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคอายุระหว่าง 18-69 ปี ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองใหญ่ใน 13 จังหวัดทุกภาคทั่วประเทศ รวม 24,000 ตัวอย่าง ซึ่งกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดจะต้องเป็นผู้ซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆด้วยตนเอง เป็นการประเมินแบรนด์ที่มีการวัดพลังความแข็งแกร่งอย่างครบถ้วนทุกมิติ มีความน่าเชื่อถือถูกต้องตามหลักวิชาการ จนได้แบรนด์ที่ทรงพลังที่สุดในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเมืองไทย รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสามารถคว้ารางวัล The Most Powerful Brands of Thailand ได้ตั้งแต่การสำรวจครั้งแรกในปี 2012 และยังคงเดินหน้าคว้ารางวัลมาอย่างต่อเนื่องในปี 2014, 2016, 2018 และล่าสุดในปีนี้ รวม 5 ครั้งติดต่อกัน สะท้อนให้เห็นถึงความสม่ำเสมอในการรักษาคุณภาพและความแข็งแกร่งของแบรนด์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ที่ เว็บไซต์ www.thaihonda.co.th  เฟซบุค fb.com/hondamotorcyclethailand #HondaMotorcycle #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า  #Honda #Whatstopsyou#TheMostPowerfulBrandsofThailand #CBS #CU #แบรนด์ทรงพลัง  

ฟอร์ด เรนเจอร์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ลงสนามนัดปิดฤดูกาล โดย ทีม ฟอร์ด ไทยแลนด์ เรซซิ่งหรือ FTR เตรียมสู้ศึกปิดฤดูกาลการแข่งขันไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2021 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 25 – 26 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ โดยเสริมทัพรถกระบะด้วยการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ หมายเลข 25 รถกระบะคันที่ 2 ของทีมและเป็นครั้งแรกในการส่งรถที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ลงสนามการแข่งขันไทยแลนด์ ซูเปอร์ ปิกอัพ พร้อมส่งรถสปอร์ตระดับตำนาน ฟอร์ดมัสแตง ลงแข่งไทยแลนด์ ซูเปอร์คาร์ จีทีซี ถึง 3 คัน เพื่อตอกย้ำสมรรถนะของรถฟอร์ดด้วยดีเอ็นเอฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ ในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ฟอร์ด เรนเจอร์ หมายเลข 25 เป็นรถกระบะตอนครึ่ง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรคันแรก และเป็นน้องใหม่ของทีม FTR  ประกอบขึ้นโดยใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรแบบเดียวกับที่ติดตั้งในรถกระบะที่ขายดีที่สุดในตลาดของฟอร์ด รถกระบะคันใหม่นี้พัฒนาขึ้นจากความร่วมมือระหว่างวิศวกรฟอร์ดและทีมออโรรา มอเตอร์สปอร์ต โดยมีแจ็ค เลมวาร์ด นักแข่งดาวรุ่งคนใหม่ของทีมเป็นผู้ขับ โดยแจ็คได้มีส่วนร่วมในการปรับแต่งและพัฒนารถให้เหมาะกับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ตั้งแต่การปรับจูนเทอร์โบ ระบบระบายความร้อน ช่วงล่าง ไปจนถึงระบบเบรก โดยมีการปรับแต่งเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฟอร์ด เรนเจอร์ หมายเลข 25 จะลงแข่งในสนามไทยแลนด์ ซูเปอร์ ปิกอัพ พร้อมกับฟอร์ด เรนเจอร์ หมายเลข 3 ที่ขับโดยนักขับฝีมือเยี่ยมขวัญใจคนไทย แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค มร.เคล เคิร์นส ผู้บริหารฟอร์ดและหัวหน้าทีม FTR กล่าวว่า “นับเป็นโอกาสดีที่เราจะได้นำรถฟอร์ด เรนเจอร์หมายเลข 25 ลงสนามเป็นครั้งแรกในปีนี้ ผู้ชมจะได้เห็นฟอร์ด เรนเจอร์ถึง 2 คันในสนามแข่งรถกระบะ และยังจะได้ตื่นตาตื่นใจกับฟอร์ด มัสแตงอีกถึง 3 คัน ตามด้วยอีกหนึ่งเซอร์ไพรซ์ คือรถฟอร์ด มัสแตง 2 ที่นั่ง พร้อมการตกแต่งภายนอกอวดความเป็นฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ ซึ่งจะเป็นรถ Hot Lap สำหรับผู้โชคดีที่จะได้รับเลือกมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษบนสนามแข่ง”  

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มอบเครื่องยนต์ให้แก่แผนกช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี จำนวน 11 เครื่อง ณ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านยานยนต์ วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี เพื่อยกระดับทักษะนักศึกษาอาชีวศึกษาผ่านการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานด้วยเครื่องยนต์จริง ทั้งจากภาคทฤษฏีและปฏิบัติเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ของนักเรียนอาชีวะสาขาเทคนิคเครื่องกลสู่ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) เพื่อเตรียมตัวพัฒนาสู่บุคลากรที่เปี่ยมคุณภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยต่อไป งานนี้ คุณวชิรพงศ์ จินานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมการผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและ คุณธนาวุฒิ ธีรกิติกร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยาการบุคคลและแรงงานสัมพันธ์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะตัวแทนจากบริษัทฯ พร้อมด้วย คุณกันตภณ คุณอมรเลิศ รองกรรมการผู้จัดการ มิตซูชลบุรี ร่วมส่งมอบเครื่องยนต์เพื่อการเรียนรู้จาก บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้กับวิทยาลัยเทคนิคชลบุรี โดยมี คุณนิทัศน์ วีระโพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคชลบุรี และ คุณมาโนช รังสีมณีรัตน์ อาจารย์ประจำแผนกช่างยนต์วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี ร่วมรับมอบเครื่องยนต์เพื่อการเรียนรู้  

บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถบรรทุกและรถบัส แบรนด์ “CP Foton” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยการร่วมทุนระหว่าง บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี กรุ๊ป) และ บริษัท โฟตอน มอเตอร์ จำกัด ผู้นำอันดับ 1 ด้านอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ต่อเนื่องถึง 16 ปีซ้อนจากประเทศจีน โดยได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 2 ปี และได้รับการตอบรับจากตลาดรถเพื่อการพาณิชย์เมืองไทยเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดจำหน่ายเติบโตขึ้นมากกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2563 นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ทำตัวเลขยอดขายทะลุ 300 คันเป็นที่เรียบร้อย คุณกฤษณะ เศรษฐธรางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า “นับตั้งแต่งานฉลองครบรอบ 1 ปี ที่ ซีพี โฟตอน ได้เปิดตัวด้วยผลิตภัณฑ์ยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีระดับโลกเข้าสู่ตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรก ทั้งรถบรรทุกและรถบัส ที่มีจุดเด่นในด้านความแข็งแกร่งที่ไม่เป็นรองคู่แข่งในตลาด ซึ่งถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ของเมืองไทย แม้ในขณะนี้ประเทศของเราจะอยู่ในภาวะวิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปในทุกภาคธุรกิจ แต่เรายังคงได้รับการตอบรับ และความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการในทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อย และหน่วยงานราชการ ส่งผลให้ให้ยอดขายในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่ 2 ที่ซีพี โฟตอน เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตขึ้นมากกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยมีตัวเลขยอดขายทะลุ 300 คันไปแล้วและในปีนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญ ที่ ซีพี โฟตอน จะตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมรถเพื่อการพาณิชย์ ด้วยการเปิดตัวรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV) เป็นเจ้าแรกของเมืองไทย เพื่อเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมขนส่งในเมืองไทย อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้ประกอบการ ด้วยค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ” ทั้งนี้ทาง ซีพี โฟตอน จึงได้ถือโอกาสจัดงาน CP FOTON 2nd Anniversary “EVlution Go Beyond 2022” เพื่อฉลองครบรอบ 2 ปี อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีตัวแทนจำหน่าย 20 แห่ง ทั่วประเทศ ร่วมแสดงความยินดี พร้อมทั้งเปิดตัวรถเพื่อการพาณิชย์พลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมกันถึง 5 รุ่น ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกของเมืองไทยที่นำรถเพื่อการพาณิชย์พลังงานไฟฟ้าเข้ามาเปิดตัว และทำการตลาดอย่างเป็นทางการ โดยรถเพื่อการพาณิชย์พลังงานไฟฟ้า ทั้ง 5 รุ่นของ ซีพี โฟตอน ประกอบด้วย Truck Mate TM iBlue45 รถบรรทุก 4 ล้อ อเนกประสงค์ ไม่ติดเวลา ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจ SME และผู้ประกอบการขนส่งขนาดเล็ก มาพร้อมกับแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 44.9 กิโลวัตต์ วิ่งได้ไกลถึง 275 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ให้กำลังมอเตอร์ขับเคลื่อนสูงสุด 75 กิโลวัตต์ หรือ 100.5 แรงม้า Aumark 4W iBlue85 รถบรรทุก 4 ล้อ ขนาด 5.6 ตัน มาพร้อมกับแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 81.14 กิโลวัตต์ ให้กำลังมอเตอร์ขับเคลื่อนสูงสุดที่ 115 กิโลวัตต์ หรือ 154 แรงม้า วิ่งได้ไกลถึง 220 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เหมาะสำหรับธุรกิจขนส่งในเมือง Aumark 6W iBlue165 รถบรรทุก 6 ล้อ ขนาดกลาง 10.5 ตัน เป็นรถบรรทุกอเนกประสงค์ที่สามารถตอบโจทย์งานขนส่งได้หลากหลาย มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 162.28 กิโลวัตต์ ให้กำลังมอเตอร์ขับเคลื่อนสูงสุดที่ 160 กิโลวัตต์หรือ 214.5 แรงม้า วิ่งได้ไกลถึง 220 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง Aumark 6W iBlue220 รถบรรทุก 6 ล้อ ขนาดกลาง 12.5 ตัน ตอบโจทย์เหมาะสุดกับงานราชการ เช่น รถสุขาภิบาล รถกระเช้าซ่อมบำรุงหรือ รถกวาดดูดฝุ่น และอื่นๆ ด้วยขนาดแชสซีที่ยาวกว่า สามารถรองรับสมรรถนะการบรรทุกที่สูงกว่า พร้อมแบตเตอรี่ ขนาดความจุสูงถึง 217.2 กิโลวัตต์ วิ่งได้ 200 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง Auman EST iBlue280 รถบรรทุก 10 ล้อ หัวลาก ขนาดใหญ่ น้ำหนักบรรทุก รวมน้ำหนักลากจูง 49 ตัน เหมาะสำหรับงานขนส่งตู้สินค้าขนาดใหญ่ มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 282 กิโลวัตต์ ให้กำลังมอเตอร์ขับเคลื่อนสูงถึง 360 กิโลวัตต์ หรือ 482 แรงม้า รับงานลากจูงได้ไกลกว่า 200 กม.  

‘Movember Bull Run’ระดมทุนเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนด้านสุขภาพของสุภาพบุรุษทั่วโลก ภาพลักษณ์ของสุภาพบุรุษทั่วโลกที่ดูแข็งแกร่ง ร่างกายกำยำ อีกมุมหนึ่งก็จะมีผู้ชายทั่วโลกที่ประสบปัญหาความเครียด กดดัน ซึมเศร้า หรือเป็นโรคอันตรายต่างๆ ทางลัมโบร์กินีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาเหล่านี้ จึงได้จับมือกับมูลนิธิ Movember เพื่อระดมทุนและสร้างการรับรู้ผ่านกิจกรรม Bull Run ของลัมโบร์กินี โดยใช้ชื่อว่า ‘Movember Bull Run’ ที่มีผู้จำหน่ายLamborghini ในประเทศต่างๆ จัดขึ้นพร้อมกันครั้งแรกทั่วโลก มร.ฟรานเชสโก้ สคาร์ดาโอนี่ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “ลัมโบร์กินียินดีที่จะเข้าร่วมโครงการ Movember ในระดับภูมิภาคทั่วโลก ด้วยความแข็งแกร่งของสมาชิก Lamborghini Club ทั่วโลก ที่ร่วมตระหนักถึงความสำคัญทางด้านปัญหาสุขภาพของผู้ชาย ทำให้กิจกรรมครั้งนี้ได้รับการตอบอย่างดีจากลัมโบร์กินีทั่วโลก” สำหรับ Movember Bull Run ในประเทศไทย ได้รับการตอบรับจากสมาชิก Lamborghini Club Thailand จำนวน 20 คัน ขบวนซูเปอร์สปอร์ตคาร์ถูกตกแต่งรถด้วยสติกเกอร์รูปหนวด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการขับเคลื่อนกิจกรรมร่วมกัน เพื่อเผยแพร่ความสำคัญในการตระหนักถึงปัญหาสุขภาพของผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพจิต การป้องกันการฆ่าตัวตายโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งอัณฑะ ซึ่งจัดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบปี ออกเดินทางจากโชว์รูม Lamborghini Bangkok ถ.วิภาวดีรังสิต สู่ DuBua (ดูบัวคาเฟ่) จ.นครปฐม สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีคาเฟ่ ร้านอาหาร ฟาร์มสัตว์ โดยสมาชิกLamborghini Club Thailand ได้ร่วมรับประทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศวิวทิวทัศน์ที่ถูกรายล้อมด้วยสระบัวขนาดใหญ่และมีสีสันสวยงาม ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผ่านทางเว็บไซต์ www.movember.com  นอกจากนี้ ยังมีการประมูลภาพวาดกราฟฟิตี้โดยศิลปินชื่อดังชาวไทยอย่าง BigDel เพื่อนำรายได้ทั้งหมดไปบริจาคให้กับ Movember องค์กรการกุศลชั้นนำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงทางด้านการดูแลสุขภาพของผู้ชายระดับโลก คุณอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “กลุ่ม Community ของ Lamborghini Club ในประเทศไทยมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทุกครั้งที่ทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน จะมีการร่วมสร้างประโยชน์ แบ่งปันความสุขให้แก่สังคมอยู่เสมอสำหรับกิจกรรม Movember Bull Run เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ตอกย้ำความเป็นตัวตนของ Lamborghini Club Thailand ต้องขอขอบคุณสมาชิก LCT ทุกท่านที่ให้ความสำคัญ แสดงถึงพลังขับเคลื่อนการผลักดันการแก้ปัญหาด้านสุขภาพของผู้ชายระดับโลก โดยประเทศไทยมีสมาชิก LCT ที่ร่วมบริจาคเงิน รวมถึงผู้ประมูล พร้อมเงินสมทบทุนจากเรนาสโซมอเตอร์ ร่วมระดมทุนในกิจกรรม Movember Bull Run เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 550,012 บาท”  

บริดจสโตน และค็อกพิท จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษส่งท้ายปี ในแคมเปญ “โปรโค้ดดี ได้ยางฟรี” ทุกวัน จัดเต็มแทนคำขอบคุณเพื่อลูกค้าบริดจสโตน และค็อกพิทโดยเฉพาะ เพียงลงทะเบียนผ่านhttps://bridgestonespecialcampaign.cockpit.co.th หรือแอดไลน์ @BridgestoneTH หรือ @Cockpit โดยสามารถเก็บโค้ดตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 25 ธันวาคม 2564 รับยางฟรียางบริดจสโตนยกชุด หรือรับส่วนลดยาง 1,000 บาท แจกหนักแจกจริงทุกวัน   ส่งท้ายปลายปี กับโปรโมชั่นดีๆ เพื่อคุณลูกค้าคนสำคัญ บริดจสโตน และ ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรค็อกพิท จัดโปรโมชั่นพิเศษครั้งใหญ่ส่งท้ายปี ในแคมเปญ “โปรโค้ดดี ได้ยางฟรี” เก็บโค้ดเพื่อรับยางฟรีได้ทุกวัน เพียงลงทะเบียนผ่านเว็ปไซต์ https://bridgestonespecialcampaign.cockpit.co.th หรือแอด Line Official Account ที่ @BridgestoneTH หรือ@Cockpit แล้วกดรับโค้ด เพื่อรับ โค้ดยางฟรียกชุด รับฟรียางรถยนต์บริดจสโตน 4 เส้น ทุกวัน โดยจะเปิดให้กดรับสิทธิ์ วันละ 1 สิทธิ์ จำนวน 55 สิทธิ์ ตามเวลาที่บริษัทกำหนดในแต่ละวันที่ปรากฎบนระบบ หรือ โค้ดส่วนลดยางมูลค่า 1,000 บาท*สำหรับการซื้อยางรถยนต์บริดจสโตน 4 เส้น จำนวน 12,000 สิทธิ์ เริ่มรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 25 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่าจะครบจำนวนสิทธิ์ที่กำหนด ทั้งนี้หลังจากได้รับ SMS ยืนยันโค้ดยางฟรี หรือโค้ดส่วนลด ต้องใช้สิทธิ์ดังกล่าวภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับ SMS หรือ ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2564 (ยึดตามเงื่อนไขที่ถึงก่อน) โดยแสดงบัตรประชาชนพร้อม SMS ที่ได้รับต่อพนักงาน ณ ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรค็อกพิท (COCKPIT) และ เอ.ซี.ที (A.C.T) ทุกสาขา สำหรับรายละเอียด และเงื่อนไขต่าง ๆ ของแคมเปญ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่www.facebook.com/BridgestoneTH/ หรือสอบถามได้ที่ Call Center โทร 02-636-1555 ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรค็อกพิท(COCKPIT) และ เอ.ซี.ที (A.C.T) ทั่วประเทศ  

เอช เซม รองรับจำนวนผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้วยเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้ใช้  บิ๊กบอส วันชัย สั่งเดินหน้าติดตั้งสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ กระจายให้ครอบคลุมทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ประเดิมที่โชว์รูมบางนาและอีก 34 จุดภายในสิ้นปีนี้ คุณวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากไรเดอร์ได้ทราบถึงประสิทธิภาพ ความสะดวก และความประหยัดและคุ่มค่าของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซม ทำให้ยอดผู้เช่าใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับจำนวนการใช้งานได้อย่างไม่จำกัด เอช เซม วางแผนติดตั้งสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือ H SEM POWER STATION ไปตามสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ธนาคาร และสาขาต่างๆ ของเอชเซม  คาดว่าจะติดตั้งได้ 34 สถานี ภายในธันวาคม 2564 นี้”     H SEM POWER STATION หรือ สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ นวัตกรรมอัจฉริยะสามารถระบุตัวตนด้วยคลื่นวิทยุ หรือRFID ออกแบบให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ด้วยตนเอง สะดวก รวดเร็ว เพียง 3 ขั้นตอน แค่ 3 นาที เริ่มจาก แตะบัตร Smart Card Battery Charger เพื่อเริ่มต้นใช้งาน หลังจากนั้นนำแบตเตอรี่ลูกที่หมดใส่ไปในช่องที่เปิด เสียบขั้วให้แน่นและปิดตู้ให้สนิท ระบบจะประมวลผลเปิดช่องแบตเตอรี่ที่มีปริมาณมากที่สุดให้ผู้ใช้นำไปใช้ขับขี่ได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด นอกจากนั้นระบบยังทำงานเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น H SEM MOVE ผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะแสดงพิกัดที่ตั้งทั้งหมดของสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ แสดงจำนวนแบตเตอรี่ที่พร้อมใช้งาน และแสดงประวัติการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของผู้ใช้งานให้อีกด้วย“ล่าสุด H SEM POWER STATION ณ เอช เซม สาขาบางนา ได้เริ่มเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเป็นจุดแรกด้วยสถานีที่มีตู้เปลี่ยนแบตเตอรี่มากถึง 3 ตู้ มีแบตเตอรี่หมุนเวียนมากกว่า 33 ลูก สามารถรองรับการใช้งานได้มากกว่า 100 คันต่อวัน เอช เซม ยังคงเดินหน้าพัฒนาศักยภาพการบริการเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 099-001-1888 ระหว่างวันจันทร์ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.