เหล้าเก่าในขวดใหม่
รายการใหม่จริง แต่ผู้จัดรายเก่า
เนื่องจากรายการ Super Turbo Thailand เป็นแผนการใหม่ ที่จัดการแข่งขันโดย Three Crowns Racing Project
ดารานักแข่งอย่างพีท ทองเจือก็มา ทายาทนักแข่งอย่าง ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ ลูกสาวพี่วัว ณัฐวุฒิ ก็มาได้แชมป์สนามนี
หวังว่าจะสร้างศรัทธาให้กับนักแข่ง ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ เนื่องจากมีการแบ่งรุ่นอย่างละเอียด ไม่มีการได้เปรียบหรือเสียเปรียบกัน
Super Turbo Thailand เป็น 4 รุ่นใหญ่ กับ 7รุ่นย่อยการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น รุ่น Pickup Turbo ความเร้าใจจากสิงห์ปิคอัพเมืองไทย เครื่องยนต์ดีเซล Commonrail โดยสามารถลงแข่งขันได้ตั้งแต่เครื่องยนต์ 1900 – 3000 ซีซี ที่สามารถโมดิฟายด์กันได้เต็มพิกัดภายใต้กฏกติกาการแข่งขัน ตามด้วย รุ่น Road Master ความมันส์จากตัวแข่ง เครื่องยนต์ไม่เกิน 3,200 ซีซี และเครื่องยนต์ไม่เกิน 2,200 ซีซี พ่วงเทอร์โบ จากนั้นเต็มอิ่มกับความมันส์ด้วยรุ่นที่เป็นไฮไลต์ของรายการที่แบ่งตามพิกัดเครื่องยนต์ เช่น รุ่น 2000 Turbo, รุ่น 1600 Turbo, รุ่น 1500 Turbo และรุ่นเล็กสุดกับ 1200 Turbo โดยรถแข่งที่ไร้ระบบอัดอากาศก็สามารถร่วมลงทำการแข่งขันได้เช่นกัน ภายใต้กฏกติกาของแต่ละรุ่น ปิดท้ายด้วยรุ่น EFGK ที่เหล่าสาวก Honda รถรุ่นเก่าเลิกผลิตไปแล้ว แต่มาแต่งแข่งกัน เรียกว่าไม่ควรพลาดกับสารพัดตัวแรงในรหัสตัวถัง EF,EG และ EK ที่ลงซิ่งเต็มพิกัดได้ทั้งเครื่องยนต์ Single Cam และ Twin Cam เพียงแต่ต้องเป็นเครื่องยนต์ ที่มากับรหัสตัวถังของรถรุ่นนั้นเท่านั้น และทั้ง 7 รุ่น พร้อมแล้วกับการระเบิดศึกฤดูกาล 2017 เริ่มสนามที่ 1วันที่ 22 เม.ย. 60 และสนามที่ 2 วันที่ 23 เม.ย. 60
Super Turbo Thailand 2017 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ด้วย 7 รุ่นการแข่งขันหลัก โดยตั้งแต่บ่ายวันนี้ คือ การลงสนามซ้อม Free Practice อย่างเป็นทางการของทั้ง 7 รุ่น แบ่งเป็น 3 ช่วง นำทัพโดยตัวแรงฝูงใหญ่ Super Turbo ทั้ง 4 Division, Road Master และ EFGK ลงสนามพร้อมกัน
EFGK … Race 1 และ Race 2
วันเสาร์ Honda กับรุ่น EFGK ในรายการแข่งขัน Super Turbo Thailand 2017 รับหน้าที่ลงสนามดวลคันเร่งตัดสินแชมป์เป็นรุ่นแรก โดยมีหมายเลข 79 กมล ไชยกุลงามดี กับเครื่องยนต์ Twincam คลาส Am+Junior ครองตำแหน่งโพล โพสิชั่น แต่ดูจะเกิดเหตุพลาดเลยต้องออกสตาร์ทจากท้ายแถว โดยหลังจากออกสตาร์ท จ่าฝูงในขบวนจึงตกเป็นของหมายเลข 1 ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์ ทันที ในขณะที่อันดับ 2 กลายเป็นหมายเลข 81 วิชัยยุธ มีใส, อันดับ 3 เป็นหมายเลข 22 ธนเทพ พู่ประเสริฐศักดิ์, อันดับที่ 4 หมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ และอันดับ 5 หมายเลข 79 กมล ไชยกุลงามดี ที่กำลังไล่ขึ้นมาอย่างดุเดือด เช่นเดียวกับคู่ไฮไลต์อย่างหมายเลข 81 ในอันดับ 2 ที่ตามจ่าฝูงไม่ห่าง แต่ท้ายที่สุดก็อกหัก เพราะรถมีปัญหาจนต้องออกจากการแข่งขันไป โดยตำแหน่งในช่วงกลางการแข่งขัน คือ จ่าฝูงหมายเลข 1, อันดับ 2 หมายเลข 46 อันดับ 3 เป็นหมายเลข 79 ที่ตีตื้นขึ้นมา ส่งหมายเลข 22 ลงมาเป็นอันดับ 4 ในขณะที่ อันดับ 5 เป็นหมายเลข 69 วินิจ รัตนศิริวิไล ซึ่งในช่วงท้ายเกมส์นั้นเพิ่มความเร้าใจมากขึ้น จากกลุ่มนำ ด้วยการชิงตำแหน่งอย่างดุเดือด ของหมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ ที่แซง หมายเลข 1 ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์ ขึ้นมาเป็นจ่าฝูง โดยที่หมายเลข 79 กมล ไชยกุลงามดี ก็ขยับเกาะตามมาติดๆ จนถึงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน ก่อนจะสวนคันเร่งเต็มพิกัดขณะทางตรงๆ เกาะกลุ่มรับธงตราหมากรุกกันไป ซึ่งโดยสรุปผลหมายเลข 79 กมล ไชยกุลงามดี เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1, หมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ อันดับ 2, หมายเลข 1 ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์ อันดับ 3 ส่วนอันดับที่ 4 และ 5 ยังคงเป็นหมายเลข 22 ธนเทพ พู่ประเสริฐศักดิ์ และหมายเลข 69 วินิจ รัตนศิริวิไล
วันอาทิตย์ Race 2 ของรุ่นนี้ สนามนี้ตำแหน่งโพล โพสิชั่น เปลี่ยนมือมาเป็นของ หมายเลข 1 ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์ กับ Honda ตัวซิ่งเครื่องยนต์ Twin Cam จากคลาส Am+Junior โดยมีมือเก๋าอย่างหมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ กับตัวแข่งเครื่อง Twin Cam แม้จะทำเวลาดีเป็นอันดับที่ 2 ของแถว แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเทคนิคเลยทำให้เลือกที่จะทำการสตาร์ทจาก Pit การแข่งขันของสาวก Honda ในรุ่น EFGK สนาม 2 ทำหน้าที่กระแทกคันเร่งชิงตำแหน่งแชมป์ในช่วงบ่ายเป็นรุ่นแรก ซึ่งสนามนี้ตำแหน่งโพล โพสิชั่น เปลี่ยนมือมาเป็นของ หมายเลข 1 ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์ กับ Honda ตัวซิ่งเครื่องยนต์ Twin Cam จากคลาส Am+Junior โดยมีมือเก๋าอย่างหมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ กับตัวแข่งเครื่อง Twin Cam แม้จะทำเวลาดีเป็นอันดับที่ 2 ของแถว แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเทคนิคเลยทำให้เลือกที่จะทำการสตาร์ทจาก Pit ธนเทพ พู่ประเสริฐศักดิ์ มือซิ่ง Single Cam ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ตามด้วยอันดับ 3 กับหมายเลข 69 วินิจ รัตนศิริวิไล, อันดับ 4 หมายเลข 81 วิชัยยุธ มีใส และอันดับที่ 5 หมายเลข 19 ระวิพงษ์ แก้วเบี่ยง ซึ่งทั้ง 3 อันดับ คือ พิกัดเครื่อง Single Cam ที่กำลังเปิดเกมส์ล่าอันดับสุดมันส์ให้ชม โดยเฉพาะอันดับ 4 หมายเลข 81 ที่กำลังหนีแรงกดดันจากอันดับ 5 หมายเลข 19 อย่างหนัก ในขณะที่จ่าฝูงอย่างอันดับ 1 หมายเลข 1 นั้นนำทิ้งยาวๆ จนกระทั่งมาถึงช่วงท้ายการแข่งขันอันดับที่ 5 หมายเลข 19 ดูเหมือนรถจะมีปัญหา ในขณะเดียวกันมือเก๋าอย่างหมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ ที่สตาร์ทจากท้ายแถวก็ไล่ขึ้นจนถึงอันดับที่ 6 ก็ตามประกบพร้อมชิงอันดับ จนในที่สุดก็สบโอกาสแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 5 ได้สำเร็จ ส่วนอันดับที่ 4 อย่างหมายเลข 81 ก็แปะติดท้ายอันดับ 3 หมายเลข 69 ในช่วงท้ายการแข่งขันเช่นกัน จนกระทั่งได้จังหวะเปลี่ยนอันดับ แต่เจ้าของตำแหน่งอย่างหมายเลข 69 ก็ไม่ยอมง่ายๆ และกลายเป็นคู่ชิงตำแหน่งสุดมันส์ให้ผู้ชมตามลุ้นไปจนจังหวะสุดท้ายของการแข่งขัน ที่ต้องตัดสินกันหน้าธงตาหมากรุก สรุปอันดับในช่วงท้ายเกมส์ของกลุ่มหัวแถว คือ จ่าฝูงยังคงเป็นหมายเลข 1 ชนะพันธุ์ กิตติเกษมศักดิ์ เช่นเดียวกับอันดับ 2 หมายเลข 22 ธนเทพ พู่ประเสริฐศักดิ์ ส่วนอันดับ 3 นั้นกลายเป็นหมายเลข 81 วิชัยยุธ มีใส ที่พยายามครองอันดับ 3 ไว้ได้สำเร็จ โดยมีอันดับ 4 เป็นหมายเลข 69 วินิจ รัตนศิริวิไล ปิดท้ายด้วยอันดับที่ 5 กับหมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ และเป็นตำแหน่งซึ่งรับธงตาหมากรุกเป็นที่เรียบร้อยของรุ่น EFGK
Roadmaster … Race 1 และ Race2
การแข่งขันในรุ่น Roadmaster สำหรับวันเสาร์ กับรถแข่งตัวแรงพิกัดใหญ่เครื่องเทอร์โบที่แบ่งเป็น 2 รุ่น คือ 3.2 ลิตร และ 2.2 ลิตร ทั้งรถขับเคลื่อน 4 ล้อ และ 2 ล้อ ส่วนตำแหน่งโพล โพสิชั่นของรุ่นนี้คือ หมายเลข 9 คัมภีร์ ธรรมธาราณา ในพิกัด 2.2 ลิตร คลาส Am+Junior โดยหลังจาก Rolling Start ก็นำยาวทันที โดยมีกลุ่มหลังต่างขยับอันดับตามกันมาติดๆ ก่อนที่ Evo ทั้ง 2 ลำ คือ หมายเลข 5 วีระกาจ ตอกจันทร์ และหมายเลข 29 เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ โชว์ผาดผานเบียดกันจนหลุดออกไปนอกแทรค ก่อนจะกลับเข้าสนามมาทำการแข่งขันใหม่อีกครั้ง โดยอันดับในช่วงเกือบกลางการแข่งขัน จ่าฝูงยังคงเป็นหมายเลข 9 คัมภีร์ ธรรมธาราณา กับ RX-7 ตัวแรง ส่วนอันดับ 2 เป็นหมายเลข 5 วีระกาจ ตอกจันทร์, อันดับ 3 เป็นหมายเลข 17 ธนภณ ทองเจือ ส่วนอันดับ 4 เป็นหมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ และอันดับ 5 กับหมายเลข 3 สรวงศ์ เทียนทอง อันดับในเกมส์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง จนกระทั่งช่วงท้ายการแข่งขันตัวแรง RX-7 ของจ่าฝูง หมายเลข 9 คัมภีร์ ธรรมธาราณา ก็ดันงอแงจนต้องเข้าพิท และไม่จบการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้หมายเลข 5 วีระกาจ ตอกจันทร์ กับรุ่นเครื่องยนต์พิกัด 2.2 ลิตร คลาส Am+Junior กลายเป็นผู้รับธงตราหมากรุกไปเป็นคันแรก ตามมาด้วยอันดับ 2 หมายเลข 17 ธนภณ ทองเจือ, อันดับ 3 หมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ และอันดับ 4 เป็นหมายเลข 3 สรวงศ์ เทียนทอง จากรุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร คลาส Am+Junior Pickup Turbo ศึกสิงห์ปิคอัพตัวแรงยกฝูงลงสนามต่อเนื่องทันทีด้วยรถแข่งเกือบ 20 คันจาก 3 คลาส โดยมีหมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ จากคลาส Am ประจำการอยู่ในตำแหน่งโพล โพสิชั่น โดยหลังจากสัญญาณไฟสตาร์ทดับลง หมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ก็ออกสตาร์ทจากตำแหน่งโพล โพสิชั่น ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที ในขณะที่อันดับ 2 หมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล นั้นก็เปิดเกมส์ด้วยความดุเดือดเช่นกัน กับการเปิดฉากไล่ล่าตำแหน่งตั้งแต่โค้งแรกแบบติดๆ ไม่ยอมห่าง จนได้จังหวะแซงขึ้นนำ แต่ไฉนเลยจ่าฝูงจะยอม ฉะนั้นในจังหวะต่อมาจึงโดนแซงกลับทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืนมาอีกครั้ง และด้วยการเดินเกมส์หนักของหมายเลข 11 ตั้งแต่ต้นการแข่งขันเลยทำให้รถหมุนเสียโอกาสหล่นลงไปหลายอันดับ และทำให้อันดับ 2 เปลี่ยนมือมาเป็นหมายเลข 15 ธณพล ชูเจริญผล, อันดับ 3 หมายเลข 99 สัมฤทธิ์ อู่ทรงธรรม, อันดับ 4 หมายเลข 23 ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ และอันดับที่ 5 กับหมายเลข 44 สมร มะปะเข ซึ่งทั้งอันดับ 4 และ 5 ต่างก็เป็นอีกคู่ไฮไลต์ที่น่าลุ้นจนวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน โดยเฉพาะการชิงอันดับสุดมันส์ในโค้งสุดท้ายก่อนรับธงตาหมากรุก และท้ายที่สุดก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอันดับจนกระทั่งจบการแข่งขัน โดยหมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ยังคงครองตำแหนงจ่าฝูงไว้อย่างเหนียวแน่น ตามด้วยอันดับ 2 เป็นหมายเลข 15, อันดับ 3 หมายเลข 99, อันดับ 4 หมายเลข 23 และอันดับที่ 5 กับหมายเลข 44
ส่วนในวันอาทิตย์ Roadmaster … Race 2 ลงสนามดวลคันเร่งเป็นรุ่นที่ 2 ของโปรแกรมการแข่งขัน เติมความระอุเดือดให้กับ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยอันดับบนกริดสตาร์ทเริ่มต้นจากตำแหน่งโพล โพสิชั่น ที่เป็นของ RX-7 ตัวโหดของหมายเลข 9 ของ คัมภีร์ ธรรมธาราณา ในพิกัด 2.2 ลิตร จากคลาส Am+Junior ประกบด้วยอันดับที่ 2 คือ หมายเลข 17 ธนภณ ทองเจือ ในพิกัด 2.2 ลิตร ส่วนอันดับ 3 เป็นหมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์, อันดับ 4 กับ หมายเลข 5 วีระกาจ ตอกจันทร์ จากคลาส Am+Junior และอันดับ 5 กับ หมายเลข 3 สรวงศ์ เทียนทอง กับรถ Toyota Supra ขาโหดพิกัดยักษ์ 3.2 ลิตร จากคลาส Am+Junior ปิดท้ายด้วยอันดับ 6 หมายเลข 70 ธนาเศรษฐ์ พูนเกียรติธนภาค พิกัด 3.2 ลิตร จากคลาสเดียวกัน Rolling Start เปิดเกมส์เดือดรุ่น Road Master สนามที่ 2 ด้วยการทะยานขึ้นนำของ RX-7 ตัวโหดหมายเลข 9 แต่ในช่วงทางตรงยาวนั้นมีลุ้นเต็มที่เมื่อฝูง Road Master ต่างบี้คันเร่งเพื่อขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูง ก่อนจะได้ผลสรุปเป็น คู่ Evo ตะกาย 4 ล้อ ครองอันดับ 1 และ 2 คือ หมายเลข 5 วีระกาจ ตอกจันทร์ และหมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ ในขณะที่อันดับ 3 และ 4 เป็น เครื่องจักรโรตารี่ คือ หมายเลข 17 ธนภณ ทองเจือ และหมายเลข 9 คัมภีร์ ธรรมธาราณา ซึ่งต่อมาบดคันเร่งขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 โดยมีหมายเลข 3 สรวงศ์ เทียนทอง รั้งอันดับ 5 และหมายเลข 70 ธนาเศรษฐ์ พูนเกียรติธนภาค ในอันดับ 6 การแข่งขันเริ่มดุเดือดเมื่อผ่านไปเพียงไม่กี่รอบสนาม เมื่ออันดับ 3 หมายเลข 9 คัมภีร์ ธรรมธาราณา ขยับติด และตีคู่อันดับ 2 หมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ เพื่อหวังชิงอันดับโดยสลับตำแหน่งขึ้น – ลงให้ตามลุ้นแทบทุกโค้งสนาม จนมาถึงครึ่งทางของการแข่งขัน ที่สุดท้ายหมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ ก็สามารถทิ้งระยะ และตรึงอันดับ 2 ไว้ได้ โดยที่ยังมีหมายเลข 9 คัมภีร์ ธรรมธาราณา พยายามไล่ตามอย่างไม่ลดละ ในขณะที่จ่าฝูงหมายเลข 5 วีระกาจ ตอกจันทร์ ก็ยังคงซิ่ง Evo นำยาวต่อไป ท้ายการแข่งขันอันดับ 2 หมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ ก็ดูเหมือนจะแผ่วลงจนทำให้อันดับ 3 หมายเลข 9 คัมภีร์ ธรรมธาราณา จ่อท้ายได้อีกครั้ง และแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้ในอีกเพียง 2 รอบสุดท้ายของการแข่งขัน แต่ดูเหมือนรถจะทรงไม่ดีเท่าไหร่ เลยกลับมาเสียตำแหน่งอีกครั้ง ก่อนรอบสุดท้ายของการแข่งขัน แม้จะมีช่วงทางตรงให้บดคันเร่งลุ้นเปลี่ยนอันดับ แต่ทั้ง 2 คันต่างก็เสียจังหวะในช่วงทางโค้ง โดยไม่ส่งผลให้อันดับในการแข่งขันการเปลี่ยนแปลง สรุปอันดับที่ 1 และ 2 ยังคงเป็น Evo ทั้ง 2 ลำ คือ หมายเลข 5 วีระกาจ ตอกจันทร์ และหมายเลข 39 ชยกร สาตศิลป์ ส่วนอันดับ 3 และ 4 เป็นเครื่องจักรโรตารี่ คือ หมายเลข 9 คัมภีร์ ธรรมธาราณา และหมายเลข 17 ธนภณ ทองเจือ ปิดท้ายด้วยอันดับ 5 หมายเลข 3 สรวงศ์ เทียนทอง
Super turbo … Race 1 และ Race2
รุ่นนี้ก็เช่นเดียวกัน เริ่มต้นสนาม 1 ในวันเสาร์ การแข่งขันของตัวแรงทั้ง 4 Division ลงสนามพร้อมกัน โดยตำแหน่งโพล โพสิชั่นของแต่ละรุ่น คือ รุ่น 2000 Turbo กับหมายเลข 20 เดวิช อยู่เป็นสุข จากคลาส Am+Junior กับเวลา 1:53.419 นาที, รุ่น 1600 Turbo หมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ กับเวลา 1:52.040 นาที, รุ่น 1500 Turbo เป็นหมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ 1:59.813 นาที และรุ่นเล็กสุด 1200 Turbo กับหมายเลข 55 อิสระ ลิ้มเธนศกุล เวลา 2:04.336 นาที Rolling Start ปล่อยฝูงตัวแรง โดยมีหมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ จากรุ่น 1600 Turbo ทะยานขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ตามด้วยหมายเลข 19 ชยุส ยังพิชิต ในอันดับ 2 ก่อนที่ตัวแรงหมายเลข 20 เดวิช อยู่เป็นสุข จากรุ่น 2000 Turbo จะสวนคันเร่งเสียบแซงทั้ง 2 คันขึ้นเป็นจ่าฝูง ทั้งยังทำให้หมายเลข 9 เสียจังหวะปล่อยให้หมายเลข 19 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 โดยตำแหน่งในช่วงต้นการแข่งขันสรุป คือ อันดับ 1 หมายเลข 20, อันดับ 2 หมายเลข 19, อันดับ 3 หมายเลข 9, อันดับ 4 หมายเลข 7 มาวิน บุญอิต จากรุ่น 1500 Turbo และอันดับที่ 5 หมายเลข 22 ธีระศักดิ์ ศักดิ์แพทย์ จากรุ่นเดียวกัน ในช่วงกลางการแข่งขันทั้งอันดับที่ 2 และ 3 ต่างก็เปิดเกมส์ดุใส่กันไม่ยั้งด้วยการผลัดกัน ช่วงชิงตำแหน่ง โดยเฉพาะหมายเลข 19 ชยุส ยังพิชิต ที่กดดันหมายเลข 9 อย่างหนัก ก่อนจะได้จังหวะขยับตำแหน่ง แต่ก็ดูเหมือนโชคไม่เข้าข้าง เพราะรถมีปัญหาจนต้องกลับเข้าพิท ทำให้อันดับที่ 2 ยังคงเป็นหมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ อันดับ 3 เป็น หมายเลข 7 มาวิน บุญอิต และอันดับ 4 หมายเลข 22 ธีระศักดิ์ ศักดิ์แพทย์ จากรุ่น 1500 Turbo ส่วนอันดับที่ 5 เป็นหมายเลข 10 ยศรัญ แสนสุข จากรุ่น 1200 Turbo โดยเป็นลำดับสุดท้ายก่อนจะจบการแข่งขัน
Super turbo Race 2 แข่งวันอาทิตย์ ส่งท้ายสนามแรกรายการ Super Turbo Thailand นัดเปิดฤดูกาล 2017 ด้วยการชิงชัยสนามที่ 2 ของการแข่งขันรุ่น Super Turbo ซึ่งลงสนามเปิดศึกใหญ่พร้อมกันทั้ง 4 Division โดยตำแหน่งโพล โพสิชั่นบนกริดสตาร์ทเป็นหมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ ในรุ่น 1600 Turbo ตามด้วยกริดที่ 2 กับหมายเลข 20 เดวิช อยู่เป็นสุข จากคลาส Am+Junior ในรุ่น 2000 Turbo, ส่วนกริดที่ 3 เป็นหมายเลข 32 ภิษณุ ภูษิตานนธกูร จากรุ่น 1600 Turbo คลาส Am+Junior, กริดที่ 4 เป็นหมายเลข 7 มาวินร์ บุญอิต จากคลาส Am+Junior ในรุ่น 1500 Turbo และกริดที่ 5 เป็นหมายเลข 22 ธีระศักดิ์ ศักดิ์แพทย์ ในรุ่น 1500 Turbo คลาส Am+Junior เปิดเกมส์ด้วย Rolling Start พร้อมการโชว์ความร้ายกาจของจ่าฝูงหมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ ในรุ่น 1600 Turbo ที่ออกนำยาว และความเร้าใจของรถแข่งในกลุ่มกลางขบวนที่เสียหลักหมุนขวาง จนรถด้านหลังต้องบานออกนอกไลน์เพื่อหักหลบ ส่วนอันดับที่ 2 ที่ตามมาติดๆ เป็นรถหมายเลข 20 เดวิช อยู่เป็นสุข จากคลาส Am+Junior ในรุ่น 2000 Turbo เช่นเดียวกับอันดับ 3 และ 4 ซึ่งยังคงรั้งอันดับเหนียวแน่นโดย หมายเลข 32 ภิษณุ ภูษิตานนธกูร จากรุ่น 1600 Turbo คลาส Am+Junior และหมายเลข 7 มาวินร์ บุญอิต จากคลาส Am+Junior ในรุ่น 1500 Turbo ในขณะที่อันดับ 5 ได้กลายเป็นหมายเลข 33 ชนุชา ปัญญารุ่งเจริญ จากคลาสเดียวกัน ซึ่งต่อมารถมีปัญหา และเสียตำแหน่งไปให้กับหมายเลข 6 วีระกาจ ตอกจันทร์ จากรุ่น 2000 Turbo คลาส Am+Junior ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 5 ครึ่งทางของการแข่งขันผ่านไป พร้อมกับความมันส์ของกลุ่มหัวแถว โดยรถหมายเลข 20 เดวิช อยู่เป็นสุข จากคลาส Am+Junior ในรุ่น 2000 Turbo ตามจ่อท้ายจ่าฝูงหมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ ในรุ่น 1600 Turbo ติดหนึบเพื่อรอจังหวะแซง และในที่สุดก็ทำสำเร็จ ทำให้รถหมายเลข 20 เดวิช อยู่เป็นสุข ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ในขณะที่ช่วงต่อมาอันดับที่ 5 หมายเลข 6 วีระกาจ ตอกจันทร์ จากรุ่น 2000 Turbo คลาส Am+Junior ที่อุตส่าห์หวดจากท้ายแถวขึ้นมาเป็นอันดับ 5 ก็ต้องอกหักไปในสนามนี้ เพราะรถมีปัญหาทำให้ หมายเลข 34 อิศเรศ จิรพงศานานุรักษ์ ในรุ่น 1600 Turbo คลาส Am+Junior ขึ้นมาเป็นอันดับ 5 อีกหนึ่งความดุเดือดท้ายการแข่งขัน คือ หมายเลข 46 หทัย ไชยวัณณ์ ในรุ่น 1500 Turbo และหมายเลข 55 อิสระ ลิ้มเธนศกุล ในรุ่น 1200 Turbo ที่ไล่บี้กันอย่างสุดมันส์เพื่อชิงอันดับ พร้อมกับหมายเลข 10 ยศรัญ แสนสุข ในรุ่น 1200 Turbo ที่เข้ามาร่วมแจมเป็นศึก 3 เส้า ชนิดที่ต้องตามลุ้นกันทุกโค้ง จนจบการแข่งขัน Super Turbo สนามที่ 2 ด้วยธงตาหมากรุกที่โบกสะบัดรับจ่าฝูงหมายเลข 20 เดวิช อยู่เป็นสุข คลาส Am+Junior ในรุ่น 2000 Turbo เข้าเส้นเป็นคันแรก ตามด้วยอันดับ 2 หมายเลข 9 เอกประวัติ เพ็ชรรักษ์ ในรุ่น 1600 Turbo, อันดับ 3 กับหมายเลข 32 ภิษณุ ภูษิตานนธกูร จากรุ่น 1600 Turbo คลาส Am+Junior, อันดับ 4 หมายเลข 7 มาวินร์ บุญอิต จากคลาส Am+Junior ในรุ่น 1500 Turbo และปิดท้ายด้วยอันดับ 5 กับหมายเลข 34 อิศเรศ จิรพงศานานุรักษ์ ในรุ่น 1600 Turbo คลาส Am+Junior
Pickup Turbo Race1 และ Race2
ศึกสิงห์ปิคอัพตัวแรงยกฝูงลงสนามต่อเนื่องทันทีด้วยรถแข่งเกือบ 20 คันจาก 3 คลาส โดยมีหมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ จากคลาส Am ประจำการอยู่ในตำแหน่งโพล โพสิชั่น โดยหลังจากสัญญาณไฟสตาร์ทดับลง หมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ก็ออกสตาร์ทจากตำแหน่งโพล โพสิชั่น ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที ในขณะที่อันดับ 2 หมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล นั้นก็เปิดเกมส์ด้วยความดุเดือดเช่นกัน กับการเปิดฉากไล่ล่าตำแหน่งตั้งแต่โค้งแรกแบบติดๆ ไม่ยอมห่าง จนได้จังหวะแซงขึ้นนำ แต่ไฉนเลยจ่าฝูงจะยอม ฉะนั้นในจังหวะต่อมาจึงโดนแซงกลับทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืนมาอีกครั้ง และด้วยการเดินเกมส์หนักของหมายเลข 11 ตั้งแต่ต้นการแข่งขันเลยทำให้รถหมุนเสียโอกาสหล่นลงไปหลายอันดับ และทำให้อันดับ 2 เปลี่ยนมือมาเป็นหมายเลข 15 ธณพล ชูเจริญผล, อันดับ 3 หมายเลข 99 สัมฤทธิ์ อู่ทรงธรรม, อันดับ 4 หมายเลข 23 ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ และอันดับที่ 5 กับหมายเลข 44 สมร มะปะเข ซึ่งทั้งอันดับ 4 และ 5 ต่างก็เป็นอีกคู่ไฮไลต์ที่น่าลุ้นจนวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน โดยเฉพาะการชิงอันดับสุดมันส์ในโค้งสุดท้ายก่อนรับธงตาหมากรุก และท้ายที่สุดก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอันดับจนกระทั่งจบการแข่งขัน โดยหมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ยังคงครองตำแหนงจ่าฝูงไว้อย่างเหนียวแน่น ตามด้วยอันดับ 2 เป็นหมายเลข 15, อันดับ 3 หมายเลข 99, อันดับ 4 หมายเลข 23 และอันดับที่ 5 กับหมายเลข 44
แล้วพอถึงวันอาทิตย์ Pickup Turbo … Race 2 ประจันบาญกันอย่างพร้อมเพรียงทั้ง 3 คลาส โดยมีหมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ จากคลาส Am ประจำการอยู่ในตำแหน่งโพล โพสิชั่น พร้อมด้วยหมายเลข 15 ธณพล ชูเจริญผล จากคลาสเดียวกันอยู่ในกริดที่ 2, หมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล คลาส Pro ในกริดที่ 3, หมายเลข 99 สัมฤทธิ์ อู่ทรงธรรม จากคลาส Junior ในกริดที่ 4 และหมายเลข 23 ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ จากคลาสเดียวกันในกริดที่ 5 สตาร์ทเกมส์สิงห์ปิคอัพชิงชัยสนาม 2 แบบ Rolling Start โดยยังคงมีหมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ โชว์ฟอร์มดุสวนคันเร่งขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของขบวนอีกครั้ง ตามด้วยหมายเลข 15 ธณพล ชูเจริญผล ที่กำลังโดนบี้ติดโดยอันดับ 3 ที่กลายมาเป็นหมายเลข 99 สัมฤทธิ์ อู่ทรงธรรม จนกลายเป็นไฮไลต์ที่น่าลุ้นอีกหนึ่งคู่ ส่วนอันดับที่ 4 เป็นหมายเลข 10 ศุภชัย คงชื่น และอันดับที่ 5 ที่ยังคงเป็น หมายเลข 23 ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ โดยนอกจากลุ่มหัวแถวแล้วอีกไฮไลต์ที่น่าลุ้นก็คือลีลาการซิ่งของกลุ่มกลาง และท้ายแถว ซึ่งดุเดือดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะจังหวะการชิงไลน์เพื่อแซงขยับอันดับ ส่วนหมายเลข 11 ไพฑูรย์ ธรรมาศิริกุล เจ้าของลีลาบู๊ดุเดือดในเกมส์เมื่อวาน ซึ่งเรซนี้ออกสตาร์ทจากอันดับ 3 ก็รถมีปัญหาตั้งแต่ต้นการแข่งขัน จำต้องเข้า Pit แก้ไข ก่อนจะออกมาทำการแข่งขันอีกครั้งในอันดับท้ายๆ ใน ในขณะที่เกมส์การแข่งขันผ่านไปครึ่งทางกลุ่มนำก็มีการเปลี่ยนอันดับกันอีกครั้ง ในขณะที่จ่าฝูงยังคงเป็นหมายเลข 22 ธนวัฒน์ สุวรรณรัตน์ พร้อมกับอันดับที่ 2 ซึ่งกลายเป็นหมายเลข 10 ศุภชัย คงชื่น คลาส Junior เนื่องจากรถหมายเลข 15 และ 99 มีปัญหาจนหล่นไปอยู่ท้ายแถว ส่วนอันดับที่ 3 กลายเป็นหมายเลข 23 ชินวุฒิ เหล่าชินชาติ คลาส Junior, อันดับที่ 4 เป็นหมายเลข 77 ชัยณรงค์ ชัยวัฒนกุลวานิช คลาส Am และอันดับที่ 5 เป็นหมายเลข 21 สุริยันต์ สวนสกุล จากคลาส Junior พร้อมกับการแข่งขันที่จบลงไปอย่างสุดมันส์
สุดติ่ง ถ้าใครไม่ตามสนาม 3 และ สนาม 4 ในเดือนถัดไป ความมันส์บังเกิดแน่ อย่างเบิร์ด อลงกรณ์ ยั่งยืน มาดูแข่งขันครั้งนี้ แม้จะไม่ได้ลงแข่ง แต่ในสายตานักแข่ง ก็บอกเลยว่ารายการนี้น่าแข่ง เพราะแบ่งรุ่นชัดเจน มีสิทธิ์ที่จะได้ขึ้นโพเดี่ยมแน่ งั้นไว้คอยดูแล้วกันว่า รายการ Super Turbo Thailand จะไปถึงไหน พานักแข่ง และวงการมอเตอร์สปอร์ตไปถึงฝั่งฝันหรือไม่? งานนี้นักข่าว คนกันเอง ไปกันอย่างคับคั่ง แถมคืนวันเสาร์นอกจากเพลิดเพลินกับการดูการซ้อมกลางคืนของ ซูเปอร์ เทอร์โบ ไทยแลนด์ แล้ว จากนั้นก็ไปดู แดรก เรซซิ่ง ของสนามช้างฯ ด้านท้ายสนามกันต่อ พร้อมคอนเสิร์ตอีกด้วย