เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชวนคนไทยทำความรู้จัก ORA แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันชาญฉลาดและล้ำสมัยเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสู่โลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เตรียมประกาศความพร้อมให้คนไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โดยสื่อมวลชนจะได้สัมผัสในวันที่ 18 ตุลาคม 2564 และเผยแพร่ในวันที่ 20ตุลาคม 2564 ดังนั้น เตรียมพบกับ แบรนด์ ORA ที่ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2561 นับเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (Battery Electric Vehicle : BEV) แบรนด์แรกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ ORA ได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากทีมงานนักวิจัย นักพัฒนา และนักออกแบบคุณภาพและเปี่ยมไปด้วยความเชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งเยอรมนีออสเตรีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ชื่อแบรนด์ ORA (อ่าน โอร่า) มาจากการออกเสียงคล้ายเสียง Euler ซึ่งเป็นนามสกุลของ Leonhard Euler นักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์ชื่อดังของโลกที่เปี่ยมไปด้วยความอัจฉริยะและมีผลงานที่ช่วยต่อยอดสู่นวัตกรรมต่างๆ มากที่สุดคนหนึ่งในโลก สะท้อนถึงรถยนต์จากแบรนด์ ORA ที่เป็นยานยนต์พลังงานใหม่ ที่เปี่ยมไปด้วยความ ล้ำสมัยและเทคโนโลยีอันชาญฉลาด ส่วนโลโก้ของ ORA ได้ถูกออกแบบเป็นวงกลมซ้อนอยู่ในวงรี มีที่มาจากเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!)แสดงถึงความมุ่งมั่นของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อันน่าทึ่ง ที่พร้อมจะสร้างความแปลกใหม่ ตื่นตาตื่นใจ ให้ทุกคนได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโลกของยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต และพบกับความตื่นเต้นที่ไม่รู้จบไปด้วยกัน รูปลักษณ์ที่เข้าถึงง่ายผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างลงตัว สร้างเอกลักษณ์ให้โดดเด่นกว่าที่เคย แบรนด์ ORA จัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้า New Category ที่สร้างความแตกต่างจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง ด้วยรูปลักษณ์และการดีไซน์แบบไลฟ์สไตล์ทำให้เข้าถึงได้ง่าย ดึงดูดความสนใจด้วยความเป็น แฟชั่นนิสต้า ผสานกับเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะอย่างลงตัว โดนใจผู้ขับขี่โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ พร้อมจุดยืนในการสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่สามารถส่งมอบการขับขี่ที่สนุกสนานในทุกๆ เส้นทาง ORA พลิกโฉมใหม่ให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน หลังจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประกาศเปิดตัวแบรนด์ ORA ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2561 ORA ได้รุกตลาดจีนด้วยการเปิดตัว ORA Black Cat ในปลายปีเดียวกัน ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากตลาดรถยนต์เป็นอย่างดีในด้านดีไซน์ที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับคุณภาพของรถยนต์ที่มีความเสถียรและให้การขับขี่เป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ORA Black Cat สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างหลากหลายและสามารถวิ่งได้ถึง 405 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ ส่งผลให้ ORA Black Cat กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกรุ่นหนึ่ง ในประเทศจีน และสามารถกวาดยอดขายรวมเกินกว่า 100,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ต่อมาในช่วงกลางปี พ.ศ. 2563 แบรนด์ ORA ได้เพิ่มความหลากหลายให้กับไลน์ผลิตภัณฑ์ด้วยการเปิดตัว ORA White Cat รถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตู ซึ่งโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่เน้นการออกแบบให้มีความล้ำสมัยมากขึ้น แข็งแกร่งด้วยโครงสร้างเหล็กแบบ High Tensile Steel และขับเคลื่อนได้มากกว่า 400 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ นั่งสบายด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่มีความปลอดภัยสูง และเป็นรถยนต์อัจฉริยะ (Smart Car) ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบ Smart Home ได้เป็นอย่างดี
Author: GIANT Autosawasdee
ฟอร์ด ห่วงใยลูกค้าประสบภัยน้ำท่วม
