เนื่องจากรถยนต์ ORA รถยนต์นั่งไฟฟ้า 100% ได้รับความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มียอดจองที่รอการส่งมอบของ ORA Good Cat มากกว่า 3,500 คัน และบริษัทฯ กำลังดำเนินการอย่างสุดความสามารถในการเร่งทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าของเรา จากการประเมินความสามารถในการส่งมอบกับปริมาณยอดจองสะสมที่เรามีในปัจจุบัน รวมถึงผลกระทบในวงกว้างจากสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกและในประเทศจีน และภาวะสงครามที่เกิดขึ้น ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เกิดการขาดแคลนชิปและแบตเตอรี่ไปทั่วโลกตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ORA Good Cat ของเรา เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหยุดรับการจองรถ ORA Good Cat ทั้ง3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 400 TECH 400 PRO และ 500 ULTRA เป็นการชั่วคราว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2565 ตั้งแต่เวลา 00.00 น. เป็นต้นไป (เที่ยงคืนของวันที่ 19 เมษายน2565) ซึ่งถ้ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้ง สำหรับลูกค้าที่ได้จอง ORA Good Cat ไปก่อนวันและเวลาที่ประกาศหยุดรับการจองอย่างเป็นทางการแล้วนั้น(วันที่ 20 เมษายน 2565 เวลา 00.00 น.) บริษัทฯ จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์สโตร์ของเราเพื่อทยอยส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าของเราโดยเร็วที่สุด ตามช่วงเวลาการรับรถที่ได้รับการยืนยันจากทางบริษัท โดยลูกค้าปัจจุบันของเราที่ได้รับการส่งมอบรถไปแล้ว จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการหยุดรับการจองนี้ ทาง GWM ขอขอบพระคุณทุกท่านสำหรับความเชื่อมั่นที่มีให้กับเกรท วอลล์ มอเตอร์ และ ORA Good Cat เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและบริการอันยอดเยี่ยม เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าของเราอย่างดีที่สุด
Author: GIANT Autosawasdee
Mercedes-Benz: The Reinvention of Tomorrow
ค่านิยมใหม่และแนวคิดใหม่ของงานแสดงรถยนต์ โดย เทคโนโลยี ค่านิยม และความคิดของผู้คน คือสิ่งที่ถูกเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นตลอดเวลา “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ผู้นำของโลกยนตรกรรมสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย (diversity) และความเท่าเทียมอย่างต่อเนื่องเสมอมา จึงต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่าเดิม โดยเริ่มจากการเปลี่ยน “ค่านิยม” ที่อยู่คู่กับงานจัดแสดงรถยนต์ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน วัฒนธรรมการใช้ “พรีเซนเตอร์” ที่ทุกคนรู้จักในนาม “พริตตี้” ที่ช่วยโปรโมทรถยนต์ในงาน อีเวนต์ต่าง ๆซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย จนอาจส่งผลต่อมุมมองของคนไทยที่มีต่อ “พริตตี้” และหลาย ๆครั้งก็ส่งผลกระทบกับคุณค่าของผู้หญิงและอาจนำไปสู่การกระทำที่ไม่เหมาะสมต่อพวกเธอ เพราะคุณค่าของแต่ละบุคคล อยู่ที่หลากหลายองค์ประกอบ ไม่ใช่แค่เพศสภาพ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วยการสร้างนิยามใหม่ เพื่อให้พรีเซนเตอร์คนนี้ถูกให้เกียรติ และสร้างจุดยืนใหม่ ๆ ในวงการ ด้วยการนำเสนอ พรีเซนเตอร์…ที่ไม่จำกัดเพศ สีผิว หรือรูปร่าง พรีเซนเตอร์…ที่ไม่จำเป็นต้องแต่งตัววาบหวิว พรีเซนเตอร์…ที่ได้รับการอบรมเรื่องรถยนต์ และมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ให้ข้อมูลอย่างแม่นยำ เราเรียกพวกเขาว่า “Digital Guide” (ดิจิทัล ไกด์) กลุ่มคนที่จะมาทำหน้าที่ในการให้ความรู้เรื่องรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่น ในงานจัดแสดงรถยนต์ทุกงานในประเทศไทย โดยเป็นการแสดงจุดยืน ผ่านทางภาพยนตร์โฆษณาหนึ่งเรื่อง ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Reinvention of Tomorrow ว่านี่เป็นเพียงหนึ่งสิ่งที่เราเปลี่ยน เพื่อสร้างค่านิยมใหม่และแนวคิดใหม่ของงานแสดงรถยนต์…และยังมีสิ่งใหม่ ๆ อีกมากมายจากเมอร์เซเดส-เบนซ์รอคุณอยู่ #TheReinventionofTomorrow #เปลี่ยนเพื่อพรุ่งนี้ #MercedesBenzThailand
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชูความสำเร็จตั้งแต่ปีแรกของการเข้าสู่ประเทศไทย
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ฉายภาพความสำเร็จหลังเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบ 1 ปี สรุปตัวเลขและเหตุการณ์สำคัญตอกย้ำความเป็นผู้นำที่พร้อมสานต่อภารกิจในการสร้างสรรค์สังคมแห่งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สะอาดและปลอดภัย ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่สากล เดินหน้าเข้าสู่ปีที่สองด้วยคำมั่นสัญญาที่จะไม่หยุดยั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคพร้อมทั้งเติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน คุณณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จของการรับฟังเสียงผู้บริโภคและการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) โดยตลอดทั้งปี2564 ที่ผ่านมา เราได้สร้างความคึกคักรวมทั้งปลุกกระแสการรับรู้ของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและครองใจผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างรวดเร็ว โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมแห่งอนาคตพร้อมกับสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการยานยนต์อย่างต่อเนื่อง และทำให้ปี 2565 นี้เป็นอีกหนึ่งปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับทุกๆ คน” ในโอกาสนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้รวบรวมตัวเลขและสรุปเหตุการณ์สำคัญในปี 2564 ที่ไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างแข็งแกร่ง แต่ยังเสริมสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ดังนี้ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ รู้จักกันเป็นวันแรก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ (Live Streaming) สุดล้ำเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ภายใต้แคมเปญ “Sawasdee Thailand – Experience Your New xEV World” ประกาศพันธกิจในการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 9 รุ่นภายใน 3 ปีเตรียมรุกตลาดประเทศไทยด้วย 2 แบรนด์ยอดนิยมทั้ง HAVAL และ ORA พร้อมทั้งเผยกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย 3 ประการ คือ การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) การรับฟังเสียงผู้บริโภค(Consumer Voice Focus) และการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า (New User Experience) คว้า 6 รางวัลรับประกันความร้อนแรง หลังจากเปิดตัวแบรนด์ได้ไม่นาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ยกทัพยานยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตไปจัดแสดงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนๆ ชาวไทย พร้อมคว้า 6 รางวัลอันทรงเกียรติมาครอบครอง ได้แก่ รางวัลบูธสร้างประสบการณ์ยอดเยี่ยม (Best Experience Pavilion Award) รางวัลการนำเสนอยอดเยี่ยม (Best Presentation Award) รางวัลรถยนต์ต้นแบบยอดเยี่ยม (Best Concept Car Award) รางวัลรถไฟฟ้าดีไซน์ยอดเยี่ยม (Best Design EV Award) รางวัลนวัตกรรมรถกระบะยอดเยี่ยม (Most Innovative Pickup Award) และรางวัลการออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Most Gorgeous Costume Design Award) ผลิตรถยนต์คันที่ 1 ในประเทศไทย ซึ่งครองอันดับ 1 ถึง 3 เดือนซ้อนในช่วงต้นเดือนมิถุนายน เกรท วอลล์มอเตอร์ ได้แสดงความพร้อมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์คุณภาพ ด้วยการผลิต All New HAVAL H6Hybrid SUV เป็นรุ่นแรกและคันแรกจากสายการผลิตที่ โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เต็มรูปแบบแห่งที่ 2 นอกประเทศจีนของ เกรท วอลล์มอเตอร์ โดยเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นนับตั้งแต่เปิดตัว จนครองยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีติดต่อกันถึง 3 เดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2564 และยังคงครองความเป็นผู้นำอันดับต้นๆในเซ็กเมนต์อย่างต่อเนื่อง เนรมิตพื้นที่ที่ 4 เพื่อการใช้ชีวิตสำหรับทุกคน ในเดือนตุลาคม เกรท วอลล์ มอเตอร์เปิด GWM Experience Center แห่งแรกของประเทศไทย ณ ไอคอนสยาม มุ่งให้เป็นพื้นที่ที่ 4 (The 4th Space) นอกเหนือจากบ้าน ที่ทำงานและสถานที่ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่ทุกคนสามารถเข้ามาเรียนรู้ ทำกิจกรรม ทำงานหรือพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเต็มที่ควบคู่ไปกับการทำความรู้จักแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยในปี 2564 ได้มีการจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ที่ GWM Experience Center รวม 50 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดมากกว่า 1,544 คน และได้มีโอกาสต้อนรับผู้เข้ามาเยี่ยมชมตลอดทั้งปีมากกว่า 75,000 คน อัดประจุไฟฟ้า 7,541 กิโลวัตต์ชั่วโมง ครบครันด้วยช่องทางการจัดจำหน่าย 30 แห่งทั่วประเทศ เกรท วอลล์มอเตอร์ เดินหน้าสร้างระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเปิดตัวสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบ DC ฟาสต์ชาร์จ G-Charge Super Charging Station ที่สยามสแควร์ซอย 7 ในเดือนพฤศจิกายน ถือเป็นสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ให้บริการรถยนต์ไปรวม 257 คัน ถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปรวมทั้งสิ้น 7,541 กิโลวัตต์ชั่วโมง นอกจากนี้ ในปี 2564 เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเปิด GWM Store ทั้งที่เป็น Direct Store และ Partner Store รวมทั้งสิ้น 30 แห่งได้สำเร็จ ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ส่งมอบเจ้าเหมียวไฟฟ้า ORA…
HAVAL H6 และ ORA Good Cat รักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดคอมแพคเอสยูวีและรถยนต์ไฟฟ้า
เกรท วอลล์ มอเตอร์ สร้างผลงานยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขายในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาของรถยนต์ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ All New HAVAL H6 Hybrid SUV, ORA Good Cat และ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV รวมทั้งสิ้น 873 คัน ส่งผลให้จนถึงปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เพิ่มจำนวนยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะบนท้องถนนไปแล้วเกือบ 6,000 คัน ช่วยเติมเต็มความพร้อมของประเทศไทยในการมุ่งหน้าสู่การเป็นสังคมแห่งยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ รวมทั้งตอกย้ำความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่คนไทยมีต่อผลิตภัณฑ์และบริการเหนือระดับของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภคและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ของประเทศไทยอย่างแท้จริง เริ่มต้นปี 2565 พร้อมกับเข้าสู่ปีที่ 2 ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างแข็งแกร่งสำหรับ เกรท วอลล์มอเตอร์ ซึ่งเดินหน้าสร้างการเติบโตด้านยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมกับAll New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ครองความเป็นผู้นำอันดับต้นๆ ในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีมาโดยตลอดล่าสุดกวาดยอดขายในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมารวม 339 คัน รักษาตำแหน่งแชมป์ของเซ็กเมนต์ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ของปีนี้ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 31.4 เปอร์เซ็นต์ จากยอดขายรวมของเซ็กเมนต์ทั้งสิ้น 1,080 คัน โดยนับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการและเริ่มส่งมอบในเดือนกรกฎาคมในปีที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ส่งมอบรถยนต์All New HAVAL H6 Hybrid SUV ให้แก่ผู้บริโภคในประเทศไทยไปแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,342 คัน เช่นเดียวกันกับ ORA Good Cat เจ้าเหมียวไฟฟ้า 100% ที่ได้ปลุกกระแสความตื่นเต้นอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยในปีที่ผ่านมา โดยยังคงความร้อนแรงและครองใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน การันตีด้วยยอดขายและส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์รวม 218 คัน รั้งตำแหน่งผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า 100% ไว้อย่างเหนียวแน่น ความสำเร็จในเดือนที่ไม่เพียงตอกย้ำความเป็นที่นิยมและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรถยนต์ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคตรุ่นนี้เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสนใจยานยนต์พลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ เกรท วอลล์มอเตอร์ ได้ส่งมอบ ORA Good Cat ให้กับผู้บริโภคไปแล้วทั้งสิ้น 1,108 คัน นับตั้งแต่เริ่มส่งมอบในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV เจ้าสิงโตอารมณ์ดีที่ครบครันด้วยนวัตกรรมยานยนต์อันล้ำสมัยและสมรรถนะโดดเด่นซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่อัจฉริยะได้อย่างหลากหลาย ได้เข้ามายกระดับมาตรฐานของตลาดรถยนต์เอสยูวีบีขึ้นไปอีกขั้น โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ มียอดขายและส่งมอบ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ถึง 316 คัน รวมจำนวนที่ส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้วทั้งสิ้น 1,422 คัน และยังคงมีลูกค้าให้ความสนใจสั่งจองอย่างต่อเนื่อง คุณณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์สานต่อผลงานในปีแรกด้วยความสำเร็จยอดเยี่ยมติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ตั้งแต่ต้นปี สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและการสนับสนุนที่ลูกค้าทุกๆ ท่านมอบให้กับเราอย่างแข็งแกร่ง เป็นเสมือนพลังใจที่ช่วยผลักดัน เกรท วอลล์มอเตอร์ ให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชาวไทยได้ดียิ่งขึ้น โดยเราจะเดินหน้าสร้างความคึกคักด้วยการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดำเนินงานโดยยึดถือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (Consumer Centric) ยกระดับการบริการแบบ Online to Offline ในทุกมิติ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนเพื่อช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อไป” ทั้งนี้ ในปี 2565 เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีก 5 รุ่น จาก 3 แบรนด์ ในไทยโดยจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% จากแบรนด์ ORA จำนวน 2 รุ่น เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจากภาครัฐ และช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้าให้กับประเทศไทยด้วยการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้ได้ 80 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทั้งขยายจำนวนสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าให้ครบ 55 แห่งภายในสิ้นปี เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยและโรงงานที่จังหวัดระยองเป็นศูนย์กลางของยานยนต์ไฟฟ้าและฐานการผลิตของภูมิภาคนี้อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากความสำเร็จในประเทศไทยแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมบนเวทีระดับนานาชาติ กวาดยอดขายจากทั่วโลกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมารวมทั้งสิ้น 70,792 คัน ในจำนวนนี้เป็นยอดขายในตลาดต่างประเทศ 6,037 คัน และในปีนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะขยายการดำเนินธุรกิจโดยมีแผนที่จะเปิดตัวแบรนด์ในอีก 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เพื่อขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนให้ครอบคลุมมากขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ สร้างยอดขายรถยนต์จากแบรนด์ HAVAL รวมทั้งสิ้น41,994 คัน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นรถยนต์คอมแพคเอสยูวียอดนิยม HAVAL H6 จำนวน 19,620 คัน ขณะที่แบรนด์ ORA มียอดขายรวม 6,261 คัน โดยเป็นยอดขายของ ORA Good Cat จำนวน 4,066 คัน นอกจากนี้ TANK 300 ยังคงรักษาความร้อนแรงในตลาดโลกอย่างต่อเนื่องหลังจากกวาดยอดขายได้ถึง 6,468 คัน ส่งผลให้จนถึงปัจจุบันนี้ มีผู้ใช้งานเอสยูวีออฟโรดสุดหรูจากแบรนด์ TANK รุ่นนี้มากกว่า 100,000 คันทั่วโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) พร้อมรับฟังเสียงผู้บริโภคเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตอบโจทย์ทุกความต้องการ และเคียงข้างเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคม เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน
MOTOR SHOW 2022
ดร.ปราจิน -นายอโณทัย เอี่่ยมลำเนา ให้การต้อนรับ คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสากรรมพร้อมคณะฯ ในโอกาสเยี่ยมชมการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 โดย ฯพณฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสากรรม ลงพื้นที่เยี่ยมชมการจัดงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 พร้อมด้วย นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงอุตสาหกรรม นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง นายใบน้อย สุวรรณชาตรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม โดยมี ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานการจัดงานฯ พร้อมนายอโณทัยเอี่ยมลำเนา รองประธานการจัดงานฯ ให้การต้อนรับ ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวชื่นชมคณะผู้จัดงานฯ ที่มีการเตรียมพร้อมตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นอย่างดี โดยมีประชาชนให้ความสนใจการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 เป็นอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมยานยนต์เพราะประเทศไทยเป็น 1 ใน10 ประเทศหลักที่ผลิตรถยนต์ของโลก โดยในประเทศอาเซียน ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ซึ่งในปีนี้มีการประกอบรถยนต์ในประเทศไทยประมาณ 1,800,000 คัน ขณะที่การจัดงานในปีนี้ พบว่า มีบริษัทผู้ประกอบรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยรัฐบาลตั้งเป้าภายใน 5 ปีจากนี้ จะมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไม่น้อยกว่า 360,000 คัน โดยแบ่งเป็นใช้ในประเทศ260,000 คัน และส่งออก 100,000 คัน ซึ่งรัฐบาลเองมีมาตรการในการลดภาษีการนำเข้าของผู้ประกอบการ และลดภาษีสรรพสามิต รวมถึงมีมาตรการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรถยนต์ จึงคาดว่าในอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ก้าวด้วยกัน ไปด้วยใจไปได้ไกล” หรือ “KEEP MOVING FORWARD TOGETHER” โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) ผู้จัดงาน และมี 27 บริษัทรถยนต์ 8 บริษัทรถจักรยานยนต์ และส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านยานยนต์เข้าร่วมจัดแสดงบนพื้นที่กว่า 170,960 ตารางเมตร
BANGKOK USED CAR SHOW 2022
หลังจากเปิดฉาก“งานบางกอก ยูสคาร์โชว์ ครั้งที่ 13” ชูคอนเซ็ปต์ ‘ONE STOP SHOPPING ครบจบในที่เดียว’ โดยงานนี้ กรังด์ปรีซ์ฯ ผนึกกำลังพันธมิตร ผลักดันธุรกิจรถยนต์มือสองให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จัดงาน “มหกรรมรถยนต์มือสอง ครั้งที่ 13 หรือ The 13rd Bangkok Used Car Show” ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ONE STOP SHOPPING ครบจบในที่เดียว’ พร้อมจับมือร่วมกับ “กรุงศรี ออโต้” และ “สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว” ยกระดับการจัดงานเข้าสู่ระดับสากล มุ่งมั่นสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค การันตีรถยนต์ในงานทุกคัน อัดโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าในงานโดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม–3 เมษายน 2565 คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหาร / ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงาน “ The 13rd Bangkok Used Car Show หรือ มหกรรมรถยนต์มือสอง ครั้งที่ 13” เปิดเผยว่า “แม้ในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ หรือรถยนต์มือสอง ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในฐานะผู้บุกเบิกการจัดงานแสดงรถยนต์ในประเทศไทย ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการ กระตุ้นให้ธุรกิจยานยนต์ในประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติ และกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง การจัดงานมหกรรมรถยนต์มือสอง ครั้งที่ 13 ยังคงได้รับความไว้วาง ใจจากทั้งบริษัทรถยนต์ชั้นนำ ผู้ประกอบการธุรกิจรถยนต์มือสอง เข้าร่วมสนับสนุนให้เกิดการจัดงานแสดงรถยนต์ใช้แล้วมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการจัดขึ้นเพื่อตอบรับ และอำนวยสะดวกต่อความต้องการของผู้บริโภคที่จะเข้ามาเลือกซื้อรถภายในงาน แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจจริงที่จะยกระดับมาตรฐานการจัดงานให้มีความเป็นสากล ทั้งการการันตีคุณภาพรถจากผู้จำหน่าย การจัดแคมเปญโปรโมชั่นที่มากกว่า หรือเทียบเท่ากับรถรุ่นใหม่ ด้วยมาตรฐานการจัดงานอย่างมืออาชีพ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งหนึ่งของโลก มีการซื้อขายรถยนต์รุ่นใหม่ในแต่ละปีเป็นตัวเลขจำนวนมหาศาล จึงส่งให้การหมุนเวียนของรถยนต์ใช้แล้วในตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราเล็งเห็นมาตลอดว่าตลาดรถยนต์ใช้แล้วในประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูงมาก เพราะยังมีกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมความคุ้มค่าและไม่ต้องการใช้จ่ายเงินจำนวนมากไปกับรถใหม่ป้ายแดง กรังด์ปรีซ์ฯ จึงเป็นผู้ริเริ่มในการจัดงาน บางกอก ยูสคาร์โชว์ เป็นครั้งแรกในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2552 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการซื้อขายรถยนต์ใช้แล้วมาจนถึงปัจจุบัน” อนึ่ง สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพการจัดงาน และสร้างความเชื่อมั่น ให้กับลูกค้าที่เข้ามาซื้อรถภายในงาน คือการที่คณะผู้จัดงานฯ ร่วมกับทาง“สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว” พร้อมด้วยผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองทุกบริษัท สร้างความเชื่อมั่นด้วยการพร้อมใจกันการลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) เพื่อการันตีและรับประกันคุณภาพรถยนต์ที่ถูกนำมาจำหน่ายภายในงาน อีกทั้งยังคงมีพัธมิตรที่ดีอย่าง“กรุงศรี ออโต้” ที่เข้าร่วมเป็นผู้สนับ สนุนหลักในการจัดงานมาอย่างยาวนานพร้อมทั้งร่วมออกบูธ และนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษ จากบริการ กรุงศรี ยูสด์ คาร์ ในการอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าภายใน 15 นาที พร้อมรับข้อเสนอผ่อนสบายสูงสุดนาน 48 เดือนและของสมนาคุณมากมาย ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์มือสองได้ง่ายขึ้น สำหรับงานในปีนี้ งานบางกอก ยูสคาร์ โชว์ ครั้งที่ 13 จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ONE STOP SHOPPING หรือ ครบจบในที่เดียว” ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึงวันที่ 3 เมษายน 2565 บริเวณด้านหลัง อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีผู้ประกอบการจำหน่ายรถยนต์มือสองและอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์เข้าร่วมงานจำนวน 8 ราย โดยจะนำรถยนต์หลากหลายรุ่น จากแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น และ ยุโรป มากกว่า 100 คัน มาจัดแสดง ประกอบด้วยบริษัท AUTO MASTER, รถเศรษฐี, MILLENNIUM AUTO, MASTER CERTIFIED USED CAR, TRIPLE M , YO RATCHADA ,TARGET, CARSOME นอกจากนั้น ยังมีบูธจัดแสดงอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ จาก ฟิล์มกรองแสงแบรนด์ Glasia เข้ามาร่วมจัดแสดงภายในงานครั้งนี้ โดย ฟิล์มกรองแสง Glasia เป็นฟิล์มเซรามิคชั้นดีมีตาข่ายระบายความร้อน ป้องกันอินฟราเรดจากแสงแดดสูงถึง 85% และกันยูวี 100% ซึ่งมาพร้อมโปรโมชั่นติดตั้งฟิล์มกรองแสงกลาเซียรอบคัน รวมบานหน้าเริ่มต้นที่ 3,900 บาท เฉพาะภายในงานบางกอก ยูสคาร์ โชว์ ครั้งที่ 13 เท่านั้น
VOLVO DRIVING EXPERIENCE 2022
วอลโว่จัดกิจกรรม “Volvo Driving Experience 2022” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Volvo Recharge The Drive In You” เพื่อให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบสมรรถนะรถยนต์วอลโว่โมเดลใหม่ทุกรุ่น ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ เพื่อฉลองความสำเร็จในการเติบโตของยอดขายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (Pure Electric) ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเพื่อตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยียานยนต์ขั้นสูงบนรถยนต์วอลโว่ทุกรุ่น ที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอันชาญฉลาดและสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูง ตลอดจนดีไซน์อันโฉบเฉี่ยว หรูหรา มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของวอลโว่ พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟสไตล์การขับขี่ให้กับทุกเจเนอเรชั่นได้อย่างแท้จริง มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“จากพันธกิจของเราในการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าแต่เพียงเท่านั้นให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพื่อส่งมอบรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงและมีความปลอดภัยต่อผู้คนทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เราจึงมุ่งมั่นนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ผ่านการพัฒนาทั้งทางด้านนวัตกรรมและการขับเคลื่อน เพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์ในการขับขี่ที่ดีที่สุด โดยกิจกรรมในวันนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมจะเกิดความประทับใจและมีความสุขในทุกการขับขี่รถยนต์วอลโว่ในทุกโมเดล” การจัดกิจกรรมรอบพิเศษครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ครั้งสำคัญของรถยนต์วอลโว่ประเภท เอสยูวี, สปอร์ตเอสเตท อเนกประสงค์ และซีดาน ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าและสื่อมวลชน โดยวอลโว่ได้ขนทัพรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Volvo XC40 Recharge Pure Electric – รถรุ่นแรกในตระกูลคอมแพ็กเอสยูวีของวอลโว่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบ 100%, Volvo XC40 Recharge Plug-in Hybrid – คอมแพ็กเอสยูวีที่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมการขับขี่ขั้นสูง, รถรุ่นอัพเกรด Volvo XC60 Recharge Plug-in Hybrid เอสยูวีขนาดกลางระดับพรีเมียมที่มียอดจำหน่ายสูงถึง 1,000,000 คันทั่วโลก, Volvo V60 Recharge Plug-in Hybrid – ยนตกรรมสไตล์สปอร์ตเอสเตท อเนกประสงค์ที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ไร้คู่แข่ง, Volvo S60 Recharge Plug-in Hybrid และ Volvo S90 Recharge Plug-in Hybrid รถยนต์เจ้าของรางวัล “ซีดานขนาดกลางยอดเยี่ยม จากงาน 2019 Car of The Year Awards” และ Volvo XC90 Recharge Plug-in Hybrid ลักชัวรี่เอสยูวีรางวัลระดับโลกที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และดีไซน์สไตล์สแกนดิเนเวียนที่มอบความหรูหราในทุกรายละเอียด โดยไฮไลท์พิเศษภายในสนามทดสอบ ได้ออกแบบสถานีทดสอบที่มีความหลากหลายและท้าทาย เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของนวัตกรรม เครื่องยนต์ และ ฟีเจอร์ของรถยนต์วอลโว่ อาทิ ฐาน SUV Station การขับทดสอบรุ่นรถ Volvo XC60 Recharge Plug-in Hybrid และ Volvo XC90 Recharge Plug-in Hybrid ออกแบบให้เป็นฐานเนินสูงและต่ำ สลับกันซ้ายขวาเพื่อขับทดสอบช่วงล่างของรถยนต์ และยังมีฐานกึ่งตะแคง เพื่อทดสอบระบบการขับเคลื่อน สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และรายชื่อศูนย์บริการวอลโว่ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้า 02-161-4144 โดยสามารถดูข่าวสารกิจกรรมล่าสุดของบริษัทได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.com/th
IRC หนุนศักยภาพเยาวชนไทย
“การแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง” ครั้งที่ 24 (The 24th Honda Eco Mileage Challenge) ชวนเยาวชนประชันไอเดียยานยนต์ประหยัดเชื้อเพลิง เพื่อโลกอนาคต ชูนวัตกรรมยาง Eco-run เสริมศักยภาพทีมเยาวชนไทยเข้าแข่งขันเวทีแข่งขันที่ญี่ปุ่น โดย ครั้งนี้ IRC เข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรม ยางรถจักรยานยนต์ IRC และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจัดการแข่งขัน Honda Eco Mileage Challenge หรือฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง ปีที่ 24 ภายใต้แนวคิด “ท้าทายพลังความคิด ประดิษฐ์นวัตกรรมรักษ์โลก” ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เปิดโอกาสให้เยาวชนจากสถาบันอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา เข้าแข่งขันออกแบบและประดิษฐ์ยานยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิงที่สุด ร่วมท้าพิสูจน์ว่าน้ำมัน 1 ลิตร จะสามารถวิ่งได้ไกลแค่ไหน โดยในครั้งนี้มีทีมเข้าร่วมมากถึง 311 ทีมจากทั่วประเทศ คุณทาเคชิ อะราคาวา กรรมการบริหาร บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IRC เปิดเผยว่า IRC สนับสนุนยาง Eco Run ให้กับทีมเยาวชนไทยที่เข้าร่วมการแข่งขัน Honda Eco Mileage Challenge ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 24 ซึ่งเป็นการแสดงถึงศักยภาพ และทักษะวิศวกรรมด้านยานยนต์ของนักเรียนและนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา รวมไปถึงเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนและนักศึกษาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซึ่ง IRC ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆ และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศต่อไป คุณคณิน เหล่าจินดา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท IRC กล่าวว่า นวัตกรรมยาง Eco Run ของ IRC เป็นเทคโนโลยีที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่นที่ช่วยประหยัดน้ำมัน มีคุณสมบัติคือเบาผิวเรียบตั้งแต่ตรงกลางถึงผนังด้านข้างจากดอกยางดอกยาง Eco Run ด้านบน ผลิตจากคอมปาวที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้เล่น Eco Run โดยเฉพาะ และทำให้เกิดการต้านทานต่อการหมุนต่ำ ทำให้วิ่งได้เร็ว และมีความยึดเกาะสูงมั่นใจปลอดภัยขณะเลี้ยว ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จมากมายกับทีมแข่งรถในญี่ปุ่น โดยบริษัทจะสนับสนุนยาง Eco Run สำหรับทีมเข้าแข่งขันในครั้งนี้ สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลที่ 1 ในปีนี้ ได้แก่ ทีม NMVC 1 จากวิทยาลัยอาชีวศึกษา เทศบาลนครปฐมจ.นครปฐม ทำสถิติวิ่งได้ 1,147.0480 กิโลเมตร/ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 35.315 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำลายสถิติเดิมที่ทำไว้ 1,096.73 กิโลเมตรต่อลิตร ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 30.325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ รางวัลที่ 2 ได้แก่ ทีม TAPEE จากสถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 1 วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี ทำสถิติวิ่งได้ 1,077.4740 กิโลเมตร/ลิตรความเร็วเฉลี่ย 32.418 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อนึ่ง ทีมที่ชนะเลิศจะได้สิทธิ์เป็นตัวแทนเยาวชนไทยร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ รายการ Honda Soichiro Cup Honda Eco Mileage Challenge 2022 ครั้งที่ 42 ที่ประเทศญี่ปุ่นปลายปี 2565 ซึ่งทีมเยาวชนจากประเทศไทยทำสถิติคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ถือเป็นความสำเร็จของ บริษัท อีโนเว รับเบอร์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ด้วยเช่นกันที่มีส่วนสนับสนุนศักยภาพของเยาวชนไทยในเวทีระดับโลก ภายในงาน The 24th Honda Eco Mileage Challenge ยังมีการจัดกิจกรรมออกบูธ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางรถจักรยานยนต์ IRC ในราคาพิเศษ โดยปีนี้จัดขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์สำหรับผู้สนใจรายละเอียดยางรถจักรยานยนต์ IRC เพิ่มเติม ติดตามได้ที่ www.ircthailand.com หรือแฟนเพจ IRC TIRE Thailand มาดูกันว่าทาง IRC จะมีผลิตภัณฑ์ยางรถจักรยานยนต์รุ่นใดบ้าง ที่เตรียมออกสู่ตลาดในทุกตลาดเร็วๆนี้ #IRCTireThailand #IRCT #IRC #IRCTire #IRCTgroup #ยางรถจักรยานยนต์ไออาร์ซี #ยางไออาร์ซี #ไออาร์ซี #Sittpol1919
YAMAHA MOTOR SHOW 2022
ครั้งแรกในประเทศไทย!! #ยามาฮ่า ชวนคุณมาเชื่อมต่อโลกยุคใหม่ ไปกับ “Yamaha Virtual Idol WUNNI” ที่พร้อมต้อนรับทุกท่านเข้าสู่บูธยามาฮ่า ในงาน The 43rd Bangkok International Motor Show ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 แล้วมาร่วมก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมยานยนต์ขั้นสุดจาก Yamaha #1stYamahaVirtualIdol #YamahaxWunni #Callmewunni #Motorshow2022 —————————– #ยามาฮ่าเร่งชีวิตให้เร้าใจ #Yamaha #RevsYourHeart #YamahaSocietyThailand
NEW MG ZS EV
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เดินหน้าแผนงานผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เทียบชั้นอุตสาหกรรมยานยนต์โลกตามแนวทาง New Era New Growth for MG and Thailand Automotive Industry อย่างเป็นรูปธรรม ประเดิมเปิดตัว NEW MG ZS EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โฉมใหม่ ที่มาของ คอนเซ็ปต์ “Truly Easy” พร้อมด้วย MG EV Ecosystem หรือระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งของเอ็มจี โดยมีเครือข่าย MG Super Charge ที่ครอบคลุมและรองรับการเดินทางได้ทั่วประเทศ พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษ เงินจองจำนวน 10,000 บาท จะมีมูลค่าเป็น 20,000 บาท เพื่อใช้หักจากราคาจำหน่ายเมื่อมีการส่งมอบรถอย่างเป็นทางการและอุปกรณ์เชื่อมต่อกระแสไฟ V2L มูลค่า 10,000 บาท เฉพาะผู้ที่จองผ่านwww.mgcars.com ในระหว่างวันที่ 11-21 มีนาคม และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เท่านั้น โดยจะประกาศราคาอย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ 2022 สำหรับ NEW MG ZS EV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X โดยจะเปิดตัวสู่สาธารณชน พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ในวันที่22 มีนาคมนี้ และจะจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการใน58 โชว์รูม ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อโชว์รูมได้ที่ www.mgcars.com ผู้จอง NEW MG ZS EV ในช่องทางออนไลน์ผ่าน www.mgcars.com ระหว่างวันที่ 11-21 มีนาคมนี้ และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565 จะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษจากทางเอ็มจี ประกอบด้วย -เงินจอง 10,000 บาท จะมีมูลค่าเป็น 20,000 บาท เพื่อใช้หักออกจากราคาจำหน่าย NEW MG ZS EV เมื่อมีการส่งมอบรถอย่างเป็นทางการ -รับประกับแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร -รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร -ฟรี! MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง -ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี -ฟรี! อุปกรณ์เชื่อมต่อกระแสไฟ V2L มูลค่า 10,000 บาท NEW MG ZS EV รถพลังงานไฟฟ้า 100% ในรูปแบบ SUV ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์“TRULY EASY” ยนตรกรรมที่จะทำให้ชีวิตของคุณ “ง่าย” ขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา ภายนอกเรียบหรู ล้ำสมัยภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ลงตัวสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDING) การออกแบบ(DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย ขับขี่ง่าย มั่นใจในทุกเส้นทาง EASY & STYLISH – EXTERIOR DESIGN: ดีไซน์ภายนอกล้ำสมัย NEW MG ZS EV มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นตามแบบฉบับรถ SUV ของ MG เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสปอร์ต ผสานเข้ากับเส้นสายที่ทันสมัย ลงตัวในทุกรายละเอียด พร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่สะท้อนภาพลักษณ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มากยิ่งขึ้น -มิติตัวถัง 4,323 x 1,809 x…