บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย ยังคงเดินหน้ารณรงค์สวมใส่หมวกกันน็อกผลักดัน “สังคมหัวแข็ง” เพื่อสร้างสังคมการขับขี่ที่ต้องไม่ลืมสวมหมวกกันน็อก จนเกิดเป็นรูปธรรมที่ยั่งยืนในทุกชุมชน
ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ทาง เอ.พี. ฮอนด้า และภาคีเครือข่าย เราทำโครงการรณรงค์เพื่อการขับขี่ปลอดภัยบนถนนมาอย่างต่อเนื่องทุกปี เป้าหมายหลักของเราคือ เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้คนไทย ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ต้องสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งพบว่า ครูและโรงเรียน เป็นแรงขับเคลื่อนที่มีความสำคัญมากในการทำกิจกรรม ในปีนี้ โครงการสังคมหัวแข็ง จึงมีการปรับรูปแบบกิจกรรมจากเดิม เป็นกิจกรรม โรงเรียนหัวแข็ง “ครู สร้าง ได้” เป็นโครงการขยายผลระยะสั้น 2 ปีการศึกษา (ภาคเรียนที่ 2 / ปีการศึกษา 2563 – และตลอดปีการศึกษา 2564) ที่มุ่งเน้นสร้างแนวคิดและต่อยอดองค์ความรู้จากการถอดบทเรียนความสำเร็จจากกิจกรรมโรงเรียนหัวแข็งที่ผ่านมาแล้ว 4 ปี รวมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้โรงเรียนที่สนใจได้เข้าร่วมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเข้าใจถึงปัญหาและได้รับทราบวิธีการแก้ไขปัญหาที่ตรงประเด็น โดยกลุ่มเป้าหมายของโครงการ คือ โรงเรียนที่อยู่ใกล้กับศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า จำนวน 60 โรงเรียน ซึ่งแบ่งกิจกรรมทั้งหมดออกเป็น 3 ครั้ง จัดที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าในจังหวัดสมุทรปราการ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งจุดประสงค์ของภาพรวมกิจกรรม คือ หลังจากที่ทุกโรงเรียนมาเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้แล้ว จะสามารถกลับไปจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์และส่งเสริมให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกกันน็อกภายในโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวางเป้าหมายหมายจำนวนผู้สวมหมวกกันน็อกในชุมชนเป็น 100%”
โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) โดยมี นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมกล่าวสนับสนุนให้ครูไทยนำความรู้ที่ได้รับจากโครงการไปพัฒนาโรงเรียน และดูแลเด็กของตนเองต่อไป และยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนที่ร่วมมอบของรางวัลให้กับทางโรงเรียน ซึ่งมี บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายถั่วลิงสงกรอบเคลือบกะทิตรา “โก๋แก่” และ เฟเบอร์-คาสเทลล์ ผู้ผลิตและขายอุปกรณ์เครื่องเขียนระดับโลก ที่มาร่วมมอบผลิตภัณฑ์ เป็นของรางวัลให้กับทุกโรงเรียน
นอกจากนี้ ทางโครงการฯ จะมีการติดตามผล และเป็นที่ปรึกษาให้ทุกโรงเรียนตลอดปีการศึกษา พร้อมทั้งใช้ช่องทางออนไลน์ ผ่าน Facebook : https://www.facebook.com/aphondahelmetproject ให้ทุกคนสามารถติดตามข่าวสารของโครงการได้อย่างต่อเนื่อง และเพื่อช่วยเป็นสื่อกลางในการกระตุ้นให้ประชาชน ไม่ลืม กฎเหล็ก 3 ข้อ “ขี่ซ้อนเราใส่ ใกล้ไกลเราใส่ ใครไม่ใส่เราไม่ยอม” เพราะเรามุ่งหวังให้สังคมไทย ต้องสวมหมวกกันน็อกเป็น 100% ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์