ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เจอศึกหนัก

ณ สนามเซนตูล ประเทศอินโดนีเซีย ศึกชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามที่ 5 ซ้อมวันแรก นักบิดไทยเสียเปรียบนักแข่งเจ้าถิ่น สภาพแทร็คไม่เอื้อ

งานนี้ขุนพลนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เดินทางสู่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อร่วมทำศึกชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามที่ 5 ซึ่งจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 14 ตุลาคม 2561 ณ สนามเซนตูล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยยังคงส่งทีมเข้าร่วมชิงชัยด้วยกัน 2 รุ่น คือ รุ่น เอชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี. ที่มีนักแข่งดาวรุ่งอย่าง ตี – อนุภาพ ซามูล, ต๋ง – พีรพงศ์ บุญเลิศ และ ฟอง – คณาฑัต ใจมั่น ลงขับเคี่ยวชิงชัย และ รุ่น ซูเปอร์ สปอร์ต 600 ซีซี. ที่มีนักแข่งรุ่นใหญ่อย่าง ตั้น – เดชา ไกรศาสตร์ และ โฟลท – รัฐพงศ์ วิไลโรจน์ รับหน้าที่ทำศึกในรุ่นใหญ่นี้ และยังมีนักบิดไทยยามาฮ่าอย่าง เค – เขมินทร์ คูโบะ ที่ลงแข่งขันในนามทีม ยามาฮ่า เรซซิ่ง ทีม เอเชี่ยน ลงชิงชัยในรุ่นนี้ด้วย

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในวันแรกเป็นช่วงของการซ้อม ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีการซ้อมด้วยกัน 3 ครั้ง โดยขุนพลนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ต่างลงสนามทำการซ้อมด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เพื่อเก็บข้อมูลในการเซ็ทอัพรถให้พร้อมสมบูรณ์และลงตัวมากที่สุด เนื่องจากนักแข่งไทยต้องเจอกับสภาพพื้นผิวแทร็คที่ค่อนข้างจะไม่เรียบและมีบั๊มกระแทกอยู่เยอะพอสมควร ทำให้เสียเปรียบนักแข่งเจ้าถิ่นที่ได้เปรียบในเรื่องของความคุ้นเคยกับสนามอยู่มากพอสมควรทีเดียว โดยในรุ่น เอชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี. ตี – อนุภาพ ซามูล #500 ทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’43.549 นาที จากการซ้อมในช่วง FP1 ส่วน ฟอง – คณาฑัต ใจมั่น #90 ทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’45.334 นาที และ ต๋ง – พีรพงศ์ บุญเลิศ #45 ทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’50.453 นาที ซึ่งทั้งคู่สามารถทำเวลาดีที่สุดของตัวเองได้จากการซ้อมในช่วง FP2

ส่วนการซ้อมในรุ่น ซูเปอร์ สปอร์ต 600 ซีซี. โฟลท – รัฐพงศ์ วิไลโรจน์ ทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’31.939 นาที จากการลงซ้อมในช่วง FP1 ในรอบที่ 7 ก่อนที่ในช่วงท้ายจะพลาดท่าล้มอย่างแรงทำให้รถแข่งได้รับความเสียหายหนัก และนักแข่งได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่เล็กน้อยทำให้ไม่สามารถลงซ้อมได้ในช่วง FP2 ก่อนที่จะกลับมาลงทำการซ้อมในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของการซ้อมช่วง FP3 อีกครั้ง เพื่อเช็คสภาพความพร้อมของรถแข่งที่ประกอบขึ้นมาใหม่และความพร้อมของตัวนักแข่งเอง แต่ก็สามารถทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’31.704 นาที ส่วน ตั้น – เดชา ไกรศาสตร์ นั้นสามารถทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’31.368 นาที จากการลงซ้อมในช่วง FP2 แต่ในช่วง FP3 หลังจากที่ลงขับขี่ได้เพียงแค่ 1 รอบเดียวก็ต้องกลับเข้าพิทเนื่องจากรถแข่งมีปัญหาทางเทคนิค และไม่สามารถออกมาวิ่งทำเวลาได้อีก และ เค – เขมินทร์ คูโบะ #64 ฟอร์มการขับขี่ดีขึ้นเรื่อยๆ จากการลงซ้อมในทุกช่วง ก่อนที่จะทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1’31.552 นาที ในช่วงท้ายของการซ้อมช่วง FP3 นั่นเอง ซึ่งนักแข่งไทยยามาฮ่าในรุ่นนี้ทั้ง 3 คน ต่างก็มีเวลาติดอยู่ใน Top10 ทุกคน

สำหรับโปรแกรมการในวันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พรุ้งนี้นั้น ช่วงเช้านักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม มีคิวลงทำการควอลิฟายทั้ง 2 รุ่น ตั้งแต่เวลา 08.50 น. โดย เอชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี. จะลงควอลิฟายก่อน มีเวลาวิ่ง 30 นาที ต่อด้วยรุ่น ซูเปอร์ สปอร์ต 600 ซีซี. มีเวลาวิ่ง 40 นาที จากนั้นในช่วงบ่ายจะเป็นการแข่งขันในเรซที่ 1 โดยนักบิด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม มีคิวเริ่มการแข่งขันในเวลา 14.05 น. เป็นต้นไป โดยแฟนมอเตอร์สปอร์ตและกองเชียร์ยามาฮ่าสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดได้ผ่านทางโทรทัศน์ช่อง True4u และ Facebook Live : Asia Road Racing Championship และติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ Yamaha Thailand Racing Team

 

Related posts

Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed