รายการ Idemitsu Super Turbo Thailand 2019 # 3-4

ชื่อบอกอยู่แล้ว Idemitsu Super Turbo Thailand รถแข่งรุ่น เทอร์โบ จึงเป็นพระเอกสำคัญ โดยเฉพาะการเริ่มต้นด้วยการรายงานข่าวในรุ่น Super Turbo THA  และ Super Turbo Division 1 ซึ่งรุ่น THA ก็เป็นการนำเอารุ่น โรดมาสเตอร์ มารวมกันนั่นเอง

                นอกจากรายการ Idemitsu Super Turbo Thailand ในปี 2019 นี้จะมีรุ่นแข่งปกติภายในประเทศแล้ว รายการแข่งขันอย่าง TCSA กับ HK MINI CHALLENGE เป็นรายการแข่งระดับเอเชียก็เข้ามาร่วมแจมแข่งขันกันในรายการนี้ SUPER TURBO THAILAND สนามที่ 3 นี้ต้องบอกว่า ระยะทางรอบสนามเกือบ 5 กิโลเมตรนี้ วีรกาจ ดอกจันทร์ จาก WORLD PUMPS RACING TEAM ภายใต้รถแข่ง MITSUBISHI EVO 9 ขนาบข้างด้วย เฉิน เจี้ยน หงส์ จาก H.DRIVE RACING TEAM ในรถแข่ง SEAT LEON ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ K-SPORT K1 RACING TEAM ด้วยรถแข่ง MITSUBISHI EVO VI

เกมในเรซนี้ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดตั้งแต่ออกสตาร์ท โดยมีรถแข่งต้องออกจากการแข่งขันถึง 7 คัน ขณะที่แชมป์ไม่มีอะไรพลิกผัน เมื่อ วีรกาจ ควบรถแข่ง MITSUBISHI EVO 9 ออกตัวได้ยอดเยี่ยม นำโด่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 13.998 วินาที ทิ้งห่าง อันดับ 2 อย่าง เฉิน เจี้ยน หงส์ ถึง 29.465 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ กรรณ สุนทรศร จาก ENI OIL JK RACING & K1 RACING TEAM ตามด้วย ธนบัติ มาสนันท์ จาก BOONYA COCKPIT RACING TEAM ในอันดับ 4 ขณะที่อันดับ 5 เป็นของ ทนงค์ บุญจันทร์ จาก ROLLING MONKEY BY NOI SAIMAI

Super Turbo THA + Super Turbo D1 สนามที่ 4 ในวันถัดมา นับเป็นการแข่งขันคลาสสูงสุดของรายการ Idemitsu Super Turbo Thailand 2019 ขณะเดียวกันยังถือเป็นไฮไลต์สำคัญที่มีแฟนๆ ติดตามเป็นจำนวนมาก จากรถแข่งซูเปอร์คาร์เทอร์โบที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากอดีตถึงปัจจุบัน ในสนามที่ 4 มีรถแข่งเข้าร่วมการแข่งขันถึง 22 คัน ตำแหน่งโพลโพซิชั่นในเรซนี้เป็นของ วีรกาจ ดอกจันทร์ จาก WORLD PUMPS RACING TEAM ภายใต้รถแข่ง MITSUBISHI EVO 9 ขนาบข้างด้วย เฉิน เจี้ยน หงส์ จาก H.DRIVE RACING TEAM ในรถแข่ง SEAT LEON ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ธนณัฎฐ์ ยังสำราญชัย จาก MENG HEADER-TUNED BY EAK-AUTO ART & 115 POWER HAUS โดยแชมป์เป็นของ วีรกาจ ที่ออกนำแบบม้วนเดียวจบ เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 38.317 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง เฉิน เจี้ยน หงส์ 4.758 วินาที ตามด้วย สุเมธ รุ่งรัตนพันธ์ จาก WAKO’S TEAM THAILAND ตามหลังแชมป์ 6.448 วินาที ขณะที่อันดับ 4 ของเรซนี้เป็นของ ชยกร สาตศิลป์ จาก PROSTREET RZ RACING EVO SHOP THAILAND DDC RACING TEAM ตามหลังแชมป์ 24.918 วินาที ตามด้วย ธนณัฎฐ์ ยังสำราญชัย จาก MENG HEADER-TUNED BY EAK-AUTO ART & 115 POWER HAUS ที่จบเรซในอันดับ 5 ตามหลังแชมป์ 25.223 วินาที

DIVISION 2 & 3

มาถึงรุ่น ซูเปอร์ เทอร์โบ รุ่น D2 และรุ่น D3 สนามที่ 3 เป็นการแข่งขันในรุ่น Super Turbo D2 และ Super Turbo D3 ที่เร้าใจเป็นอย่างมาก ตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของ มั่นคง เสถียรถิระกุล จาก สิทธิผล กรุ๊ป – KI SUGAR ขนาบข้างด้วยทีมเมทซึ่งเป็นนักขับชั้นครูอย่าง เอกประวัติ เพชรรักษ์ ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ นักขับมากประสบการณ์อย่าง ขจรศักดิ์ ณ สงขลา จาก PTT PERFORMA – V.C.MEAT – RPM – COSMIS

เกมในเรซนี้ไม่มีความพลิกผันสำหรับตำแหน่งแชมป์ เมื่อ มั่นคง ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ออกนำม้วนเดียวจบตั้งแต่รอบด้วย ด้วยเวลา 20 นาที 13.998 วินาที คว้าชัยชนะโอเวอร์ออล์ และ D2 สนามที่ 3 ไปครองแบบหายห่วง ทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 27.548 วินาที ส่วนความเข้มข้นอยู่ที่กันลุ้นอันดับ 2 ระหว่าง ขจรศักดิ์ และ มาวิน บุญอิต นักขับดาวรุ่งจาก STAR PERFORMANCE โดยทั้งคู่ต้องมาตัดสินอันดับ 2 กันถึงรอบสุดท้าย ปรากฏว่า มาวิน ที่เอาชนะไปได้คว้าอันดับ 2 ไปครอง หลังเฉือน ขจรศักดิ์ หน้าเส้นชัยเพียง 0.129 วินาที

แต่ถามว่า แชมป์ในคลาส D3 ตกเป็นของ ภัทรพล กรเวช จาก WAXONE RACING PROJECT เข้าป้ายเป็นคันแรกเหนืออันดับ 2 อย่าง ชินวิช รมยานนท์ จาก MUAYTHAI 101 & STREET NUMBER 9 ถึง 6.792 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ธีระศักดิ์ ศักดิ์แพทย์ จาก MENG HEADER-TUNED BY EAK-AUTO ART & 115 POWER HAUS ตามหลังแชมป์ร่วม 18 วินาที

พอถัดมาในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2562 “เทอร์โบ” มั่นคง เสถียรถิระกุล ยอดนักขับไทยจาก สิทธิผล กรุ๊ป – KI SUGAR สร้างผลงานร้อนแรงต่อเนื่องเหมาแชมป์ Super Turbo D2 สองสนามติดต่อกันที่ บุรีรัมย์ ขณะ ภัทรพล กรเวช จาก WAXONE RACING PROJECT เบิ้ลแชมป์ Super Turbo D3 โดยมีรถแข่งรวมกันแล้วทั้งสิ้น 31 คัน

ตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของ มั่นคง เสถียรถิระกุล จาก สิทธิผล กรุ๊ป – KI SUGAR ขนาบข้างด้วยนักขับมากประสบการณ์อย่าง ขจรศักดิ์ ณ สงขลา จาก PTT PERFORMA – V.C.MEAT – RPM – COSMIS ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของนักขับดาวโรจน์อย่าง มาวิน บุญอิต จาก STAR PERFORMANCE เกมในเรซนี้ ยังคงเป็น มั่นคง ที่ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม และรักษาความได้เปรียบในตำแหน่งหัวแถวได้อย่างเหนียวแน่นอีกครั้ง ก่อนจะนำม้วนเดียวจบ เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 28.061 วินาที คว้าแชมป์ในคลาส Super Turbo D2 ไปครอง 2 เรซติดต่อกันที่ สนามช้างฯ ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักขับชั้นครูอย่าง เอกประวัติ เพชรรักษ์ จาก สิทธิผล กรุ๊ป – KI SUGAR แม้จะมีปัญหาในรอบควอลิฟาย โดยได้ออกสตาร์mจจากกริดที่ 4 แต่ยังอาศัยประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม เบียดขึ้นมาคว้าอันดับ 2 ได้สำเร็จ ตามหลังแชมป์ 5.090 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นการขับเคี่ยวระหว่าง ขจรศักดิ์ และ มาวิน ที่ไล่บี้กันอย่างหนักตลอดทั้งเรซ โดยท้ายที่สุดเป็น ขรศักดิ์ ที่เข้าป้ายในอันดับ 3 เฉือน มาวิน ในอันดับ 4 เพียง 0.095 วินาที

ด้านแชมป์ในคลาส D3 ตกเป็นของ ภัทรพล กรเวช จาก WAXONE RACING PROJECT เข้าป้ายเป็นคันแรก ด้วยเวลา 21 นาที 38.676 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง เศรษฐศิษฐ์ บุณยเกียรติ จาก วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต ตามหลังแชมป์ 2.972 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ภิษณุ ภูษิตานนธกูร ตามหลังแชมป์ 3.389 วินาที

DIVISION 4

หากจะว่าถึง SUPER TURBO D4 เป็นรุ่นที่สนุกมาก ถึงจะดวลความเร็วทั้งสิ้น 10 รอบสนาม จากรถเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 21 คัน แต่สนาม 3 วันเสาร์ก็สุดมันส์

โดยตำแแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของ อวิโรธน์ ศิรินทร์วรชัย จาก WAXONE RACING PROJECT ขนาบข้างด้วย สรรพร เชาวน์ชวานิล จาก STAR PERFORMANCE ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ จาก BILLIONAIRE BOY RACING เกมในเรซนี้เป็น อนุสรณ์ ที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ออกนำได้ตั้งแต่ช่วงแรกของเรซ ก่อนจะเริ่มทิ้งห่างคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง และควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคนแรกด้วยเวลา 20 นาที 4.447 วินาที คว้าแชมป์ไปครองได้แบบหายห่วง โดยทิ้งห่าง รอมเมลล์ ซิงห์ จาก Star Performance ถึง 7.692 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ อวิโรธน์ เจ้าของโพล ตามหลังแชมป์ 19.535 วินาที ขณะที่อันดับ 4 ตกเป็นของ ธนาสิทธิ์ ปัญญาทรานนท์ จาก Tein Team Thailand ตามหลังแชมป์ 23.099 วินาที ส่วนอันดับ 5 ได้แก่ เดชสิริ นิลประดับ จาก ร่มไม้ริมนา By MRA RACING TEAM

