“นักบิดไทยฮอนด้า” ระเบิดฟอร์มโฮมเรซ!“ก้อง-สมเกียรติ” ผงาดโพเดียม โมโตทู ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์“ข้าวกล้อง-จักรีภัทร” เข้าวินพร้อมดับเบิ้ลโพเดียมเอเชีย ทาเลนต์“ทัพนักบิดไทยฮอนด้า” จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” สร้างผลงานกระหึ่มโฮมเรซในศึก โมโตจีพี รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ จากฟอร์มสุดร้อนแรงของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ที่บิดคว้าท็อป 3 ผงาดโพเดียมโฮมเรซในรุ่น โมโตทู สร้างประวัติศาสตร์เป็น “คนไทยคนแรก” ที่ขึ้นโพเดียมใน “โฮม กรังด์ปรีซ์” ขณะ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ฮึดสู้อย่างสมศักดิ์ศรีในรุ่น โมโตทรี ด้าน “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร คว้า 2 โพเดียม 1 ชัยชนะในศึก เอเชีย ทาเลนต์ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2023…
Category: Magazine
MAGAZINE of AUTO
“ก๊องส์-ธัชกร” ฮึดสู้รับธงหมากรุก “โมโตทรี โฮมเรซ”
“ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ฮึดสู้ตอบแทนเสียงเชียร์จากแฟนชาวไทยนำรถเข้าเส้นชัยได้สำเร็จในศึก โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เจ้าตัวลั่นสู้เต็มร้อยจนจบเรซแม้พลาดล้ม เพื่อขอบคุณทุกแรงสนับสนุนจากคนไทยใน “โฮมเรซ” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “ก๊องส์-ธัชกร” ลงแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดในรุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ สร้างผลงานยอดเยี่ยมตลอดการซ้อม 3 ช่วง แม้จะใช้รถแข่งสเป็คต่ำกว่านักบิดคนอื่นๆ 1 ปี โดยสามารถกดเวลาลงไปได้ถึง 1 นาที 42.832 วินาที ช้ากว่านักบิดที่เร็วที่สุดในการซ้อมอย่าง เดนิซ ออนจู เพียง 0.925 วินาทีเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่ต้องเจอปัญหาในรอบควอลิฟาย ทำให้ต้องออกตัวจากกริดที่ 27 จากกริดดังกล่าวเป็นงานหินอย่างมากในการไล่อันดับเพื่อลุ้นแต้ม โดย “ก๊องส์-ธัชกร” พยายามอย่างหนักในการไล่แซงคู่แข่ง ก่อนพลาดล้มในช่วงต้นเรซ ทว่าดาวรุ่งชาวไทยไม่ย้อมแพ้ นำรถลุยต่อจนเข้าเส้นชัยในอันดับ 28 ตามหลังผู้ชนะ 1 รอบ นับเป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมในโฮมเรซต่อหน้าแฟนชาวไทยเรือนแสนคน “ก๊องส์-ธัชกร” กล่าวหลังจบเรซว่า “วันนี้ทุกอย่างแตกต่างไปจากที่ผมคาดหวังไว้มาก อันดับสตาร์ตของผมอยู่กลุ่มหลัง นั่นทำให้ยากต่อการไล่ทำอันดับ เหนือสิ่งอื่นใดผมเสียเวลาจากการล้มในเรซ ก่อนจะโดนลงโทษลองแล็ปจากการหลุดแทร็กลิมิตเกินกำหนด” “แม้ว่าจะเจอปัญหาเหล่านี้ แม้จะตามหลังไป 1 รอบ ไม่สามารถทำอันดับที่ดีได้ แต่ในใจผมคิดแค่เพียงว่า ผมไม่ต้องการออกจากการแข่งขัน ผมต้องการสู้เพื่อจบเรซให้ได้ เพื่อตอบแทนแรงสนับสนุนจากแฟนชาวไทยที่มีเสมอมาโดยไม่มีเงื่อนไข” ธัชกร เผย ทั้งนี้ “ก๊องส์-ธัชกร” สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยมในศึก จูเนียร์จีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ จนได้รับโอกาสลงแข่งขันไวลด์การ์ดใน โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 4 สนามในฤดูกาลนี้ และจากพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม ดาวรุ่งชาวไทยรายนี้ได้รับการยืนยันขึ้นไปแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลในศึก โมโตทรี 2024 โดยในปี 2024 แฟนมอเตอร์สปอร์ตไทยทุกคนที่จะได้เห็น “สมเกียรติ- จันทรา” ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และ “ธัชกร-บัวศรี” นักแข่งดาวรุ่งระดับโลก ลงแข่งขันในรายการระดับโลกพร้อมกันถึง 2 รุ่น ในฤดูกาล 2024 การมีนักแข่งไทยในรายการระดับโลกถึง 2 คน ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวสำคัญของโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ที่มุ่งมั่นดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ที่จะมีนักแข่งไทยในรุ่นสูงสุดของโลกอย่าง “โมโตจีพี” ในอนาคต แฟนความเร็วชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารพร้อมส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : Race to The Dream #ThaiHonda #Howwemoveyou #MotoGP #Moto2 #Moto3 #SC35 #Kong #TB33 #Gonz #RaceToTheDream #Motorsport #HondaTeamAsia #IdemitsuHondaTeamAsia #HondaRacingThailand #RaceToTheOne
“ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก
ปลดล็อกทุกความท้าทาย พร้อมรุกตลาดรถยนต์ปลายปีนี้ โดย บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เดินหน้าตอกย้ำแบรนด์รถปิกอัพอันดับ 1 ของเมืองไทย เปิดตัว “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก “NEW! ISUZU D-MAX” UNLOCK YOUR POTENTIAL มาพร้อมดีไซน์ใหม่ สะกดทุกสายตา ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ จัดเต็มทุกไลน์อัพ นำโดย “ใหม่! อีซูซุ วี-ครอส 4×4” ปลดล็อกทุกความท้าทายกับความแข็งแกร่ง “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 4 ประตู” ปลดล็อกนิยามใหม่แห่งปิกอัพ ระดับ TOP CLASS และ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู” ปลดล็อกศักยภาพใหม่ ไปได้ไกลกว่า รวมถึงรุ่น “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บโฟร์” “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ สเปซแค็บ” และ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ สปาร์ค” ตอบโจทย์ด้านสมรรถนะ ความทนทาน และประหยัดน้ำมันขั้นสุด มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า“อีซูซุส่งรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก กระตุ้นตลาดปลายปี สร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง ดีไซน์ใหม่ทั้งภายในและภายนอก มาพร้อมสีส้มใหม่ Namibu Orange Mica (ส้ม นามิบู ไมก้า)…
MAZDA ICONIC SP
มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เผยโฉมรถ MAZDA ICONIC SP หรือคอนเซ็ปต์คาร์รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในงาน Japan Mobility Show 2023 โดย MAZDA ICONIC SP เป็นรถต้นแบบใหม่ล่าสุด ภายใต้สปอร์ตคอมแพ็คคาร์คอนเซ็ปต์ ที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยใหม่และตอบโจทย์ลูกค้าที่ “รักในรถยนต์” และ “ปรารถนาที่จะครอบครองรถยนต์ที่สามารถถ่ายทอดความสุขในการขับขี่” โดยคอนเซ็ปต์คาร์รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์โรตารี แบบ 2 โรเตอร์ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า (Two-rotor Rotary EV System) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาสด้าที่ยังคงมีขนาดกะทัดรัด จึงทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในเรื่องการจัดวางพื้นที่ของห้องเครื่องยนต์ ซึ่งช่วยให้รถต้นแบบคันนี้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำและให้สมรรถนะในการขับขี่ดีขึ้น โดยแบตเตอร์รี่จะถูกชาร์จด้วยพลังงานแบบย้อนกลับและจากเครื่องยนต์โรตารีแบบ 2 โรเตอร์ ที่ใช้ในการผลิตพลังงาน ซึ่งเป็นพลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดคาร์บอน นอกจากนี้ ภายนอกของตัวรถยังมาพร้อมกับสีแดง VIOLA ซึ่งเป็นสีต้นแบบใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากปรัชญาของมาสด้าในการ “ยกระดับประสบการณ์ความสุขในการขับขี่และการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน” ซึ่งเป็นความปรารถนาในการเชิดชูสีแดงอันเป็นสีเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้า มร. มาซาฮิโระ โมโร่ ผู้อำนวยการตัวแทนจากมาสด้า, ประธาน และ CEO กล่าวว่า “มาสด้าจะส่งมอบรถยนต์ที่เป็นเสมือนสิ่งย้ำเตือนให้กับผู้คนอยู่เสมอว่า รถยนต์คือความสุขที่แท้จริงและเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของพวกเขา นอกจากนี้ ในฐานะที่มาสด้าเป็นบริษัทที่รักในรถยนต์ และต้องการเสริมสร้างประสบการณ์ในการเดินทางให้กับผู้คนอย่างไม่รู้จบ เราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์อนาคตร่วมกับพันธมิตร และแฟนๆ ของเราที่มีจุดมุ่งหมายร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่า ‘เรารักรถยนต์’ และเพื่อตอบสนองต่อความปรารถนานี้ มาสด้าจึงมุ่งมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์ความสุขในทุกการขับขี่ และการใช้ชีวิตในทุกด้านให้กับลูกค้าทุกคน” มาสด้าจะยังคงส่งมอบ ‘ความสุขในการขับขี่’ ต่อไป ภายใต้คุณค่าหลักในการให้ความสำคัญกับยึดมั่นปรัชญา ‘มนุษย์เป็นศูนย์กลาง’ และยังคงงมั่นที่จะส่งมอบ ‘ความสุขในการใช้ชีวิต’ ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์การขับขี่ในชีวิตประจำวันให้กับลูกค้าทุกคน § ข้อมูลสรุปเกี่ยวกับ MAZDA ICONIC SP ・ มาสด้าสร้าง “เฟรมเวิร์ค” ซึ่งเป็นพื้นฐานของการสร้างแบบจำลองให้ได้สัดส่วนที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อให้รถรุ่นนี้มีสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม โดยแนวคิดในการติดตั้งเครื่องยนต์โรตารีที่มีน้ำหนักเบาและมีขนาดกะทัดรัดไว้ตรงกลางตัวรถนั้นช่วยส่งผลให้ได้ฝากระโปรงหน้าต่ำลง ・ เครื่องยนต์โรตารีแบบ 2 โรเตอร์ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า (Two-rotor Rotary EV System) เป็นเครื่องยนต์โรตารีประสิทธิภาพสูงแบบ Scalable สามารถเผาไหม้เชื้อเพลิงได้หลากหลายประเภท เช่น ไฮโดรเจน…
MG เปิดโรงงานแบตเตอรี่
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ประกาศเปิดโรงงานแบตเตอรี่อีวีแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนบนพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ด้วยกำลังการผลิตกว่า 50,000 ก้อนต่อปี พร้อมเข้าสู่บทบาทการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอีวีแห่งภูมิภาคอาเซียน บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ได้เปิดโรงงานแบตเตอรี่อีวีแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ HASCO-CP BATTERY SHOP ในภูมิภาคอาเซียนบนพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 75 ไร่ หลังทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ ส่วนการประกอบแบตเตอรี่ ประกอบด้วยสายการผลิตอัตโนมัติที่ทันสมัยอย่างการนำหุ่นยนต์ (Robotic) เข้ามาช่วยในการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐานที่แม่นยำ การเชื่อมโดยเลเซอร์ (Laser Welding) เพื่อให้ได้คุณภาพของการเชื่อมที่ดี การตรวจสอบด้วย CCD (Charge Coupled Device) เพื่อความแม่นยำในการตรวจสอบเทียบกับต้นแบบในทุกขั้นตอนก่อนนำไปใส่ในตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และส่วนการทดสอบมาตรฐานของแบตเตอรี่ กว่า 60 ขั้นตอน อาทิ การตรวจสอบค่าการเก็บการคายประจุ (Charge & Discharge) การตรวจสอบน้ำรั่วซึมเข้าสู่แบตเตอรี่ (Air Leak test) ทดสอบความเป็นฉนวน(Insulation Test) ทดสอบการควบคุมพลังงาน (Static Test) เป็นต้น โดยในสายการผลิตแห่งนี้สามารถประกอบแบตเตอรี่ Cell-To-Pack ได้สูงสุดมากกว่า 50,000 ก้อนต่อปี ซึ่งแบตเตอรี่ที่ประกอบในประเทศไทยจะเป็นมาตรฐานเดียวกับสายการผลิตระดับโลก สำหรับแบตเตอรี่ที่ออกจากสายการผลิตนี้จะถูกนำไปติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MG4 ELECTRIC เป็นรุ่นแรก รวมถึงรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมของสายการผลิตเพื่อเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2567” นายจ้าว เฟิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เปิดเผยว่า “โรงงานแบตเตอรี่อีวี เป็นหนึ่งในแผนการพัฒนาพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2)…
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ราคาจำหน่าย รุ่น e:HEV E 1,529,000 บาท รุ่น e:HEV EL ราคา 1,669,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคา 1,799,000 บาท เมื่อจองและรับรถภายใน 31 ธ.ค. 2566 รับ “Honda Exclusive Care” ประกอบด้วย ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง อีกทั้งฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กม. และฟรี Honda Ultimate Care ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กม.สู่คำตอบของทุกสิ่งของยนตรกรรมระดับพรีเมียม ด้วยดีไซน์ที่สปอร์ตหรูหราทั้งภายนอกและภายใน ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตรประหยัดน้ำมันสูงถึง 25 กม./ลิตร มั่นใจยิ่งขึ้นในทุกเส้นทางด้วย เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย พร้อมหลากหลายเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานอันล้ำสมัย อาทิ Google built-in ปุ่ม Experience Selection Dial ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทางฯลฯ เสริมความแข็งแกร่งไลน์อัป e:HEV ขึ้นอีกขั้น มอบทางเลือกยนตรกรรม e:HEV ที่ครอบคลุมเซกเมนต์หลัก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่หลากหลาย ตอกย้ำบทบาทผู้นำกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ในประเทศไทย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศราคา “ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่” อย่างเป็นทางการ โดยราคารุ่น e:HEV E ราคา 1,529,000 บาท รุ่น e:HEV EL ราคา 1,669,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคา 1,799,000 บาท ยกระดับไลน์อัป e:HEV ของฮอนด้าให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าตอกย้ำบทบาทผู้นำกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ในประเทศไทย ผสานการนำเสนอคุณค่าเพื่อให้เป็นรถที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดย ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตสะท้อนความหรูหราทั้งภายนอกและภายใน สมรรถนะการขับขี่ทรงพลังด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ในทุกรุ่นย่อย มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย นอกจากนี้ยังมาพร้อมหลากหลายเทคโนโลยีอันล้ำสมัย* เพื่อความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง อาทิ Google built-in ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้อย่างง่ายดาย ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง…
ทีมเยาวชนจากสุราษฎร์ฯ บุกสร้างชื่อถึงญี่ปุ่น แท็กทีมคว้าอันดับ 2 และ 3
ศึกแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิงครั้งที่ 42 ระดับนานาชาติ สองทีมเยาวชนไทยจากวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี เจ้าของแชมป์ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิงของไทยครั้งล่าสุด สร้างผลงานยอดเยี่ยมกระหึ่มแดนปลาดิบ ในการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิงระดับนานาชาติที่ประเทศญี่ปุ่น รายการ “Soichiro Honda Cup 2023 Honda Eco Mileage Challenge 42nd National Competition” โดยทีมตาปีคว้าอันดับที่ 2 ด้วยสถิติ 1,472.896 กิโลเมตร/ลิตร และทีมศรีวิชัยประกาศศักดาคว้าอันดับที่ 3 ด้วยสถิติ 1,298.696 กิโลเมตร/ลิตร ในประเภท New Challenge เครื่องยนต์ตั้งแต่ 51 – 150 ซีซี ทั้งนี้ ไทยฮอนด้ามุ่งสนับสนุนเยาวชนไทยสู่การเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศ โดยการส่งเสริมการพัฒนาความสามารถด้านทักษะวิศวกรรมยานยนต์ ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกรักษ์พลังงาน ผ่านการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิงทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hondaeconothai.com ติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมจากรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ที่ Facebook : fb.com/hondamotorcyclethailand IG : www.instagram.com/hondamotorcyclethailand Tiktok: www.tiktok.com/@hondamotorcycletha Youtube: www.youtube.com/HondaMotorcycleTHA #ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง #HondaEcono #HondaEcoMileageChallenge #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycleThailand #WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด#ไทยฮอนด้า #ThaiHonda
อีซูซุ “ยิ้มรับกลับศูนย์”…ให้เราดูแลรถคันโปรดของคุณอย่างดี! เช่นเคย
กลุ่มตรีเพชรโดย คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เชิญชวน ผู้ใช้รถปิกอัพ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์อีซูซุทุกรุ่น และรถบรรทุกอีซูซุขนาด 2 ตันขึ้นไป เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุกับแคมเพจ์นสุดพิเศษ “ยิ้มรับกลับศูนย์” ตั้งแต่วันที่ 1กันยายน 2566 – 30 ธันวาคม 2566โดยมีรายละเอียดดังนี้ 7 ลิตร สำหรับรถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์มูลค่า 1,480 บาท (รวมค่าแรงและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ! ตรวจเช็กสภาพ รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ 8 ระบบสำคัญ (ครอบคลุม 30 รายการ) และรถบรรทุก 50 รายการ ส่วนลดอะไหล่แท้ตรีเพชร 15% สำหรับรถปิกอัพ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ และรถบรรทุก ส่วนลดซื้อรถใหม่ สำหรับรถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ใหม่สำหรับลูกค้าเก่าอีซูซุและครอบครัวสูงสุด 18,000 บาท ส่วนลดแบตเตอรี่ Power Max, 3K, GS, Yuasa ลูกละ 300 บาท ส่วนลดยางรถยนต์บริดจสโตนสูงสุด 2,400 บาท (600 บาท ต่อเส้น สูงสุด 4 เส้น) สำหรับรถปิกอัพ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ และรถบรรทุกเฉพาะรุ่น NLR Dueler, Duravis R624 ลดเส้นละ 600 บาท Duravis, Leo ลดเส้นละ 500 บาท ฟรี! ประกัน บาด บวม แตก สำหรับรถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ผ่อน 0% นานสูงสุด 9 เดือน สำหรับธนาคารที่ร่วมรายการ สามารถเข้ารับบริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 – 30 ธันวาคม 2566 สอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุทั่วประเทศ หรือ สายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0-2118-0777 และติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai
เปิดฉากดวลกันสนั่นเมือง
หลังจากเปิดฉาก IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023 ไปแล้วนั้น เป็นที่ฮือฮาวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย อย่าง YK MOTORSPORTS BBR BY SUNOCO ซิวแชมป์ 200 นาที และ TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND ผงาด 400 นาที ศึก IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023 ดวลเดือดนัดเปิดฤดูกาลท่ามกลางทัพรถแข่ง 48 คันที่เข้าร่วมชิงชัยแน่นแทร็กช้างฯ ผล YK MOTORSPORTS BBR BY SUNOCO พลิกเกมช่วงท้ายการแข่งขันคว้าชัย SUPER ENDURANCE 200 MINUTES ขณะที่ TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND ระเบิดฟอร์ม ซิวแชมป์ SUPER ENDURANCE 400 MINUTES การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรูปแบบมาราธอน รายการ IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023 ดวลความอึดนัดเปิดฤดูกาลระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน ที่ผ่านมา ณ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กำนดชิงชัยทั้งสิ้น 2 เรซ โดยในวันเสาร์ที่ 2 กันยายน เป็นเกม SUPER ENDURANCE 200 MINUTES ขณะที่ SUPER ENDURANCE 400 MINUTES แข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน …
TOYOTA FORTUNER “Signature of Excellence”
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ประเภท PPV เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปี พ.ศ.2555 ในนาม FORTUNER ภายใต้โครงการ IMV:International Innovative Multi-purpose Vehicle ประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยดีไซน์อันโดดเด่น ล้ำสมัยเหนือกาลเวลา พร้อมสมรรถนะ การขับเคลื่อน ความทนทาน ดูแลรักษาง่าย ทรงคุณค่าด้วยราคาขายต่อดีเยี่ยม ยืนหนึ่งในฐานะผู้นำตลาดอันดับ 1 อย่างแท้จริง ด้วยยอดขายสะสมที่มากถึง 291,450 คัน ในปัจจุบัน ตอกย้ำความความเหนือระดับแห่งผู้นำเหนือกาลเวลาด้วยรุ่นปรับปรุงใหม่ พร้อมกันทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ “GR-Sport” “LEGENDER” และ “LEADER”และเปิดตัวพรีเซ็นท์เตอร์คนใหม่ “อเล็กซ์ เรนเดลล์” CEO Environment Education center (EEC) ผู้นำการรณรงค์เรื่องรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้จริงของ FORTUNER ที่พร้อมจะไปด้วยกันทุกที่ ไม่ว่าการใช้งานในเมือง หรือลุยออกทำกิจกรรมต่างๆ เสริมภาพลักษณ์ผู้นำที่โดดเด่นของผู้ครอบครอง FORTUNER อย่างแท้จริง “GR-Sport” เสริมภาพลักษณ์อันโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ทรงพลัง สนุกสนานกับสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์แรงสุด 224 แรงม้า และช่วงล่างสปอร์ต เพื่ออรรถรสในการขับขี่ที่เหนือระดับในทุกเส้นทาง ศักดิ์ศรีผู้นำอย่างแท้จริง เติมความพิเศษเหนือระดับ 1. เพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ ให้กำลัง 224 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 20 แรงม้า) แรงบิด 550 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) 2. สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Autoแบบไร้สาย 3. มั่นใจทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยเตือนลมยาง 4. ขับเคลื่อนเต็มกำลังด้วยช่วงล่าง Monotubeช่วยซับแรงสั่นสะเทือนเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ 5. ปลอดภัยทุกเส้นทางด้วย Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยก่อนการชน –ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับรถความเร็วอัตโนมัติ 6. พิเศษยิ่งกว่าด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง GR-Sport เช่น Smart Key – Push start GR – คันเร่งและเบรกอะลูมิเนียมแบบสปอร์ต – เบรกพร้อมคาลิปเปอร์สีแดง “LEGENDER” รุ่นยอดนิยม ด้วยภาพลักษณ์อันหรูหราแบบผู้นำ พร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์และระบบความปลอดภัยไฮเทค ครบครัน เติมความพิเศษเหนือระดับ 1. สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย 2. มั่นใจทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยเดือนลมยาง 3. ขับเคลื่อนเต็มพลังด้วยเครื่องยนต์ 2.4 และ 2.8 GD Super Power. มีให้เลือกทั้งแบบ ขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ Sigma 4 system 4. ขับเคลื่อนเหนือระดับด้วยช่วงล่างปรับจูนพิเศษเฉพาะรุ่น LEGENDER เพิ่มความนุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือนดีเยี่ยม 5. ปลอดภัยเหนือระดับด้วย Toyota Safety sense ระบบความปลอดภัยก่อนการชน – ระบบเตือนเมื่ออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับรถความเร็วอัตโนมัติ “LEADER” สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ราคาเหมาะสม พร้อมดีไซน์พรีเมียม สวยสะดุดตา อมตะเหนือกาลเวลา และความคุ้มค่าด้วยระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน…
