เริ่มความสุดมันส์กันแล้ว ท่ามกลางสายฝน!! กับสนามโคลนสมรภูมิปราบเซียน นัดแรกเปิดฤดูกาล ริมทะเลเนินฆ้อ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
ในศึกใหญ่ครั้งนี้ เพื่อลุ้นตำแหน่งแชมป์ประเทศไทย หลังนักแข่งนับร้อยชีวิตเปิดฉาก ดวลวงล้อกันสุดมันส์หวังเก็บแต้มสะสม เพื่อตำแหน่งแชมป์ประจำปี ขณะที่นักแข่งขุนพลออฟโรดทุกรุ่นจัดหนักจัดเต็มสุดฝีมือ ท่ามกลางสนามออฟโรดในแบบสมรภูมิโคลน หลังฝนเทกระหน่ำมาอย่างหนัก สาดโค้ง เหินเนินบิน ดันน้ำกันกระจาย เรียกเสียงเชียร์ดังสนั่นสนามนัดเปิดฤดูกาล
การแข่งขันนัดเปิดฤดูกาล ในรายการ OFF ROAD TROPHY 2019 ชิงแชมป์ประเทศไทย ในสนามนี้เหล่านักแข่งนับร้อยชีวิตต่างทุ่มสุดตัวชนิดไม่มีใครยอมใคร กับศึกดวลล้อครั้งยิ่งใหญ่นัดแรกแห่งปีของวงการออฟโรดไทย ด้วยความมันส์เร้าใจบนเส้นทางหฤโหดในแบบฉบับของการแข่งขันออฟโรด โทรฟี่ โดยมี บริษัท ทาร์เก็ตมีเดียแอนด์เทเลวิชั่น จำกัด ผู้จัดการแข่งขันร่วมกับสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย โดยการควบคุมการแข่งขันจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ รยสท. ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ต ในรูปแบบของเกมส์กีฬาออฟโรด ให้ผู้ชมทั่วประเทศ 5 สนาม 5 พื้นที่ทั่วไทย
พิธีเปิดการแข่งขันในสนามนี้ได้รับเกียรติจาก คุณกฤษฎา ดวงแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลเนินฆ้อ กล่าวต้อนรับในนามเจ้าของพื้นที่ คุณอธิกิจ ศรีมงคล ตัวแทนจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวแนะนําผู้ให้การรับรองการแข่งขัน คุณจิรายุ ห่วงทรัพย์ บริษัท ทาร์เก็ตมีเดียแอนด์เทเลวิชั่น จำกัด ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันผู้ดำเนินการจัดแข่งขัน และ คุณวราวุธ ปิ่นเงิน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันในครั้งนี้ท่ามกลางผู้ชมแน่นสนาม
ซุปตาร์นักแข่งระยอง สมศักดิ์ มุลิ ดีกรีแชมป์ซูเปอร์แชมป์ คว้าชัยในรุ่นปีกนก กระบะบินได้!! จะเห็นว่ารุ่น “ปีกนก” รถกระบะเดิมๆ ที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะมีการปรับแต่งในเรื่องความปึ้กของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นการปรับช่วงล่าง เปลี่ยนยางและใส่โรลบาร์ เรียกได้ว่าเป็นรถ OEM รถเดิมๆ จากโรงงานที่มีการปรับแต่งไม่มากมาย เป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง รถหมายเลข 99 ของ สมศักดิ์ มุลิ และ นัฐพล แต่งสี จากทีม PTT Performa Lamina พบกับ รถแข่งหมายเลข 59 ของ ธงชัย กลิ่นเกตุ และ สันติชัย สำราญมาก จากทีมอีซูซุสุพรรณสปอร์ตทีม ลิควิค โมลี่ คู่นี้ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา มีทั้งชั้นเชิงและฝีมือดีกรีระดับแชมป์แม่นไลน์และฝีมือจัดจ้านทั้งคู่ ในรอบแรกรถหมายเลข 99 ที่นอกจากจะเป็นนักแข่งแล้ว ยังเป็นผู้จัดการทีมนำคงเส้นคงวาท่ามกลางฝนที่กระหน่ำลงมา ความแรงและความเร็วเกินรถมีสิทธิ์ที่จะลื่นไถลออกนอกแทร็ค รถหมายเลข 55 แม้เจองานหนักแต่ก็บู๊ขอสู้ตลอดการแข่งขัน แต่ก็ต้านทานไม่อยู่ หมายเลข 99 เข้าไปแตะเส้นชัยได้ก่อนคว้าแชมป์ไปในรุ่นปีกนก โดยคู่นี้ไม่มีใครโดนธงเหลือง ส่วนอันดับที่ 3 ตกเป็นของรถหมายเลข 55 อดิศักดิ์ ศรีสุริยะ จากทีมสะเดาสงขลา ที่สามารถเอาชนะรถหมายเลข 79 ของ อิศเรศ เริงทรัพย์ ที่รถมีปัญหาตั้งแต่ในรอบที่ 2 ของการแข่งขันมาได้แบบเหนือชั้น
