ยามาฮ่า เรซซิ่ง เฉลิมฉลองแชมป์ที่ 100 และ 101 บนเวทีเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ หลัง โทปรัค ราซกัตลิโอกลู #1 แชมป์โลกสังกัดพาต้า ยามาฮ่า วิธ บริกซ์ เวิลด์เอสบีเค ผงาดคว้าดับเบิ้ลวินเนอร์โพเดี้ยม จากการชิงชัยในสนามที่ 6 ศึกเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศึกซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2022 สนามที่ 6 ของฤดูกาล ดวลความเร็วระหว่างวันที่ 29-31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ออโตโดรม โมสต์ สาธารณรัฐเช็ก ระยะทางต่อรอบ 4.212 กิโลเมตร ชิงชัยทั้งสิ้น 3 เรซ ในรายการโปรเซคโก ดีโอซี เช็ก ราวนด์ โดย โทปรัค ราซกัตลิโอกลู #1 แชมป์โลกคนปัจจุบัน สังกัดพาต้า ยามาฮ่า วิธ บริกซ์ เวิลด์เอสบีเค ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม บิดคว้าโพเดี้ยมอันดับ 2 จากการชิงชัยในเรซแรก ก่อนที่จะรีดฟอร์มเก่งเหมาแชมป์ในเกมซูเปอร์โพลเรซ…
Year: 2022
GWM วางรากฐานสร้างกำลังบุคลากร
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าส่งเสริมศักยภาพและการเรียนรู้ของเยาวชนไทย ประกาศจับมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) เพื่อศึกษา ออกแบบ ตลอดจนสร้างอุปกรณ์ชุดฝึกยานยนต์สมัยใหม่จากรถยนต์จริงสำหรับใช้ในการเรียนการสอนเพื่อสร้างทักษะให้กับนักเรียน นักศึกษาระดับอาชีวศึกษา ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาต้นแบบจักรกลการเกษตรดัดแปลงซึ่งใช้มอเตอร์และแบตเตอรี่จากยานยนต์ไฟฟ้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นในฐานะผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทย (xEV Leader) ที่พร้อมพัฒนาทักษะบุคลากรคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการกำลังคนของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการให้การสนับสนุนชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์สำหรับใช้ในโครงการฯ ตามความเหมาะสม สร้างทักษะการพัฒนาและการประยุกต์ดัดแปลงต้นกำลังจากยานยนต์ไฟฟ้าผ่านประสบการณ์จากการทดลองใช้ต้นแบบอุปกรณ์ชุดฝึก และการพัฒนาสร้างต้นแบบเครื่องจักรกลการเกษตรดัดแปลงที่ใช้ต้นกำลังจากชิ้นส่วนรถยนต์ของบริษัทฯ โดยนอกจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครแล้ว โครงการยังครอบคลุมสถานศึกษาในโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์อีก 3 แห่งภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาอีกด้วย ได้แก่ 1. วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) 2. วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี (ช่าง และวิศวกร) และ 3. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน (ชีวภาพการเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตร) พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือได้รับเกียรติจาก คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี โดยมี นายไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และ ผศ. ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ร่วมลงนาม ณ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “ปัจจุบันภาครัฐได้ให้ความสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านที่สู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้า และกระตุ้นให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญความจำเป็น และประโยชน์จากการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง การพัฒนาอาชีวศึกษาในการศึกษาและพัฒนากระบวนการ คิดค้น ดัดแปลงเครื่องจักรกลการเกษตรซึ่งใช้ต้นกำลังมอเตอร์และแบตเตอรี่จากยานยนต์ไฟฟ้า มาเพื่อเป็นต้นแบบใช้การเรียนการเกษตรให้มีความทันสมัย ให้มีความก้าวไกล จะเป็นอีกคำตอบหนึ่งของการพัฒนาประเทศ เพราะกำลังคนอาชีวศึกษา ซึ่งถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญ ทั้งภาคการเกษตร และในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงในภาคธุรกิจบริการ ดังนั้น อาชีวศึกษาจึงต้องเร่งสร้างขีดความสามารถในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่จำเป็น เพื่อให้มีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ซึ่งในการพัฒนาผู้เรียน จึงต้องมีการพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรรายวิชาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย เพื่อนำไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานหรือสถานประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญ เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างคนที่มีคุณภาพ ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนจึงเป็นกลไกสำคัญที่จะนำพาให้การจัดการอาชีวศึกษาบรรลุสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จได้ในอนาคต” มร.ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ เห็นศักยภาพในหลายๆ ด้านของประเทศไทยในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือก หนึ่งในความมุ่งมั่นและความตั้งใจของเราคือการเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนไทยทั้งในด้านทักษะสมัยใหม่ องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมไปถึงการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริงความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้นักเรียนและนักศึกษารวมถึงคณะครูอาจารย์ ได้เก็บเกี่ยวองค์ความรู้เชิงลึกด้านยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อใช้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน และในอนาคต บุคลากรเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเติมเต็มความพร้อมให้กับระบบนิเวศทางยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคได้อย่างแท้จริง” คุณสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า “ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ในสภาวะของพลังงานเชื้อเพลิงโดยเฉพาะน้ำมันราคาสูงขึ้น และประกอบกับรัฐบาลสนับสนุนในเรื่องของอุตสาหกรรมใหม่โดยเฉพาะในกลุ่มของ S Curve New Curve ซึ่งมีกลุ่มของยานยนต์ไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับกระบวนการในเรื่องของการพัฒนาประเทศ และนโยบายด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นในการที่ปรับตัวเพื่อจะผลิตและพัฒนากำลังคนของอาชีวะจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีการปรับตัวเพื่อที่จะให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และภาคอุตสาหกรรมซึ่งในส่วนของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ในสังกัดอาชีวศึกษา ที่ได้รับมอบนโยบายว่าทำอย่างไรที่จะพัฒนา จะต้องใช้เทคโนโลยี เข้าไปในเรื่องของการบริหารจัดการในสถานศึกษาเกษตรกรรม ประกอบกับ สอศ. มีสถานศึกษาซึ่งเป็นวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ซึ่งเราเน้นที่ผลิตและพัฒนากำลังคนกลุ่มนี้ให้เป็นนวัตกร เพื่อเป็นผู้ผลิต คิดค้นนวัตกรรม และการดัดแปลง โดยจะเริ่มต้นกระบวนการศึกษานำร่องในวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ 1. วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) 2. วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี (ช่าง และวิศวกร) และ 3. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน(ชีวภาพการเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตร) และการที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ซึ่งมีองค์ความรู้เข้ามาเติมเต็ม ในเรื่องของการพัฒนาออกแบบ ซึ่งก็จะทำให้เกิดความสมบูรณ์ และได้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม” ผศ.ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร มีความยินดีที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับกระบวนการพัฒนาความรู้และทักษะของนักศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของการยกระดับแวดวงอุดมศึกษาของไทยอย่างก้าวกระโดด โดยทางมหาวิทยาลัยฯ จะทำงานร่วมกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และ สอศ. ตลอดจนสถานศึกษาในโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาศักยภาพให้กับกำลังคนที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่ทางภาครัฐกำลังเน้นผลักดันการเติบโตให้กับประเทศไทย” ความร่วมมือทางการศึกษาในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางสังคม การพัฒนาชุมชน การสืบสานความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของเยาวชน ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรในภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) ไม่เพียงจะมุ่งมั่นขับเคลื่อนเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย แต่ยังให้ความสำคัญกับการจ้างงานและการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรไทย โดยผ่านทางความร่วมมือกับพันธมิตรภาคส่วนต่างๆ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ พัฒนาทักษะทางอาชีพ และเสริมสร้างประสบการณ์ทำงานในสภาพแวดล้อมจริงให้กับเยาวชนชาวไทย เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านกำลังคนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ตามแนวทางการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม
มิตซูบิชิ ชวนวิ่งการกุศล
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดกิจกรรม ซึ่งร่วมสนับสนุนโดย มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์สประเทศไทย ขอเชิญชวนนักวิ่งทุกท่านร่วมวิ่งการกุศล ครั้งที่ 3 หรือ “Mitsubishi Motors Charity Run 2022” ในวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2565 บนเส้นทางอ่างเก็บน้ำบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากงานวิ่งการกุศลจะนำไปสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา รายการวิ่งการกุศลในปีนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร (ค่าสมัคร 500 บาท) และ Mini Marathon ระยะทาง 10 กิโลเมตร (ค่าสมัคร 600 บาท) โดยเส้นทางการวิ่งจะเริ่มจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ซึ่งเป็นจุดปล่อยตัว และวิ่งผ่านเส้นทางธรรมชาติอ่างเก็บน้ำบางพระ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดชลบุรี ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมงานวิ่งการกุศลได้ที่ https://c55events.com/mitsubishirun2022 หรือ Facebook Page: Wingnaidee โดยผู้เข้าร่วมทุกท่านจะได้รับเสื้อและหมายเลขวิ่ง สำหรับนักวิ่งชายและหญิงที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับแรก ในประเภท Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร จะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลมูลค่า 1,500 บาท สำหรับนักวิ่งชายและหญิงที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับแรกในประเภท Mini Marathon ระยะทาง 10 กิโลเมตร จะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลมูลค่า 4,000 บาท สำหรับผู้วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับแรกในแต่ละกลุ่มอายุของการวิ่งประเภท Mini Marathon จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 2,000 บาท สำหรับรองชนะเลิศอันดับ 1 และ รองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 1,000 บาท และ 500 บาท ตามลำดับ
ฮอนด้าส่ง RR-R ให้ลูกค้าสายสปอร์ต ผ่านกิจกรรม RR Master บนสนามแข่งระดับโลก
ฮอนด้าบิ๊กไบค์เปิดโอกาสให้ผู้ครอบครองรถบิ๊กไบค์ Honda CBR1000RR-R ได้สัมผัสถึงความสามารถขั้นสุดของ RR-R technology ที่พัฒนาเพื่อการขับขี่ในสนามแข่งออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านกิจกรรม Honda RR Master พร้อมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่เสมือนนักบิดตัวจริง โดยมีนักแข่งชั้นนำของฮอนด้าให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัว ทั้งนี้ กิจกรรม Honda RR Master ได้เปิดโอกาสให้เจ้าของรถ Honda CBR1000RR-R ได้ดึงสมรรถนะขั้นสุดของ 3 เทคโนโลยี ประกอบไปด้วย เทคโนโลยีแรก 6-AXIS INERTIAL MEASUREMENT UNIT (IMU) ของ Bosch ที่ช่วยควบคุมบาลานซ์ของตัวรถ โดยการจับค่าองศาของตัวรถ อัตราการเร่ง และคำนวณผ่าน แอลกอริทึ่ม ช่วยควบคุมความสมดุลของตัวรถเวลาเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ เทคโนโลยีที่สอง ระบบควบคุมคันเร่งไฟฟ้า Throttle by wire (TBW) ทำงานผ่านระบบเซนเซอร์ เพิ่มความรู้สึกในการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติมากกว่า และทำให้การควบคุมคันเร่งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เทคโนโลยีที่สาม ระบบช่วยออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง (Start Control Mode) Mode สำหรับการออกตัวในสนามแข่ง โดยจะล็อกรอบเครื่องยนต์ตามที่เลือกระดับไว้ เพื่อให้สูญเสียกำลังน้อยที่สุด ส่งผลให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการควบคุมคลัชได้อย่างเต็มที่ สำหรับผู้ที่อยากปลดล็อกการขับขี่ให้ได้ฟิลเหมือนนักแข่ง ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ : www.hondabigbike.com เฟซบุ๊กฮอนด้าบิ๊กไบค์ : fb.com/HondaBigBikeTH #RRMaster #CBRTypeRR #CBR1000RRR #CBR600RR #HondaBigBike #ExcitedTheWorld #HondaBigBikeThailand #WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า #ThaiHonda #HondaThailand
ยามาฮ่า ฟินน์ ใหม่!
