เลกซัสเดินหน้าสู่อนาคตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเปิดตัวคอนเซปต์คาร์ LF-Z ครั้งแรกของโลกกับการเปิดตัว “LF-Z Electrified” คอนเซปต์คาร์ BEV ที่จะกำหนดทิศทางให้กับเลกซัสเจเนอเรชั่นถัดไป
เลกซัสเร่งพัฒนารถยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายรวมถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทั่วโลกเปิดตัว “LF-Z Electrified” คอนเซปต์คาร์ BEV นำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ของรถไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริง ภายในปี 2025 เลกซัสจะเปิดตัวรถยนต์ใหม่กว่า 20 รุ่น ทั้ง BEV / PHEV / HEV และรถยนต์พลังงานทางเลือกอื่นๆ จัดตั้งศูนย์ธุรกิจและเทคโนโลยีใหม่ที่รวมแผนกการพัฒนา การออกแบบเทคโนโลยีการผลิต และการวางแผน เพื่อส่งเสริมการพัฒนายานยนต์นวัตกรรมใหม่
ด้วยจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่งและการตอบรับจากลูกค้าทั่วโลก เลกซัสยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะแบรนด์ไลฟ์สไตล์หรู เลกซัสได้มอบผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่น่าทึ่งด้วยเทคโนโลยีและค่านิยมใหม่ ๆ ตั้งแต่ปี 1989 โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการปฏิรูปในรอบศตวรรษ นอกเหนือจากภารกิจเพื่อสังคมในการหยุดปล่อยก๊าซคาร์บอน และการปฏิบัติตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ไลฟ์สไตล์ รวมถึงค่านิยมของลูกค้าได้มีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มความหลากหลายมากขึ้นอย่างรวดเร็วเหนือจินตนาการ สภาพแวดล้อมทางสังคม ความต้องการในการเดินทาง และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นส่วนหนึ่งของตลาดรถยนต์หรูที่กำลังเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าไป ภายใต้สถานการณ์ทั้งหมดนี้ เลกซัสได้สร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม รวมถึงลูกค้าของเราอีกด้วย เลกซัสพร้อมที่จะตอบสนองอย่างรอบคอบ และรวดเร็วต่อความต้องการของลูกค้าที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป และมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นแบรนด์ที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า
ตั้งแต่มีการเปิดตัว RX 400h รถยนต์หรูพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกในปี 2005 จนถึงปัจจุบัน รถยนต์ไฮบริดจากเลกซัส ได้จำหน่ายไปแล้วกว่าสองล้านคันทั่วโลก โดยปัจจุบันเลกซัส มีรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEVs) และรถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า (BEVs) ทั้งหมด 9 รุ่น ที่ทำตลาดใน 90 ประเทศตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก เลกซัสยังคงมุ่งพัฒนาภายใต้วิสัยทัศน์“Lexus Electrified” ที่ได้ประกาศในปี 2019 ด้วยเป้าหมายที่จะกำหนดบรรทัดฐานใหม่ด้วยการนำเทคโนโลยีไฟฟ้ามาใช้งานจริง พร้อมมอบความสุขและความพึงพอใจในการใช้งานรถยนต์อย่างต่อเนื่อง
ในวันนี้เลกซัสจัดการเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกสำหรับ “LF-Z Electrified” คอนเซปต์คาร์ BEV ที่รวมเอาสมรรถนะการขับขี่ สไตล์ และเทคโนโลยีไว้ด้วยกัน โดยวางยุทธศาสตร์ให้เป็นจริงได้ภายในปี 2025 รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับความสมดุลในการขับขี่ที่เกิดจากการจัดวางแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีควบคุมพลังขับเคลื่อนสี่ล้อแบบใหม่ที่เรียกว่า “DIRECT4” ที่จะสร้างสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นและยืดหยุ่นอย่างมาก ทำให้ LF-Z Electrified มีความแตกต่างจากรถยนต์ในรูปแบบเดิม ๆ นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้ เลกซัสยังวางแผนที่จะนำเทคโนโลยีและฟังก์ชันอินโฟเทนเมนต์ชั้นสูงเข้ามาใช้งาน ซึ่งจะทำให้ประสบการณ์การเดินทางของลูกค้าของเราสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ภายในปี 2025 เลกซัสมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และรุ่นปรับปรุงโฉมจำนวน 20 รุ่น รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 10 รุ่นอย่างเช่นรถยนต์ BEV รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รถยนต์ไฮบริด (HEV) ตามความต้องการของแต่ละประเทศและภูมิภาคทั่วโลก บนรากฐานแนวคิดในการมอบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ให้แก่ตลาดที่เหมาะสม ในเวลาที่เหมาะสม
นอกจากสร้างความเข้มแข็งและขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์หลักประเภทซีดานและเอสยูวีแล้ว เลกซัสจะมุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ อย่างเช่นกลุ่มรถสปอร์ตที่มอบความสนุกในการขับขี่ได้อย่างต่อเนื่อง รถยนต์ที่จะพลิกนิยามแนวคิดของการมีผู้ขับให้ และรถยนต์ประเภทใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีที่ใดมาก่อนในโลก โดยการทำสิ่งเหล่านี้จะต้องรับความท้าทายเพื่อจะมอบค่านิยมใหม่ที่เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้าของเรา
เลกซัสมีเป้าหมายที่จะนำเสนอทางเลือกรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ทุกรุ่นภายในปี 2025 โดยตั้งเป้าหมายให้มีอัตราการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์น้ำมันภายในปี 2050 เลกซัสยังต้องการที่จะหยุดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตลอดทั้งวงจรของผลิตภัณฑ์รถยนต์ทุกรุ่นที่มีจำหน่าย ตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และรถยนต์ ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์ รวมถึงการกำจัดและรีไซเคิลรถยนต์รุ่นเก่าในขั้นตอนสุดท้าย ด้วยวิสัยทัศน์และภารกิจที่ชัดเจนในการหยุดปล่อยก๊าซคาร์บอน จะทำให้เลกซัสสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการการผลิตชิ้นส่วนลงได้
ในเดือนมีนาคม 2024 เพื่อเร่งการวางแผนและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและตอบสนองกับความต้องการของลูกค้า เลกซัสได้วางกำหนดการเปิดธุรกิจและศูนย์เทคโนโลยีขึ้นใหม่ ซึ่งรวมสมาชิกที่เกี่ยวข้องในด้านการพัฒนา การออกแบบ เทคโนโลยีการผลิต และการวางแผนของแบรนด์เลกซัส มาร่วมกันสร้างรถยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์ร่วมกันกับพันธมิตรภายนอก
LEXUS LF-Z ELECTRIFIED
รถยนต์ไฟฟ้า LF-Z คือรถยนต์คอนเซปต์ BEV ที่เป็นสัญลักษณ์ของการพลิกโฉมแบรนด์เลกซัส ซึ่งรวมไว้ด้วยสมรรถนะการขับขี่ สไตล์ และเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งมีกำหนดให้ใช้งานจริงได้ภายในปี 2025 วิวัฒนาการครั้งสำคัญของสมรรถนะยานยนต์ที่มีพื้นฐานมาจากการใช้เทคโนโลยีไฟฟ้า อันเป็นเป้าหมายของวิสัยทัศน์ด้านพลังงานไฟฟ้าของเลกซัสหรือ “Lexus Electrified” รถยนต์ไฟฟ้า LF-Z จะใช้แพลตฟอร์ม BEV ที่พัฒนาขึ้นใหม่ โดยมีเทคโนโลยีควบคุมพลังขับเคลื่อนสี่ล้อแบบใหม่ที่เรียกว่า “DIRECT4” ซึ่งตอบสนองการขับเคลื่อนฉับไวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าควบคุมล้อทั้งสี่ของรถยนต์ได้อย่างอิสระ เพื่อประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือกว่าและมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้แตกต่างจากรถทั่วไป ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีการใช้ไฟฟ้าเข้ากับเทคโนโลยีควบคุมการขับเคลื่อนของรถยนต์ที่ได้รับการพัฒนามายาวนาน เลกซัสมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประสิทธิภาพการขับขี่ในรูปแบบที่จะเชื่อมต่อผู้ขับเข้ากับรถยนต์ได้ดียิ่งขึ้น
รูปลักษณ์ภายนอกที่เร้าอารมณ์ของรถยนต์ไฟฟ้า LF-Z ได้รับการออกแบบด้วยความประณีต ตอกย้ำเอกลักษณ์ด้านการออกแบบของรถยนต์เลกซัส แสดงออกถึงความรู้สึกในการขับขี่ที่กระฉับกระเฉง และว่องไวด้วยพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ BEV อันเป็นเอกลักษณ์ ภายในรถประกอบด้วยห้องโดยสารส่วนควบคุมการขับขี่แบบ “ทาซึนะ” และมีรูปแบบเปิดโล่งสไตล์ “มินิมอลลิสต์” ทั้งยังยกระดับแนวทางการออกแบบที่เข้าถึงตัวผู้ขับขี่ที่เป็นศูนย์กลางตามแบบฉบับของเลกซัส อันเป็นฐานรากของแบรนด์เลกซัสมาตั้งแต่ปี 1989
นอกจากนี้ ยังมีระบบ AI ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลไลฟ์สไตล์ ผ่านการสนทนาโต้ตอบรวมถึงการเรียนรู้พฤติกรรมและความชอบของผู้ขับขี่เพื่อแนะนำเส้นทาง ทั้งยังสามารถจองโต๊ะในร้านอาหารและอื่น ๆ ได้อีกด้วย เมื่อพัฒนาระบบป้องกันภัยและระบบรักษาความปลอดภัยควบคู่ไปด้วยแล้ว AI จะช่วยให้ประสบการณ์การเดินทางสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
รถยนต์ไฟฟ้า LF-Z คือพัฒนาการของ “เอกลักษณ์การขับเคลื่อนของเลกซัส”ประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครจากเลกซัสมุ่งเน้นการตอบสนองอย่างต่อเนื่องตรงตามความตั้งใจของผู้ขับขี่ รวมถึงความรู้สึกในการเชื่อมต่อชะลอความเร็ว การบังคับเลี้ยว และการเร่งความเร็วในทุกสถานการณ์การขับขี่ รถยนต์ไฟฟ้า LF-Z สามารถรักษาสมดุลและเสถียรภาพในการชับชี่ได้อย่างดีเลิศ โดยการวางตำแหน่งแบตเตอรี่และมอเตอร์ไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด เทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฟฟ้าทำให้สามารถนำนวัตกรรมการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกมาใช้ได้ และยกระดับเอกลักษณ์การขับขี่ของเลกซัสให้สูงยิ่งขึ้นด้วยการพัฒนาสมรรถนะพื้นฐานของรถยนต์
การจัดวางชุดแบตเตอรี่ไว้ใต้พื้นรถในแนวยาวทำให้แชสซีมีความแข็งแรงมากขึ้น และจุดศูนย์ถ่วงของรถต่ำลงเพื่อเพิ่มความคล่องตัว นอกจากนี้การออกแบบลักษณะนี้ยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงไม่พึงประสงค์ที่เข้าสู่ห้องโดยสารอีกด้วย DNAความเงียบและความสบายของเลกซัสได้ถูกพัฒนาขึ้นมากอย่างครบถ้วน
เทคโนโลยีควบคุมพลังขับเคลื่อนสี่ล้อแบบใหม่หรือ DIRECT4 ช่วยให้สามารถควบคุมการขับเคลื่อนของมอเตอร์แรงบิดสูงได้อย่างอิสระ ทำให้สามารถควบคุมอาการของตัวรถได้อย่างละเอียดตามสัมผัสและการสั่งงานของมนุษย์ นอกจากนี้ การควบคุมล้อขับเคลื่อนหน้าและหลังเป็นอิสระจากกัน ยังทำให้ระบบสามารถเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนได้อย่างเหมาะสม เช่น ขับเคลื่อนล้อหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อนทั้งสี่ล้อ ตามสถานการณ์การขับขี่แต่ละแบบ ระบบจะควบคุมการส่งแรงขับเคลื่อนโดยการประมวลผล และคำนวณการกดแป้นคันเร่งและการควบคุมพวงมาลัยแบบไร้รอยต่อ ทำให้ได้อัตราเร่งที่ทรงพลังและประสิทธิภาพการบังคับเลี้ยวที่เร้าใจตรงกับความต้องการของผู้ขับขี่
การใช้ระบบบังคับเลี้ยวแบบไฟฟ้าจะตัดความจำเป็นในการเชื่อมต่อด้วยกลไกผ่านแกนพวงมาลัยออกไป ส่งผลให้เกิดการโต้ตอบโดยตรงระหว่างส่วนควบคุมพวงมาลัยและแรงขับเคลื่อน การใช้ระบบนี้ทำให้รถยนต์มีมุมบังคับเลี้ยวที่แคบลง และมีความแม่นยำมากขึ้นในการตอบสนองการขับขี่ท่ามกลางสภาวะต่างๆ
รถยนต์ไฟฟ้า LF-Z เป็นโมเดลศึกษาที่เผยให้เห็นถึงทิศทางการพัฒนาสไตล์ของเลกซัส โดยมีเป้าหมายเพื่อออกแบบรถยนต์ให้มีรูปร่างที่เรียบง่ายและดึงดูดสายตา ผสานกับสัดส่วนที่ดูแข็งแกร่งและรูปโฉมภายนอกที่แตกต่าง โดยเฉพาะรูปทรงโดยรวมที่เริ่มต้นจากส่วนล่างบริเวณด้านหน้ารถและพุ่งสูงขึ้นไปด้านหลังตามแนวคิดของรถยนต์ BEV ตัวรถประกอบด้วยเส้นสายที่ต่อเนื่องโดยมีศูนย์กลางอยู่ภายในห้องโดยสารที่เรียบเนียน วงล้อที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ได้รับการจัดวางให้ใกล้กับมุมทั้งสี่ของตัวรถมากที่สุด เพื่อเพิ่มระยะฐานล้อให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ
เลกซัสรับนำความท้าทายในการพัฒนารูปทรงแกนหมุนอันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัสให้กลายมาเป็นตัวถังรถยนต์รูปทรงแกนหมุน ซึ่งเป็นการถ่ายทอดสถาปัตยกรรมตัวถังรถยนต์โดยรวมออกมาในรูปแบบใหม่ เป้าหมายคือเพื่อออกแบบรูปทรงสามมิติที่แปลงรูปทรงตัวถังรถยนต์เองให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์เลกซัส และพัฒนาการแสดงออกในด้านการใช้งานและสไตล์ควบคู่ไปกับพัฒนาการของเทคโนโลยี
การใช้ DIRECT4 ซึ่งควบคุมพลังขับเคลื่อนของล้อทั้งสี่อย่างอิสระ ทำให้สามารถปรับแต่งภาพการขับขี่ที่ลื่นไหลด้วยแรงขับเคลื่อนที่ส่งผ่านอย่างต่อเนื่อง เส้นสายบานประตูลากจากล้อหน้าสู่ล้อหลังอย่างกลมกลืน ล้อมกรอบด้วยลวดลายตัวถังที่มีความแวววาวและเด่นชัด
ด้านหลังของตัวรถมีการออกแบบพื้นที่แนวนอนที่เรียบง่ายสะอาดตา ผนวกกับลวดลายตัวถังที่นำสายตาไปสู่วงล้อ เน้นให้เห็นฐานล้อขนาดใหญ่ที่รองรับพละกำลังการขับเคลื่อนด้วยแรงบิดมหาศาล นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ “LEXUS” ทอดตัวตามแนวนอนภายในโคมไฟรูปทรงปราดเปรียวที่รวมไฟสัญญาณทุกดวงเข้าไว้ด้วยกัน เมื่อรวมกับการออกแบบด้านหน้าของตัวรถแล้วจึงเสริมสไตล์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของเลกซัสในเจเนอเรชันถัดไป
เพื่อแสดงถึงแนวทางการวางผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางของเลกซัสในระดับที่สูงยิ่งขึ้น อันเป็นรากฐานของแบรนด์เลกซัสมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ส่วนควบคุมการขับขี่จึงได้รับการออกแบบตามคอนเซปต์ใหม่ที่เรียกว่า “ทาซึนะ” (“ทาซึนะ” ภาษาญี่ปุ่นหมายถึง “บังเหียน”) คอนเซปต์นี้ได้แรงบันดาลใจจากความสัมพันธ์ระหว่างม้ากับคนขี่ม้าที่สื่อสารกันผ่านบังเหียนเพียงเส้นเดียว สวิตช์ควบคุมต่าง ๆ จึงติดตั้งอยู่ที่พวงมาลัย ตัวรถมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่ออกแบบให้สอดรับกันอย่างดีเยี่ยม เพื่อสร้างพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้หลายฟังก์ชัน เช่น ระบบการนำทาง ระบบเครื่องเสียง และการเลือกโหมดการขับขี่ที่เข้าถึงได้ขณะที่ผู้ขับขี่ใช้สมาธิกับการขับรถโดยไม่ต้องละสายตาหรือควบคุมสั่งการปุ่มต่างๆ ที่ซับซ้อน
หน้าจอแสดงผลเสมือนจริง มาตรวัด หน้าจอสัมผัส และฟังก์ชันให้ข้อมูลอื่น ๆ จัดกลุ่มรวมกันเป็นโมดูลเดียว ฟังก์ชันระบบการขับขี่ต่าง ๆ จะรวมกันอยู่รอบพวงมาลัย แสดงถึงทิศทางการออกแบบภายในเจเนอเรชั่นหน้าของเลกซัสที่จะขยายการมองเห็นออกไปด้านหน้ารถ และเชื้อเชิญให้ผู้ขับขี่มองไปด้านหน้าโดยธรรมชาติ
ในรถยนต์ไฟฟ้า LF-Z ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเรียนรู้ลักษณะความต้องการและพฤติกรรมของผู้ขับขี่จะคอยให้การสนับสนุนผู้ขับขี่อยู่ตลอดเวลา การสื่อสารด้วยเสียงพูดจะช่วยให้การควบคุมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในขณะขับขี่ ระบบจดจำเสียงพูดมีการใช้ AI ใหม่ล่าสุดเพื่อจดจำ เรียนรู้ และปรับให้เข้ากับนิสัยและความต้องการของผู้ขับขี่ เพื่อช่วยทำงานต่าง ๆ อย่างเช่นการระบุเส้นทางในการขับขี่และการจองโต๊ะในร้านอาหาร การโต้ตอบในลักษณะนี้ระหว่าง AI กับผู้ขับขี่จะนำไปสู่การสนทนาที่มีประโยชน์อย่างมาก และทำให้ประสบการณ์การเป็นเจ้าของและการขับขี่โดยรวมดียิ่งขึ้น เพิ่มสีสันให้กับชีวิตของผู้ใช้เสมือนมีผู้ดูแลไลฟ์สไตล์ส่วนตัว
นอกจากการควบคุมตัวรถด้วยสมาร์ทโฟนอย่างเช่นการล็อกและปลดล็อกประตูรถแล้ว การใช้กุญแจดิจิทัลยังช่วยให้ครอบครัวและเพื่อนสามารถเข้าถึงตัวรถได้โดยไม่ต้องมีการส่งมอบกุญแจเหมือนเคย การอนุญาตให้ผู้บริการใช้กุญแจดิจิทัลเข้าสู่ตัวรถได้จะทำให้บริการต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับตัวรถเป็นไปได้ อย่างเช่นการนำส่งพัสดุที่ตัวรถหรือบริการคาร์แชร์ริง ทำให้ชีวิตของผู้มีรถยนต์มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ระบบล็อกประตูอิเล็กทรอนิกส์ (อี-แลตช์) ช่วยให้การเปิดและปิดประตูราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น ขณะขึ้นรถ มือจับประตูแบบซ่อนได้ โดยจะยกตัวขึ้นเหนือพื้นผิวตัวถังรถอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารเข้าใกล้ตัวรถและถือกุญแจไว้ในมือ จะสามารถล็อกและปลดล็อกประตูได้อย่างง่ายดาย โดยแตะที่เซ็นเซอร์บริเวณด้านในของมือจับประตู ขณะลงจากรถก็สามารถเปิดประตูรถได้โดยกดที่สวิตช์เปิดประตู ประโยชน์ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ เซ็นเซอร์ของรถยนต์ไฟฟ้า LF-Z จะตรวจสอบพื้นที่โดยรอบว่ามีรถสวนมาหรือเบียดด้านข้างหรือไม่ก่อนที่ผู้โดยสารจะออกนอกตัวรถ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งให้แก่ผู้โดยสาร
หลังคากระจกพาโนรามิกช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งใช้กระจกแบบปรับระดับความเข้มอ่อนด้วยไฟฟ้า พร้อมติดตั้งระบบความบันเทิงอย่างเช่น การปรับลดแสงเพื่อความเป็นส่วนตัวและลดความร้อน หรือปรับให้สว่างขึ้นเพื่อให้มองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่บริเวณกลางกระจกมีแผงควบคุมแบบสัมผัสที่เชื่อมเบาะนั่งตอนหน้ากับตอนหลังเข้าด้วยกันและใช้ในการสื่อสารระหว่างผู้โดยสาร เบาะหลังสามารถปรับเอนได้พร้อมด้วยฟังก์ชันเบาะนวดเพื่อให้การเดินทางของผู้โดยสารทุกคนเป็นช่วงเวลาที่สงบและผ่อนคลาย
ระบบเครื่องเสียงเจเนอเรชั่นล้ำยุคจาก “Mark Levinson” ให้สัมผัสประสบการณ์ระดับคอนเสิร์ตฮอลล์ ฟังก์ชั่นการจัดการเสียงแห่งยุคหน้านี้มีคุณสมบัติตัดเสียงรบกวน ช่วยสร้างสุนทรียภาพความเป็นส่วนตัวให้กับผู้โดยสาร และทำให้พื้นที่ภายรถมีความเงียบสงบและสะดวกสบาย
ความยาว (มม.) | 4,880 |
ความกว้าง (มม.) | 1,960 |
ความสูง (มม.) | 1,600 |
ความยาวฐานล้อ (มม.) | 2,950 |
น้ำหนักรถ (กก.) | 2,100 |
ระยะการขับขี่ [WLTP] (กม.) | 600 |
ความจุแบตเตอรี่ (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) | 90 |
พลังงานการชาร์จ (กิโลวัตต์) | 150 |
แบตเตอรี่ | แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน |
ระบบหล่อเย็น | ของเหลว |
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที) | 3.0 |
ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.) | 200 |
กำลังสูงสุด (กิโลวัตต์)/แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร) | 400/700 |