ฟอร์ด ประเทศไทย ส่งแคมเปญบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าฟอร์ดที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วยการมอบส่วนลดอะไหล่ น้ำมันเครื่องและค่าแรง 30% พร้อมตรวจเช็คสภาพรถยนต์ทั่วไปฟรี 30 รายการให้กับลูกค้าฟอร์ดที่ประสบภัยน้ำท่วมตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่ศูนย์บริการฟอร์ด ทั่วประเทศ คุณสันติ จิตพิชิตชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า “การดูแลลูกค้าเป็นสิ่งที่ฟอร์ดให้ความสำคัญสูงสุดมาโดยตลอด จากเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ฟอร์ดขอส่งความห่วงใยไปยังผู้ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่ ซึ่งเราหวังว่ามาตรการความช่วยเหลือจากฟอร์ดในครั้งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกค้าฟอร์ดได้อีกทางหนึ่ง” สำหรับรถยนต์ฟอร์ดที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม สามารถเข้ารับบริการเช็คสภาพทั่วไปฟรี 30 รายการ อาทิเครื่องยนต์ เบรก ช่วงล่าง ระบบส่งกำลัง ระบบไฟฟ้าและตัวถัง พร้อมรับส่วนลดค่าอะไหล่ น้ำมันหล่อลื่น และ ส่วนลดค่าแรง30% โดยสิทธิประโยชน์นี้จะไม่ครอบคลุมรายการความเสียหายที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของบริษัทประกันภัย ส่วนลดค่าอะไหล่ ไม่ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ยาง เบรก และ แบตเตอรี่ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ โดยลูกค้าสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์www.ford.co.th
FORD สร้างอาชีพสู้โควิดแบบเร่งด่วน
ฟอร์ด ประเทศไทย ร่วมมือกับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (Population and Community Development Association หรือ PDA) สานต่อโครงการฝึกอบรมอาชีพสร้างอาชีพสู้โควิด-19 แบบเร่งด่วนในโครงการ ฟอร์ดฟื้นฟูชีวิต(Regenerating Life) เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ในอาชีพเกษตรควบคู่ไปกับการเสริมทักษะทักษาด้านดิจิทัล เพื่อนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้เพื่อการขายสินค้าในโลกออนไลน์ ให้แก่ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 250 ครัวเรือนใน 11 จังหวัด ทั่วประเทศ คุณกมลชนก ประเสริฐสม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทยและตลาดอาเซียน กล่าวว่า “ฟอร์ดตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดกับชุมชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เราจึงได้ร่วมมือกับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนจัดทำโครงการ ‘ฟอร์ดฟื้นฟูชีวิต’ ขึ้นเป็นปีที่ 2 เพราะเราเล็งเห็นว่าการมอบองค์ความรู้ให้แก่ชุมชนจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตในระยะยาวให้แก่ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสูญเสียรายได้ในช่วงโควิด-19 ได้ โดยจะเน้นหลักสูตรที่เรียนรู้ง่ายเพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมนำความรู้ที่ได้มาสร้างโอกาสในการหารายได้ให้กับครอบครัวได้ทันที โดยมีทีมงานและวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ในชุมชนมาร่วมถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์จริง” ในการฝึกอบรมกลุ่มแรกที่ศูนย์มีชัย จังหวัดขอนแก่น ผู้เข้าอบรมอาชีพเกษตรแบบเร่งด่วนได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะดิจิทัลผ่านการฝึกอบรมในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีเพื่อการขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งจะนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง โดยมีวิทยากรซึ่งเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ‘บ้านสวนเบญจมงคลมินิฟาร์ม’ มาร่วมถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์จากการทำเกษตรพอเพียงและการทำธุรกิจในช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ ผู้เข้าอบรมอาชีพเกษตรยังได้รับการฝึกอบรมผ่านการปฏิบัติจริงใน 4 ฐานการเรียนรู้ ประกอบด้วย การเตรียมดินและการเพาะปลูกผักและพันธุ์กล้าไม้ การเพาะเห็ดและการดูแลรักษา การเพาะถั่วงอก รวมถึงการเพาะทานตะวันงอก เมื่อจบการฝึกอบรม ผู้ที่เข้าร่วมจะได้รับอุปกรณ์และเครื่องมือในการประกอบอาชีพเบื้องต้น ได้แก่ ชุดเพาะเห็ดนางฟ้า ชุดเพาะถั่วงอกและชุดเพาะทานตะวันงอก กล้าพืชผักสวนครัว และชุดป้องกันโควิด-19 เพื่อนำไปใช้จุนเจือการบริโภคในครัวเรือนหรือสร้างรายได้ด้วยตัวเองได้ทันที ฟอร์ดมุ่งมั่นที่จะดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วประเทศไทยในหลากหลายมิติโดยในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ฟอร์ด ประเทศไทย ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมในหลากหลายกิจกรรม สำหรับโครงการ ‘ฟอร์ดฟื้นฟูชีวิต’ ฟอร์ด ประเทศไทย ได้สนับสนุนงบประมาณราว 930,000 บาทในการจัดอบรมเพื่อมอบองค์ความรู้ในด้านการสร้างอาชีพเกษตรแบบเร่งด่วน เพื่อช่วยให้ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้มีช่องทางในการหารายได้ ซึ่งมีเป้าหมายฝึกอบรมให้ชาวบ้านกว่า 250 ครอบครัว ภายในปีนี้
นิสสันร่วมมือกับมหาวิทยาลัย วาเซดะ
ณ ประเทศญี่ปุ่น นิสสัน พัฒนากระบวนการรีไซเคิลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า กระบวนการรีไซเคิลธาตุโลหะหายากจากมอเตอร์แม่เหล็กของรถยนต์ไฟฟ้านี้จะนำมาใช้ได้จริงภายในปี 2568 ร่วมก้าวสู่เป้าหมายลดคาร์บอนเป็นศูนย์ของนิสสัน นิสสัน มอเตอร์ ประกาศความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยวาเซดะ ประเทศญี่ปุ่น ในการพัฒนากระบวนการรีไซเคิลธาตุโลหะหายากที่มีความบริสุทธิ์สูงจากแม่เหล็กที่ใช้ในมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายการนำมาใช้จริงภายในปี 2568 ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้ส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและก้าวสู่เป้าหมายสังคมที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ มอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้แม่เหล็กนีโอไดเมียม(Neodymium Magnet) ซึ่งประกอบด้วยธาตุโลหะหายาก เช่น นีโอไดเมียม (Neodymium) และดิสโพรเซียม (Dysprosium) การลดการใช้ธาตุโลหะหายากจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่เพียงเพราะผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการขุดและการกลั่น แต่ยังสร้างสมดุลทางอุปสงค์และอุปทานที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ราคาสินค้าเกิดความผันผวนกระทบต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค เพื่อใช้ทรัพยากรอันมีค่าที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด นิสสันได้ดำเนินการลดปริมาณการใช้ธาตุโลหะหนักหายาก (Rare-Earth Elements – REE) ในมอเตอร์แม่เหล็กตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบมาตั้งแต่ปี 2553 นอกจากนี้นิสสันยังรีไซเคิล REE ด้วยการนำแม่เหล็กออกจากมอเตอร์ที่ไม่ผ่านมาตรฐานการผลิตและส่งคืนให้กับซัพพลายเออร์ ปัจจุบันกระบวนการดังกล่าวมีความซับซ้อนและหลายขั้นตอน รวมถึงการแยกส่วนและถอดคัดออก ดังนั้น การพัฒนากระบวนการที่ง่ายกว่าและประหยัดกว่าจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เกิดการรีไซเคิลเพิ่มขึ้นในอนาคต
SUZUKI DEAL D DAY มาแล้ว
ซูซูกิ ปลดล็อกทุกเงื่อนไข ออกรถวันนี้ ผ่อนปีหน้า (ขับฟรี 90 วัน) ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ1,999 บาท เลือกรับดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 72 เดือน หรือ ดาวน์ 0% ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมบัตรเติมน้ำมันฟรี 3,000 บาท มร.มิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ไปจนถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอการเติบโตอย่างรุนแรง จนนำมาถึงการปรับตัวไปสู่การดำเนินวิถีชีวิตแบบใหม่ ธุรกิจต่างๆก็ต้องปรับตัวเพื่อรองรับกับเปลี่ยนแปลงจากวิกฤติที่เกิดขึ้นในส่วนของซูซูกิก็มีการปรับแผนด้านงานขายเพื่อพัฒนาและยกระดับพนักงานให้เข้าถึงช่องทางออนไลน์ปรับพฤติกรรมการขายและการดูแลให้เข้ากับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคให้มีความแม่นยำ และโดนใจมากยิ่งขึ้น ด้านงานบริการก็มีแนวทางการพัฒนาไปร่วมกับทางผู้จำหน่ายมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งหวังที่จะสร้างคุณค่าให้แก่งานบริการเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ล่าสุดเตรียมที่จะขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายใต้แนวคิด “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” แต่อย่างไรก็ตาม จากทิศทางของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลง และตัวเลขการได้รับวัคซีนของประชนมีตัวเลขที่สูงขึ้น ส่งผลให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเริ่มมีการขยับตัวกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง น่าจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ส่วนของตลาดรถยนต์ก็น่าจะเริ่มกลับมาแข่งขันกันอย่างร้อนแรงมากขึ้น นอกจากการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การแข่งขันในช่วงท้ายของปี ทั้งงานด้านบริการ และการแนะนำ SUZUKI SWIFT GL PLUS รุ่นตกแต่งพิเศษ มาภายใต้แนวคิด “เร้าใจเต็มสปีด สุดขีดสไตล์พลัส” มุ่งหวังที่จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นแล้วนั้น ซูซูกิ เตรียมจัดกิจกรรมพิเศษในไตรมาสที่ 4 SUZUKI DEAL D DAY เพื่อสร้างความสำเร็จการเข้าสู่ยอดขายจำนวน 200,000 คัน ของรถอีโคคาร์ซูซูกิทุกรุ่นในประเทศไทย นับตั้งแต่การเข้ามาดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2555 อีกด้วย คุณวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง กับการที่ลูกค้าคนไทยให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในแบรนด์ ซูซูกิ จนสามารถสร้างยอดขายรถอีโคคาร์ได้กว่า 196,266 คันในประเทศไทยตั้งแต่เริ่มการผลิตในปี 2555 เป็นต้นมา จึงจัดกิจกรรมเพื่อผลักดันยอดขายให้บรรลุ 200,000 คัน ที่จะตอบแทนและนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ทั้งด้านการบริหารงานอย่างครบวงจร เพื่อบริการลูกค้าและเจาะตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเข้าถึงมากยิ่งขึ้น สำหรับแคมเปญพิเศษ “SUZUKI DEAL D DAY ปลดล็อกทุกเงื่อนไข ออกรถวันนี้ ผ่อนปีหน้า” จะจัดขึ้นเพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจของผู้บริโภคที่มอบให้แก่ซูซูกิ และมีความต้องการอยากเป็นเจ้าของรถยนต์สักหนึ่งคันสามารถเข้าถึงและตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วย” แคมเปญ “SUZUKI DEAL D DAY ปลดล็อกทุกเงื่อนไข ออกรถวันนี้ ผ่อนปีหน้า” จะมอบให้สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ซูซูกิทุกท่าน ● รับเงื่อนไขพิเศษทันที ขับฟรี 90 วัน! ออกรถวันนี้ ผ่อนปีหน้า ● พร้อมรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท เพิ่มจากส่วนลดแคมเปญพิเศษจากผู้จำหน่าย (เฉพาะรุ่นที่กำหนด) ● ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท (เฉพาะรุ่นที่กำหนด) ● ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานถึง 72 เดือน (เฉพาะรุ่นที่กำหนด) ● อีโคคาร์ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,999 บาท ● ฟรี ประกันภัยชั้น 1 ซึ่งสิทธิพิเศษดังกล่าว จะมอบให้เฉพาะลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 โดยข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ต้องเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ ช่องทางการติดต่อ www.suzuki.co.th www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand SUZUKI Cause We Care: 1800-600-900
มิตซูบิชิ เปิดโชว์รูมแห่งใหม่
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด สร้างความแข็งแกร่งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งมั่นขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อมอบประสบการณ์และการบริการที่ดีที่สุดในระดับพรีเมียมให้แก่ลูกค้าด้วยเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยได้ร่วมมือกับ บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด เปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ที่ย่านลาดกระบัง-กิ่งแก้ว กรุงเทพมหานคร ภายใต้ชื่อ บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด (สาขาลาดกระบัง-กิ่งแก้ว) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการบริการให้แก่ลูกค้าที่พักอาศัยอยู่ในย่านลาดกระบังและกิ่งแก้ว รวมทั้งพื้นที่ในเขตใกล้เคียงพร้อมมุ่งมั่นในการส่งมอบยานยนต์คุณภาพและการบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด ถือเป็นหนึ่งในเครือข่ายผู้จำหน่ายที่เติบโตเร็วที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์สประเทศไทย โดยปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 4 สาขา ที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ สาขาปากเกร็ด สาขารัชดา สาขาปทุมธานี และล่าสุดสาขาลาดกระบัง-กิ่งแก้ว มร.เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ที่ย่านลาดกระบัง-กิ่งแก้ว เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมให้แก่ลูกค้าตลอดระยะเวลาของการเป็นเจ้าของรถยนต์ มิตซูบิชิ ด้วยทำเลที่ตั้งที่ยอดเยี่ยมและครบครันด้วยอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย โดยโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ ยังมีบทบาทที่สำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมพร้อมสร้างความแตกต่างให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้เราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการให้บริการของเราต่อไป เพื่อส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” นอกจากการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีมีคุณภาพแล้ว โชว์รูมและศูนย์บริการ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ ยังได้คำนึงถึงสุขอนามัยและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ได้แก่ การตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้าศูนย์บริการ พนักงานที่ใกล้ชิดลูกค้าจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หมั่นเช็ดทำความสะอาดภายในโชว์รูมและศูนย์บริการโดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง ตลอดจนการทำความสะอาดภายในห้องโดยสารก่อนส่งมอบหลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกท่านจะมีความปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีเมื่อมาใช้บริการที่โชว์รูมและศูนย์บริการมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด (สาขาลาดกระบัง–กิ่งแก้ว) ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 3 ไร่ โดยเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจรที่เพียบพร้อมด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย ดำเนินงานโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและฝ่ายบริการหลังการขายที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญ พร้อมมุ่งมั่นในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า โดยภายในโชว์รูมแห่งใหม่นี้สามารถจัดแสดงรถยนต์ มิตซูบิชิ รุ่นต่างๆ ได้มากถึง 5 คัน มีพื้นที่สำหรับให้บริการซ่อมบำรุงพร้อมอุปกรณ์ที่ครบครันมากถึง 10 ช่องซ่อม และยังสามารถให้บริการซ่อมสีและตัวถังแก่ลูกค้าได้อีกด้วย โชว์รูมแห่งใหม่นี้ยังมีพนักงานที่พร้อมให้บริการลูกค้าในด้านต่างๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 45 ท่าน ที่ได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานและพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าเพื่อมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่มุ่งมั่นยกระดับการให้บริการเพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า พร้อมความสะดวกสบายในการให้บริการแบบ ‘วันสต็อปเซอร์วิส’ และเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ทาง บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด (สาขาลาดกระบัง–กิ่งแก้ว) ยังได้ร่วมฉลองโอกาสสำคัญนี้ พร้อมขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเลือกซื้อและใช้รถยนต์ มิตซูบิชิ ด้วยแคมเปญ “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย ฉลอง 60 ปี แจก 60 ล้าน” มอบรางวัลใหญ่ ทองคำแท่งหนัก 60 บาทมูลค่า 1,638,000 บาท จำนวน 6 รางวัล พร้อมของรางวัลอื่นๆ อาทิ ทองคำแท่งหนัก 6 บาท จำนวน 60 รางวัล ทีวีSAMSUNG รุ่น QLED Smart 4K 65 นิ้ว จำนวน 400 รางวัล และ โทรศัพท์มือถือ iPhone 12 64GB จำนวน 800 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 60 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นใดก็ได้ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564 บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด (สาขาลาดกระบัง–กิ่งแก้ว) ยังเป็นหนึ่งในโชว์รูมและศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่พร้อมจำหน่าย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และให้บริการแก่ลูกค้า รวมทั้งยังติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ และเครื่องชาร์จกระแสไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวก ทั้งนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ถือเป็นรถพีเอชอีวีที่ขายดีที่สุดในโลก ที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงการเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกเท่านั้น แต่ยังสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม พร้อมความสะดวกสบาย และสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้าอีกด้วยมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ตอกย้ำการเป็นผู้นำรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดอีกครั้งด้วยยอดจำหน่ายสูงที่สุดในยุโรป พร้อมยอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกกว่า 290,000 คัน เมื่อสิ้นสุดเดือนสิงหาคมปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด (สาขาลาดกระบัง–กิ่งแก้ว) พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่านแล้วด้วยบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม โดยภายในโชว์รูมและศูนย์บริการยังตกแต่งด้วยดีไซน์ใหม่มาตรฐานเดียวกันทั่วโลกของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อให้สอดคล้องกับ อัตลักษณ์และกลยุทธ์แบรนด์ระดับโลก ‘Drive your Ambition’ บริษัท เอเบิล มอเตอร์ส จำกัด (สาขาลาดกระบัง–กิ่งแก้ว) ตั้งอยู่ที่เลขที่ 888 หมู่ 14 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลีจังหวัดสมุทรปราการ 10540 โทร. 0-2738-5448
เรนาสโซ มอเตอร์ มอบอาหารกล่อง “ปันสุข ปันอิ่ม”
บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย ตอกย้ำเจตนารมณ์ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ผุดโปรเจค “ปันสุข ปันอิ่ม” เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ตลอดจนบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ติดเชื้อที่กักตัวในชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยส่งมอบอาหารกล่องที่ปรุงสดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วรวม 1,500 กล่อง ตลอดเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาทิ ชุมชนสามัคคีร่วมใจ บางเขน, โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, ชุมชนชายคลองเสนานิคม เขตจตุจักร, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตจตุจักร คุณอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปีที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งพลังสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ ในการรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ในรูปแบบต่างๆ อาทิ สนับสนุนเครื่องมือช่วยใส่ท่อหายใจชนิดวีดีทัศน์ และเครื่องควบคุมการให้สารละลายทางกระบอกฉีดยาอัตโนมัติ ให้แก่โรงพยาบาลราชวิถี รวมถึงจับมือกับลัมโบร์กินีคลับไทยแลนด์ในการมอบงบประมาณจำนวน 1,470,000 บาท พร้อมเจลเเอลกอฮอล์ และชุด PPE จำนวน 600 ชุด เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของมูลนิธิและโรงพยาบาล 7 แห่งในประเทศไทย เพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมแบบรอบด้าน โปรเจคมอบอาหารกล่อง “ปันสุข ปันอิ่ม” ในครั้งนี้ จึงมุ่งเน้นการช่วยเหลือสู่ระดับชุมชนเพื่อให้ผู้ติดเชื้อที่กักตัวเข้าถึงสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตได้อย่างสะดวก ทั้งยังช่วยสนับสนุนกิจการร้านอาหารขนาดเล็กให้ก้าวผ่านวิกฤตนี้อย่างเข้มแข็งไปด้วยกัน”
BMW แต่งตั้ง มร. มิคาเอล ไรเนอร์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงิน
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง มร. มิคาเอล ไรเนอร์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงินคนล่าสุด มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป โดย มร. ไรเนอร์ เข้ารับตำแหน่งต่อจาก มร. แบรน์ฮาร์ท เทอรีท ซึ่งย้ายไปรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงิน ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศเกาหลี มร.มิคาเอล ไรเนอร์ จะย้ายมาประจำตำแหน่งกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จากตำแหน่งเดิมในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงินของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มาเลเซีย โดยได้ร่วมงานกับบีเอ็มดับเบิลยู ครั้งแรกใน พ.ศ. 2543 จากนั้นได้ปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น อิตาลี เยอรมนี หรือมาเลเซีย ในปี พ.ศ. 2556 มร. ไรเนอร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและควบคุมการเงินของบีเอ็มดับเบิลยู Italia SpA จากนั้นได้ปฏิบัติงานในฐานะผู้อำนายการฝ่ายควบคุมไอทีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นเวลากว่าสี่ปี ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงินคนใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มร. มิคาเอล ไรเนอร์ จะรับผิดชอบการบริหารงานด้านการเงินในภาพรวมของทั้งสามบริษัทซึ่งรวมถึง บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด, บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, และบีเอ็มดับเบิลยูพาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ มร. มิคาเอล ไรเนอร์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงินคนใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา มร. ไรเนอร์ ได้แสดงผลงานและความเป็นผู้นำด้านการบริหารการเงินที่ยอดเยี่ยม และด้วยประสบการณ์การทำงานมากว่าหลายปีนี้ มร. ไรเนอร์ จะนำความเชี่ยวชาญมาสู่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่จะช่วยให้เราสามารถครองความเป็นผู้นำยานยนต์พรีเมียมของประเทศไทย พร้อมส่งเสริมบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตและพัฒนานวัตกรรมต่อไปได้พร้อม ๆ กัน ผมขอแสดงความขอบคุณต่อ มร. แบรน์ฮาร์ท เทอรีท ในความทุ่มเทต่อการบริหารงานตลอดระยะเวลาสามปี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในการขับเคลื่อนแนวทางการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าสูงสุดและเป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนาธุรกิจ ตลอดจนความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ของการเป็นผู้นำเซกเมนต์ในปี 2564 ในฐานะตัวแทนของบริษัทฯ ผมขอแสดงความยินดีกับ มร. เทอรีท ในการเข้ารับตำแหน่งกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศเกาหลี และเชื่อมั่นว่า มร. เทอรีท จะเป็นกำลังสำคัญที่นำทีมไปสู่ความสำเร็จได้ในอนาคต”
เชลล์ มอบเงิน 1,000,000 บาท สนับสนุนโครงการครัวหอการค้าไทย
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด นำโดย นายปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ (ที่ 2 จากซ้าย) ดร.ศรีรัชต์ธนะรัชต์ กรรมการบริหารฝ่ายรัฐกิจและองค์กรสัมพันธ์ (ที่ 1 จากซ้าย) มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท แก่ครัวหอการค้าไทยโดยมี นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (ที่ 2 จากขวา) และดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (ที่ 1 จากขวา) เป็นผู้รับมอบเพื่อสนับสนุนโครงการ “ครัวหอการค้าไทย และหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร – หอการค้าไทย” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจัดส่งอาหารปรุงสุกจากครัวชุมชนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ประจำหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร – หอการค้าไทย เชลล์ในฐานะพันธมิตรที่ไว้วางใจได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของคนในสังคม พร้อมอยู่เคียงข้างสังคมไทยในทุกสถานการณ์ ให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที โดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ได้โดยเร็ว
YAMAHA R7 เติมเต็ม “Racing Series”
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตอกย้ำบทบาทผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ เดินหน้าเสริมทัพด้วย YAMAHA YZF-R7 เติมเต็มไลน์อัพสปอร์ตไบค์ สานต่อความสำเร็จ Racing Seriesโดดเด่นด้วยรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยว ถ่ายทอด Racing DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายยามาฮ่าในพิกัดเครื่องยนต์ 700 ซีซี เปิดจองผ่านช่องทางออนไลน์ภายใต้ราคา 339,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า 50 ท่านแรก รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในตระกูล Racing Series หรือ R-Series ได้รับความนิยมจากลูกค้ายามาฮ่าทั่วโลก นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 ถ่ายทอดดีเอ็นเอสายพันธุ์สปอร์ตจากรถแข่ง YAMAHA YZR-M1 ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีบนเวที World GP รวมถึงในตลาดประเทศไทยซึ่งมาพร้อมการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค หลังจากที่ได้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย YZF-R1, YZF-R6, YZF-R3และ YZF-R15 ล่าสุด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พร้อมสานต่อความสำเร็จเติมเต็มไลน์อัพ R-Series ด้วย YAMAHA YZF-R7 โดย คุณพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ในปีที่ 66 ของยามาฮ่า เราภูมิใจที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในความสำเร็จจากคำมั่นสัญญาที่ยามาฮ่าให้ไว้ว่าจะต้องสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและสังคมตลอดเวลา ในวันนี้ YAMAHA YZF-R7 จะเข้ามาตอบโจทย์สำหรับผู้ที่คลั่งไคล้การขับขี่ในสนามแข่ง และผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่รถในระยะทางไกลๆ หลังจากที่กลางปีที่ผ่านมา เราได้นำเสนอรถรุ่นนี้ในทวีปอเมริกาและยุโรป ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีมาก ทำให้เราเชื่อว่าความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทยด้วยเช่นกัน” YAMAHA YZF-R7 เปิดจองผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://forms.gle/dVdQgzGyEfM11G3F6 พร้อมลุ้นรับสิทธิพิเศษดาวน์เพียง 7,900 บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับลูกค้า 200 ท่านแรก และพิเศษสุดสำหรับลูกค้า 50 ท่านแรกที่จองเข้ามาในระบบออนไลน์ จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม Yamaha Racing Practice หรือ BRIC trackday ฟรี จำนวน 4 ครั้ง บนแทร็คระดับโลกอย่าง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ -Yamaha Big…