ในการแข่งขันในรุ่น Super Open ชิงอันดับที่ 1 เป็นการพบกันระหว่างศึกรุ่นใหญ่ไฟกะพริบ ทั้งหมายเลข 28 อภิเดช ชูประดิษฐ์ และ สิทธิพร ชูมณี จากทีมเวียงสระสุราษฎร์ธานี by ช่างยักษ์จัดให้ พบกับคู่แข่งขันรถแข่งหมายเลข 5 บุญรักษ์ พงศ์อายุกูล และ ชาติชาย จันทร์ใส จากอู่คิงออฟโรด ขุนพลออฟโรดจากบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร คู่นี้เรียกว่าวิ่งสูสีกันตลอด เกมเกาะกันเป็นปาท่องโก๋เบียดกันทุกสภาวะอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเนินกระโดด เนินบิน หรือแอ่งน้ำขังจากฝนที่เทกระหน่ำลงมา แต่เทพีแห่งโชคก็เข้าข้างรถหมายเลข 28 เพราะงานเข้ารถหมายเลข 5 ที่คันเร่งมีปัญหาต้องยอมแพ้ไปในรอบที่ 2 ของการแข่งขัน ทำให้หมายเลข 28 ชนะไปได้แบบแบเบอร์ ส่วนในอันดับที่ 3 ส้มหล่นตกเป็นของรถแข่งหมายเลข 14 ชณัฐ ศิริพงษ์ จากทีม PTT King of Road นักแข่งจากนายายอาม ดีกรีแชมป์ประจำปี 2017 เอาชนะรถแข่งหมายเลข 39 วชิรธาร มีผล ที่รถพลาดท่าไปถูกริบบิ้น โดน + 10 คะแนน แม้จะเข้าเส้นชัยไปได้ก่อน
ในรุ่นเที่ยวป่า Open ที่เป็นรถ Body เหมือนๆ กันในสไตล์รถลุยขนาดเล็ก เป็นการพบกันระหว่างรถแข่งหมายเลข 69 ของ ยิ่งยศ ขันนาค และ ศราวุฒิ ปาณีสงค์ ขุนพลออฟโรดจากทีมรวมดาวพลอยสยาม พบกับรถแข่งหมายเลข 10 ของ ณัฐพงษ์ ศศิศุภกุล และ ธนพล จำรักษา จากทีม พีทีทีเพอร์ฟอร์มา การแข่งขันของคู่นี้ต้องบอกว่า เป็นการแข่งที่ต้องใช้ทักษะ การขับประคองเกมส์ เพราะทุกช่วงของสนามเต็มไปด้วยน้ำจากฝนที่ตกกระหน่ำตลอดการแข่งขัน เรียกว่ารถทั้ง 2 คันดันน้ำกระจายในทุกหลุมที่น้ำขัง ทำให้การคอนโทรลรถทำได้ยาก รถแข่งหมายเลข 69 นำในรอบแรก แม้ในรอบที่ 2 รถแข่งหมายเลข 10 จะขอบู๊แลกหมัด แต่ก็กลับมาพลาดท่าจากผู้ขับที่แว่นหลุด ทำให้รถเสียจังหวะต้องหยุดเพราะมองทางไม่เห็น แม้พยายามไล่แต่ก็ไล่ไม่จน ทำให้รถแข่งหมายเลข 69 คว้าชัยไปได้สบายๆ ในรุ่นเที่ยวป่า Open ส่วนอันดับที่ 3 ตกเป็นของรถแข่งหมายเลข 89 วีรวัฒน์ เพิ่มพูล นักแข่งจากชุมพร ที่เอาชนะรถแข่งหมายเลข 27 ของ คุณากร ใจเอื้อ จากพัทยาทีมไปได้
และมาปิดท้ายในรอบชิงชนะเลิศรุ่นใหญ่สุดของการแข่งขัน Open Unlimited เป็นการพบกันระหว่างรถแข่งหมายเลข 28 อภิเดช ชูประดิษฐ์ และ สิทธิพร ชูมณี จากทีมเวียงสระสุราษฎร์ธานี ที่ได้แชมป์มาแล้วในรุ่น Super Open พบกับรถแข่งหมายเลข 14 ชณัฐ ศิริพงษ์ และ วีรพงศ์ มุกดาสนิท จากทีมจากทีม PTT King of Road เปี๊ยกจังเกิ้ล ในคู่นี้ต้องบอกว่ารถแข่งหมายเลข 14 โชคดี 2 เด้ง เพราะรถแข่งหมายเลข 28 พลาดท่าเสียหลักชนริบบิ้นตั้งแต่ในรอบแรก อีกทั้งรถยังมีปัญหาต้องจอดสนิทก่อนจบรอบที่ 2 ของการแข่งขัน ทำให้รถหมายเลข 14 ขับโชว์แขกแค่ประคองไลน์ให้แม่นในสนามโคลน และเข้าเส้นชัยไปได้ก่อน ส่วนอันดับที่ 3 ตกเป็นของรถแข่งหมายเลข 5 บุญรักษ์ พงศ์อายุกูล จากอู่คิงออฟโรด ที่เอาชนะรถแข่งหมายเลข 50 ของ สิรวิชญ์ มุลิ ที่พลาดท่ารถสไลด์โดนริบบิ้น ทำให้ถูกปรับบวกคะแนนเพิ่ม 10 วินาทีไปหลายจุด
ทั้งหมดนี้คือการแข่งขันสุดยอดความมันส์หนึ่งเดียวของเมืองไทย กับสนามนัดเปิดฤดูกาล ออฟโรด โทรฟี่ 2019 และติดตามชมบันทึกการแข่งขันได้ทาง ช่อง 9 MCOT HD (ช่อง30) ในวันหยุดชดเชยวันวิสาขบูชา วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2562 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป และรายการ C max Car Magazine On Air ทาง VOICE TV 21 (ช่อง21) วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2562 เวลา 22.30 น. นี้แน่นอน อย่าลืมติดตามชมล่ะ