ในโอกาส อีซูซุ ครบรอบ 60 ปี ในประเทศไทย จึงต้องมีรุ่นพิเศษอย่าง “The New Isuzu MU-X” ที่ปรับโฉมครั้งใหญ่ จัดเต็มทั้งภายนอกและภายใน เน้นความสปอร์ตหรู เกิดขึ้น สนองความต้องการของคนรักอีซูซุจนได้ รวมถึงยังคงมีรุ่นของเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่นเหมือนเดิม คือ เครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เทคโนโลยีดีเซลยุคใหม่ ให้พลังแรง ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุดอีกด้วย
เนื่องจาก “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” เป็นหนึ่งในรถธงที่นำความสำเร็จมาสู่กลุ่มอีซูซุในประเทศไทย นับตั้งแต่เริ่มจำหน่ายครั้งแรกในปี พ.ศ.2556 โดยในครั้งนั้นได้สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการรถยนต์เมืองไทยด้วยยอดจองที่สูงกว่า 5,000 คันในเวลาเพียง 10 วันแรก และได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ใช้รถอเนกประสงค์ระดับหรูมาโดยตลอด และในเดือนมีนาคม พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำอีกครั้ง ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ ที่เครื่องเล็ก ประหยัด แต่กำลังเกินตัว
จะจำกันได้ว่าช่วงปี 2559 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจค่อนข้างตกมาก แต่ยอดจำหน่ายของ มิวเอ็กซ์ สวนกระแส สามารถสร้างยอดขายท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจ และยังเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในตลาดรถอเนกประสงค์ที่ผู้ใช้รถไว้วางใจ ท่ามกลางการแข่งขันและเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ในตลาดรถยนต์เมืองไทย พร้อมกันนี้ยังได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงสุดในด้านคุณภาพรถใหม่ ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดใหญ่ จากการสำรวจความคิดเห็นจากเจ้าของรถใหม่ ที่จัดทำโดย เจ.ดี.พาวเวอร์ อีกด้วย
The New Isuzu MU-X” ภายใต้นิยาม Signature of Privilege เอกลักษณ์แห่งเอกสิทธิ์ ที่จะสร้างสีสันให้วงการรถยนต์ไทย ภายใต้การออกแบบ และปรับโฉมครั้งใหญ่ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนที่แตกต่างและโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยสไตล์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ทันสมัย เอกลักษณ์ใหม่ที่สร้างความโดดเด่นให้กับ “The New Isuzu MU-X” ประกอบด้วย
SIGNATURE OF STYLE เต็มตาด้วยดีไซน์ภายนอก สุดเท่ งามสง่าทุกมิติ ออกแบบใหม่หมดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ปรับลุคให้สปอร์ตทันสมัย โดดเด่น และหรูหราสง่างามเหนือระดับยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกถึงพลังที่ไม่หยุดนิ่ง สะดุดตา กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Sport 3D ให้มิติสูงสง่า เด่นชัด สปอร์ต หรูหราขึ้นอีกระดับ ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-LED ให้ความสว่างมากขึ้น ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ไม่รบกวนสายตาผู้ร่วมทาง พร้อมไฟ Daylight อยู่ในโคมเดียวกัน โดดเด่นด้วยเส้นนำแสง LED Guiding Light เพิ่มลุคโฉบเฉี่ยวทันสมัยแบบรถยนต์นั่งระดับหรู กันชนหน้า – หลังดีไซน์ใหม่ เสริมลุคสปอร์ตให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ แบบ Sharp Horizon โดดเด่น ลงตัว ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ 18 นิ้ว Cross Star สง่างาม Roof Spoiler รูปทรงใหม่ สีทูโทน รับกับตัวรถ และโลโก้ 60 ปี ของ อีซูซุ
ที่สำคัญ บรรยากาศในห้องโดยสารที่กว้างขวาง และการออกแบบใหม่ให้หรูหราสง่างาม นั่งสบายในแบบฉบับรถยนต์นั่งระดับหรู โดยยังคงจุดเด่นสำคัญ คือ ที่ให้การตอบสนองการขับขี่ที่ดี โดยเน้นความประหยัดน้ำมันและรักษาสิ่งแวดล้อม SIGNATURE OF LUXURY เต็มอารมณ์กับประสบการณ์แห่งการเดินทางที่เหนือระดับในบรรยากาศห้องโดยสารใหม่ สีทูโทน Sandstone Beige ตัดด้วยสีดำเข้ม อบอุ่น กว้างขวาง สร้างสรรค์ทุกรายละเอียดแบบรถยนต์นั่งระดับหรู พร้อมการออกแบบภายในด้วยแนวคิด Universal Design ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ และความต้องการ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดีไซน์ใหม่ Sport Cut โอบกระชับรับกับสรีระ นุ่มนวล นั่งสบาย แม้ในเส้นทางยาวไกล ผิวสัมผัสใหม่แบบ Soft Touch เพิ่มความนุ่มนวลให้เหนือระดับ ในบริเวณคอนโซลหน้า แผงข้างประตู และที่พักแขน หรูหราด้วยลายไม้ Fine Walnut ที่แผงข้างประตู หัวเกียร์ และคอนโซลหน้า ชุดตกแต่งสีดำ Piano Black คมเข้มมีสไตล์ บริเวณคอนโซลกลาง และแผงควบคุมกระจกไฟฟ้า ระบบความบันเทิง iConnect พร้อม Built-in Navigator หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อม Air Mirroring รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Smartphone พร้อมจุดเชื่อมต่อ USB รองรับทั้ง Smartphone เครื่องเล่น MP3 และ Flash Drive หน้าปัดดีไซน์ใหม่ เพิ่มความสปอร์ต หรูหรามีระดับด้วยขอบโครเมี่ยม อ่านค่าง่าย พร้อมหน้าจอสีแสดงข้อมูลการขับขี่ Color Display MID ชุดตกแต่งคอนโซลกลาง ชุดเกียร์ และช่องแอร์ ประดับด้วยขอบโครเมี่ยม สวยสะดุดตา
แต่ถ้าพูดถึง ช่วงล่าง ต้องยอมรับว่า ช่วงล่างที่นุ่มนวล รวมถึงเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตยุคใหม่ให้ผู้ใช้รถได้สูงสุดในทุกด้าน คือ เวลาเข้าโค้ง เกาะหนึบ ไม่ย้วย ไม่โยน แต่ไม่ได้แข็งกระด้างแบบปิคอัพ ถึงแม้จะเป็น PPV ก็ตาม แต่เหมือนรถ SUV เสียมากกว่า “The New Isuzu MU-X” จะเป็นอาวุธสำคัญของกลุ่มตรีเพชรในการสร้างยอดขายที่แข็งแกร่ง และเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะพากลุ่มอีซูซุไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ การพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพสำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทยและทั่วโลก ช่วงล่างเป็น คอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ พร้อมช่วงล่างด้านหลังใหม่แบบ 5-LINK SUSPENSION พร้อม STABILIZER BAR เหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ นุ่มสบายชวนฝันมากครับดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวของถนนได้ดีทีเดียว วิ่งทางตรงด้วยความเร็วยึดเกาะถนนได้ดี ส่วนตอนเค้าโค้งก็ทำได้ดี ในการเดินทางเพราะเป็นรถครอบครัว แต่ถ้าใช้งานปกติ ใช้ความเร็วประมาณ 120 กม./ชม ไม่มีปัญหาแน่นอน ปลอดภัยตามกฎหมายกำหนด
SIGNATURE OF POWER ขุมพลังดีเซล “นวัตกรรมเปลี่ยนโลก” ให้พลังแรง ประหยัดน้ำมัน ทำงานเงียบ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดในรถระดับเดียวกัน ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบ คอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น 1.9 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGS และอินเตอร์คูลเลอร์ ที่มีแรงม้ามากกว่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรรุ่นก่อนหน้า ให้กำลังเพิ่มขึ้นจาก 136 เป็น 150 แรงม้าที่เดียว จิ๋วแต่แจ๋วครับ ที่ 3600 รอบ/นาที และแรงบิดจาก 320 เป็น 350 นิวตันเมตร ที่ 1800-2600 รอบ/นาที กับอัตราสิ้นเปลืองที่ Isuzu ระบุไว้ว่าประหยัดขึ้น 19% อัตราเร่งช่วงออกตัวทำได้ดีที่เดียวออกตัวดีกว่าตัวรุ่นเดิมเครื่อง 2.5 ลิตร เดิมเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร รอบของเครื่องยนต์ความเร็ว 100 กม./ชม.อยู่ที่ 1750 รอบ/นาที และที่ความเร็ว 130 กน./ชม.อยู่ที่ 2100 รอบ/นาที รอบแบบนี้ประหยัดแน่นอน ทำอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 12 กม./ลิตรพร้อมเกียร์ 6 สปีด ออกตัวแรง ให้กำลังต่อเนื่อง ขับสนุกทุกช่วงความเร็ว มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ แบบ REV TRONIC และเกียร์ธรรมดา พร้อมระบบ Genius Sport Shift พร้อม “อีซูซุอินไซท์” (Isuzu Insight) เอกสิทธิ์แห่งเทคโนโลยีอัจฉริยะของอีซูซุ เพื่อช่วยในการพัฒนาศักยภาพการขับขี่ให้เต็มสมรรถนะปลอดภัย และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ อีกตัวหนึ่งของมิวเอ็กซ์มีกำลังสูงสุด 177 แรงม้า ถ้าใครชอบความแรงมากขึ้น ซึ่งรอบเครื่องยนต์แค่ 3600 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1800-2800 รอบ/นาที เน้นความแรง ขับสนุก
อีซูซุ มิวเอ็กซ์ เครื่องยนต์ 1.9 หรือ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ หรือ 2 ล้อ มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ น้ำตาลฮาวานา (Havana Brown) เงินไอซ์เบิร์ก (Iceberg Silver) บรอนซ์เงินอาร์กติก (Arctic Silver) ขาวมุกเอเวอร์เรสต์ (Everest Pearl White) และ ดำออสเตรเลียนโคล (Australian Coal Black) แถมมีราคาเริ่มต้นเพียง 1,099,000 บาท ก็ลองเลือกดูว่าจะฉลอง 60 ปี ไปกับอีซูซุหรือไม่? ลิมิเตดอิดิชั่นเลยนะ
