หลังจากเปิดตัวตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู R nineT ใหม่ไปได้ไม่นาน บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เอาใจแฟน ๆ บิ๊กไบค์ในไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในตระกูล GS กับตำนานแห่งการทัวร์ริ่งในแบบเอ็นดูโร ด้วยการเผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S รุ่น “40 Years GS Edition” มอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษในดีไซน์เฉพาะที่ผสานสีดำและสีเหลืองได้อย่างโดดเด่น ซึ่งนำมาสู่ตลาดไทยเพียง 9 คันเท่านั้นพร้อมให้จับจองได้แล้วที่ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ มร.มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ตระกูล GS เป็นรุ่นที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก จากแอฟริกาสู่เอเชียกลาง ในฐานะผู้บุกเบิกรถมอเตอร์ไซค์แบบดูอัลสปอร์ต ทั้งยังเปี่ยมด้วยความแข็งแกร่ง รูปลักษณ์อันทรงพลังและโดดเด่น เหมาะกับการขับขี่ในทุกเส้นทางไม่ว่าจะเป็นออฟโรดและบนท้องถนน ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล GS เป็นที่รู้จักในฐานะมอเตอร์ไซค์ที่ให้ประสบการณ์แห่งความท้าทายและค้นหาการผจญภัยครั้งใหม่ ๆถือเป็นมอเตอร์ไซค์สำหรับนักแสวงหาตัวจริง และยังครองใจนักบิดชาวไทยสายแอดเวนเจอร์อีกด้วย เพื่อเฉลิมฉลองการผจญภัยตลอดสี่ทศวรรษซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราได้ชื่นชมกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล GS ที่นำไปสู่การเดินทางอันน่าจดจำ และสร้างแรงบันดาลใจในการผจญภัยอย่างต่อเนื่อง จนขับเคลื่อนสู่การขับขี่ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย จึงนำตำนานแห่ง GS กลับมาอีกครั้งด้วยรุ่นพิเศษ บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S รุ่น “40 Years GS Edition” กับโฉม “Bumblebee” ของบีเอ็มดับเบิลรุ่น R 100 GS พร้อมยกระดับขุมพลังและเสริมการขับขี่ที่สนุกสนานยิ่งขึ้น ” บีเอ็มดับเบิลยู R nineT G/S รุ่น “40 Years GS Edition” ยังคงการออกแบบอันเป็นตำนานไว้ด้วยชุดแต่ง Option 719 ทั้งฝาครอบกระบอกสูบ เบาะหนังสีดำและเหลือง แฮนด์การ์ดสีเหลือง และท่อร่วมชุบโครเมียม สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียด พร้อมด้วยสมรรถนะของการเป็นมอเตอร์ไซค์ออฟโรดที่สมบูรณ์ทั้งรูปลักษณ์และการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นล้อซี่ลวดลาย Cross Spoke II ยางออฟโรด และท่อไอเสียยกสูงในแบบScrambler เติมเต็มรูปลักษณ์และสื่อถึงความเป็นมาของ GS ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู R nineT G/S “40 Years GS Edition” สืบทอดเอกลักษณ์ในตระกูล GS ด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมัน ที่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติที่สอดคล้องตามมาตรฐานมลพิษ EU-5 ส่งพละกำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า) ที่ 7,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 116 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที หัวฉีดแบบใหม่ทำงานเข้าจังหวะกับระบบระบายความร้อนยิ่งขึ้น วาล์วปีกผีเสื้อและฝาครอบหัวฉีดได้รับการออกแบบใหม่ ปรับโฉมให้โดดเด่นกว่าเดิม บีเอ็มดับเบิลยู R nineT G/S “40 Years GS Edition” ยกระดับความสมดุลแห่งการขับขี่ด้วยโหมด Pro ซึ่งติดตั้งมาเป็นมาตรฐานใน R nineT Urban G/S ทุกรุ่น นอกจากนี้ โหมด Dirt ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน(Dynamic Traction Control) และระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตในทุกสภาวะพื้นถนน เช่นเดียวกับใน R nineT รุ่นใหม่ ๆ นอกจากเครื่องยนต์จะถูกปรับแต่งมาให้ตอบสนองได้ฉับไวเต็มพิกัดแล้ว ระบบ DTC จะทำงานร่วมกับเบรก ABS Pro เพื่อให้สามารถเร่งความเร็วบนท้องถนนได้อย่างมั่นใจ ด้วยแรงเสียดทานที่เพิ่มการยึดเกาะถนน ส่วนจังหวะที่เบรกพร้อมกับลดเกียร์ บีเอ็มดับเบิลยู R nineT G/S “40 Years GS Edition” ก็ยังเสริมความปลอดภัยด้วยระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) ซึ่งทำงานด้วยการควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ ส่วนระบบกันสะเทือนใหม่ มาพร้อมกับสปริงที่มีอัตราการยุบตัวแตกต่างกันไปตามแรงกดที่ได้รับ (WAD) จึงทำให้ทรงตัวได้มั่นคงและเพิ่มความสบายในการขับขี่ไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ตัวรถยังรองรับการตั้งค่าสปริงด้วยตัวเองอย่างง่ายดายด้วยปุ่มหมุนที่เพิ่มเข้ามา เพื่อลุคที่ทันสมัยยิ่งขึ้น R nineT Urban G/S “40 Years GS” ยังเติมความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟเลี้ยวที่กลมกลืนไปกับตัวรถ จะมองเห็นเฉพาะเมื่อเปิดไฟเท่านั้น ขณะที่ชุดไฟหน้า LED มาพร้อมไฟส่องสว่างตอนกลางวันและไฟเลี้ยวสีขาวในตัว พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายขณะเดินทางด้วยช่องเสียบสายชาร์จ USB ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน บีเอ็มดับเบิลยู R nineT G/S “40 Years GS Edition” พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้วในราคา 899,000 บาท สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bmw-motorrad.co.th หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั่วประเทศ
Category: What New
What New
YAMAHA R7 เติมเต็ม “Racing Series”
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตอกย้ำบทบาทผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ เดินหน้าเสริมทัพด้วย YAMAHA YZF-R7 เติมเต็มไลน์อัพสปอร์ตไบค์ สานต่อความสำเร็จ Racing Seriesโดดเด่นด้วยรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยว ถ่ายทอด Racing DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายยามาฮ่าในพิกัดเครื่องยนต์ 700 ซีซี เปิดจองผ่านช่องทางออนไลน์ภายใต้ราคา 339,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า 50 ท่านแรก รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในตระกูล Racing Series หรือ R-Series ได้รับความนิยมจากลูกค้ายามาฮ่าทั่วโลก นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 ถ่ายทอดดีเอ็นเอสายพันธุ์สปอร์ตจากรถแข่ง YAMAHA YZR-M1 ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีบนเวที World GP รวมถึงในตลาดประเทศไทยซึ่งมาพร้อมการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค หลังจากที่ได้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย YZF-R1, YZF-R6, YZF-R3และ YZF-R15 ล่าสุด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พร้อมสานต่อความสำเร็จเติมเต็มไลน์อัพ R-Series ด้วย YAMAHA YZF-R7 โดย คุณพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ในปีที่ 66 ของยามาฮ่า เราภูมิใจที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในความสำเร็จจากคำมั่นสัญญาที่ยามาฮ่าให้ไว้ว่าจะต้องสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและสังคมตลอดเวลา ในวันนี้ YAMAHA YZF-R7 จะเข้ามาตอบโจทย์สำหรับผู้ที่คลั่งไคล้การขับขี่ในสนามแข่ง และผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่รถในระยะทางไกลๆ หลังจากที่กลางปีที่ผ่านมา เราได้นำเสนอรถรุ่นนี้ในทวีปอเมริกาและยุโรป ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีมาก ทำให้เราเชื่อว่าความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทยด้วยเช่นกัน” YAMAHA YZF-R7 เปิดจองผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://forms.gle/dVdQgzGyEfM11G3F6 พร้อมลุ้นรับสิทธิพิเศษดาวน์เพียง 7,900 บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับลูกค้า 200 ท่านแรก และพิเศษสุดสำหรับลูกค้า 50 ท่านแรกที่จองเข้ามาในระบบออนไลน์ จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม Yamaha Racing Practice หรือ BRIC trackday ฟรี จำนวน 4 ครั้ง บนแทร็คระดับโลกอย่าง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ -Yamaha Big…
CBR150R จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญสู่โลกความเร็ว
รถในตระกูล CBR Series ต้องบอกว่าทุกรุ่น หลังจากการเปิด ล้วนประสบความสำเร็จทั้งสิ้น ทั้งนี้ เจ้าตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด All New CBR150R นี้ ยังได้สร้างกระแสความคึกคักให้กับตลาดรถสปอร์ตในเมืองไทยเป็นอย่างมาก เพราะนี่คือการเติมเต็มไลน์อัพครั้งสำคัญให้กับรถสปอร์ตในตระกูล CBR Series ให้มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ซึ่งพร้อมตอบโจทย์ความต้องการนักบิดครบทุกพิกัดความแรง ตั้งแต่ระดับ 150-1,000 ซีซี เรียกได้ว่าการเปิดตัว All New CBR150R เปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ที่ใช้เป็นกุญแจเพื่อเริ่มต้นเปิดประสบการณ์การขับขี่และสัมผัสความสนุกเร้าใจของรถสปอร์ตในตระกูล CBR Series ก็ว่าได้ ด้วยเอกลักษณ์ความโดดเด่นของการถ่ายทอด DNA จากรถแข่งโมโตจีพีของฮอนด้าที่สร้างเกียรติประวัติคว้าแชมป์ในรายการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกมาแล้วอย่างมากมาย ทั้งในด้านการออกแบบและเทคโนโลยีล้ำสมัย เหนืออื่นใด ในกลุ่มรถสปอร์ตด้วยกันเองยังมีความพิเศษยิ่งขึ้น ด้วยตัวเลือกลวดลาย Tri-Color ที่คัดสรรเฉพาะโมเดลระดับแฟลกชิปของฮอนด้าเท่านั้น ปัจจุบันรถสปอร์ตของฮอนด้าที่มีสีสันในสไตล์ Tri-Color มีให้เลือกเฉพาะในรหัส RR หรือ Racing Replica จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ สปอร์ตไบค์เรือธงรุ่นใหญ่ CBR1000RR-R และซูเปอร์สปอร์ตไซส์กลาง CBR600RR ซึ่งล่าสุด ฮอนด้าได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความพิเศษให้กับสปอร์ตน้องใหม่อย่าง All New CBR150R ที่มีตัวเลือกสี Tri-Color ด้วยเช่นกัน All New CBR150R รุ่น ABS สีแดง Tri-color มาพร้อมการยกระดับเทคโนโลยีใหม่ทั้งคัน โครงสร้างตัวรถออกแบบตามหลัก Aero Dynamics ตำแหน่งท่านั่งให้สัมผัสความเป็นซูเปอร์สปอร์ตเต็มตัว ขับเคลื่อนความแรงด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 150 ซีซี DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ เกียร์ 6 สปีด มาพร้อมระบบ Assist Slipper Clutch เทคโนโลยีจากสนามแข่ง ช่วยลดแรงกระชากของล้อหลังขณะเปลี่ยนเกียร์ โช้กหน้าแบบหัวกลับ (Upside-down Shock Absorber) จากแบรนด์ SHOWA ดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมระบบเบรกแบบ ABS และระบบไฟฉุกเฉิน ESS แสดงสัญญาณไฟกระพริบเมื่อใช้เบรกอย่างกะทันหัน ราคาแนะนำ 99,900 บาท นอกจากนี้ All…
CUB House เปิดตำนานความสนุก
CUB House by Honda ส่งมอบความสนุกจากของเล่นในวัยเด็ก สู่รถคันจริงให้คนไทยได้สัมผัสด้วยการเปิดตัว Monkey x Hot Wheels Limited Edition หรือ Monkey รุ่นพิเศษที่เกิดจากความร่วมมือกันเป็นครั้งแรกของแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Monkey และ Hot Wheels เพื่อเติมเต็มความฝันในวัยเด็ก ที่อยากลองขี่รถในฝันสักครั้งในชีวิต ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 150 คันเท่านั้น มร.ทาคาโนริ มารุยามะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทยเปิดเผยว่า “Monkey มีจุดเริ่มต้นในปี 1961 จากความคิดสนุกๆ ของวิศวกรฮอนด้า ที่นำชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบกันเป็นมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กไว้ขี่ในโรงงาน แต่หลังจากนั้นความสนุกดังกล่าวก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลกจนกลายเป็นตำนานจนถึงปัจจุบัน สำหรับในเมืองไทย เราวางคอนเซปต์ Monkey ให้เป็นรถที่สามารถส่งมอบประสบการณ์ให้กับแฟนๆ ที่อยากขับขี่รถในฝันหรือที่เราเรียกว่า “Ride Your Dream Bike” ผ่านคาแรกเตอร์ที่หลากหลายในรูปแบบ Special Limited Edition เริ่มจาก Dragon Ball Limited Edition มาจนถึง Gundam Limited Edition ซึ่งเราได้พบกับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามมาโดยตลอด และครั้งนี้เราขอส่งมอบความสนุกครั้งใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเป็นครั้งแรกของการ Collab ระหว่าง Monkey และ Hot Wheels ซึ่งเป็นแบรนด์ของเล่นที่เป็นที่ชื่นชอบของนักสะสมทั่วโลก กลายเป็น Monkey x Hot Wheels Limited Edition การร่วมมือกันของทั้งสองแบรนด์ในครั้งนี้ เราได้ถ่ายทอด DNA ของ Monkey และ Hot Wheels เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวมากที่สุด โดยนำเอาเอกลักษณ์ของ Treasure Hunts ซึ่งเป็นรถที่หายากที่สุดของ Hot Wheels มาถ่ายทอดผ่าน Monkey x Hot Wheels Limited Edition กลายเป็นไอเทมใหม่ที่สามารถขับขี่ได้จริงอีกด้วย โดยรถรุ่นนี้ได้รับการออกแบบโดยทีมดีไซเนอร์จากสำนักแต่ง H2C ของฮอนด้า ที่มีความหลงใน Monkey และมีความเข้าใจในแบรนด์ Hot…
All New YAMAHA EXCITER155
เรามาเจาะลึก 7 จุดเด่นใหม่ Design The Next Level ใน All New YAMAHA EXCITER155 กันดีกว่า ว่ามีอะไรที่โดดเด่นกันบ้าง เริ่มต้นจาก… 1.ใหม่หมดจดด้วยรูปโฉมได้รับการออกแบบและถ่ายทอด DNA จากรถสปอร์ตในตระกูล R-Series 2.ระบบไฟหน้าดีไซน์ใหม่ Super Sport Full LED แยกโคมไฟสูง และไฟต่ำ พร้อม Day Time Running Light สว่างชัดเจนทุกการเคลื่อนไหว 3.โดดเด่น ทันสมัย หน้าจอเรือนไมล์ LCD ดิจิทัลเต็มระบบ แสดงครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน 4.สปอร์ต โฉบเฉี่ยวด้วยไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ ถอดแบบรุ่นใหญ่ ในตระกูล R-Series สว่างชัดและปลอดภัย 5.เครื่องยนต์ 155 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำบล็อกใหม่ แรงเร้าใจด้วยระบบวาล์วแปรผัน VVA เกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบ Assist & Slipper Clutch เพิ่มความปลอดภัยมั่นใจกว่าเดิม 6.เฟรมดีไซน์ใหม่รูปตัว Y น้ำหนักเบา เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวที่ดีขึ้นกว่าเดิม เสริมด้วยความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้น 7.เพิ่มความจุของถังน้ำมัน เสริมประสิทธิภาพการใช้งาน เดินทางได้ไกลขึ้นกว่าเดิม ด้วยความจุ 5.4 ลิตร พบกับความเร้าใจครั้งใหม่ของ All New YAMAHA EXCITER 155 Design The Next Level ได้แล้ววันนี้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ #YAMAHA #EXCITER #155
ซานี่ ไทยยนต์
การเดินหน้าสู้เคียงข้างก่อสร้างไทยโดย ซานี่ ไทยยนต์ แจกโชค 4 ชั้น มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท พร้อมกับรถขุดรุ่นยอดนิยมราคาสุดพิเศษ สถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องนานนับปี และมีการปิดแคมป์งานก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นมา ทางภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เพื่อให้ธุรกิจต่างๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทาง บริษัท ซานี่ไทยยนต์ จำกัด ขอเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างกำลังใจให้กับผู้ดำเนินธุรกิจก่อสร้างไทย ในการต่อสู้กับโควิด จึงได้ออกแคมเปญ “มหกรรมจองรถขุด SANY EP. ซานี่ไทยยนต์ สู้เคียงข้างก่อสร้างไทย” โดยจัดโปรโมชั่นพิเศษสุด กับรถขุดรุ่นยอดนิยม SY135C และ SY200C รุ่นพิเศษ เพียงรุ่นละ 99 คัน นอกจากนี้ ทางซานี่ยังแจกโชค 4 ชั้นมูลค่ารวมกว่า 12 ล้านบาท เพียงลูกค้าที่ซื้อและรับมอบรถขุด SANY (รุ่น 13 ตันขึ้นไป) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2564 จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัล (1 สิทธิ์ต่อการซื้อรถ 1 คัน) ลุ้นโชค โชคชั้นที่ 1 รับทันทีส่วนลดเงินดาวน์มูลค่า 100,000 บาท *เมื่อซื้อคันที่ 2* โชคชั้นที่ 2 ลุ้นรับ Gift Voucher อะไหล่ SANY มูลค่ารางวัลละ 50,000 บาท จำนวน 10 รางวัลทุกเดือน โชคชั้นที่ 3 ลุ้นรับรถกระบะ Toyota Revo มูลค่ารางวัลละ 584,000 บาท จำนวน 1 คันทุกเดือน โชคชั้นที่ 4 ลุ้นรับ Mercedes Benz E300e Avantgarde มูลค่ารางวัลละ 3,190,000 บาท จำนวน 3 รางวัล ร่วมลุ้นโชคได้ตั้งแต่วันนี้ -31 ธันวาคม 2564 การจับรางวัล จับรางวัลครั้งที่ 1 วันที่ 15 ตุลาคม 2564 live จับรางวัลผ่านเพจ SANY THAIYONT จับรางวัลครั้งที่ 2 วันที่ 15 พฤษจิกายน 2564 live จับรางวัลผ่านเพจ SANY THAIYONT จับรางวัลครั้งที่ 3 วันที่ 15 ธันวาคม 2564 live จับรางวัลผ่านเพจ SANY THAIYONT จับรางวัลครั้งที่ 4 วันที่ 14 มกราคม 2565 live จับรางวัลผ่านเพจ SANY THAIYONT นอกจากนี้ ทางซานี่ไทยยนต์ ขอเรียนเชิญลูกค้าให้เข้าร่วมกิจกรรม Facebook Live จับรางวัล ผ่านทาง Facebook SANYThaiYont ทุกเดือน เพื่อลุ้นรับของพรีเมี่ยมสุดพิเศษ ที่ซานี่เตรียมมอบให้กับแฟนพันธุ์แท้รถขุดซานี่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 061-636-3588 หรือ FB Page:SANY Thaiyont หรือ LINE@: SANY Thaiyont และ Website : www.sanythaiyont.com
TOYOTA แนะนำ YARIS และ ATIV รุ่นปรับปรุงใหม่
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำอีโคคาร์ยอดนิยมรุ่นปรับปรุงใหม่ แฮทช์แบ็ค YARIS และซีดาน ATIV เติมความโฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์ใหม่ มาmujกสดหกสด พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและฟังก์ชันความปลอดภัยที่ครบครัน คุ้มค่าตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานได้อย่างลงตัว พร้อมแนะนำชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ โดดเด่น สะดุดตา บ่งบอกตัวตนความเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์เฉพาะตัว YARIS อีโคคาร์แฮทช์แบ็คยอดนิยม เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ทำการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2556 เพื่อตอบสนองความต้องการรถเครื่องยนต์ขนาดเล็กในประเทศไทย และในเดือนสิงหาคมปี 2560 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของรถในเซ็กเมนท์อีโคคาร์ โตโยต้าจึงได้เปิดตัว ATIV รถอีโคคาร์ซีดาน ที่โดดเด่นด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมสมรรถนะการขับขี่คล่องตัว ให้ความรู้สึกสนุกสนานในทุกการขับขี่ “Fun-To-Drive” พร้อมฟังก์ชันสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันสูงสุด พร้อมด้วยการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากอาเซียน เอ็นแคป (ASEAN NCAP) และในเดือนสิงหาคมปี 2563 ที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีการปรับดีไซน์ภายนอก และเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถยนต์โตโยต้า “Toyota Safety Sense” ที่เหนือกว่ารถยนต์ระดับเดียวกัน ทำให้ครองใจลูกค้าชาวไทยด้วยดีตลอดมา โดย YARIS สามารถสร้างยอดขายสูงสุดในตลาดอีโคคาร์แฮทช์แบ็ค ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า285,700 คัน และ ATIV มียอดขายสะสมในตลาดรถยนต์อีโคคาร์ซีดานของประเทศไทยมากกว่า 113,900 คัน คุณสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า “บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีความยินดีแนะนำ YARIS และ ATIV รุ่นปรับปรุงใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาในด้านดีไซน์ให้มีความสปอร์ต พรีเมียม ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้าด้านบนสีดำเงา วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอก สเกิร์ตด้านข้าง และด้านหลัง สปอยเลอร์หลังตลอดจนล้ออัลลอยปัดเงาสีดำตกแต่งด้วยขอบสีเงินขนาด 15 นิ้ว และภายในได้ปรับพวงมาลัยแบบ Soft Touch หุ้มหนังชนิดนุ่มพิเศษ สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่หลากหลาย พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน “Fun-To-Drive” เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน ที่สำคัญประหยัดน้ำมันสูงสุดในราคาที่สมเหตุสมผล มีความคุ้มค่าและง่ายต่อการเป็นเจ้าของ โดย YARIS และ ATIV มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นมาตรฐานและเพิ่มรุ่นภายในตกแต่งพิเศษสีทูโทน Terra Rossa และสีดำอีก 2 รุ่น ควบคู่ไปกับชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ X-URBAN เพื่อให้ YARIS โดดเด่นยิ่งขึ้นไปกับสไตล์ที่แตกต่าง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกเป็นเจ้าของตามสไตล์ที่ชื่นชอบอีกด้วย ทั้งนี้ชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ X-URBAN โดยบริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด ออกแบบภายใต้แนวคิด Modern & Cool โดดเด่นสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับเพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่ ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตครอสโอเวอร์รอบคันล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมโช๊คอัพและสปริงแบบยกสูงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อเอาใจ Urbanista ที่ชอบความโดดเด่น ไม่ซ้ำใครโดยเฉพาะ ทั้งนี้ลูกค้าที่ชื่นชอบ YARIS ในชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ X-URBAN สามารถติดต่อได้ที่ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศนอกจากนี้ผมขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้าผู้ชื่นชอบดีไซน์สปอร์ตด้วยชุดตกแต่งพิเศษ FLASH II PACKAGE ที่เสริมความโฉบเฉี่ยวและดูโดดเด่นสะดุดตาให้กับ YARIS และ ATIV มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังมีกล่องควบคุมคันเร่งไฟฟ้า ACTIVE SPEED เติมความสปอร์ต ตอบสนองรวดเร็วในขณะออกตัว เพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ โดยลูกค้าจ่ายเพิ่มเพียงเดือนละ 228 บาทต่อเดือนในยอดการผ่อนชำระรายเดือนเท่านั้น (คำนวณจากโปรแกรมเช่าซื้อปกติ ATIV รุ่น ENTRY ดาวน์ 25% ระยะเวลา 84 เดือน ผ่านบริษัท โตโยต้า ลีซซิ่ง“ ที่สำคัญเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของ YARIS และ ATIV ได้ง่ายยิ่งขึ้น ทางโตโยต้าขอนำเสนอ ประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่เพื่อเป็นทางเลือกที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้า ได้แก่ โปรแกรม Easy To Buy กับข้อเสนอ 0% เงินดาวน์ หรือ รับฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care มูลค่า 25,000 บาทพร้อมโปรแกรมช่วยผ่อนเดือนละ 2,000 บาท นาน 12 เดือน โปรแกรม CAL (Connected Auto Loan) เพื่อให้การอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ของลูกค้าเป็นไปได้ง่ายขึ้น และยังสามารถเลือกใช้โปรแกรมประกันภัย PAYD (Pay As You Drive) ที่ช่วยลดภาระค่าเบี้ยประกันให้กับลูกค้า (ขึ้นอยู่กับระยะทางการขับขี่) โปรแกรม KINTO อิสรภาพใหม่ของการใช้รถจากโตโยต้า กับข้อเสนอใหม่ที่ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้นเมื่อครบสัญญา เลือกผ่อนต่อเป็นเจ้าของ หรือ เลือกรถคันใหม่* (*เมื่อครบสัญญา ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ โดยมีค่าผ่อนชำระใกล้เคียงเดิม) ไม่ต้องมีคนค้ำ ไม่ต้องดาวน์” YARIS และ ATIV รุ่นปรับปรุงใหม่…ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม ฟังก์ชันครบครัน คุ้มค่าทุกการใช้งาน ดีไซน์ภายนอก…ใหม่ กระจังหน้าด้านบนสีดำเงา…สไตล์โดดเด่นแบบมีเอกลักษณ์ วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอก…เท่ห์ทันสมัย สเกิร์ตด้านข้างซ้าย–ขวา (เฉพาะ ATIV รุ่น Sport Premium / Sport) สเกิร์ตด้านหลัง (เฉพาะ YARIS และ ATIV รุ่น Sport Premium / Sport) สปอยเลอร์หลัง (เฉพาะ ATIV รุ่น Sport Premium / Sport) ล้ออัลลอยปัดเงาสีดำตกแต่งด้วยขอบสีเงิน ขนาด 15 นิ้ว (เฉพาะ YARIS และ ATIV รุ่น Sport Premium) ดีไซน์ภายใน…ใหม่ พวงมาลัยหุ้มหนังนุ่มพิเศษตกแต่งด้วยด้ายสีเทา (เฉพาะ ATIV รุ่น Sport Premium / Sport) พวงมาลัยหุ้มหนังนุ่มพิเศษตกแต่งด้วยด้ายสีฟ้า (เฉพาะ YARIS รุ่น Sport Premium / Sport) YARIS รุ่นพิเศษ Sport Premium X และ Sport X ที่เหมาะกับการติดตั้งชุดตกแต่งพิเศษ X-URBAN โดดเด่น สไตล์ครอสโอเวอร์…
HONDA เปิดตัว All New CBR150R
ความเป็นซูเปอร์สปอร์ตขั้นสุดจากสนามแข่ง รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด “All New CBR150R” จากตระกูล CBR Series ดีไซน์ล้ำสมัยให้ความเป็นซูเปอร์สปอร์ตในทุกมิติ ติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการขับขี่ด้วย Assist Slipper Clutch และโช้กหัวกลับ และเบรก ABS วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มร.ทาคาโนริ มารุยามะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า “รถสปอร์ตฮอนด้าในตระกูล CBR Series ได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดซูเปอร์ไบค์ในดวงใจของนักบิดสายพันธุ์สปอร์ตมาอย่างยาวนาน ด้วยเอกลักษณ์ความโดดเด่นทั้งในเรื่องของดีไซน์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ได้รับการถ่ายทอดจากรถแข่งโมโตจีพีของฮอนด้าที่สร้างเกียรติประวัติคว้าแชมป์ในรายการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกมาแล้วมากมาย ในครั้งนี้ All New CBR150R มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ถือว่าเหนือชั้นที่สุดในคลาสรถสปอร์ต 150 ซีซี ทั้งการออกแบบตัวรถและอุปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรถซูเปอร์สปอร์ตระดับท็อป เรามั่นใจว่า All New CBR150R จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเปิดประสบการณ์การขับขี่และสัมผัสความแรงสไตล์เรซซิ่งสปอร์ต ก่อนต่อยอดสู่สปอร์ตไบค์ในตระกูล CBR Series ในพิกัดที่สูงขึ้นต่อไป” All New CBR150R ได้รับการพัฒนาภายใต้คอนเซปต์ “For The Real Racing Heart แรงเท่าที่ใจอยากแรง” ออกแบบใหม่ทั้งคันในแบบ Sport Aggressive Design ที่ให้ความโฉบเฉี่ยวและดุดัน ไฟหน้า LED 2 ชั้น แบบ Double-Layered ทั้งหน้าและหลัง มาพร้อมกับ Position Light คู่บน และไฟเลี้ยว LED เฉียบคมด้วยเส้นสายบนตัวรถที่บ่งบอกความเป็นสปอร์ตขั้นสุด ออกแบบตามหลัก Aero Dynamics ให้มีแรงเสียดทานต่ำที่สุด ขับขี่สนุกด้วยการวางตำแหน่งท่านั่งในแบบ “Super Sport Riding Position” ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสอารมณ์ของความเป็นรถซูเปอร์สปอร์ตตัวจริง All New CBR150R มาพร้อมการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ด้วยเครื่องยนต์…
BMW 320Li Luxury
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เสริมทัพรถยนต์สปอร์ตซีดานตระกูล ซีรีส์ 3 เผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ รุ่นฐานล้อยาวเป็นอีกหนึ่งทางเลือก มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับอย่างรอบด้าน พร้อมต้อนรับลูกค้ากลับสู่โชว์รูมของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้ายิ่งขึ้นด้วยมาตรการความปลอดภัยและปกป้องสุขภาพขั้นสูงสุด มร.กัลดริค ดอนเนอซาน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ยังคงรักษาไว้ทั้งสมรรถนะอันทรงพลัง และสไตล์การออกแบบที่โดดเด่นในแบบของซีรีส์ 3 อย่างเต็มเปี่ยม แต่ยังแตกต่างด้วยพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นภายในห้องโดยสาร พร้อมมอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่าบนทุกเส้นทางแม้จะยังคงปราดเปรียวโฉบเฉี่ยวไม่แพ้ซีรีส์ 3 รุ่นอื่น ๆ พร้อมด้วยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอดเยี่ยม และที่สุดแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ พร้อมให้สัมผัสแล้วที่โชว์รูมของผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ซึ่งลูกค้าอุ่นใจได้ว่าจะได้รับบริการระดับพรีเมียมควบคู่ไปกับมาตรการความปลอดภัยและปกป้องสุขภาพที่เข้มงวด นอกจากนี้ พนักงานของเราที่ปฏิบัติงานในโชว์รูมต่างก็ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วทุกคน” บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ราคาจำหน่าย: 2,469,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ยังคงลุคสปอร์ตโฉบเฉี่ยวและสมรรถนะที่เฉียบคมไว้เช่นเคย แต่เสริมความโอ่อ่าสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยมิติรถที่กว้างขวางเช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ด้วยมิติความยาวรวม 4,819 มิลลิเมตร ความกว้างที่ 1,827 มิลลิเมตร และความสูงที่ 1,441 มิลลิเมตร ประตูหลังที่กว้างขึ้นกว่าบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 3 รุ่นเดิม 110 มิลลิเมตร ช่วยให้ผู้โดยสารเบาะหลังเข้า-ออกจากรถได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งยังสบายกว่าในขณะเดินทางด้วยพื้นที่ห้องโดยสารแถวหลังที่ยาวขึ้นอีก 43 มิลลิเมตร ดีไซน์ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ยังคงสื่อถึงความเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรม หรือ “Ultimate Driving Machine” ด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์ที่ทันสมัย สมรรถนะปราดเปรียว ประสิทธิภาพการขับขี่เหนือระดับ รวมถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ล้ำยุค ซึ่งรวมเป็นเอกลักษณ์แก่นแท้ของบีเอ็มดับเบิลยู และยังมาพร้อมองค์ประกอบเฉพาะตัวที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มาพร้อมกับแผ่นบานเกล็ดแนวตั้งวัสดุโครเมี่ยม และแกนทแยงสีดำเงาที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ รับกับไฟหน้า LED ทรงเรียวยาวด้านข้างของตัวรถ ส่วนกรอบหน้าต่างดีไซน์แบบ Hofmeister Kink อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู ก็ได้รับการออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับเสา C-pillar มอบมิติไร้ขอบที่ดูหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมด้วยกรอบไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่เพรียวบางกว่าเดิม กับไฟ LED ทรงตัว L และท่อไอเสียแบบคู่ ล้วนเสริมให้ท้ายรถดูกว้างและสปอร์ต บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ส่งกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้าที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรที่ 1,350 – 4,400 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ และรองรับระบบ Driving Experience Control ที่มีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกทั้งในโหมด COMFORT, SPORT และ ECO PRO นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ยังมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้้ว ลาย Multi-spoke แบบสลับสี และยางรันแฟลต การตกแต่งภายนอกแบบ Luxury Line โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกันชนหน้า กระจกข้าง ขอบหน้าต่างและกันชนท้ายในสีโครเมี่ยมเงา หลังคากระจกแบบ Panorama มอบวิวท้องฟ้าเด่นชัดให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ส่วนระบบเครื่องเสียง HiFi ยังให้เสียงใสในทุกรายละเอียด เติมเต็มประสบการณ์การเดินทางในรถยนต์ซีดานหรูนี้ได้อย่างดีเยี่ยม การตกแต่งภายในสะท้อนความประณีตด้วยคอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec ผิวไม้ลาย Oak Grain Open-Pored ตัดกับโครเมี่ยมมุกอย่างลงตัว เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยนำเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง พร้อมระบบการเชื่อมต่อเต็มรูปแบบผ่านระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 ซึ่งเสริมประสิทธิภาพให้แก่ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant และ Live Cockpit Professional รถยนต์รุ่นฐานล้อยาวนี้ยังมอบทางเลือกมากมายในการเชื่อมต่อและควบคุมระบบในตัวรถ รวมถึงการใช้ BMW Gesture Control ระบบสั่งงานด้วยเสียง ปุ่ม iDrive และจอแสดงผล Control Display ขนาด 10.25 นิ้ว อีกด้วย ลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ สามารถยกระดับแพ็คเกจ BMW Service Inclusive เสริมจาก BSI Standard เพื่อสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยมีรายละเอียดดังนี้ แพ็คเกจ ราคา (บาท) การบริการบำรุงรักษา การรับประกัน BSI Plus 35,000 5 ปี หรือ 100,000 กม. 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง Warranty Plus…
โตโยต้า ฉลองความสำเร็จ โคโรลล่า ครอส
รถ SUV ยอดขายอันดับหนึ่ง ยืนหนึ่งตลาดรถ Hybrid SUV พร้อมแนะนำรุ่นพิเศษ! โคโรลล่าครอส Modellista บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ฉลองความสำเร็จรถอเนกประสงค์ SUV “โคโรลล่า ครอส” ครองยอดขายอันดับหนึ่งในตลาด SUV และยอดขายรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดสูงสุดในตลาดรถ Hybrid SUV นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปีที่ผ่านมา พร้อมแนะนำรุ่นพิเศษ โคโรลล่า ครอส Modellista เสริมความสปอร์ต สะท้อนความเป็นตัวตน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถอเนกประสงค์ SUV “โคโรลล่า ครอส” ด้วยสโลแกน “A New Journey… ให้ชีวิตเดินทาง” เป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย เมื่อเดือนกรกฏาคม 2563 โดยมุ่งเน้นพัฒนาให้เป็นรถที่มีความคุ้มค่าเหนือราคา ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ล้ำสมัยทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง สะดวกสบาย ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick activated กล้องมองภาพรอบทิศทาง เชื่อมต่อเทคโนโลยีล้ำสมัยเช่น Apple Car Play และ T-Connect by Toyota โดดเด่นด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่าด้วย สถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ทั้งมอบความมั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ทั้งแบบเบนซิน และไฮบริดเจเนเรชันที่ 4 มอบอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และประหยัดน้ำมัน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน และทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า “โตโยต้า ได้แนะนำ โคโรลล่า ครอส ซึ่งเป็นรถเอนกประสงค์ SUV เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ในวันนี้เรามีความภูมิใจที่จะกล่าวถึงความสำเร็จของ โคโรลล่า ครอส ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า พิสูจน์ได้จากยอดจอง 4,182 คัน ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่เปิดตัว (ข้อมูลวันที่ 9 – 31 กรกฎาคม 2563) พร้อมยอดขายสะสมตลอด 1 ปีที่ผ่านมามากกว่า 22,500 คัน ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุด ในตลาดรถ C-SUV (ข้อมูลเดือนกรกฎาคม 2563 – มิถุนายน 2564) และที่สำคัญ ยอดขายรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ยังคิดเป็นสัดส่วนถึง 85 % ของยอดจำหน่ายรวม และเป็นยอดขายสูงสุด ในตลาดรถ Hybrid SUV ตอกย้ำความเชื่อมั่นในเครื่องยนต์ไฮบริดของโตโยต้าที่ประหยัดน้ำมัน เงียบ แรง และมลพิษต่ำ” “ยิ่งไปกว่านั้น โคโรลล่า ครอส ยังเป็นรถที่โดดเด่นยิ่งกว่าด้วยเอกลักษณ์ของโตโยต้า นั่นคือ ความคุ้มค่า น่าเชื่อถือ โดยเป็นรถที่ผลิตโดยฝีมือคนไทย และส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก อีกทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด ยังมีแพ็คเกจการรับประกันรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด ที่ครอบคลุมทั้งแบตเตอรี่ และระบบไฮบริด กับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด10 ปี และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี พร้อมข้อเสนอพิเศษ กับแพคเกจขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่จาก 3 ปีเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีค่าแรงในการเช็คระยะ 100,000 กม. มูลค่ากว่า 34,000 บาท” และเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า เรามีความยินดีที่จะแนะนำ โคโรลล่า ครอสModellista ตอบโจทย์ความต้องการให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบในความสปอร์ต ด้วยดีไซน์โดดเด่นลงตัว โคโรลล่า ครอส Modellista ในรุ่น Hybrid Premium Safety และ Hybrid Premium สี Celestite Gray Metallic, Platinum White Pearl*, Metal Stream Metallic สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษสไตล์สปอร์ต ประกอบด้วยสเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง ล้ออัลลอย 18” พร้อมฝาครอบ พิเศษ! จำนวนจำกัด เลือกเป็นเจ้าของ โคโรลล่า ครอส Modellista ได้ 2 รุ่น 3 สี*** –Hybrid Premium Safety ราคา1,240,500 บาท –Hybrid Premiumราคา1,130,500 บาท ติดตามข่าวสาร ข้อมูลเพิ่มเติมได้จากช่องทางประชาสัมพันธ์ของโตโยต้า สัมผัส Corolla Cross และ Corolla Cross Modellista ได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.toyota.co.th/ Facebook: Toyota Motor Thailand. LINE ID: @ToyotaThailand