ซูซูกิ รถยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ยอดขายเติบโตครองอันดับสี่กลุ่มอีโคคาร์ แฮทช์แบ็ก ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยเงื่อนไขสุดเร้าใจเป็นเจ้าของด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท คุณวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศ ไทย) จำกัด กล่าวว่า ในยุคที่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์ประหยัดพลังงาน แต่ด้วยปัจจัยในหลายด้านจึงยังส่งผลต่อความมั่นใจในการเลือกนำมาใช้งาน โดยเฉพาะเรื่องของระบบรองรับการใช้งานขั้นพื้นฐานที่ยังไม่สมบูรณ์แบบ ผู้บริโภคจึงยังคงมองหารถยนต์คุณภาพดี ดูแลรักษาง่าย และประหยัดพลังงาน เพื่อนำไปใช้งานได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ครบครัน สำหรับซูซูกิ เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายไว้รองรับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะรถยนต์ในกลุ่มประหยัดพลังงาน นับว่ามีความโดดเด่นทั้งเรื่องของดีไซน์ สมรรถนะ และความคุ้มค่า จนเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ลูกค้าให้การยอมรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้รถอีโคคาร์สมรรถนะเกินตัวอย่าง SUZUKI CELERIO สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่เปิดตัวเข้ามาเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้บริโภคในปี 2557 ในฐานะอีโคคาร์ รุ่นที่ 2 ของซูซูกิสามารถสร้างยอดขายรวมได้ทั้งสิ้นจำนวน 22,264 คัน สำหรับปีนี้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (เดือนมกราคม-กันยายน 2565) มียอดขายรวม 3,195 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 20.61% จากยอดขายซูซูกิทั้งหมด ซึ่งมีส่วนผลักดันให้ภาพรวมของซูซูกิในปีนี้ มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 5.18% SUZUKI CELERIO เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มอบความคุ้มค่าคุ้มราคาและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างสูงสุดส่งผลให้ฐานลูกค้าในปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงแค่วัยทำงานรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นหนึ่งในรถทางเลือกของครอบครัวขนาดเล็กยุคใหม่ ที่วางแผนการใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ มองหาความความปลอดภัยในการเดินทาง สมรรถนะการใช้งานที่ดี ราคาคุ้มค่า ประหยัดพลังงาน ซึ่งล้วนแต่จุดเด่นสำคัญของผลิตภัณ์ของซูซูกิ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นและต้องการให้ SUZUKI CELERIO เป็นพาหนะคู่ใจ มาจากการเตรียมความพร้อมของบริษัท ในการตอบรับความต้องการของลูกค้าและตลาดรถยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสการขาดแคลนชิ้นส่วนในการประกอบรถยนต์ จนส่งผลให้เกิดการส่งมอบรถล่าช้า แต่ในช่วงเวลาวิกฤติที่ผ่านมา ซูซูกิสามารถส่งมอบรถถึงมือลูกค้าได้ตามกำหนดอย่างรวดเร็วทันต่อความต้องการ ด้วยความโดดเด่นทุกด้านในสไตล์ซิตี้คาร์ จึงอยากตอกย้ำและพร้อมนำเสนอรถยนต์นั่งขนาดเล็กคุณภาพเกินตัวคันนี้ให้ผู้บริโภคเข้าถึงการใช้งานที่แสนจะคุ้มค่า และเป็นเจ้าของได้ง่ายมากยิ่งขึ้น กับแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจ SUZUKI CELERIO เลือกรับข้อเสนอ SUZUKI SUPER FLASH DEAL ขับฟรี 90 วัน พร้อมบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท หรือ เลือกรับข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 5,000 บาท และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงระยะเวลา 3 ปี อีกทั้งซูซูกิยังคงจับมือกับสถาบันการเงินเพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกด้านการอนุมัติสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อให้แก่ลูกค้า ได้แก่ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด(มหาชน) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ภายใต้เงื่อนไขตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ ทั้งนี้ SUZUKI CELERIO ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดความคุ้มค่าและประหยัดในการใช้งาน รวมถึงความพึงพอใจในการขับขี่ เป็นรถยนต์ที่สามารถตอบสนองการใช้งานจริง มอบความประหยัดคุ้มค่า ขนาดห้องโดยสารที่กว้างสบาย มีพื้นที่รองรับการเดินทางที่สะดวกสบายมากพอ ทั้งห้องโดยสารตอนหน้าและห้องโดยสารตอนหลังพร้อมด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากเกินคาด ตอบสนองการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ที่มอบพละกำลังและความสามารถเกินตัว ทั้งยังโดดเด่นด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากกว่า 20 กิโลเมตร/ลิตร บวกกับรูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสาร ที่ออกแบบให้ดูสะดุดตา เสริมความมั่นใจและความปลอดภัยด้วยระบบและอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ตอกย้ำภาพลักษณ์ของซูซูกิภายใต้ราคาจำหน่ายที่กระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภค SUZUKI CELERIO ตอบสนองการใช้งานด้วย 3 รุ่นทางเลือก ได้แก่ GA/MT ราคาจำหน่ายเพียง 338,000 บาทรวมถึง GL/CVT ราคาจำหน่าย 416,000 บาท และ GX/CVT ราคาจำหน่าย 442,000 บาท มาพร้อมสีภายนอกให้เลือกใช้ 4 สี ได้แก่ สีแดง สีเทา สีดำ และสีขาว (เฉพาะสีขาว เพิ่ม 3,000 บาท)
Category: Social
“ควิกเลน” จับมือ “เชฟรอน ไทย”
ควิกเลน แบรนด์ศูนย์บริการยางและรถยนต์ประเภทเร่งด่วนมาตรฐานระดับโลก ที่รองรับการบำรุงรักษารถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ผนึกกำลัง บริษัท เชฟรอน (ไทย) จํากัด ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันคุณภาพระดับโลกภายใต้แบรนด์‘คาลเท็กซ์’ จับมือร่วมเป็นพันธมิตรในการศึกษาโอกาสทางธุรกิจเพื่อขยายเครือข่ายธุรกิจบำรุงรักษารถยนต์ร่วมกับสถานีบริการน้ำมัน พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของสองธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตทางธุรกิจให้กับทั้งผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ และผู้สนใจลงทุนในกิจการฟาสต์ฟิตของควิกเลนให้มากยิ่งขึ้น คุณสันติ จิตพิชิตชัย ผู้อำนวยการควิกเลน ประเทศไทย กล่าว “ควิกเลนเดินหน้าขยายเครือข่ายสาขามาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่บุกตลาดเปิดตัวในประเทศไทยในปี พ.ศ.2562 การเป็นพันธมิตรกับบริษัท เชฟรอน (ไทย) จํากัดในครั้งนี้ ไม่เพียงตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อมอบบริการดูแลรักษารถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่ ‘สะดวกกว่า วางใจได้จริง’ ให้กับผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มองหาโอกาสทางธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง อย่างธุรกิจฟาสต์ฟิตอีกด้วย” คุณสุทัศน์ ลิมปิติกรานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันคุณภาพระดับโลกภายใต้แบรนด์ “คาลเท็กซ์” กล่าว “เชฟรอนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสถานีบริการน้ำมัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าไปอีกขั้น โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้จะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานีบริการน้ำมันให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ด้วยการขยายบริการด้านการบำรุงรักษารถยนต์ที่มีมาตรฐานระดับโลก เราเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญของควิกเลนว่าจะช่วยมอบบริการที่สะดวก รวดเร็ว และไว้วางใจได้ให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังเป็นการตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มองหาสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเพิ่มเติมจากสถานีบริการน้ำมัน อาทิ บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ ร้านอาหาร และการจับจ่ายสินค้าประจำวันควบคู่ไปกับการแวะเติมน้ำมัน จึงถือเป็นการขยายบริการและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมากกว่าการเติมน้ำมันเพียงอย่างเดียว” จากความร่วมมือในครั้งนี้ ควิกเลนคาดหวังโอกาสในการขยายศูนย์บริการบำรุงรักษารถยนต์ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ให้มากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศภายในปี พ.ศ. 2569 และถือเป็นอีกหนึ่งขั้นของความสำเร็จในการผนึกกำลังระหว่างพันธมิตรในธุรกิจบำรุงรักษารถยนต์กับสถานีบริการน้ำมัน ในการเติมเต็มธุรกิจของทั้งสองฝ่ายด้วยการผสานความแข็งแกร่ง ศักยภาพ และความพร้อมจากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดี และความประทับใจให้กับผู้บริโภค ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสอันดีที่จะขยายฐานสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ให้ได้มีโอกาสทดลองใช้บริการของควิกเลน และ สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ที่ต่างนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ปัจจุบัน ควิกเลนมีสาขาในประเทศไทยครอบคลุมทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหลัก รวม 16 สาขาพร้อมให้บริการบำรุงรักษารถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ มาตรฐานคุณภาพระดับโลก โดยช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานมากประสบการณ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ครอบคลุมบริการตั้งแต่การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง เปลี่ยนยางรถยนต์ ตรวจซ่อมระบบเบรค โช้คอัพและระบบช่วงล่างจนถึงแบตเตอรี่รถยนต์ และบริการอื่น ๆ รวมกว่า 14 กลุ่ม
อีซูซุ เปิดศึก “THAI FIGHT 2022” รอบแรก
อีซูซุเปิดศึกมวยไทยโลก “THAI FIGHT 2022” รอบคัดเลือกรอบแรกรับลมหนาว ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์พร้อมแสดงความยินดีกับ “เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม” แชมป์มวยอีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2022 ซึ่งคว้าชัยตามคาด ชนะน็อกนักชกจากอิหร่านในยกที่ 2 นำเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บรรยากาศการแข่งขัน “THAI FIGHT 2022” รอบแรกเนืองแน่นไปด้วยแฟนมวยชาวกรุงเทพ โดยมี คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน THAI FIGHT พร้อมด้วย คุณวิเชฐ ตันติวานิชอุปนายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวเปิดงาน และ มร. ทาคาชิ ฮาตะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้ร่วมสนับสนุนหลักการแข่งขันฯ นำ “เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม” พร้อมด้วยขุนพลทีมนักชกไทยก้าวสู่สังเวียนเกียรติยศ ร่วมปะทะลีลาแม่ไม้มวยไทยกับนักชกจากนานาประเทศ ทั้งในแบบสวมนวมและแบบคาดเชือกรวม 9 คู่ โดยคู่เด่นเป็นการพบกันของ มหากาฬเมืองร้อยเกาะ “เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม” แชมป์อีซูซุคัพคนล่าสุด และแชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2022 พบกับ “อาลี โกดราติซาราสคาน” จิ้งจอกแห่งเมืองคาราจ นักชกชาวอิหร่าน ทันทีที่ระฆังยกแรกดังขึ้น เพชรธงชัยเดินหน้าลุยปล่อยอาวุธเต็มกำลัง อาศัยจังหวะดีกว่า ไล่ต้อนรัวลีลาแม่ไม้มวยไทยใส่คู่ต่อสู้จนชนะน็อกไปได้ในยกที่ 2 ส่งผลให้เพชรธงชัย เข้าสู่ THAI FIGHT 2022 รอบรองชนะเลิศเป็นผลสำเร็จ มร.ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับเพชรธงชัยในการคว้าชัยชนะด้วยความสามารถอันโดดเด่น และขอให้พยามพยามอย่างเต็มที่ในรอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศเพื่อที่จะได้เป็นแชมป์ไทยไฟท์ 2022 และเพื่อรักษาถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรติไว้สำหรับคนไทยต่อไป” ผลการแข่งขัน THAI FIGHT 2022 รอบคัดเลือกรอบแรก มีดังนี้ 1. ฟ้าลิขิต ลูกมหาธาตุ (ไทย) ชนะคะแนน โผน สายบุญเพ็ง (สปป.ลาว) 2. น้องโอ ช.ห้าพยัคฆ์ (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 1 ซาจจาด ซูไบนี่ (อิรัก) 3. ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 2 ธันริทีย์ (กัมพูชา) 4. เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 2 อาลี โกดราติซาราสคาน (อิหร่าน) 5. เวโรว.รุจิรวงศ์ (เมียนมา) ชนะน็อกยกที่ 2 มาเรียน่า เบอร์นาเดส (บราซิล) 6. กิตติ ส.ท.แมนนครระยอง (ไทย) ชนะคะแนน เอเมอร์สัน เบนโต้ (บราซิล) 7. ป.ต.ท. ว.รุจิรวงศ์ (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 1 ธันจันตัค (กัมพูชา) 8. เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 1 หลุยส์ เปาโลเทอร์ร่า (บราซิล) 9. แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (ไทย) ชนะคะแนน เหงียนดวน ลอง (เวียดนาม) สำหรับการแข่งขัน “THAI FIGHT 2022” รอบรองชนะเลิศ จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนรอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม ศกนี้ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งผู้ครองตำแหน่งแชมป์ “THAI FIGHT 2022” จะได้รับรางวัลรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” พร้อมเงินสดรวม 4 ล้านบาท ไปครองอีกด้วย
MOTO GUZZI V7 PALACE GUCCI มอเตอร์ไซค์ที่สร้างนิยามใหม่ของการเดินทาง
งานสร้างสรรค์จากแบรนด์มอเตอร์ไซค์และแบรนด์แฟชั่นที่เป็นภาพแทนของอิตาเลียนสไตล์สุดคลาสสิคอย่างMoto Guzzi และ Gucci ร่วมด้วย Palace แบรนด์สตรีทแวร์สัญชาติอังกฤษ ทั้งหมดอยู่ในโฉมของมอเตอร์ไซค์ที่ทุกคนตั้งตารอที่สุดของปีนี้ Moto Guzzi V7 ลิมิเต็ดเอดิชั่น อนึ่ง การปะทะและรังสรรค์อันยอดเยี่ยมระหว่างโลกที่ดูไม่อาจจะเชื่อมโยงกันได้ทั้งสองใบ ด้วยแรงบันดาลใจจากความหลงใหลในวัฒนธรรมสิงห์นักบิดของ Palace เสริมด้วยวิสัยทัศน์สุดล้ำของ Gucci และที่ขาดไม่ได้คือ V7 หนึ่งในรุ่นรถที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Moto Guzzi มาพร้อมดีไซน์ที่เกิดจากการตีความใหม่ของแบรนด์ระดับโลกทั้งสาม Moto Guzzi V7 Gucci Palace จึงเปี่ยมด้วยรายละเอียดอันเฉียบล้ำ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในโลกมอเตอร์ไซค์ นี่คือโปรเจกต์ที่ขับเคลื่อนด้วย Vault แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ Gucci พัฒนาขึ้นเพื่อค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของการสร้างสรรค์ ซึ่งสอดพ้องกับวิสัยทัศน์ของ Moto Guzzi ที่สรรสร้างมอเตอร์ไซค์เพื่ออุทิศแด่จิตวิญญาณอันเป็นอิสระของผู้ขับขี่ ทั้งนี้ พร้อมกับการวางจำหน่ายทางป๊อบ-อัพสโตร์บางแห่ง Moto Guzzi V7 Gucci Palace จะมีวางจำหน่ายแบบออนไลน์เอ็กซ์คลูซีฟผ่านทาง Vault ด้วยเช่นกัน คอลแลบอเรชั่นที่น่าตื่นตานี้เริ่มต้นจากการสำรวจปรัชญาของแบรนด์ทั้ง 3 ที่มีร่วมกัน ก่อนจะค้นพบเส้นสาย สไตล์และความเฉพาะตัวอันเกิดจากการผสมผสาน ซึ่งปรากฏอยู่ในทุกรายละเอียดของ Moto Guzzi V7 ไม่ว่าจะเป็นลายพรางบนตัวถังรถที่เป็นลายเซ็นของ Palace เบาะหนังสีน้ำตาลเข้มพร้อมลายโมโนแกรมอันคุ้นตาของ Gucci สอดรับกับลวดลายของกระเป๋าเก็บสัมภาระด้านหลังที่มีทั้งลายพรางของ Palace และโมโนแกรมของ Gucci ซ้อนเข้าด้วยกัน รวมถึงโลโก้นกอินทรีของ Moto Guzzi ที่โดดเด่นเป็นสง่ากลางตัวถัง ด้วยคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของมอเตอร์ไซค์ยุค ‘60s และ ‘70s ในดีเอ็นเอของ V7 ซึ่งถูกนำกลับมานำเสนอใหม่ผ่านลวดลายจากแบรนด์แฟชั่นร่วมสมัย ผลลัพธ์คือมอเตอร์ไซค์ที่หรูหรา มาดมั่นพร้อมลุย และคงไว้ซึ่งความคลาสสิคดั้งเดิม นี่คือพาหนะที่มีดีไซน์ข้ามยุคสมัย อันเป็นส่วนผสมของมรดกทางยนตรกรรมอันทรงค่า กับคัลเจอร์อันน่าตื่นตาของคนรุ่นใหม่
MOTOR EXPO คนไทยไม่เคยทิ้งกัน
การช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดย คุณสุกานดา ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการกองสื่อสารองค์กร บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39” หรือ“Thailand International Motor Expo 2022” มอบน้ำดื่มจำนวน 2,400 ขวดให้สำนักงานบรรเทาทุกข์ และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย โดยมี เภสัชกรหญิงจิราวรรณสันติพิทักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์ และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย เป็นผู้แทนรับมอบ รวมถึงมอบน้ำดื่มจำนวน 1,200 ขวด ให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จุด สน. บางยี่ขัน อปพร. เขตบางกอกน้อย หน่วยพรพิพัฒน์ ทีมงานทัพหลังฝั่งธน เพื่อนำไปช่วยผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่
“Bridgestone Group A Track Day”
บริดจสโตนจับมือกรังด์ปรีซ์ กรุ๊ป ปลุกจิตวิญญาณเหล่านักซิ่ง ชวนรวมพลคนรักรถในตำนานตั้งแต่ปี 70s, 80s และ90s มาวิ่งโชว์ความเก๋าเกมบนสนามแข่งรถทางเรียบ พร้อมพบปะสังสรรค์ตามประสาคอเดียวกัน ในงาน“Bridgestone Group A Track Day” ชูภาพลักษณ์การกลับมาของแบรนด์ “บริดจสโตน” ในวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย ที่พร้อมจะปลุกเติมเชื้อใฟความตื่นเต้นในโลกแห่งการเดินทาง ณ สนามแข่งรถแก่งกระจาน เซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี ในวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2565 “Bridgestone Group A Track Day” เป็นกิจกรรมรวมพลผู้ที่หลงใหลในรถยนต์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 – 1999 หรือตั้งแต่ปี 70s, 80s และ 90s ซึ่งรวมความยิ่งใหญ่ของรถซิ่งในตำนาน มาวิ่งโชว์ในงานให้เห็นกันแบบชัด ๆ โดยเจ้าของรถที่สนใจเข้าร่วมสนุกกับ Track Day หรือ การนำรถคันโปรดมาขับฟื้นความหลัง ปลุกจิตวิญญาณนักซิ่งหรืออยากเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ บนสนามแข่งรถทางเรียบที่สามารถใช้ความเร็วได้ตามใจต้องการเพื่อสัมผัสสมรรถนะของรถได้อย่างเต็มที่ สามารถสมัครได้ที่ https://bit.ly/3xYfpI4 โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไปนอกจากนี้ภายในงานยังมีทีเด็ดรถโชว์สุดเท่ที่หาชมได้ยาก ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นแบบคนคอเดียวกันกับกลุ่มคาร์คลับ ช้อปปิ้งสุดเพลินทั้งอะไหล่ ของตกแต่ง และของสะสมสำหรับรถยนต์ทุกประเภท นอกจากนี้ยังอิ่มอร่อยกับฟู้ดทรัคนานาชนิด ร่วมสนุกกับกิจกรรมหลากหลายของบรรดาเหล่าผู้สนับสนุน พร้อมลุ้นรับของที่ระลึกภายในงาน โดยจะจัดขึ้นในวันเสาร์ ที่ 12 พฤศจิกายน 2565 ณสนามแข่งรถแก่งกระจาน เซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมงาน ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถติดตามรายละเอียดของงานได้ที่ Facebook Fanpage : GPI Motorsport และ Group A Club การเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักของการจัดงาน “Bridgestone Group A Track Day” ของบริดจสโตนในครั้งนี้ นับเป็นการประกาศการกลับมาของกิจกรรม Bridgestone Motorsport ในวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำด้านนวัตกรรมยางรถยนต์ ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ความมั่นใจในการเดินทางทุกรูปแบบแม้บนสนามแข่ง ซึ่งสอดคล้องกับ “ด้าน Emotion (ความรู้สึก)” ที่ต้องการปลุกพลังบันดาลใจ เติมเชื้อไฟแห่งความตื่นเต้นสู่โลกแห่งการเดินทางผ่านกิจกรรมสุดท้าทายและประสบการณ์ในการขับขี่สุดเร้าใจ ตาม “Bridgestone E8Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” ภายใต้วิสัยทัศน์หลักของบริดจสโตนที่ต้องการเป็นมากกว่าผู้ผลิตยางรถยนต์สู่การเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการเดินทางและการส่งมอบผลิตภัณฑ์ การบริการ และโซลูชั่นขั้นสูงสุดอย่างยั่งยืน เพื่อการส่งมอบคุณค่าให้แก่สังคมและลูกค้า
ยามาฮ่า ฟาซซิโอ้ ส่งหนังรัก “OMG! รักจังวะ…ผิดจังหวะ” เอาใจเจน Z ยุคใหม่
เริ่มฉายพร้อมกันแล้วทั่วประเทศ สำหรับหนังรักอย่าง “OMG! รักจังวะ…ผิดจังหวะ” โดยงานนี้ คุณจิรภัทร สายเพชร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดกลุ่มรถออโตเมติก และสนับสนุนการตลาด คุณอัญชลี ศรีพิทักษ์ ผู้จัดการส่วนบริหารตราสินค้า ประชาสัมพันธ์ และลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมกันมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีและถ่ายภาพร่วมกับ คุณจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด และคุณฐิติพงศ์ เกิดทองทวี ผู้กำกับภาพยนตร์ “OMG! รักจังวะ…ผิดจังหวะ ”สกาย-วงศ์รวี นทีธร และ “จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน” พร้อมด้วยนักแสดงชั้นนำในงาน GALA “OMG! รักจังวะ…ผิดจังหวะ” สำหรับภาพยนตร์ “OMG! รักจังวะ…ผิดจังหวะ” เป็นอีกหนึ่งหนังรัก ‘รอ’ แมนติก ‘คอย’ เมดี้ กับเรื่องราวของ กายและจูน เพื่อนร่วมชั้นมหาวิทยาลัย กับจังหวะรักของทั้งสองคนที่ผิดที่ผิดเวลา โดยวัยรุ่น Gen Z เตรียมพบกับความต๊าซ! ของรถจักรยานยนต์ออโตเมติก สีสันสดใส YAMAHA FAZZIO HYBRID CONNECTED ใน “OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ” ซึ่งฉายพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศเริ่มแล้ววันนี้
เอ็มจี เปิดโรงงานต้อนรับกระทรวงการต่างประเทศ
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ เอกอัครราชทูตธนาธิป อุปัติศฤงค์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ APEC 2022 TASK FORCE กระทรวงการต่างประเทศ ที่ให้เกียรติเยี่ยมชมโรงงาน พร้อมรับมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถยนต์พลังงานทางเลือกรวมกว่า 25 คัน ประกอบด้วยNEW MG ZS EV, MG EP PLUS, NEW MG HS PHEV, NEW MG VS HEV และ NEW MG HS เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมประชุมสัปดาห์ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Week: AELW) ตลอดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) หรือเอเปค 2022 ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2565 ในโอกาสนี้ มร. จาง ไห่โป และคณะผู้บริหาร ได้พาคณะทำงาน APEC 2022 TASK FORCE กระทรวงต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมโรงงานประกอบรถยนต์ เอ็มจี บนพื้นที่กว่า 437.5 ไร่ มีกำลังการผลิต สูงสุด 100,000 คันต่อปี ด้วยนวัตกรรมระบบอัตโนมัติ(Automations) และหุ่นยนต์อัจฉริยะ(Intelligent Robotics) ผสานกับเทคโนโลยีการผลิตและระบบตรวจสอบคุณภาพที่ดีที่สุด และเป็นโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC มีที่ตั้งที่มีความได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ทำให้โรงงานแห่งนี้เป็นฐานการผลิตรถยนต์เอ็มจีพวงมาลัยขวาระดับโลก และสามารถผลิตรถยนต์ได้ครบทุกระบบการขับเคลื่อน เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค และได้เดินชมไลน์การผลิตแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์รุ่น MG VS HEV และMG HS PHEV รวมถึงได้พูดคุยถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ที่ได้มีการศึกษาและวิจัยการจัดการกับแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงศักยภาพการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้า และขานรับนโยบายการขับเคลื่อนประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่อย่างBCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญในมิติของ Green Economy และจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะยานพาหนะหลักสำหรับการเดินทางของเจ้าหน้าที่ตลอดระยะเวลาการจัดการประชุม มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์–ซีพี จำกัด และ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอ็มจี รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งในการต้อนรับคณะทำงาน APEC 2022 TASK FORCE กระทรวงต่างประเทศ และการได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) หรือ เอเปค 2022 โดยบริษัทฯได้มีโอกาสเป็นพันธมิตรสนับสนุนยนตรกรรมในทุกระบบการขับเคลื่อนสำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมประชุม รวมถึงคณะผู้ปฏิบัติงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดย เอ็มจี ไม่เพียงแต่พัฒนายนตรกรรมที่รองรับทุกรูปแบบการใช้งานเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงความมั่นใจของศูนย์บริการ เอ็มจี กว่า 158 แห่ง ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการเสริมสร้างและผลักดันความยั่งยืนของสังคมให้น่าอยู่ โดยเอ็มจีหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งความต้องการของลูกค้าและสามารถผลักดันประเทศไทยให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ”
เดลต้า ออกแคมเปญแบรนด์วิดีโอปี 2565
บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) เปิดตัวแคมเปญวิดีโอที่ 2 โดยมีเป้าหมายเพื่อจุดประกายให้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน โดยวิดีโอใหม่ของเดลต้า ประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าบริษัทประยุกต์ใช้นวัตกรรมประหยัดพลังงานเพื่อจัดการกับความท้าทายระดับโลกในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น โรคระบาด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ในปี 2562 เดลต้า ประเทศไทย ได้เปิดตัววิดีโอแบรนด์ครั้งแรกภายใต้คอนเซปต์ “Life Gets Better by Change” เพื่อแนะนำเกี่ยวกับบริษัทด้านการวิจัยและพัฒนา ศูนย์การผลิต และธุรกิจสาขาทั่วโลกของเดลต้า ซึ่งนำเสนอโซลูชันประหยัดพลังงานอัจฉริยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นสำหรับประเทศไทย นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ได้เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ สภาวะโลกร้อนได้กระตุ้นให้เกิดความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลก วิดีโอใหม่ของเดลต้ากล่าวถึงเมกะเทรนด์ทั่วโลกในเนื้อหาปัจจุบันพร้อมอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับโซลูชันล่าสุดของบริษัทที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนของประเทศไทยเข้าสู่ยุคNew Normal โซลูชันและแอปพลิเคชันเด่นของเดลต้า ประเทศไทย ได้แก่: • ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ: ระบบอัตโนมัติประสิทธิภาพสูงสำหรับการผลิตอัจฉริยะและสมาร์ทฟาร์ม • อาคารอัตโนมัติ: แอปพลิเคชันสำหรับอาคารสีเขียว ประหยัดพลังงาน เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพต่อผู้อาศัย • ดาต้าเซ็นเตอร์: กรีนโซลูชันสำหรับแอปพลิเคชันด้านดิจิทัล IoT และ IIoT • พลังงานโทรคมนาคม: พาวเวอร์โมดูลประสิทธิภาพเยี่ยมสำหรับงานโทรคมนาคมที่น่าเชื่อถือและยืดหยุ่น • พลังงานอัจฉริยะ: การอนุรักษ์พลังงาน จัดเก็บ และจัดการพลังงานหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ • จอแสดงผลและมอนิเตอร์: สำหรับการตรวจสอบ ความปลอดภัย การโฆษณาและการแสดงภาพด้านความบันเทิง • สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV: สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนตัวและเชิงพาณิชย์ที่ปลอดภัย รวดเร็วและสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์EV แคมเปญวิดีโอแบรนด์ใหม่ที่จัดทำขึ้นนี้ เดลต้ามุ่งมั่นที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยใช้ชีวิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ ในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลและระบบนิเวศน์สีเขียวแห่งอนาคตโซลูชันพลังงานหมุนเวียนและที่ชาร์จไฟฟ้า EV ของเดลต้าจะทำให้ประเทศไทยมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำและลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายหรือให้เกิดความยุ่งยากในการดำเนินชีวิต เดลต้ามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรในท้องที่เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจที่หลากหลายและยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งจะช่วยคนไทยเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ ยั่งยืน และเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เดลต้ามองถึงอนาคตที่สดใสและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับทุกคน ดั่งคำมั่นสัญญาของแบรนด์: Smarter. Greener. Together. สามารถชมวิดีโอใหม่นี้ได้ที่ลิงก์: YouTube: https://www.youtube.com/watch?v=9JdvBP1P5d4
“BRIDGESTONE เปลี่ยนยางขอบใหญ่ จัดให้ล้นถัง” ครั้งที่ 1
บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จับรางวัลครั้งที่ 1 สำหรับโปรโมชั่นสุดยิ่งใหญ่ “BRIDGESTONE เปลี่ยนยางขอบใหญ่ จัดให้ล้นถัง” จัดหนัก แจกจริง!! มอบรางวัลบัตรเติมน้ำมันให้ลูกค้า ผู้โชคดีที่ซื้อและเปลี่ยนยางบริดจสโตน ขนาด 17 นิ้วขึ้นไป และลงทะเบียนรับประกันยาง พิธีจับรางวัลครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากผู้แทนกรมการปกครอง ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งมีรางวัลใหญ่เป็นบัตรเติมน้ำมัน ปตท มูลค่า 100,000 บาท 1 รางวัล นอกจากนี้ยังมีรางวัลบัตรเติมน้ำมัน ปตท มูลค่า 5,000 บาท จำนวน 50 รางวัล รวม 51 รางวัล สำหรับรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลประกาศทาง www.facebook.com/BridgestoneTH ในวันที่ 31 สิงหาคม 2565 และยังมีกำหนดการจับรางวัลอีก 2 ครั้ง พบกับการจับรางวัล “BRIDGESTONE เปลี่ยนยางขอบใหญ่ จัดให้ล้นถัง” ครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 ตุลาคม 2565 สำหรับลูกค้าที่ซื้อยางในเดือนสิงหาคมและกันยายนเท่านั้น สำหรับกิจกรรม “BRIDGESTONE เปลี่ยนยางขอบใหญ่ จัดให้ล้นถัง” นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อตอบแทนลูกค้า ที่เผชิญกับสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง เมื่อลูกค้าซื้อและเปลี่ยนยางบริดจสโตนทุกรุ่นที่ร่วมรายการ ขอบ 17 นิ้วขึ้นไป ทุก 4 เส้น และลงทะเบียนรับประกันยาง จะได้รับสิทธิ์ร่วมชิงโชค 1 สิทธิ์ เพื่อลุ้นรับรางวัล บัตรเติมน้ำมัน ปตทมูลค่าสูงสุด 100,000 บาท ทุกๆ 2 เดือน รวมมูลค่า 1,050,000 บาท* ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 พฤศจิกายน 2565 เมื่อลูกค้าซื้อและเปลี่ยนยาง พร้อมลงทะเบียนรับประกันยางผ่านช่องทางhttps://tirewarranty.bridgestoneth.com เพื่อรับสิทธิ์ร่วมชิงโชคลุ้นรับรางวัล โดยมีกำหนดในการจับรางวัลทุกๆ 2 เดือน ทั้งหมด 3 ครั้ง สำหรับการจับรางวัลในแต่ละครั้ง ได้แก่ รางวัลที่ 1 บัตรเติมน้ำมัน ปตท มูลค่า 100,000 บาท จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่า 100,000 บาท และ รางวัลที่ 2 บัตรเติมน้ำมัน ปตท มูลค่า 5,000 บาท จำนวน 50 รางวัล รวมมูลค่า 250,000 บาท รวมจำนวนของรางวัลตลอดรายการ 153 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 1,050,000 บาท เงื่อนไขโปรโมชั่น: 1) ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์ร่วมชิงโชคเพื่อลุ้นรับรางวัลบัตรเติมน้ำมัน ปตท รางวัลที่ 1 มูลค่า 100,000 บาท และรางวัลที่ 2 มูลค่า 5,000 บาท เมื่อซื้อและเปลี่ยนยางบริดจสโตนทุกรุ่นที่ร่วมรายการ ขอบ 17 นิ้วขึ้นไป ทุก 4 เส้น พร้อมลงทะเบียนรับประกันยาง และอัปโหลดใบเสร็จได้ถูกต้องครบถ้วน 2) ข้อมูลบนใบเสร็จต้องครบถ้วนสมบูรณ์ โดยมีรายละเอียด วันที่ใบเสร็จ, ชื่อร้านค้า, ชื่อ-นามสกุลลูกค้า, เบอร์โทรศัพท์มือถือ, ทะเบียนรถ, รุ่นยาง, ขนาดยาง, จำนวนยาง และราคายาง 3) จำกัดจำนวนสิทธิ์ 1 สิทธิ์ ต่อ 1 ใบเสร็จ 4) จำกัดสิทธิ์ 153 สิทธิ์ ตลอดระยะเวลาโปรโมชั่น 5) ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 พฤศจิกายน 2565 6) กำหนดการจับรางวัล ดังนี้ – ครั้งที่ 1: จับรางวัลวันที่ 19 สิงหาคม 2565 เมื่อซื้อและเปลี่ยนยาง พร้อมลงทะเบียนรับประกันยาง ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2565 ประกาศผลผู้โชคดีภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2565 – ครั้งที่ 2: จับรางวัลวันที่ 19 ตุลาคม 2565 เมื่อซื้อและเปลี่ยนยาง พร้อมลงทะเบียนรับประกันยาง ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2565 ประกาศผลผู้โชคดีภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2565 – ครั้งที่ 3: จับรางวัลวันที่ 19 ธันวาคม 2565 เมื่อซื้อและเปลี่ยนยาง พร้อมลงทะเบียนรับประกันยาง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2565 ประกาศผลผู้โชคดีภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2565 7) ประกาศผลผู้โชคดีผ่านทาง FACEBOOK Fanpage: Bridgestone Thailand และทางบริษัทฯ จะแจ้งผู้โชคดีทุกท่านผ่านทางโทรศัพท์ *สำหรับเกณฑ์การตัดสิน และเงื่อนไขต่างๆ ของโปรโมชั่น เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bridgestone.co.th หรือสอบถามได้ที่แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 02-636-1555