ความสามัคคี คือ พลัง เกมส์ดวลฝุ่นตลบถึงแมตช์ชี้ชะตา เอพี ฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี ปีที่ 14 โรงเรียนบ้านยานิง ทีมA จังหวัดนราธิวาส ปาดหน้าเสี้ยววินาที ผงาดคว้าแชมป์ประเทศไทยพร้อมครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ สยามบรมราชกุมารี
ดร.พีระ รัตนวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานเปิดการแข่งขันศึกประชันฝีเท้า “สพฐ.- เอ.พี. ฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี ปีที่ 14″ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รอบชิงแชมป์ประเทศไทย โดยมี พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย, ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และคณะผู้บริหารจากบริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ตลอดจนตัวแทนจากร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ร่วมรับชมการแข่งขันอย่างใกล้ชิด ณ สนามฟุตบอล 1 การกีฬาแห่งประเทศไทย
ดร.พีระ รัตนวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า “ในนามของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความยินดีและเป็นเกียรติยิ่งที่ได้ร่วมกับทาง บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ที่ตระหนักและมองเห็นความสำคัญของเยาวชน ในการขับเคลื่อนโครงการเพื่อเยาวชน โดยการจัดการแข่งขัน สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี จัดขึ้นในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องถึง 14 ปี ซึ่งวัตถุประสงค์ของการแข่งขัน วิ่ง 31 ขาสามัคคีนี้ มีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ สพฐ. ที่จะมุ่งมั่น “สร้างคุณภาพทุนมนุษย์ สู่สังคมอนาคตที่ยั่งยืน เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนทางด้านกีฬา การอดทน รู้แพ้ รู้ชนะ และที่สำคัญยังช่วยหล่อหลอมความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่เยาวชนได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียนที่จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตต่อไป”
พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในนามของการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “มีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมกับ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และ สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) รวมถึงภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ในการจัดกิจกรรม “สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี” ที่เน้นการสร้างรากฐานให้กับเยาวชนผู้ที่จะพัฒนาประเทศในอนาคตให้เป็นปึกแผ่น มั่นคง โดยการส่งเสริมพัฒนาการ ความสามารถทางการกีฬา รวมถึงการเรียนรู้การทำงานเป็นทีม สร้าง “พลังความสามัคคี” และเสริมสร้างภาวะความเป็นผู้นำให้กับเยาวชนผ่านการฝึกซ้อมและแข่งขัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรากฐานสำคัญของการเป็นนักกีฬาอาชีพ และเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อเยาวชนไทยผู้ที่จะพัฒนาประเทศให้เป็นปึกแผ่น มั่นคง และยั่งยืนสืบต่อไปในอนาคต