ในรายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดย “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ยอดนักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม คว้าแชมป์ 2 เรซสุดท้าย พร้อมผงาดบัลลังก์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ฤดูกาล 2018
ไม่น่าเชื่อว่าการทวงความเป็นหนึ่งของทวีปเอเชียกลับสู่คนไทยได้อีกครั้ง หลังจบเรซสุดมันส์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา นับเป็น 8 ปีแห่งการรอคอย! “นักบิดไทย” ขึ้นเบอร์หนึ่งเอเชีย “รัฐพงษ์” เบิ้ลแชมป์ผงาดบัลลังก์ซูเปอร์สปอร์ต ซึ่ง“นักบิดไทย” รายนี้ ทวงความยิ่งใหญ่ในมอเตอร์สปอร์ตเอเชียมาได้สำเร็จ
“โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม สร้างผลงานสุดยิ่งใหญ่เบิ้ลแชมป์ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. จากรายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามสุดท้าย ผงาดคว้าแชมป์เอเชียคลาสสูงสุดในรอบ 8 ปี หลังจบการแข่งขันสนามสุดท้ายอย่างสุดมันส์ ที่ สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ โดยการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประจำทวีปรายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 เดินทางมาถึงสนามสุดท้ายของปี ไฮไลต์ของเรซนี้อยู่ที่การแข่งขันเรซสุดท้ายของรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ซึ่งนับเป็นเรซตัดสินแชมป์เอเชียในฤดูกาล 2018 มีขึ้นในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีนักบิดไทยอย่าง “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ที่ต้องคว้าแชมป์ในเรซสุดท้ายเพื่อแซง แอนโธนี เวสต์ จ่าฝูงชาวออสเตรเลียนซึ่งโดนแบนห้ามลงแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม เรซสุดท้ายของ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ดวลความเร็วทั้งสิ้น 18 รอบสนาม โดย รัฐพงษ์ ได้ออกสตาร์ทจากโพลเช่นเคย ขนาบข้างด้วยทีมเมทอย่าง “ตั้น” เดชา ไกรศาสตร์ ในกริดที่ 2 ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เขมินท์ คูโบะ นักบิดดาวรุ่งลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นจาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง ทีม เอเชียน ออกสตาร์ทเรซด้วยการขึ้นนำของ เดชา ที่ทำผลงานในสนามสุดท้ายได้อย่างยอดเยี่ยม ตามด้วย รัฐพงษ์ ในอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 ในช่วงแรกของเรซเป็นการขับเคี่ยวระหว่าง เขมินท์ นักบิดดาวรุ่งชาวไทย และ อาหมัด ยูทิสทิร่า นักบิดอินโดนีเซียนจาก แมนวล เทค เควายที คาวาซากิ เรซซิ่ง เต็งแชมป์อีกคนที่ต้องการชัยชนะในเรซนี้เช่นกัน และจากฟอร์มที่เหนือกว่าคู่แข่งทำให้ คู่หูยามาฮ่าอย่าง เดชา และ รัฐพงษ์ ฉีกหนีคู่แข่งออกไปกว่า 5 วินาทีในช่วงครึ่งทางการแข่งขัน ขณะที่ เขมินท์ ที่ไล่บดกับ ยูทิสทิร่า พลาดล้มอย่างน่าเสียดาย จากนั้นในรอบที่ 9 รัฐพงษ์ ขยับแซง เดชา ขึ้นเป็นผู้นำได้สำเร็จ ก่อนจะบิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 30 นาที 0.360 วินาที คว้าแชมป์ 2 เรซสุดท้ายไปครองอย่างยิ่งใหญ่ เหนือทีมเมทอย่าง เดชา เพียง 0.341 วินาที ส่วน ยูทิสทิร่า จบเรซอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 2.972 วินาที ส่วนนักบิดไทยรายอื่นๆ ก็ทำผลงานได้ไม่เลว ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เข้าป้ายในอันดับ 10 ด้าน สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ และ วริทธิ์ ทองนพคุณ จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ไม่จบการแข่งขัน
อนึ่ง หลังจากคว้าชัยชนะ 2 เรซสุดท้ายที่ บุรีรัมย์ ส่งผลให้ รัฐพงษ์ ขยับขึ้นเป็นจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ พร้อมผงาดคว้าแชมป์เอเชียในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ฤดูกาล 2018 ได้อย่างยิ่งใหญ่ นับเป็นการทวงแชมป์ในคลาสสูงสุดของ เอเชีย โรด เรซซิ่ง กลับมาสู่ทีมแข่งไทยได้อีกครั้งในรอบ 8 ปี โดยมีทั้งสิ้น 141 คะแนน เหนือ เวสต์ อันดับ 2 อยู่ 5 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ยูทิสทิร่า ตามหลังแชมป์ 10 คะแนน
ด้านผลการแข่งขันในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. เรซที่ 2 แชมป์ตกเป็นของ อาห์วิน ซานจาย่า นักบิดอินโดนีเซียนจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ตามด้วย แอนดี้ มูฮัมหมัด ฟาดลี นักบิดอินโดนีเซียน จาก แมนวล เทค เควายที คาวาซากิ เรซซิ่ง ตามหลังแชมป์ 0.064 วินาที ส่วน กฤชพร แก้วสนธิ นักบิดไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ขยับแซงคู่แข่ง 3 อันดับในโค้งสุดท้าย ทะยานขึ้นโพเดี้ยมส่งท้ายปี ตามหลังแชมป์เพียง 0.151 วินาที ขณะที่อันดับ 4 เป็นของ อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 0.169 วินาที ตามด้วย พีรพงศ์ บุญเลิศ ทีมเมทในอันดับ 6 ตามหลังแชมป์ 0.528 วินาที ด้าน คณาฑัต ใจมั่น ทีมเมทอีกคนจบการแข่งขันในอันดับ 10 ตามด้วยดาวรุ่งจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อย่าง ปิยะวัฒน์ ปทุมยศ ที่ลงแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ด จบเรซในอันดับ 11
ในที่สุด รายการแข่งขัน เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาล 2018 จบสิ้นลงแล้ว ในปี 2019 จะดวลความเร็วทั้งสิ้น 7 สนาม ออกสตาร์ทฤดูกาลที่ประเทศมาเลเซียในวันที่ 8-10 มีนาคม 2019 โดย สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ จะรับหน้าที่เป็นสังเวียนแข่งขันในสนามที่ 3 ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายน 2019 และสนามสุดท้ายในวันที่ 29 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2019