แล้ว “เบียร์” เฉลิมพล ผลไม้ ยอดนักบิดจอมเก๋าจาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เรซซิ่ง ทีม ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง กดเวลาคว้าโพลที่ 2 ในศึก พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนาม 3 หลังเฉือนทีมเมทอย่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี เพียงเสี้ยววินาที ขณะ อภิเดช บุญศรี จาก คาวาซากิ พีทีที ไฉไล ไบค์ ซิวหัวแถวในคลาส ซูเปอร์สต็อก
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนาม 3 มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2562 นี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร ล่าสุดเป็นการจับเวลาในรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ท ในวันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา
ผลการควอลิฟายในคลาสใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี 1-2 ปรากฏว่า นักบิดจอมเก๋าอย่าง “เบียร์” เฉลิมพล ผลไม้ อดีตแชมป์เอเชียจาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เรซซิ่ง ทีม ที่กดเวลามาเป็นอันดับ 1 คว้าโพลโพซิขั่นไปครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.747 วินาที เหนือทีมเมทอย่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี อดีตแชมป์ประเทศไทยเพียง 0.345 วินาทีเท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด ตามหลังหัวแถว 0.962 วินาที
ขณะที่จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์ประเทศไทยจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 4 ตามหลังหัวแถว 0.984 วินาที ตามด้วย “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท นักบิดจอมดุจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม ตามหลังหัวแถว 1.186 วินาที
ส่วนในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1000 ซีซี เอสที1-2 ตำแหน่งโพลตกเป็นของ อภิเดช บุญศรี จาก คาวาซากิ พีทีที ไฉไล ไบค์ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.420 วินาที เหนือ อัศวิน คงทนไพศาล จาก ยูทีอาร์ เรซซิ่ง ทีม อันดับ 2 เพียง 0.486 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของจอมเก๋าอย่าง ออ ปิตะบุตร จาก คอร์ มอเตอร์สปอร์ต ไทยแลนด์ ตามหลัง 1.299 วินาที
ด้านกริดสตาร์ทในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1-2 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคลาสที่ดวลกันโหดที่สุดของ พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 ตำแหน่งโพลตกเป็นของ “เบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ จาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 40.275 วินาที เหนือ “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ทีเอชอาร์ซี ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง อันดับ 2 อยู่ 0.582 วินาที ตามด้วย “ฟอง” คณาทัต ใจมั่น จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์
โดย คณาทัต ที่ลงแข่งขันในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี เอสเอส1-2 ด้วยนั้น ยังคงร้อนแรง ก่อนจะคว้าโพลในคลาสเล็กไปครอง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 47.466 วินาที ขนาบข้างด้วย “เบลล์” เอกชัย เซี่ยงหว่อง จาก ยามาฮ่า สปีด เคทีบี Chatuso เออห์ลิน พิเรลลี เอ็มเอ็ม ไบค์ และ จิรายุ สายยนต์ จาก คาวาซากิ โรนิน โมตุล เรซซิ่ง ทีม ในกริดที่ 2 และ 3 ส่วนจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง วรพงศ์ มาลาหวล จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 5
นอกจากนี้ ยังมีการจับเวลาในคลาสจูเนียร์อย่าง สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี โดยตำแหน่งโพลเป็นของ ไพลิน ตรีไพบูลย์ จาก พิตโซน พิเรลลี เพตริต เบรนต้า ด้วยเวลา 1 นาที 54.397 วินาที ส่วนในคลาส ซูเปอร์สต็อก 1000 ซีซี เอสที3 โพลโพซิชั่นเป็นของ ชวัล เรืองทรัพย์เอนก จาก เอเวอร์ เรซ โปรเจ็กต์ เอ็กซ์ โมบิลวัน บาย บีเคเค69 ด้วยเวลา 1 นาที 44.954 วินาที
แล้วในวันแข่งขันจริง วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2562 “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร ยอดนักบิดไทยจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม โชว์ฟอร์มกระฉูดอย่างต่อเนื่อง คว้าแชมป์ พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 3 สนามติดต่อกัน พร้อมผงาดครองบัลลังก์แชมป์ประจำปีในคลาส ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี1 ไปครองได้อีกสมัยแม้จะยังเหลืออีก 1 สนาม หลังจบการแข่งขันสุดมันส์ ที่ สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนาม 3 ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร โดยนับเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการลุ้นแชมป์ประจำปี
ไฮไลต์ของสนามนี้ยังคงอยู่ที่คลาสใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี 1-2 ซึ่งก่อนเข้าสู่สนามนี้ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์ประเทศไทยจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ มี 50 คะแนน เหนืออันดับ 2 อย่าง “เบียร์” เฉลิมพล ผลไม้ อดีตแชมป์เอเชียจาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เรซซิ่ง ทีม อยู่ 10 คะแนน ส่งผลให้การแข่งขันสนามนี้มีความหมายอย่างมากต่อการลุ้นแชมป์ประจำปี
ตำแหน่งโพลในคลาส ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี 1-2 เป็นของ เฉลิมพล ขนาบข้างด้วยทีมเมทอย่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี อดีตแชมป์ประเทศไทยในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด ด้าน ฐิติพงศ์ ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 4 โดยดวลกันทั้งสิ้น 12 รอบสนาม
ออกสตาร์ทเรซด้วยการขึ้นนำของ เฉลิมพล โดยมี นครินทร์ ทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 2 ขณะที่ ฐิติพงศ์ ไต่ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ส่วน อนุชา ร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 4 ก่อนที่ นครินทร์ จะพลาดบานในโค้ง 5 ของรอบที่ 3 หล่นไปอยู่ในอันดับ 4 จากนั้น ฐิติพงศ์ สามารถขยับขึ้นมารั้งหัวแถว หลังจากแซง เฉลิมพล ได้สำเร็จในรอบถัดมา โดยจอมเก๋าจาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เรซซิ่ง ทีม ต้องเจอปัญหาความขัดข้องของรถแข่ง จนอันดับร่วงลงไปอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะต้องนำรถเข้าพิตอย่างน่าเสียดาย
จบการแข่งขัน 12 รอบสนาม แชมป์ตกเป็นของ ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์ประเทศไทยจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ที่บิดเข้าป้ายเป็นคันแรก เหนืออันดับ 2 อย่าง อนุชา นาคเจริญศรี อยู่ 3.027 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 7.972 วินาที ด้าน นครินทร์ ร่วงลงไปจบเรซในอันดับ 4 ตามหลังแชมป์ 22.380 วินาที ขณะที่ เฉลิมพล ไม่จบเรซไร้แต้มในสนามนี้
จากชัยชนะ 3 สนามติดต่อกัน ส่งผลให้ ฐิติพงศ์ ผงาดคว้าแชมป์ประจำปีในศึก พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 ในคลาสสูงที่สุดของไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี เอสบี1 ไปครอง โดยเก็บไปทั้งสิ้น 75 แต้ม ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง อนุชา แบบขาดลอยออกไป 32 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 1 สนาม
ด้านผลการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1000 ซีซี เอสที1-2 ปรากฏว่าเจ้าของโพลอย่าง อภิเดช บุญศรี จาก คาวาซากิ พีทีที ไฉไล ไบค์ บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกคว้าแชมป์ไปครองด้วยการเฉือนอันดับ 2 อย่าง อัศวิน คงทนไพศาล จาก ยูทีอาร์ เรซซิ่ง ทีม เพียง 0.444 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ โคลิน บัตเลอร์ นักบิดอีกคนจาก ยูทีอาร์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 8.682 วินาที
แล้วก็ขยับมาดูผลการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เอสเอส1-2 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคลาสที่ดวลกันโหดที่สุดของ พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 โดยตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของ “เบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ จาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด เรซซิ่ง ทีม ที่ออกสตาร์ทได้ยอดเยี่ยมและนำม้วนเดียวจบ เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 20 นาที 15.165 วินาที คว้าแชมป์สนามที่ 3 ไปครอง เหนือ “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง จาก ทีเอชอาร์ซี ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง อันดับ 2 อยู่ 5.566 วินาที ตามด้วย “ฟอง” คณาทัต ใจมั่น จาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 5.664 วินาที
ขณะที่การแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี เอสเอส1-2 ที่อยู่ในช่วงการตัดสินแชมป์ประจำปีที่เข้มข้น ปรากฏว่า “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ที่ออกสตาร์ทจากกริดที่ 5 ทะยานขึ้นเป็นผู้นำ ก่อนจะเฉือนทีมเมทอย่าง คณาทัต เพียง 0.060 วินาที เข้าป้ายเป็นคันแรกในสนามนี้ ด้วยเวลา 12 นาที 46.211 วินาที เหมาแชมป์ 3 เรซติดต่อกัน ผงาดคว้าแชมป์ประจำปีไปครองอย่างยิ่งใหญ่ แม้จะเหลือการแข่งขันอีก 1 สนาม โดยอันดับ 3 ในเรซนี้เป็นของ รัฐพงษ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน น้ำบาน โก๋ ท่ามะกา ตามหลังแชมป์ 0.596 วินาที
นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันในรุ่นจูเนียร์อย่าง สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี โดยแชมป์สนามนี้ตกเป็นของ ดิษย์รักษ์ เทพถนอม จาก เอ็นดีแอล โมริเทค คาวาซากิ เรซซิ่ง ทีม ที่บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 13 นาที 22.533 วินาที เฉือน ไพลิน ตรีไพบูลย์ จาก พิตโซน พิเรลลี เพตริต เบรนต้า ที่ตามบี้ในอันดับ 2 อย่างเฉียดฉิวเพียง 0.164 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ จูเนียร์ ซามูเอล คอนเวนโต จาก พีทีที ลูบริแคนต์ คาวาซากิ ติ๊งโน๊ต มินิโมโต ไออาร์ซี ตามหลังแชมป์ 0.575 วินาทีเท่านั้น
อนึ่ง การแข่งขัน พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามสุดท้าย เพื่อตัดสินแชมป์ประจำปีในอีกหลายรุ่น จะมีขึ้นในวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2562นี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เหมือนเช่นเคย
