มิตซูบิชิ อาร์เอ็มเอ สาขารามคำแหง 

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่ง และขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ มิตซูบิชิ อาร์เอ็มเอ สาขารามคำแหง พร้อมนำเสนอบริการด้านการขายและบริการหลังการขายแบบครบวงจร ด้วยโชว์รูม ศูนย์บริการ รวมถึงศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง ครบจบในที่เดียว ในทำเลที่โดดเด่นบนถนนรามคำแหง หนึ่งในทำเลสำคัญของกรุงเทพฯ  เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้นในพื้นที่ย่านรามคำแหง พระราม 9 และเพชรบุรี  มิตซูบิชิ อาร์เอ็มเอ สาขารามคำแหง นับเป็นโชว์รูมจำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์มิตซูบิชิ แห่งที่ 3ภายใต้การดำเนินการของบริษัท อาร์.เอ็ม.เอ. เทรดดิ้ง ที่ต่อเนื่องความสำเร็จจากโชว์รูมและศูนย์บริการ สาขาลุมพินี และสาขาพระราม 3  ช่วยเสริมสร้างและตอกย้ำความแข็งแกร่งให้แก่เครือข่ายผู้จำหน่ายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย พร้อมทั้งยกระดับประสิทธิภาพในการมอบรถยนต์และบริการเหนือระดับ รวมถึงการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าชาวไทยที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยบริการแบบครบวงจรทั้งบริการด้านการขายและหลังการขายภายใต้มาตรฐานสูงสุด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินการเพื่อสร้างความเติบโตทางธุรกิจในตลาดประเทศไทย มิตซูบิชิ อาร์เอ็มเอ สาขารามคำแหง ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 1 ไร่ ภายในโชว์รูมและศูนย์บริการประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงรถยนต์มิตซูบิชิ มากสูงสุด 5 คัน สำนักงานฝ่ายขาย และห้องส่งมอบรถใหม่ นอกจากนี้ ยังมีศูนย์บริการที่ประกอบด้วย พื้นที่ต้อนรับลูกค้า พร้อมด้วย 15 ช่องซ่อมบำรุง โดยการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของอาร์.เอ็ม.เอ. เทรดดิ้ง ในการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการแบบครบวงจร เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วยสถานที่ตั้งที่ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรถยนต์และบริการเหนือระดับได้สะดวกสบายและง่ายต่อการเดินทางมากยิ่งขึ้น โชว์รูมและศูนย์บริการ มิตซูบิชิ อาร์เอ็มเอ สาขารามคำแหง ตั้งอยู่ที่เลขที่ 555 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมากเขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-718-5060 หรือเข้าชมเว็บไซต์ https://mitsurma.com  

 
Read More

วินฟาสต์เปิดกลยุทธ์เจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย

วินฟาสต์เปิดกลยุทธ์เจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย พร้อมคว้าสองรางวัลเกียรติยศจากบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024การจัดแสดงทัพรถยนต์ และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัย เปี่ยมด้วยนวัตกรรม และการออกแบบสุดล้ำของวินฟาสต์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 ที่ผ่านมา นับเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเข้ามาชิงพื้นที่ตลาดรถไฟฟ้าเมืองไทย โดยอาศัยการผสมผสานประสบการณ์ในระดับโลกกับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดรถยนต์เอเชียมาสร้างแนวทางการตลาด และการขายที่มุ่งเน้นความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งจะสามารถสร้างความได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครให้กับวินฟาสต์ในการพิชิตตลาดไทยในระยะยาว ภายหลังจากประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และอินโดนีเซียมาแล้ว วินฟาสต์ได้กำหนดแนวทางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับประเทศไทย โดยเน้นการบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง   Ms. Vu Dang Yen Hang (ฮานา วู) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วินฟาสต์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ผลตอบรับและความสำเร็จจากการเปิดตัวแบรนด์วินฟาสต์อย่างเป็นทางการในประเทศไทยในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 พร้อมผลิตภัณฑ์ที่มาจัดแสดงอย่างครบไลน์ จะเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับเราในการสร้างการเติบโตในตลาดไทย แม้จะยังไม่เปิดให้จองอย่างเป็นทางการ ในงานนี้เรายังสามารถคว้าสองรางวัลอันทรงเกียรติมาได้ ซึ่งประกอบด้วย รางวัล “Best Concept Commercial EV” สำหรับรถกระบะไฟฟ้า VF Wild และรางวัล “Exhibit Design”  ทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งของวินฟาสต์ในการก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดประเทศไทย” ด้วยการให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า วินฟาสต์ได้นำเสียงตอบรับ และความต้องการของลูกค้ามาใช้เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว ทำให้ปรัชญาที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น กลยุทธ์สู่ความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยครองส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบ60% แต่คิดเป็นเพียง 0.5% ของยอดขายทั่วโลกในปี 2022 ตามข้อมูลของ Counterpoint Research ในขณะที่อาจมีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าบางรายเข้ามาสู่ตลาดเมืองไทยโดยมุ่งให้ความสำคัญกับผลกำไรจากการขายในระยะสั้นมากกว่าการพัฒนาการบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง  ซึ่งวินฟาสต์กลับมองสิ่งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการมุ่งเน้นไปที่นโยบายหลังการขายที่จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญในตลาด จากผลการสำรวจของ Ipsos.Digital ที่จัดทำในเดือนสิงหาคม 2023 ในกลุ่มคนไทยอายุ 18 – 60 ปี กว่า 300 คน พบว่าค่าบำรุงรักษาเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อความสนใจที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคชาวไทยต่อรถยนต์ไฟฟ้า ควบคู่ไปกับประเด็นการดูแลสิ่งแวดล้อม เครื่องยนต์ที่เงียบ และสมรรถนะ ผู้ตอบแบบสอบถาม 37% ให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถไฟฟ้าที่สมเหตุผล และสามารถจ่ายได้   นายนธี กองเกตุใหญ่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นทียูนิตี้ มอเตอร์ จำกัด หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายวินฟาสต์ ได้ชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าบางแบรนด์ที่เน้นทำยอดขาย แต่ละเลยการดูแลลูกค้าหลังการขาย “การเน้นแต่เรื่องการขยายตลาดของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าหลายราย โดยไม่คำนึงถึงนโยบายหลังการขาย…

 
Read More

MITSUBISHI สนใจศึกษายานยนต์ไฟฟ้า

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส”) และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (“MMTh”) ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และบริษัท อรุณพลัส จำกัด (“อรุณพลัส”) แกนนำธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของ ปตท. ร่วมกันศึกษาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า xEV ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งการผลิตในประเทศไทย การขายภายในประเทศ และการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ และความชำนาญของ ปตท.  ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมพลังงานของประเทศไทย รวมถึงแนวคิดในการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า กอปรกับการที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีแผนยุทธศาสตร์มุ่งส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จึงมองเห็นโอกาสที่จะริเริ่มความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท ซึ่งรวมไปถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า xEV และธุรกิจบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มร. ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ให้ความเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือดังกล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่สำคัญที่สุดสำหรับยุทธศาสตร์การดำเนินงานในต่างประเทศของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยกว่า 60 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการผลิตรถยนต์ การจำหน่ายในประเทศ และการส่งออก โดยหวังว่าความร่วมมือนี้จะผลิดอกออกผลเป็นความสำเร็จที่เราร่วมสร้างไปด้วยกัน เพื่อส่งเสริมประสบการณ์ที่ดี ด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรที่บริษัททั้งสี่นั้นมีพร้อมอยู่แล้ว ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และสอดคล้องกับนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน”…

 
Read More

โอโมด้า ซี5 อีวี 

ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าอย่าง โอโมด้า ซี5 อีวี เป็นนโยบายรัฐบาลไทยอยู่แล้ว ที่จะส่งเสริมให้มาประกอบในประเทศไทย รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นแรกที่เตรียมนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยรายนี้ เป็นรถยนต์แบบ ครอสโอเวอร์ แนวๆ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ผสมผสานการออกแบบแห่งอนาคต เข้ากับเทคโนโลยีสุดอัจฉริยะ สะท้อนตัวตนผู้ขับขี่ เป็น ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจการมีชีวิตที่ดีควบคู่กับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน พร้อมระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายอัจฉริยะแบบจัดเต็ม OMODA C5 EV มีอะไรเด่นบ้าง เริ่มต้นจาก ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในระยะเวลา 7.2 วินาที มีความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 61 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ระยะเวลาในการชาร์จกระแสตรง DC หรือที่เราเรียกกันว่าควิกชาร์จ จะทำการชาร์จจาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 28 นาที ….เฉพาะระยะทางขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว วิ่งได้ไกลสุด 505 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC  นอกเหนือไปจากนี้ระบบความปลอดภัย OMODA C5 EV มี 14 เทคโนโลยีความปลอดภัย 3 ฟังก์ชันระบบช่วยเหลือการขับและระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ อาทิ ระบบเตือนการออกนอกเลน ระบบป้องกันการออกนอกเลน ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบแจ้งเตือนการออกตัว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบรักษาตัวรถให้วิ่งอยู่กลางเลน ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำ  ภายในห้องโดยสารมีแอมเบียนไลท์ หรือ ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 เฉดสี สามารถตั้งอัตโนมัติหรือให้กระพริบตามจังหวะเมโลดี้ของเสียงเพลงก็ได้ หน้าจอแสดงผลขนาด 24.6นิ้วแบบทัชสกรีน เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมฟังก์ชันระบายอากาศ และปรับไฟฟ้า ลำโพง SONY 8 ตำแหน่ง ระบบเกียร์มีให้เลือกถึง 3 โหมด ที่นั่งหลังมีหมอนรองคอและแอร์แยกส่วน ความสุนทรีย์มัลติมีเดีย ฟังเพลงจากแอพเปิ้ลคาร์เพลย์ หรือเสียบสาย USB ก็ได้ สนใจเจ้า โอโมด้า ซีไฟว์ อีวี ตัวนี้ อดใจรอสักหน่อย ประกาศราคาแน่นอนเดือนกรกฎาคมปีนี้ และเปิดตัวดีลเลอร์ที่มีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ โอโมด้า ทั่วประเทศเบื้องต้นราว 40 แห่งอย่างแน่นอน ลองค้นหาคำว่า OMODA ในรุ่น C5 กันดูอาจจะรู้ไว้เป็นข้อมูลเผื่อล่วงหน้าจะตัดสินใจจองเลยหรือไม่?เร็วๆ นี้รู้กัน  

 
Read More

FAST Auto Show Thailand 2024

“ฟาสต์ ออโต โชว์ 2024” ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 นำเสนอ “รถใหม่โปรดี รถไฟฟ้ามีให้ลอง รถมือสองมีรับประกัน” เริ่ม 3 – 7กรกฎาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ ผู้จัดงานแสดงรถยนต์ครบวงจร “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” (FAST Auto Show Thailand 2024) เปิดฉากปลุกตลาดรถยนต์เมืองไทยช่วงครึ่งปีหลังให้คึกคักต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ด้วยยนตรกรรมมากคุณภาพหลากหลายแบรนด์ ภายใต้คอนเซ็ปท์ “รถใหม่โปรดี รถไฟฟ้ามีให้ลอง รถมือสองมีรับประกัน” ครบจบในงานเดียว ซึ่งมาพร้อมดีลเร้าใจสุดคุ้ม ไฮไลต์เด็ดปีนี้เปิดให้ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายแบรนด์ภายในฮอลล์ ตั้งเป้าและมั่นใจว่าตลอด 5วันของการจัดงานจะมียอดจองรถยนต์ใหม่ รถใช้แล้ว รถไฟฟ้า และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นที่น่าพอใจ ห้ามพลาด 3 – 7 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา เข้าชมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย แถมลุ้นรับโชคตลอด 5 วันเต็ม นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” เปิดเผยว่า “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์” เป็นงานซื้อ-ขายรถครบวงจรที่จัดขึ้นในช่วงกลางปี ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 เป็นการรับไม้ต่อเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม่ให้หยุดนิ่ง กระตุ้นให้เกิดแรงซื้อ-ขายในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นหนึ่งในหัวใจหลักด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยได้รับการคาดการณ์ว่าจะยังคงอยู่ในภาวะทรงตัวระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา หากแต่ด้วยแรงสนับสนุนด้านนโยบายของภาครัฐ ความร่วมมือของภาคเอกชน และภาคประชาชนที่ต่างพยายามช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจในมุมของตัวเองอย่างเต็มกำลัง เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว จึงนับเป็นปีที่มีความท้าทาย และยังเป็นโอกาสของผู้ประกอบการในธุรกิจยานยนต์ ในการใช้งาน      “ฟาสต์ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” ซึ่งเป็นงานที่มีศักยภาพดึงดูดคนมาร่วมงาน ด้วยประสบการณ์และความสำเร็จในการจัดงานจับคู่ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมานานจนก้าวสู่ปีที่ 12 เป็นเครื่องมือการตลาดในการจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายในช่วงกลางปี และเป็นโอกาสของผู้บริโภค เพราะการมาเลือกซื้อรถในพื้นที่ขายที่มีรถหลากหลายแบรนด์มาจัดแสดงพร้อมกัน พร้อมมีโปรโมชั่นพิเศษ ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบคุณภาพ…

 
Read More

วิเคราะห์รถไฟฟ้าจีนยี่ห้อ OMODA (โอโมด้า) มาใหม่ล่าสุด

ก่อนอื่นเลยต้องยอมรับว่าได้ ปรามาส รถจีนเอาไว้เยอะ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่มาใหม่ๆ จะสู้รถญี่ปุ่น จะสู้รถยุโรปได้รึไง เพราะเราอาจจะติดภาพลักษณ์สินค้าจีนจากแหล่งที่มาในมณฑลเสินเจิ้น ซึ่งแน่นอนว่าเราก็รู้ๆ กันดีอยู่เกี่ยวกับคุณภาพ แต่สุดท้ายแล้วเราได้มาลองเจ้ารถไฟฟ้า ซึ่งทางผู้นำเข้าบอกว่ามาขายเดือนกรกฎาคมปี 67 นี้อย่างแน่นอน นั่นก็คือ เจ้า OMODA รุ่น C5 เป็นรถ EV ที่ต้องบอกว่ามาช้ายังดีกว่าไม่มา เพราะจากการที่ได้สัมผัส เริ่มแรกจะการดูภายนอก ต้องบอกเลยว่าออกแบบตัวถังโครงสร้างได้โดนใจมากๆ โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิงที่ชอบอะไรสวยๆ งามๆ รับรองว่าเจ้า  C5 จากโอโมด้าตัวนี้ไม่ผิดหวัง  ทั้งนี้ โอโมด้า ซีไฟว์ อีวี ยังมีดีไซน์ภายนอกสุดล้ำ สไตล์รถครอสโอเวอร์ ทำให้เกิดการเล่นแสงและเงาอย่างลงตัว ตรงกับคอนเซ็ปต์ “Light of Movement” ดีไซน์ที่ทันสมัย เหมาะกับผู้ขับรุ่นใหม่ที่มีสไตล์ มาพร้อมกับฟังก์ชันเพิ่มความสะดวกสบายในการขับ อาทิ กล้อง 540 องศา รอบคัน ไฟหน้าหันตามการเลี้ยวของพวงมาลัย และเป็นไฟ LED ทั้งหน้าหลัง เพิ่มความสว่างชัดเจน หลังคาซันรูฟ ฝาท้ายประตูที่ 5 มีเซ็นเซอร์เพียงถือกุญแจเดินเข้าใกล้ประตูที่5นี้จะเปิดเอง เป็นระบบเปิดปิดด้วยไฟฟ้า  OMODA เป็นรถไฟฟ้า เป็นรถที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน ไม่มีควันพิษ รถที่หลายคนอยากได้ในความใฝ่ฝัน คือ แรงๆ เร็วๆ และประหยัด คำตอบวันนี้มีแล้วกับเจ้า OMODA รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% และวันนี้เริ่มต้นด้วยรุ่น C5 EV แต่ขอบอกก่อนนะว่าเจ้า โอโมด้า ไม่ได้เป็นสินค้ายี่ห้อใหม่หรือโดดเดี่ยวแต่อย่างใด เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่อยู่ในเครือ เชอรี่ กรุ๊ป ในประเทศจีน ซึ่งเจ้ายี่ห้อนี้ก็เคยเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยพักนึง โอโมด้า เป็นรถจากประเทศจีน  นำเข้ามาทั้งคัน…

 
Read More

GWM Training Center

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิด GWM Training Center แห่งแรกในไทย สร้างทักษะ เสริมศักยภาพ ต่อยอดกลยุทธ์ด้านการขายและบริการหลังการขาย พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นหนึ่งในสามผู้นำแบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวศูนย์อบรมแห่งใหม่ “GWM Training Center” รองรับการฝึกอบรมพนักงานขาย น้อง iAM (Intelligent Ambassador) ช่างเทคนิค พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านการขายและบริการหลังการขายของบุคลากรได้อย่างตรงจุด สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทั่วประเทศผ่านการซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าด้วยความรู้และทักษะที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล ทะยานขึ้นสู่ความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) 3 อันดับแรกของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยภายในปี 2569 อย่างเต็มกำลัง ควบคู่ไปกับการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยอย่างยั่งยืน เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำโดย นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ นายสฤษดิ์พงษ์ เพ่งเล็งผล ผู้อำนวยการฝ่ายขาย นายธีร์ธวัฒน์ โกศลานันทกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลังการขาย และนางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เข้าร่วมเฉลิมฉลองการเปิด GWM Training Center ณ แอท ยู พาร์ค บางนา (ATT U PARK Bangna) เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยศูนย์อบรมแห่งนี้จะเข้ามารองรับการฝึกอบรมพนักงานขาย น้อง iAM และช่างเทคนิคของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั่วประเทศ โดยการฝึกอบรมมีทั้งการฝึกฝนในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยแบ่งหลักสูตรออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่…

 
Read More

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ผงาดคว้าแชมป์ไทยลีก 2 สุดยิ่งใหญ่

สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, จังหวัดนครราชสีมา, 24 เมษายน 2567 – หลังจากมาสด้าประกาศหนุนสวาทแคทต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 เพื่อลงสู้ศึกไทยลีก 2 ตลอดฤดูกาลนี้ เพราะมาสด้ายังคงเชื่อมั่นในสปิริตความเป็นนักสู้ของทีม ส่งผลให้แมตช์ก่อนสุดท้ายที่เดิมพันด้วยตำแหน่งแชมป์ เจ้าแมวพิฆาตก็ไม่ทำให้แฟนบอลชาวโคราชผิดหวัง ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะทีมหนองบัว พิชญ คู่แข่งสำคัญที่กำลังเบียดกันลุ้นแชมป์ไปสุดมัน 3-0 ผงาดคว้าแชมป์ ครองความยิ่งใหญ่ท่ามกลางแฟนบอลเข้าชมเต็มสนามกว่า 25,000 คน ที่เดินทางมาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม พร้อมกลับขึ้นสู่ไทยลีกอีกครั้งในฤดูกาลหน้า มาสด้าส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาฟุตบอลของประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนทีมสวาทแคทมาตั้งแต่สมัยที่ยังเล่นอยู่ในไทยลีก 2 จนทีมสามารถก้าวขึ้นสู่ไทยลีกซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศในฐานะแชมป์ รวมระยะเวลากว่า 11 ปี และโลดแล่นอยู่ในไทยลีกนานถึง 9 ปี แต่เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาทีมสวาทแคทหล่นลงมาเล่นในไทยลีก 2 แต่ทั้งนี้ทางผู้บริหารสโมสรฯ ประกาศชัดเจนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบรรดาแฟนๆ แมวพิฆาตว่าปีนี้จะต้องกลับขึ้นสู่ไทยลีกให้ได้อีกครั้ง และก็ทำได้สำเร็จพร้อมสร้างความสุขให้กับแฟนบอลด้วยการคว้าแชมป์ไทยลีก 2 มาได้อย่างสวยสดงดงาม โดยไม่แพ้ทีมใดในบ้านถึง 17 นัด และเสียประตูน้อยกว่าทุกทีมตลอดฤดูกาล ซึ่งแมตช์สุดท้ายจะออกไปเยือนทีมจันทบุรีในวันเสาร์ที่ 27 เมษายนนี้ นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แมตช์นี้นับเป็นนัดสำคัญยิ่งต่อการตัดสินแชมป์ประจำฤดูกาล มีแฟนบอลหลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศเข้าชมการแข่งขันในแมตช์นี้มากสุดถึง 24,556 คน ซึ่งทีมสวาทแคทยังคงครองสถิติอันดับหนึ่งที่มีผู้เข้าชมเกมมากที่สุด วันนี้ทุกคนในทีมต่างร่วมแรงร่วมใจกันลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ด้วยพลังศรัทธาและเชื่อมั่นในสปิริตความเป็นนักสู้ของทุกคนในทีม ซึ่งเป็น ดีเอ็นเอเฉกเช่นเดียวกับชาวมาสด้า เราไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคและเชื่อมั่นในสปิริตความเป็นนักสู้ พร้อมฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มากว่า 100 ปี และอยู่เคียงข้างคนไทยมาถึง 73 ปี และเราจะยังคงอยู่เคียงข้างสังคมไทยตลอดไป มาสด้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนวงการฟุตบอลไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ฟุตบอลเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของผู้คน ไม่ใช่เฉพาะกับชาวโคราชเท่านั้น แต่รวมถึงคนไทยทั้งประเทศ สำหรับการแข่งขันแมตช์สำคัญในครั้งนี้ มีบุคคลสำคัญๆ ที่เดินทางมาให้กำลังใจนักเตะของทีมอย่างคับคั่ง ประกอบไปด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาสโมสรฯ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานบริหารสโมสร คณะผู้บริหารของสโมสรฯ พร้อมด้วยผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ รวมถึงเหล่าบรรดานักเตะแมวพิฆาต ทีมสตาฟโค้ช ฝ่ายเทคนิค และนักฟุตบอลเยาวชนจากอะคาเดมี่ ร่วมชมและเชียร์แมตช์นี้จนล้นสนาม ตลอดเกมการแข่งขันทั้งสองทีมสู้กันสุดเร้าใจท่ามกลางกองเชียร์กว่า 25,000 คน หลังจบเกมการแข่งขันทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เป็นฝ่ายเอาชนะทีมหนองบัว พิชญ เอฟซี…

 
Read More

ฮอนด้าบิ๊กไบค์ บุกทั่วไทยชวนลูกค้าทดสอบเทคโนโลยี ‘Honda E-Clutch’

ฮอนด้าบิ๊กไบค์ ชวนลูกค้ามาร่วมทดลองขับขี่ ‘All New Honda CBR650R’ และ ‘All New Honda CB650R’ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ ‘Honda E-Clutch’ ระบบคลัตช์ไฟฟ้าอัจฉริยะ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดครั้งแรกของโลก ที่สามารถควบคุมรถเปลี่ยนเกียร์ได้ทันทีโดยไม่ต้องกำคลัตช์ โดยได้เปิดให้ทดสอบที่งานมอเตอร์โชว์ 2024 ที่ผ่านมา ได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้ที่ได้เข้ามาทดสอบเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อตอบรับกระแสความแรง ฮอนด้าบิ๊กไบค์ เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดสอบทั่วทุกภาคทั่วประเทศ ประเดิมจังหวัดแรกที่บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 27 – 28 เมษายนนี้ ณ ลาน Paddock สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สำหรับการทดสอบเทคโนโลยี ‘Honda E-Clutch’ ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การขับขี่ขึ้นไปอีกระดับ โดยสามารถทดสอบความแรงสมรรถนะของรถได้อย่างเต็มที่ ตามเส้นทางต่างๆ และสถานีทดสอบ ดังต่อไปนี้ นอกจากเทคโนโลยี ‘Honda E-Clutch’ ที่ให้ได้สัมผัสแล้ว ยังมีฮอนด้าบิ๊กไบค์รุ่นอื่นๆ ให้ได้ทดลองขับขี่ไม่ว่าจะเป็นตระกูล500Series อย่าง Honda CBR500R และ Honda NX500 รวมถึงสายแอดเวนเจอร์อย่าง XL750 TRANSALP อีกด้วย พบกับกิจกรรม ‘Honda E-Clutch Test Riding’ ที่จะไปบุก 6 จังหวัดทั่วทุกภาค ตามวันและสถานที่ดังต่อไปนี้ 27 – 28 เมษายน 2567  ลาน Paddock สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ 10 – 11 พฤษภาคม 2567 ลานจอดรถหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช จังหวัดนครราชสีมา 18 – 19 พฤษภาคม 2567 ลานข้าวเหนียวหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 25 – 26 พฤษภาคม 2567 สนามพีระเซอร์กิต จังหวัดชลบุรี 15 –…

 
Read More

ไทยฮอนด้า ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 

ไทยฮอนด้า จัดตั้งโครงการขับขี่ปลอดภัยแก่นักศึกษาและบุคลากร ซึ่งไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ลงนามบันทึกความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดตั้งโครงการ “ขับขี่ปลอดภัยแก่นักศึกษามหาลัยเชียงใหม่” เพื่อปลูกฝังให้นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความรู้และทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง สนับสนุนนักศึกษาและบุคลากรทุกท่านให้มีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎจราจร เพื่อรณรงค์สร้างความปลอดภัยและลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นเวลากว่า 35 ปี ที่ไทยฮอนด้าได้ดำเนินกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย โดยได้ดำเนินการร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยการลงนามความร่วมมือในโครงการฯ นี้ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการลดการเกิดอุบัติเหตุในการขับขี่ของนักศึกษาและของบุคลากรในมหาวิทยาลัยฯ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นต้นแบบสู่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในประเทศไทยในการร่วมสร้างสังคมที่ปลอดอุบัติเหตุต่อไปในอนาคต” สำหรับโครงการขับขี่ปลอดภัยแก่นักศึกษามหาลัยเชียงใหม่ มีสาระสำคัญทั้งหมด 3 ประการ ดังนี้ “เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือโครงการฯ นี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนมหาวิทยาลัยด้วยการส่งเสริมทักษะอันเป็นประโยชน์ต่อการสร้างวินัยจราจรแก่นักศึกษาและบุคลากรทุกท่านได้เป็นอย่างดี และขยายผลไปสู่การสร้างวัฒนธรรมการขับขี่อย่างปลอดภัยในบริเวณมหาวิทยาลัยและพื้นที่ชุมชนรอบๆ ต่อไป” ดร. อารักษ์ พรประภา กล่าวทิ้งท้าย ติดตามข่าวสาร Honda Safety Thailand ได้ที่ แฟนเพจเฟซบุ๊ก : facebook.com/HondaSafetyThailand เว็บไซต์ : hondasafety.thaihonda.co.th #HondaSafetyThailand #HaveAGoodRide #ฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย  #ไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย #SafetyforEveryone  #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า #HondaMotorcycle #ThaiHonda #ไทยฮอนด้า #HowWeMoveYou  

 
Read More
Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed