“สังเวียนมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกของไทย เปิดแทร็กเป็นเจ้าภาพศึกรถยนต์ทางเรียบระดับโลกของญี่ปุ่น รายการ “ช้าง ซูเปอร์จีที เรซ 2019” อย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอย
ศึกรถยนต์ทางเรียบระดับตำนานจากประเทศญี่ปุ่น ซูเปอร์ จีที 2019 สนาม 4 รายการ “ช้าง ซูเปอร์จีที เรซ 2019” ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นสนามเดียวที่แข่งขันนอกประเทศญี่ปุ่น และเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันที่ดวลความมันส์ในประเทศไทย
ซูเปอร์จีที ทั้งรุ่น จีที500 และ จีที300 ซึ่งมีสุดยอดรถแข่งระดับโลกทั้งสิ้น 39 คัน ขณะที่แฟนความเร็วหลายหมื่น เดินทางเข้าร่วมชมการแข่งขันอย่างคึกคัก โดยนอกจากการแข่งขันแล้วยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่เรียกความสนใจแฟนๆ ความเร็วได้อย่างมาก อาทิ พิตวอล์ค, กริดวอล์ค และเซอร์กิต ซาฟารี โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ “ช้าง ซูเปอร์จีที เรซ 2019” ออกสตาร์ทกันในเวลา 15.00 น.
โดยตำแหน่งโพลโพซิชั่นในรุ่น จีที500 เป็นของรถแข่ง เลกซัส แอลซี500 หมายเลข 6 จากทีม เลกซัส ทีม เลอมองส์ วาโกะส์ ที่ขับโดย คาซูยะ โอชิม่า และ เคนตะ ยามาชิตะ สองนักขับญี่ปุ่น ขนาบข้างด้วย อันดับ 2 อย่าง เลกซัส ทีม เว็ดสปอร์ต บันโดะห์ ที่ขับโดย ยูจิ คูนิโมโตะ และ โช ซึโบอิออกสตาร์ทเรซด้วยการขยับขึ้นนำอย่างรวดเร็วของ คาซูยะ โอชิม่า นักขับมือแรกของ เลกซัส ทีม เลอมองส์ วาโกะส์ ที่ได้ออกตัวจากโพลและรักษาตำแหน่งหัวแถวได้อย่างเหนียวแน่น ก่อนนำรถเข้าพิตเพื่อเติมน้ำมัน เปลี่ยนยาง และเปลี่ยนตัวนักขับหลังผ่านไปครึ่งทางของเรซ จากนั้นเป็น เคนตะ ยามาชิตะ รับไม้ต่อเป็นนักขับคนที่ 2 ของ เลกซัส ทีม เลอมองส์ วาโกะส์ ออกจากพิตมาด้วยการเป็นผู้นำได้อีกครั้ง โดยมี นิค คาสซิดี้ นักขับนิวซีแลนด์จาก เลกซัส ทีม คีเปอร์ ทอมส์ หมายเลข 37 ไล่บี้อย่างหนัก
สำหรับแชมป์ของคลาสจีที 500 ในเรซนี้ตกเป็นของ รถแข่ง เลกซัส แอลซี500 หมายเลข 6 จากทีม เลกซัส ทีม เลอมองส์ วาโกะส์ ที่ขับโดย คาซูยะ โอชิม่า และ เคนตะ ยามาชิตะ สองนักขับญี่ปุ่น หลังครบ 66 รอบสนาม ในเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม เฉือนอันดับ 2 อย่าง เลกซัส ทีม คีเปอร์ ทอมส์ หมายเลข 37 ที่ขับโดย นิค คาสซิดี้ นักขับนิวซีแลนด์ และทีมเมทชาวญี่ปุ่น เรียว ฮิราคาวะ เพียง 1.236 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ รถแข่งหมายเลข 19 จาก เลกซัส ทีม เว็ดสปอร์ต บันโดะห์ ที่ขับโดย ยูจิ คูนิโมโตะ และ โช ซึโบอิ ตามหลังแชมป์ 10.249 วินาที
ด้านการแข่งขันใน คลาสจีที300 ตำแหน่งโพลเป็นของ รถแข่ง โตโยต้า 86 เอ็มซี หมายเลข 25 จาก ทีม ซึชิย่า เอ็นจิเนียริ่ง ที่ขับโดยสองนักขับญี่ปุ่นอย่าง ทาคามิตสึ มัตซูอิ และ คามิยะ ซาโตะ ทว่าเจ้าของโพลกลับมาพลาดในช่วงแรกของการแข่งขัน ส่งผลให้ในช่วงครึ่งหลังของเรซ การชิงตำแหน่งหัวแถวเป็นของรถแข่ง นิสสัน จีที-อาร์ หมายเลข 56 จาก คอนโด เรซซิ่ง ที่ขับโดย คาซูกิ ฮิรามิเน นักขับญี่ปุ่น และ ซาช่า เฟเนสตราซ์ ทีมเมทชาวฝรั่งเศส ที่โดนไล่บี้อย่างหนักจากรถแข่ง นิสสัน จีที-อาร์ หมายเลข 10 จากทีม เกนเนอร์ โดยสองนักขับญี่ปุ่น คาซูกิ โฮชิโนะ และ เคอิชิ อิชิกาว่า
เกมในเรซนี้ของคลาสจีที300 มีพลิกเอาในรอบสุดท้ายเมื่อผู้นำในคลาส จีที500 มาจ่อท้าย รถแข่ง นิสสัน จีที-อาร์ หมายเลข 56 จาก คอนโด เรซซิ่ง ที่ขับโดย คาซูกิ ฮิรามิเน จึงต้องเปิดทางให้ แต่กลับกลายเป็นเปิดช่องให้ เคอิชิ อิชิกาว่า ชิงจังหวะพารถแข่ง นิสสัน จีที-อาร์ หมายเลข 10 เสียบแซงผ่านขึ้นไปด้วย ก่อนเข้าป้ายเป็นอันดับ 1 คว้าแชมป์ในเรซนี้ไปครอง โดยเฉือน นิสสัน จีที-อาร์ หมายเลข 56 จาก คอนโด เรซซิ่ง อันดับ 2 เพียง 0.792 วินาทีเท่านั้นด้านทีมแข่งไทยอย่าง แพนเธอร์ อาร์โต้ ทีม ไทยแลนด์ ที่ออกตัวจากกริดสตาร์ทที่ 22 เริ่มเกมโดย ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ นักขับไทย พร้อมขยับขึ้นมาได้ 2 อันดับ ก่อนส่งต่อให้ทีมเมทอย่าง ฌอน วัลกินชอว์ นักขับลูกครึ่งสก็อตติช-เบลเจี้ยน ออกมาขับในช่วงที่ 2 และพาทีมขยับขึ้นมาจบการแข่งขันในอันดับ 17
อนึ่ง การแข่งขันสนามถัดไปของ ซูเปอร์จีที 2019 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 3-4 สิงหาคมนี้ ที่ สนาม ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น