สำหรับการแข่งขันในคลาส Super Turbo D4 สนามที่ 4 ในวันอาทิตย์นั้น ตำแแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของ อวิโรธน์ ศิรินทร์วรชัย จาก WAXONE RACING PROJECT ขนาบข้างด้วย สรรพร เชาวน์ชวานิล จาก STAR PERFORMANCE ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อนุสรณ์ อาศิรเลิศสิริ จาก BILLIONAIRE BOY RACING ออกสตาร์ทเรซนี้ด้วยการขยับขึ้นนำอย่างรวดเร็วของ อวิโรธน์ ที่อกหักจากสนาม 3 ก่อนจะกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้งในสนามที่ 4 ออกนำแบบม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ Super Turbo D4 ไปครองได้อย่างหายห่วง ด้วยเวลา 19 นาที 52.897 วินาที ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง อนุสรณ์ ถึง 10.577 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ รอมเมลล์ ซิงห์ จาก Star Performance ตามหลังแชมป์ 11.705 วินาที ขณะที่อันดับ 4 ในเรซนี้ตกเป็นของ เดชสิริ นิลประดับ จาก ร่มไม้ริมนา By MRA RACING TEAM ตามหลังแชมป์ 22.247 วินาที ตามด้วย อัชริฌา แก้วตาสาม อันดับ 5 นักขับสาวจาก WAXONE RACING PROJECT ตามหลังแชมป์ 30.809 วินาที

รุ่น JAPAN 20+

                รุ่น เจแปน ทเวนตี้ พลัส เป็นการนำเอารถญี่ปุ่นอายุการใช้งานตั้งแต่ 20 ปี หรือแก่กว่านั้น มาโมดิฟาย เพื่อลงแข่งขันกันในรุ่นนี้ JAPAN20+ สนาม 3 นี้ จิรานุวัฒน์ จุลวัจนะ จาก CAR – aะ – HOLIC สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับการแข่งขัน Idemitsu Super Turbo Thailand หลังพลิกสถานการณ์ไล่แซงคู่แข่ง 4 คันรวกจากกริดที่ 5 ขึ้นมาผงาดแชมป์ในคลาส Japan20+ สนาม 3 ไปครองอย่างสุดมันส์

การแข่งขันในรุ่น Japan 20+ สนามที่ 3 ดวลความเร็วทั้งสิ้น 10 รอบสนาม โดยตำแแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของ ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล จาก ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง รามอินทราเทอร์โบ ขนาบข้างด้วย อริยพล จิรโอฬารนนท์ จาก WAXONE RACING PROJECT ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของจอมเก๋าอย่าง หทัย ไชยวัณณ์ จาก Singha Elf น้ำตาลบุรีรัมย์

ภายใต้ความดุเดือด เพียงรอบแรกของการแข่งขันก็มีรถต้องออกจากเรซถึง 3 คันได้แก่ จักรพันธ์ ภัทรธาดาพงษ์ จาก SUPERCLUB RACING, พิศาล สาสะกุล จาก TKS MOTORSPORT และ จตุรงค์ อุดมสิทธิกุล จาก JACK SPEED GARAGE ก่อนที่ หทัย จะรถพังและต้องออกจากเรซในรอบที่ 5 อย่างน่าเสียดาย จากเกมที่มีจุดเปลี่ยนมากมาย ปรากฏว่าแชมป์โอเวอร์ออล์ และ Twin Cam AM+JNRในเรซนี้ตกเป็นของ จิรานุวัฒน์ จุลวัจนะ จาก CAR – aะ – HOLIC ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 23 นาที 30.00 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง สุวิทย์ คำจีน จาก SK ZIC RACING TEAM THAILAND ถึง 6.602 วินาที ตามด้วย อริยพล ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 8.885 วินาที ขณะที่แชมป์ในรุ่น Single Cam ตกเป็นของ ธนาเศรษฐ์ พูนเกียรติธนภาค จาก SUPERCLUB RACING โดยมี ธนเทพ พู่ประเสริฐศักดิ์ จาก SINGHA TT MOTORSPORT เป็นอันดับ 2 ตามด้วยทีมเมทอย่าง ฟรานซิสโก แอนโตนิโอ คาตาเนีย ในอันดับ 3

ตำแแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของ ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล จาก ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง รามอินทราเทอร์โบ ขนาบข้างด้วย จิรัฐิ เศวตศิลา จาก STAR PERFORMANCE ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อริยพล จิรโอฬารนนท์ จาก WAXONE RACING PROJECT

การแข่งขันในรุ่น Japan 20+ สนามที่ 4 ดวลความเร็วทั้งสิ้น 10 รอบสนาม โดยตำแแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของ ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล จาก ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง รามอินทราเทอร์โบ ขนาบข้างด้วย จิรัฐิ เศวตศิลา จาก STAR PERFORMANCE ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อริยพล จิรโอฬารนนท์ จาก WAXONE RACING PROJECT ออกสตาร์ทเรซนี้ด้วยการขึ้นนำอย่างรวดเร็วของ ณัฐพงษ์ ที่ได้ออกตัวจากโพล ก่อนที่ อริยพล จะตามขึ้นมาไล่บี้ในอันดับ 2 อย่างสุดมันส์ โดยทั้งคู่มีจังหวะเสียบแซงกันหลายครั้งตลอดทั้งเรซ จบการแข่งขัน 10 รอบสนาม เป็น ณัฐพงษ์ ที่ควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 18 นาที 43.142 วินาที คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสุดมันส์ เฉือนอันดับ 2 อย่าง อริยพล เพียง 0.978 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ จอมเก๋าอย่าง หทัย ไชยวัณณ์ จาก SINGHA ELF น้ำตาลบุรีรัมย์ ตามหลังแชมป์ 39.028 วินาที ตามด้วย จิรัฐิ ในอันดับ 4 ตามหลังแชมป์ 42.584 วินาที ขณะที่อันดับ 5 ตกเป็นของ สุวิทย์ คำจีน จาก SK ZIC RACING TEAM THAILAND ตามหลังแชมป์ 45.231 วินาที

LADY CUP

รุ่น LADY CUP แพรวพรรณ ธรรมลาภา ยอดนักขับสาวไทยจอมดุดันจาก Elf Singha Racing Team สร้างผลงานยอดเยี่ยมก่อนโชว์ฟอร์มร้อนแรงผงาดคว้าแชมป์ Idemitsu Super Turbo Thailand 2019 สนามที่ 3 ในคลาส Lady Cup

เกมในรุ่น Lady Cup ดวลความเร็ววันเสาร์ ชิงชัยกันทั้งสิ้น 8 รอบสนาม โดยตำแหน่งโพลโพซิชั่นในเรซนี้เป็นของนักขับสาวจอมดุอย่าง แพรวพรรณ ธรรมลาภา จาก Elf Singha Racing Team ขนาบข้างด้วย มิโมโต มิชิเอ นักขับสาวชาวญี่ปุ่นจาก ARTO WEST RACING TEAM ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ภาวิณี โยธา จาก MORSENG RACING TEAM

ผลการแข่งขันในเรซนี้ไม่มีอะไรพลิกผัน เมื่อ แพรวพรรณ ออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะต้องขับเคี่ยวกับ ภาวิณี อย่างหนัก แต่ก็สามารถรักษาตำแหน่งหัวแถวได้อย่างตลอดทั้งเนซ ก่อนเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 17 นาที 7.682 วินาที คว้าแชมป์โอเวอร์ออลและคลาส Lady Open ไปครอง เหนือ ภาวิณี อันดับ 2 เพียง 1.966 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ มิโมโตะ นักขับสาวญี่ปุ่นตามหลังแชมป์ 10.656 วินาที

ด้านผลในคลาส Lady A/T หรือรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ ธัญญมัย วัชรเสถียร จาก BUALOY RACING TEAM ด้วยเวลา 18 นาที 18.843 วินาทื เหนือ กุลนิภา อินทรศิริ จาก FAUSTINO TEAM ที่ตามเข้าป้ายอันดับ 2 เพียง 1.514 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ นักขับสาวจาก ADVICS AISIN RACING TEAM ตามหลังแชมป์ 2.442 วินาที

สำหรับการแข่งขันในรุ่น Lady Cup สนามที่ 4 แพรวพรรณ” ก็ยังเบิ้ลแชมป์ LADY CUP สนาม 4 อีกด้วย โดยตำแหน่งยังคงมีการสตาร์ต 3 กริดแรกหน้าเก่าเช่นเคย โดยตำแหน่งโพลโพซิชั่นในเรซนี้เป็นของนักขับสาวจอมดุอย่าง แพรวพรรณ ธรรมลาภา จาก Elf Singha Racing Team ขนาบข้างด้วย มิโมโต มิชิเอ นักขับสาวชาวญี่ปุ่นจาก ARTO WEST RACING TEAM ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ภาวิณี โยธา จาก MORSENG RACING TEAM เกมในเรซนี้ออกมาในรูปแบบเดิม เป็นหนังม้วนเดียวกับสนาม 3 ในวันเสาร์ โดยตำแหน่งหัวแถวเป็นการขับเคี่ยวระหว่าง แพรวพรรณ และ ภาวิณี ที่ไล่บดกันอย่างสนุกในช่วงครึ่งทางแรกของการแข่งขัน

แพรวพรรณ ยังคงหนีออกไปได้อย่างต่อเนื่อง และควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 16 นาที 57.118 วินาที คว้าแชมป์โอเวอร์ออลล์ และ Lady Open เหนืออันดับ 2 อย่าง ภาวิณี 3.589 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ มิโมโต มิชิเอ ตามหลังแชมป์ 6.236 วินาที ด้านผลการแข่งขันในคลาส Lady A/T แชมป์ตกเป็นของ เมฆรัชคีฏาก์ กะลันตานนท์ นักขับสาวจาก ADVICS AISIN RACING TEAM ด้วยเวลา 18 นาที 0.897 วินาที ตามด้วย ธัญญมัย วัชรเสถียร จาก BUALOY RACING TEAM ในอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 เป็นของ กุลนิภา อินทรศิริ จาก FAUSTINO TEAM

PICKUP TURBO

ในรุ่น PICKUP TURBO ขวัญใจมหาชน คนต่างจังหวัด ไม่มีใครไม่รู้จักรถเครื่องกับรถใหญ่ รถเครื่อง คือ มอเตอร์ไซค์ ซึ่งใช้กันแทบทุกบ้าน ส่วนรถใหญ่ ก็จะหมายถึงปิคอัพ ใครไม่มีการขนของ หรือพืชผลทางการเกษตร หรือที่นอนหมอนมุ้ง สำหรับคนต่างจังหวัด ถือ เป็นเรื่องแปลก

                และด้วยความที่เป็นรถยอดนิยม และมียอดจำหน่ายต่อปีสูงที่สุดกว่ารถทุกรุ่น PICKUP TURBO สนาม 3 จึงเดือด และเกิดขึ้น โดย สนาม 3 นี้ ดราม่าเกิดเมื่อมีการชนกันตั้งแต่รอบแรก 5 คัน ในรายการ Idemitsu Super Turbo Thailand 2019 รุ่น Pickup Turbo สนามที่ 3 มีความมันส์ดวลความเร็วทั้งสิ้น 10 รอบสนาม มีรถเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 13 คัน โดยตำแแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของจอมเก๋าอย่าง จรัส แจ้งกมลกุลชัย จาก YSS Racing Shock-PTT-Lenso ขนาบข้างด้วย ธณพล ชูเจริญผล จาก KEVLAR BRAKES & เบสเทอร์โบยำ ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ฤาชัย เนียมพิบูลย์ จาก แสบออโต้แม็กซ์ เบิร์ดหลักห้า ผู้ใหญ่ไก่ระยอง

ที่ว่าเกิดดราม่าในรอบแรก คือ เกิดเหตุชลมุนเมื่อมีรถแข่งชนกันถึง 5 คันได้ในโค้งที่ 3 แต่มีรถแข่งเพียงคันเดียวที่ต้องจอด และออกจากการแข่งขันไป ได้แก่ เพิก เลิศวังพง จากพรรคยางพาราไทย ส่วนแชมป์ตกเป็นของ “เบสเทอร์โบยำ” หรือ ธนพล ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกหลังครบ 10 รอบสนาม ด้วยเวลา 20 นาที 45.232 วินาที ทิ้งห่าง เอกสิทธิ์ นามแสงผา จาก TUNE BY AOT อันดับ 2 ถึง 8.899 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ สัญญา พลเยี่ยม จาก เบิร์ดหลักห้า ผู้ใหญ่ไก่ บุญยางชลบุรี ตามหลังแชมป์ 39 วินาที ขณะที่อันดับ 4 ตกเป็นของ อภิสิทธิ์ วงศ์กาวี จาก SUNLUBE THAILAND, TEI, เจโช้คอัพ, ช่างเอกระยอง ตามด้วยเบอร์ 29 จรัส แจ้งกมลกุลชัย ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกชนในรอบแรก แต่ยังสามารถนำรถเข้าป้ายในอันดับ 5 ได้สำเร็จ

แต่ในรุ่น Pickup Turbo นี้พอมาถึงสนามที่ 4 “จรัส” ไร้อุบัติเหตุ คืนฟอร์มเก่งคัมแบ็กโพเดี้ยม จรัส แจ้งกมลกุลชัย จอมเก๋าจาก YSS Racing Shock-PTT-Lenso ซิวอันดับ 2 คัมแบ็กโพเดี้ยมได้สำเร็จ จากการแข่งขันสุดเข้มข้นเมื่อวันอาทิตย์

ด้วยระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร ปิดท้ายการแข่งขันในสุดสัปดาห์สุดมันส์ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ด้วยการแข่งขันในรุ่น Pickup Turbo สนามที่ 4 โดยมีรถเข้าร่วมดวลความเร็วทั้งสิ้น 13 คัน ตำแแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของจอมเก๋าอย่าง ธณพล ชูเจริญผล จาก KEVLAR BRAKES & เบสเทอร์โบยำ แชมป์สนาม 3 ขนาบข้างด้วย เอกสิทธิ์ นามแสงผา จาก TUNE BY AOT ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของจอมเก๋าอย่าง จรัส แจ้งกมลกุลชัย จาก YSS Racing Shock-PTT-Lenso ออกสตาร์ทในเรซนี้ยังคงเป็น ธณพล ที่ชิงจังหวะออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ขยับขึ้นเป็นผู้นำได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่ จรัส ซึ่งอาศัยความเก๋าไล่ตารมขึ้นมาเป็นอันดับ 3 โดยเกมในเรซนี้เข้าทาง ธณพล ที่รักษาตำแหน่งหัวแถวได้อย่างดี และทำเวลาต่อรอบเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 35.484 วินาที คว้าแชมป์ไปครอง 2 เรซติดต่อกันที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ขณะที่ อันดับ 2 เป็นของ จรัส ที่ไต่ขึ้นมามเป็นอันดับ 2 ในช่วงต้นเรซ ก่อนเข้าป้ายด้วยเวลาตามหลังแชมป์ 13.109 วินาที ตามมาด้วย สมร มะปะเข จาก GT RESEDENCE ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 31.972 วินาที ส่วนอันดับ 4 เป็นของ สัญญา พลเยี่ยม จาก เบิร์ดหลักห้า ผู้ใหญ่ไก่ บุญยางชลบุรี ตามหลังแชมป์ 38.903 วินาที ตามด้วย เพิก เลิศวังพง จาก พรรคยางพาราไทย ตามหลังแชมป์ 58.493 วินาที หลังจากเมื่อวันเสาร์สนามที่ 3 ไม่มีอันดับ เพราะเกิดเหตุชนกันเสียก่อน

สำหรับการแข่งขัน Idemitsu Super Turbo Thailand 2019 สนามถัดไปจะดวลความเร็วระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2562 นี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

 

Related posts

Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed