MAZDA พร้อมก้าวสู่พรีเมียมแบรนด์

เหตุใดหรือ? ที่มาสด้ากล้าประกาศการก้าวสู่การเป็นพรีเมียมแบรนด์ ถ้า บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายและให้บริการรถยนต์ยี่ห้อ “มาสด้า” ในประเทศไทยไม่แน่ใจเรื่องการขึ้นแท่นครองใจลูกค้าในประเทศไทย

สำหรับ “ความพึงพอใจด้านการบริการงานขายรถใหม่” หรือ SSI (Sales Satisfaction Index) หลังจากเร่งมือปรับปรุงภาพลักษณ์ของโชว์รูมภายใต้ MCI ใหม่ พัฒนาคุณภาพของการบริการ  รวมทั้งยกระดับคุณภาพของบุคลกรทั่วประเทศ ส่งผลให้การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ใหม่ประจำปีนี้ โดยสถาบัน เจ.ดี พาวเวอร์ บริษัทจัดการสำรวจที่ได้รับความน่าเชื่อถือมากที่สุด โดยในปี 2560 นี้มาสด้าพุ่งพรวดมาอยู่อันดับ 2 ด้วยคะแนนสูงสุดถึง 827 คะแนน ขยับขึ้นจากอันดับที่ 5 เมื่อปีที่ผ่านมา จากการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้ากว่า 2,500 ราย จากผลงานการวิจัยและจัดอันดับจากสถานบัน เจ.ดี. พาวเวอร์ ผู้สำรวจและวิจัยหลักที่ทำการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้ามาอย่างยาวนาน (J.D. Power 2017 Thailand Sales Satisfaction Index (SSI) Study, SM) โดยใช้ 6 ปัจจัยหลัก ที่ส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจรวมของลูกค้าเป็นตัวชี้วัดซึ่งประกอบด้วย การส่งมอบรถ, สิ่งอำนวยความสะดวกของผู้จำหน่าย, การเริ่มต้นการขาย, การเจรจาตกลง, ระยะเวลาในการส่งมอบรถ, และพนักงานขาย สามารถทำคะแนนรวมได้ 827 คะแนน จากคะแนนรวม 1,000 คะแนน โดยมีคะแนนต่างจากอันดับ 1 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยขยับขึ้นจากอันดับ 5 ในปี 2559 จากคะแนนรวม 806 คะแนน ถือเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพด้านการบริการหลังเดินหน้าปรับโชว์รูมและศูนย์บริการรูปแบบใหม่ทั่วประเทศ มาตรฐานระดับพรีเมียมแบรนด์อย่างเต็มตัว ชูจุดแข็งด้านการบริการสร้างความประทับใจระดับสูงสุด

คุณชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “พวกเราทุกคนรู้สึกยินดีและปลื้มใจอย่างมากที่เราสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 หลังจากที่ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อลูกค้าของเรา มาสด้ายังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อดำเนินตามนโยบายเกี่ยวกับการขยายเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการ ที่มาสด้าได้ประกาศไว้อย่างชัดเจน ทั้งการปรับโชว์รูมใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Mazda Corporate Identity ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ สร้างคุณค่าทางอารมณ์ให้แก่รถยนต์มาสด้า และกำเนิดสายสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าตั้งแต่ครั้งแรก ต่อเนื่องไปถึงการวางระบบบริการแบบครบวงจร ก่อน-หลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพกับ MAZDA ACTIV SERVICE ซึ่งสอดคล้องกับ 6 ปัจจัยหลัก ที่จะส่งผลต่อความพึงพอใจลูกค้าในทุกหัวข้อ เช่นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดด้วยความสะดวกสบาย (Convenience) ได้แก่ ศูนย์ซ่อมสี และตัวถังแบบครบวงจร ห้องรับรองลูกค้าที่อบอุ่น หรูหรา และช่องพิเศษในการให้บริการแบบเร่งด่วนไม่เกิน 2 ชั่วโมง สัมผัสกับความรวดเร็ว (Fast) กับช่องซ่อมแบบเร่งด่วน จัดเตรียมสำรองอะไหล่ที่จำเป็น การอนุมัติงานซ่อมแบบเร่งด่วนกรณีเกิดอุบัติเหตุ การจัดส่งอะไหล่ที่รวดเร็วและตลอด 24 ชั่วโมง สร้างมาตรฐานและประสิทธิภาพเดียวกันทุกโชว์รูม (Standardize & Efficiency) ราคาที่สบายกระเป๋า โปร่งใส (Price) ทั้งราคาอะไหล่แต่ละชิ้นต้องมีการประกาศให้ลูกค้ารับทราบ ราคาค่าแรงในการให้บริการ ราคาค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง ราคาที่สามารถเปรียบเทียบกับตลาด และปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อดัชนีความพึงพอใจของลูกค้า คือ ทีมงานฝ่ายขาย ซึ่งมาสด้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาบุคลากรที่มากด้วยคุณภาพ ทั้งด้านความรู้และความสามารถ จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญ เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการมีใจด้านการบริการ รวมไปถึงการให้บริการอย่างเป็นธรรม พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวดีของตนเองที่มีต่อมาสด้าไปสู่ลูกค้า จนเกิดเป็นการบริการด้านการขายอันน่าประทับใจ จากผลวิจัยของ เจ.ดี. พาวเวอร์ มาสด้ามีจุดแข็งในด้านการเริ่มต้นการขาย ระยะเวลาและกระบวนการในการส่งมอบ จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องชี้วัดความสำเร็จของการดำเนินงานของมาสด้าในปีนี้ด้วย การศึกษาวิจัยดัชนีด้านบริการงานขายในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 โดยวิจัยจากความคิดเห็นเจ้าของรถยนต์คันใหม่จำนวน 2,458 ราย ที่ซื้อรถยนต์ในช่วงเดือนสิงหาคม 2559 ถึงเดือนเมษายน 2560 ซึ่งก่อนตัดสินใจซื้อจะศึกษาข้อมูลจากหลายช่องทาง โดยแหล่งข้อมูลที่ถูกใช้มากที่สุด คือ สอบถามจากผู้มีประสบการณ์ซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุด และโดยส่วนใหญ่จะพึงพอใจต่องานขายและการส่งมอบสูง ซึ่งในด้านการสื่อสารการตลาดจะเห็นภาพยนตร์โฆษณาที่ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์จริงของลูกค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ด้วยความจริง ดูแลหลังการขายเสมือนคนในครอบครัว”

 

 

Related posts

Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed