กลุ่มตรีเพชรโดย คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เชิญชวน ผู้ใช้รถปิกอัพ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์อีซูซุทุกรุ่น และรถบรรทุกอีซูซุขนาด 2 ตันขึ้นไป เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุกับแคมเพจ์นสุดพิเศษ “ยิ้มรับกลับศูนย์” ตั้งแต่วันที่ 1กันยายน 2566 – 30 ธันวาคม 2566โดยมีรายละเอียดดังนี้ 7 ลิตร สำหรับรถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์มูลค่า 1,480 บาท (รวมค่าแรงและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ! ตรวจเช็กสภาพ รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ 8 ระบบสำคัญ (ครอบคลุม 30 รายการ) และรถบรรทุก 50 รายการ ส่วนลดอะไหล่แท้ตรีเพชร 15% สำหรับรถปิกอัพ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ และรถบรรทุก ส่วนลดซื้อรถใหม่ สำหรับรถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ใหม่สำหรับลูกค้าเก่าอีซูซุและครอบครัวสูงสุด 18,000 บาท ส่วนลดแบตเตอรี่ Power Max, 3K, GS, Yuasa ลูกละ 300 บาท ส่วนลดยางรถยนต์บริดจสโตนสูงสุด 2,400 บาท (600 บาท ต่อเส้น สูงสุด 4 เส้น) สำหรับรถปิกอัพ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ และรถบรรทุกเฉพาะรุ่น NLR Dueler, Duravis R624 ลดเส้นละ 600 บาท Duravis, Leo ลดเส้นละ 500 บาท ฟรี! ประกัน บาด บวม แตก สำหรับรถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ผ่อน 0% นานสูงสุด 9 เดือน สำหรับธนาคารที่ร่วมรายการ สามารถเข้ารับบริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 – 30 ธันวาคม 2566 สอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุทั่วประเทศ หรือ สายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0-2118-0777 และติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai
Author: GIANT Autosawasdee
เปิดฉากดวลกันสนั่นเมือง
หลังจากเปิดฉาก IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023 ไปแล้วนั้น เป็นที่ฮือฮาวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย อย่าง YK MOTORSPORTS BBR BY SUNOCO ซิวแชมป์ 200 นาที และ TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND ผงาด 400 นาที ศึก IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023 ดวลเดือดนัดเปิดฤดูกาลท่ามกลางทัพรถแข่ง 48 คันที่เข้าร่วมชิงชัยแน่นแทร็กช้างฯ ผล YK MOTORSPORTS BBR BY SUNOCO พลิกเกมช่วงท้ายการแข่งขันคว้าชัย SUPER ENDURANCE 200 MINUTES ขณะที่ TOYOTA GAZOO RACING TEAM THAILAND ระเบิดฟอร์ม ซิวแชมป์ SUPER ENDURANCE 400 MINUTES การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรูปแบบมาราธอน รายการ IDEMITSU SUPER ENDURANCE SOUTHEAST ASIA TROPHY 2023 ดวลความอึดนัดเปิดฤดูกาลระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน ที่ผ่านมา ณ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กำนดชิงชัยทั้งสิ้น 2 เรซ โดยในวันเสาร์ที่ 2 กันยายน เป็นเกม SUPER ENDURANCE 200 MINUTES ขณะที่ SUPER ENDURANCE 400 MINUTES แข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน …
TOYOTA FORTUNER “Signature of Excellence”
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ประเภท PPV เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปี พ.ศ.2555 ในนาม FORTUNER ภายใต้โครงการ IMV:International Innovative Multi-purpose Vehicle ประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยดีไซน์อันโดดเด่น ล้ำสมัยเหนือกาลเวลา พร้อมสมรรถนะ การขับเคลื่อน ความทนทาน ดูแลรักษาง่าย ทรงคุณค่าด้วยราคาขายต่อดีเยี่ยม ยืนหนึ่งในฐานะผู้นำตลาดอันดับ 1 อย่างแท้จริง ด้วยยอดขายสะสมที่มากถึง 291,450 คัน ในปัจจุบัน ตอกย้ำความความเหนือระดับแห่งผู้นำเหนือกาลเวลาด้วยรุ่นปรับปรุงใหม่ พร้อมกันทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ “GR-Sport” “LEGENDER” และ “LEADER”และเปิดตัวพรีเซ็นท์เตอร์คนใหม่ “อเล็กซ์ เรนเดลล์” CEO Environment Education center (EEC) ผู้นำการรณรงค์เรื่องรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้จริงของ FORTUNER ที่พร้อมจะไปด้วยกันทุกที่ ไม่ว่าการใช้งานในเมือง หรือลุยออกทำกิจกรรมต่างๆ เสริมภาพลักษณ์ผู้นำที่โดดเด่นของผู้ครอบครอง FORTUNER อย่างแท้จริง “GR-Sport” เสริมภาพลักษณ์อันโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ทรงพลัง สนุกสนานกับสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์แรงสุด 224 แรงม้า และช่วงล่างสปอร์ต เพื่ออรรถรสในการขับขี่ที่เหนือระดับในทุกเส้นทาง ศักดิ์ศรีผู้นำอย่างแท้จริง เติมความพิเศษเหนือระดับ 1. เพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ ให้กำลัง 224 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 20 แรงม้า) แรงบิด 550 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) 2. สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Autoแบบไร้สาย 3. มั่นใจทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยเตือนลมยาง 4. ขับเคลื่อนเต็มกำลังด้วยช่วงล่าง Monotubeช่วยซับแรงสั่นสะเทือนเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ 5. ปลอดภัยทุกเส้นทางด้วย Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยก่อนการชน –ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับรถความเร็วอัตโนมัติ 6. พิเศษยิ่งกว่าด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง GR-Sport เช่น Smart Key – Push start GR – คันเร่งและเบรกอะลูมิเนียมแบบสปอร์ต – เบรกพร้อมคาลิปเปอร์สีแดง “LEGENDER” รุ่นยอดนิยม ด้วยภาพลักษณ์อันหรูหราแบบผู้นำ พร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์และระบบความปลอดภัยไฮเทค ครบครัน เติมความพิเศษเหนือระดับ 1. สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย 2. มั่นใจทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยเดือนลมยาง 3. ขับเคลื่อนเต็มพลังด้วยเครื่องยนต์ 2.4 และ 2.8 GD Super Power. มีให้เลือกทั้งแบบ ขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ Sigma 4 system 4. ขับเคลื่อนเหนือระดับด้วยช่วงล่างปรับจูนพิเศษเฉพาะรุ่น LEGENDER เพิ่มความนุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือนดีเยี่ยม 5. ปลอดภัยเหนือระดับด้วย Toyota Safety sense ระบบความปลอดภัยก่อนการชน – ระบบเตือนเมื่ออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับรถความเร็วอัตโนมัติ “LEADER” สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ราคาเหมาะสม พร้อมดีไซน์พรีเมียม สวยสะดุดตา อมตะเหนือกาลเวลา และความคุ้มค่าด้วยระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน…
“The All-New LEXUS LM…Own a World Apart”
Exclusive Preview สัมผัสนิยามใหม่แห่งความหรูหรา กับประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับลูกค้าคนพิเศษคุณกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมเปิดตัวยนตรกรรม Luxury Mini Van ระดับหรู “The All-New LEXUS LM” ในงาน “The All-New LEXUS LM” Exclusive previewสำหรับแฟนพันธุ์แท้เลกซัส นักธุรกิจ Celebrity และ Influencer ชั้นนำเข้าร่วมงานคับคั่ง ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Lexus LM 350h Executive 4-Seater ราคา 7,590,000 บาท Lexus LM 350h Executive 7-Seater ราคา 6,290,000 บาท สัมผัส และทดลองขับได้แล้ววันนี้ที่ผู้แทนจำหน่าย LEXUS อย่างเป็นทางการ ทั้ง 3 แห่ง ระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน ศกนี้ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษมากมายภายในงาน และเพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับผู้ครอบครอง LEXUS LMใหม่ทุกคันผ่านผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ รับประกันคุณภาพ 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง อุ่นใจ มั่นใจกับศูนย์บริการเลกซัส และ Lexus Service Corner พร้อมบริการ Home Visit Mobility Service ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์ The All-New Lexus…
เอ็มจี ยกระดับการบริการหลังการขาย จัดส่งอะไหล่ด่วน 24 ชม.
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เดินหน้ายกระดับบริการหลังการขาย นำเทคโนโลยีสู่กระบวนการบริหารจัดการอะไหล่ กับเป้าหมาย “ทันใจ..ทันใช้” ด้วยบริการจัดส่งอะไหล่เร่งด่วนและการกระจายอะไหล่สู่ศูนย์บริการทั่วประเทศไม่เกิน 3 วันทำการ* พร้อมชูระบบ TRACK & TRACE ที่สามารถตรวจสอบสถานะและติดตามอะไหล่จากคลังสู่ศูนย์บริการฯ ได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มความแม่นยำในการนัดหมาย และส่งมอบรถที่พร้อมใช้งานถึงมือลูกค้าด้วยความรวดเร็ว อีกทั้งเตรียมความพร้อมในการดูแลลูกค้ารถยนต์เอ็มจีทุกรุ่นที่จัดจำหน่าย ในประเทศไทยด้วยการขยายพื้นที่คลังอะไหล่แห่งที่สองย่านบางนา-ตราด เพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บได้มากกว่า 1,000,000 ชิ้น กว่า 20,000 รายการ เอ็มจี สะท้อนความตั้งใจในการดูแลลูกค้า นำเทคโนโลยีเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารการจัดเก็บไปจนถึง การจัดส่งอะไหล่และชิ้นส่วนยานยนต์ให้ถึงศูนย์บริการโดยเร็วที่สุด ล่าสุด เอ็มจี เปิดใช้ระบบ TRACK & TRACE ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่อยู่ภายใต้ Warehouse Management System หรือ ระบบ WMS ที่มักจะถูกใช้ในธุรกิจการขนส่งชั้นนำของโลก ปัจจุบันศูนย์บริการฯ เอ็มจี สามารถติดตามสถานะ ตรวจสอบ และคำนวณระยะเวลาการจัดส่งอะไหล่จากคลังสู่ศูนย์บริการฯ ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยให้การนัดหมายส่งมอบรถให้กับลูกค้ามีความแม่นยำมากขึ้น และสามารถติดตามอะไหล่ได้ในทุกขั้นตอน อีกทั้งการจัดส่งอะไหล่ทั่วประเทศสามารถดำเนินการได้ภายใน 3 วันทำการ* และมีบริการการจัดส่งอะไหล่ภายใน 24 ชั่วโมงสำหรับกรณีเร่งด่วน ส่งผลให้การซ่อมบำรุงรถยนต์ให้กลับคืนสู่สภาพพร้อมใช้งานทำได้รวดเร็วมากขึ้นด้วย คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนอะไหล่ การเพิ่มพื้นที่คลังอะไหล่ (MG’s Part Distribution Centre) จึงเป็นหนึ่งในแผนพัฒนา จากเดิมที่มีเพียงแห่งเดียวในจังหวัดชลบุรีบนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร จึงขยายพื้นที่คลังอะไหล่แห่งที่ 2 ย่านบางนา-ตราด อีกกว่า 15,000 ตารางเมตร…
จบงานอย่างสวยหรู Big MOTOR SALE 2023
แน่นอนว่าสุดคึกคัก!! กับงาน Big MOTOR SALE 2023 จบลงอย่างสวยงาม พร้อมลุยงานปีหน้า พบกันใหม่ 23 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 รับรองเจอกันแน่นอน ที่ไบเทค บางนา งานนี้ต้องบอกว่า ตอกย้ำความสำเร็จกับงาน “Big MOTOR SALE 2023” เทศกาลแสดงยานยนต์และจำหน่าย ตลอดระยะเวลา 10 วันที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งผู้เข้าร่วมชมงาน และค่ายรถแบรนด์ดังที่เข้ามาร่วมจัดแสดงยานยนต์ รุ่นใหม่ ๆ และอุปกรณ์ตกแต่งพรีเมี่ยมมากด้วยคุณภาพ พร้อมโปรโมชั่นเด็ด ๆ มาจำหน่ายในช่วงกลางปี นับเป็นการผนึกกำลังกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ตรงตามคอนเซ็พท์ “คาร์นิวัล” (Carnival) สร้างพื้นที่แห่งความสุขของผู้ซื้อและผู้ขายแบบจัดเต็ม เรียกได้ว่า ว้าว!! ตลอดการจัดงาน คุณจรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด และประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน Big MOTOR SALE กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณผู้ประกอบการทุกค่าย ทุกแบรนด์ที่มอบความไว้วางใจ และความร่วมมืออันดียิ่งในการนำรถรุ่นใหม่ รุ่นลิมิเต็ด มาร่วมออกบูธ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษอย่างล้นหลามภายในงาน ทำให้การจัดงาน “Big MOTOR SALE 2023” เทศกาลแสดงยานยนต์และจำหน่าย มีความสมบูรณ์แบบ และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง แม้จะอยู่ในช่วง Low Season แต่ก่อให้เกิดการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง ช่วยตอกย้ำว่างาน Big MOTOR SALE ของเราสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจได้ทุกเวลา ด้วยความตั้งใจจริง มีความพร้อม และได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้ประกอบการรวมทั้งประชาชนผู้บริโภคที่เข้าชมและเลือกซื้อรถคันใหม่จากงานนี้ ตลอด 10 วัน ของการจัดงาน Big MOTOR SALE เราได้จัดพื้นที่ซื้อ-ขายรถที่ดีมีคุณภาพ…
“ไทยยามาฮ่า” จัดเต็มงาน “บิ๊ก มอเตอร์ เซล 2023”
YAMAHA ส่งทัพมอ’ไซค์ ครบทุกเซกเมนต์ พร้อมเปิดบิ๊กไบค์ปี 2023ในรุ่น SR400, Tenere700 และ TRACER 9GT+ จัดเต็มฟังก์ชันใหม่ ที่มาเปิดให้ยลโฉมกันที่นี่ที่แรก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์คุณภาพชั้นนำของประเทศไทย เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมเปิดโลกยานยนต์ Bangkok International Grand Motor Sale 2023 หรืองาน “BIG MOTOR SALE 2023” จัดเต็มครบทุกเซกเมนต์รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ และสแตนดาร์ดไบค์ รถกอล์ฟ และ ยานยนต์ทางน้ำเวฟรันเนอร์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค มาพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษครบครัน พร้อมโชว์ยนตรกรรมสุดล้ำยานยนต์ไฟฟ้าสู่โลกอนาคต YAMAHA E01 ที่บูธ “YAMAHA REV UP YOUR RIDE พร้อมแล้วกับความท้าทายใหม่ขั้นสุดให้ทุกการขับขี่ที่เร้าใจในแบบยามาฮ่า” ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา คุณธนะชัย เลขวนิชกุล ผู้จัดการทั่วไปธุรกิจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าบิ๊กไบค์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้ ไทยยามาฮ่า นำรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ครบทุกเซกเมนต์มาร่วมงาน BIG MOTOR SALE 2023 นำทีมโดยSR400 สีใหม่ / Tenere700 ใหม่ ปี 2023 และ TRACER 9GT+ ที่มาพร้อมฟังก์ชันใหม่มาเปิดให้ยลโฉมกันที่นี่ที่แรกในงานบิ๊กมอเตอร์เซล 2023 YAMAHA SR400 ยังคงความคลาสสิก และเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับเครื่องยนต์สูบเดี่ยว ในปีนี้มาพร้อมกับ 2 สีใหม่ ได้แก่สีเทา (Mat Gray Metallic) และสีขาว มุก (Silky White) พร้อมราคาสุดพิเศษที่ 295,000 บาท รับฟรี Gift…
NEW MAZDA CX-3 ครอสโอเวอร์เอสยูวีคุณภาพคุ้มค่า
มาสด้าเปิดตัว New Mazda CX-3 ยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมแนวคิด “Never Settle for Less ความท้าทายใหม่ไม่รู้จบ” ตกแต่งอย่างมีสไตล์ยกระดับความสปอร์ตพรีเมี่ยมให้โดดเด่นยิ่งขึ้น มีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย พร้อมรุ่นย่อยใหม่ กับ 2.0 Sport Luxe ครบครันด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟและโคโดะดีไซน์อันสง่างามสปอร์ตโดดเด่นไม่เหมือนใคร เหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน 16.4 กิโลเมตร/ลิตร ใส่ระบบความปลอดภัยครบครันมากกว่าเดิม ราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 770,000 บาท กับคุณภาพล้นคัน คุ้มค่าเกินราคา สัมผัสคันจริงได้ที่งาน Big Motor Sale ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม 2566 – 3 กันยายน 2566 หรือทดลองขับพร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมายได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มร.ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้ามุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความสนุกสนานในการขับขี่ให้กับลูกค้า เพื่อให้รถยนต์มาสด้าเป็นยานพาหนะที่สร้างความรักความผูกพันให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างไม่รู้จบ ซึ่ง Mazda CX-3 คือหนึ่งในรถครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นเริ่มต้น ภายใต้ตระกูล CX-Series ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย โดยสามารถสร้างความสำเร็จด้านยอดขายให้กับมาสด้าอย่างต่อเนื่อง และยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้ามาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาเอสยูวีคันแรกที่ให้ความอเนกประสงค์ในการเดินทาง ตั้งแต่ Mazda CX-3 ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยถึงปัจจุบัน สามารถครองใจลูกค้าด้วยยอดขายสะสมสูงถึง 30,000 คัน การเปิดตัวครั้งนี้ เป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดซับคอมแพคท์ (B-SUV) ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง New Mazda CX-3 จึงได้ถูกพัฒนาไปอีกขั้น โดยเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานเข้ามาและเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ คือรุ่น 2.0 Sport Luxe ที่ได้รับการตกแต่งเสริมเอกลักษณ์ความสปอร์ตที่โดดเด่น รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์และเทคโนโลยีมาอย่างครบครัน เพื่อมอบความคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ให้มากที่สุด ทำให้ New Mazda CX-3 มีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย และมาพร้อมสีภายนอกใหม่ล่าสุดกับ สีเทา แอโร เกรย์ ซึ่งเป็นสีที่ได้รับการพัฒนาตามแนวคิด โคโดะ…
BIG MOTOR SALE วันนี้วันแรกที่ ไบเทค บางนา
เริ่มแล้ว!!! Big MOTOR SALE 2023 ผนึกกำลังค่ายรถร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจไทยนำเสนอยานยนต์หลากหลายและโปรโมชั่นคุ้มค่า อยากได้รถ…จบในงานเดียว เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายนนี้ ณ ไบเทค บางนา “Big MOTOR SALE 2023” โดย บริษัท ยานยนต์ สแควร์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเทศกาลแสดงยานยนต์และจำหน่ายผนึกกำลังค่ายรถชั้นนำกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงกลางปีแก่ธุรกิจยานยนต์ไทย ในคอนเซ็พท์ “คาร์นิวัล” (Carnival) จัดพาเหรดกองทัพรถยนต์ รถอเนกประสงค์ ยานยนต์ไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ และอุปกรณ์ตกแต่งพรีเมี่ยม จัดเต็มรวมแล้วกว่า 30 แบรนด์ สร้างพื้นที่แห่งความสุขของผู้ซื้อและผู้ขาย ชมและทดลองขับรถรุ่นใหม่ล่าสุด ว้าว!! ทุกคัน พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ตลอด 10 วัน ตั้งแต่ 25 สิงหาคม – 3 กันยายน2566 ณ ฮอลล์ 101-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา คุณจรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป และ ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน Bangkok International Grand Motor Sale 2023 หรือ Big MOTOR SALE 2023 เผยว่า “งาน Big MOTOR SALE ยังคงยืนหยัดจัดต่อเนื่องสู่ปีที่ 10 เพื่อนำเสนอยานยนต์ รุ่นใหม่ๆ มากด้วยคุณภาพมาจำหน่ายในช่วงกลางปี กระตุ้นให้เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้เดินหน้าคึกคักตลอดทั้งปี โดยจัดพื้นที่ซื้อ-ขายยนตกรรมคุณภาพที่ตอบสนองทุกความต้องการ ตามสโลแกน “อยากได้รถ…จบในงานเดียว” ซึ่งปีนี้ Big MOTOR SALE 2023 มาในคอนเซ็พท์ “คาร์นิวัล” (Carnival) หรือ คันนี้ว้าว… จากความร่วมมือของผู้ผลิตและจำหน่าย รถยนต์ รถอเนกประสงค์ ยานยนต์ไฟฟ้า และมอเตอร์ไซค์ รวมทั้งบริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์นำเข้าพรีเมี่ยม…
อยากได้ GLC ราคาก็อยู่ที่ 4.18 ล้านบาท
MERCEDES BENZ ส่งเจ้า GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic เขย่าตลาดปลั๊กอินไฮบริดด้วยเอสยูวีระดับลักชั่วรี่ ขับขี่ไฟฟ้าอย่างเดียวโดยไม่ต้องใช้น้ำมันเลยได้ไกลถึง 120 กิโลเมตร บริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) โชว์ตัวเลขยอดขายและการเติบโตในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2023 พร้อมเดินหน้าบุกตลาดครึ่งปีหลัง เริ่มด้วยการเผยโฉม The new GLC เอสยูวียอดนิยมของแบรนด์ที่เดินทางมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวรุ่นปลั๊กอินไฮบริด GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic ขึ้นไลน์ผลิตทำตลาด ในประเทศแบบ Local production นำเสนอคอนเซ็ปต์ “READY FOR IT” ชูภาพยนตรกรรมเหนือระดับที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล โดดเด่นด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นทั้งในด้านของสมรรถนะและระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้า สามารถทำระยะทางได้มากถึง 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยมากมาย เสริมฟังก์ชั่นความปลอดภัยต่อยอดจุดแข็งด้านการเป็นยนตรกรรมรูปแบบเอสยูวีที่เหมาะกับการใช้งานและการขับขี่ทั้งในรูปแบบ On-Road และ Off-Road ตอกย้ำความสำเร็จด้วยยอดขายกว่า 2.6 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดโลก มร.มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในช่วง 6 เดือนแรกของปี2023 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำยอดขายรวมทั้งสิ้น 1,019,200 คันทั่วโลก มีอัตราการเติบโตที่ 5% โดยส่วนหนึ่งคือยอดขายในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำตัวเลขสูงถึง 102,600 คัน เติบโตกว่า 121% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และสำหรับยอดขายในประเทศไทย มีการเติบโตกว่า 6% ปิดยอดจดทะเบียนครึ่งปีแรกได้กว่า 7,700 คัน เป็นผลมาจากการนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ลงตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการเดินหน้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าด้วยการเติมเต็ม EV Portfolio ในประเทศไทย ต่อเนื่องจาก 2 รุ่นแรกอย่าง EQS และ EQB เรามีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมกัน 2 รุ่น ในอีก 6 สัปดาห์นับจากนี้ และในปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดให้เครือข่ายผู้จำหน่ายฯ สามารถจำหน่ายและให้บริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ครอบคลุมมากกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ ยกระดับความสะดวกสบายให้ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของและเข้ารับบริการแบบครบวงจรได้ในทุกพื้นที่ นอกจากการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังให้ความสำคัญกับรถยนต์พลังงานทางเลือกในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนผ่านที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปภายในมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โดยรถปลั๊กอินไฮบริดเจเนเรชั่นใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ทำตลาดในประเทศไทย สามารถมอบระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้าได้มากกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนไทย และสำหรับผู้ที่ขับขี่ระยะทางไกลก็ยังสามารถขับขี่ต่อเนื่องได้ด้วยเครื่องยนต์สันดาปโดยไม่ต้องกังวลในเรื่องระยะทางและการหาจุดชาร์จไฟฟ้าระหว่างทาง เช่นเดียวกับ The new GLC ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้”…