สำหรับ ฟอร์ด แล้วนั้น ในการทดสอบความแกร่งและความทนทานของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ทีมวิศวกรผู้พัฒนารถฟอร์ดทั่วโลกไม่เคยยั้งมือกับการตั้งโจทย์สุดโหดทุกรูปแบบ เพื่อให้มั่นใจว่านี่จะเป็นรถกระบะระดับโลกที่พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่ท้าทายในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาเพื่อเป็นรถกระบะที่แกร่งที่สุด ชาญฉลาดที่สุด ตอบสนองการใช้งานของลูกค้าได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับฟอร์ด เรนเจอร์ ทุกรุ่นที่เคยมีมา กระบะพันธุ์แกร่งคันนี้จึงต้องผ่านการทดสอบทั้งบนถนนจริงและในโปรแกรมเสมือนจริงมากกว่าทุกครั้ง
มร.จอห์น วิลเลมส์ หัวหน้าวิศวกรโปรแกรม ฟอร์ด เรนเจอร์ กล่าวว่า “เพราะคำว่า ‘เกิดมาแกร่ง’ ของเราไม่ได้มากันง่ายๆ เราจึงจริงจังกับทุกขั้นตอน ทุกองค์ประกอบของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ได้รับการทดสอบด้วยมาตรฐานเดียวกับที่เราใช้กับรถฟอร์ดทุกรุ่นฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ จึงต้องเผชิญทุกสภาพแวดล้อมการขับขี่สุดทรหดที่อาจพบได้ในทุกมุมโลก นอกจากเพื่อให้มั่นใจว่ารถคันนี้พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานของลูกค้าแล้ว กระบะคันนี้ยังต้องผ่านมาตรฐานระดับโลกที่เข้มข้นของฟอร์ด ทั้งในแง่คุณภาพ ความทนทาน และความไว้วางใจได้ สิ่งสำคัญคือลูกค้าของเราต้องวางใจได้ว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ จะเป็นรถคู่ใจที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือชั้นได้ตลอดการใช้งาน เราจึงต้องทดสอบรถด้วยรูปแบบสุดหฤโหดต่างๆ ที่เหนือไปกว่าการใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่ารถคันนี้พร้อมเผชิญกับทุกสถานการณ์อันท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกป่า ฝ่าโคลน รับมือกับสภาพอากาศร้อนชื้น การลากจูงของหนักผ่านยอดเขาสูงหรือความทนทานต่ออุณหภูมิสูงกว่า 50 องศาเซลเซียส ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ผ่านมาหมดแล้ว”
จนถึงตอนนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ได้ผ่านการทดสอบขับฝ่าทะเลทรายไปแล้วกว่า 10,000 กิโลเมตร การขับแบบใช้งานในชีวิตประจำวันราว 1,250,000 กิโลเมตร และการขับขี่แบบออฟโรด พร้อมน้ำหนักในการบรรทุกสูงสุดอีก625,000 กิโลเมตร และเรายังคงทดสอบรถอยู่จนถึงตอนนี้ ภายใต้ทุกสภาพเส้นทางที่แตกต่างกันทั่วโลก และก่อนที่รถจะออกมาวิ่งทดสอบบนถนนจริง ทีมวิศวกรของฟอร์ดใช้เวลาหลายพันชั่วโมงในการทดสอบรถต้นแบบในระบบจำลองสถานการณ์เสมือนจริง รวมถึงการทดสอบรถต้นแบบคันจริงในห้องแล็บอีกหลายพันชั่วโมง เพื่อตรวจสอบทุกองค์ประกอบตั้งแต่อากาศพลศาสตร์ ไปจนถึงความทนทานของชิ้นส่วนและโครงสร้างทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมจำลองสถานการณ์เสมือนจริงช่วยร่นระยะเวลาในการพัฒนารถรุ่นใหม่ ในขณะที่การทดสอบในห้องแล็บช่วยให้เราปรับแต่งและทดสอบแต่ละชิ้นส่วนได้อย่างเฉพาะเจาะจง แต่ก็ยังไม่มีอะไรทดแทนการทดสอบรถบนถนนจริงได้” มร. วิลเลมส์ อธิบาย ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ มีความคาดหวังว่ารถกระบะคู่ใจจะต้องพร้อมบุกตะลุยไปทุกที่ การทดสอบของเราจึงจำลองสถานการณ์ที่ครอบคลุมทุกสภาพแวดล้อมที่ลูกค้าพบเจอได้ในการใช้งานจริงโดยการทดสอบเหล่านี้เกิดขึ้นในพื้นที่ทำงานของฟอร์ดทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ จะตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าในกว่า 180 ประเทศทั่วโลกได้อย่างเต็มที่
สำหรับการทดสอบบางอย่างที่ทรหดเกินกว่ามนุษย์จะทนได้ จึงมีการใช้โปรแกรมจำลองสถานการณ์เสมือนจริงและหุ่นยนต์เข้ามาเป็นตัวช่วย เช่น การทดสอบช่วงล่างของรถด้วยระบบสั่นสะเทือน ทำให้รถทั้งคันต้องเจอแรงกระแทกสุดทรหดต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น
มร.จอห์น วิลเลมส์ หัวหน้าวิศวกรโปรแกรม ฟอร์ด เรนเจอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะวิศวกร งานแรกของเราคือการถ่ายทอดความต้องการของผู้ใช้รถให้ออกมาเป็นข้อมูลที่ชัดเจน จับต้องได้ เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานให้กับทุกคนในทีมออกแบบและพัฒนารถ เพื่อให้ทีมวิศวกรใช้อ้างอิงในทุกกระบวนการ นี่คือสิ่งที่สำคัญสูงสุดสำหรับเรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ เพราะเป็นรถที่เราพัฒนาขึ้นเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นให้กับลูกค้าทั่วโลก”