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตอกย้ำความเป็น 1 ของรถจักรยานยนต์ครอบครัวยุคใหม่ระดับพรีเมียมด้วยการส่ง “ยามาฮ่า ฟินน์ ใหม่” กล้าที่จะไป…กล้าที่เป็น #กล้าที่จะฟินน์…บ่งบอกความเป็นตัวตนกับยามาฮ่าฟินน์รถครอบครัวระดับพรีเมียม สีสันกราฟิกใหม่ สวยล้ำสไตล์โมเดิร์น ด้วยสีสันที่มากถึง 8 สีใหม่สุดพรีเมียมพร้อมเครื่องยนต์หัวฉีดอัจฉริยะ 115 ซีซี ฟินน์จัดประหยัดจริง ประหยัดน้ำมันสูงสุด 96.16 กม./ลิตร* แรงดี ทนทานไม่จุกจิก และมีสมองกลอัจฉริยะ ECU ควบคุมการสั่งจ่ายน้ำมันทำให้ประหยัดมากขึ้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และครั้งแรกของโลก! รับประกันนานถึง 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง สำหรับ ยามาฮ่า ฟินน์ ใหม่! #กล้าที่จะฟินน์ ยังคงให้ความสะดวกสบาย ทั้งสวย ทนทาน ไม่จุกจิก และสุดประหยัดด้วยเครื่องยนต์หัวฉีดอัจฉริยะ 115 ซีซี ประหยัดน้ำมันสูงสุด 96.16 กม./ลิตร* แรงดี ทนทาน พร้อมสมองกลอัจฉริยะ ECU ควบคุมการสั่งจ่ายน้ำมันทำให้ประหยัดมากขึ้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคุ้มค่าด้วยระบบสตาร์ทมือทุกรุ่น! เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวกมากยิ่งขึ้น *ทดสอบโดยสื่อมวลชนสายจักรยานยนต์ ขับขี่ ยามาฮ่า ฟินน์ เครื่องยนต์ 115 ซีซี วิ่งในสภาวะการจราจรปกติ ด้วยความเร็วเฉลี่ยไม่เกิน 60 กม./ชม. บนเส้นทางจากศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ไปที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.อยุธยา รวมระยะทางการขับขี่58 กม. ใช้น้ำมันเพียง 599 ซีซี ยามาฮ่า ฟินน์ ใหม่! #กล้าที่จะฟินน์ โดดเด่นทันสมัยด้วย ไฟหน้าสุดโมเดิร์นที่มาพร้อมหลอดแบบฮาโลเจนสว่างชัด ดีไซน์โฉบเฉี่ยวกลมกลืนกับแฟริ่ง และไฟท้ายสวยหรูสะดุดตา ดีไซน์เข้ากับบอดี้ช่วงท้าย สว่างจัด ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์หรู สีสันกราฟิกทันสมัย มองเห็นชัดเจน สบายตา แสดงครบทุกฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ยามาฮ่า ฟินน์ ใหม่! #กล้าที่จะฟินน์ เพรียบพร้อมด้วยฟีเจอร์เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น ช่องใส่ของด้านหน้าอเนกประสงค์ สะดวกสบายในการใช้งาน จะใส่ขวดน้ำหรืออะไรก็สะดวกสุดๆ พร้อมที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ถึง 9.7 ลิตร เก็บหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบได้สบายสุดๆ และกุญแจแบบ Multi-function ควบคุมการใช้งานในจุดเดียว จะล็อก สตาร์ท หรือเปิดเบาะ ก็สะดวกสบาย ยามาฮ่า ฟินน์ ใหม่! #กล้าที่จะฟินน์ เพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยด้วย ระบบเบรก UNIFIED BRAKE SYSTEM (UBS) เมื่อใช้งานเบรกเท้า กลไกจะกระจายแรงเบรกไปทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ทำให้การหยุดรถมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เฉพาะรุ่น UBS ยามาฮ่า ฟินน์ ใหม่! #กล้าที่จะฟินน์ พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยกัน 4 รุ่น หลากสีสัน คือ รุ่น UBS สีเทา และ สีน้ำเงิน ราคาแนะนำที่ 47,900 บาท รุ่นล้อแม็ก / สตาร์ทมือ สีแดง, สีดำ, สีขาว ราคาแนะนำที่ 46,400 บาท รุ่นล้อซี่ลวด / สตาร์ทมือ สีแดง และ สีฟ้า ราคาแนะนำที่ 44,400 บาท และรุ่นล้อซี่ลวด / สตาร์ทมือ ดรัมเบรกสีดำ ราคาแนะนำที่ 40,700 บาท โดยสามารถสัมผัสกับ ยามาฮ่า ฟินน์ ใหม่! #กล้าที่จะฟินน์ ได้แล้ววันนี้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263- 9999 พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่ Website : www.yamaha-motor.co.th Facebook : Yamaha Society Thailand Instagram : @Yamaha Society Thailand Youtube : Yamaha Society Thailand
นิสสัน ปลื้มยอดจอง นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่
นิสสัน ประเทศไทย สร้างกระแสอย่างต่อเนื่องให้กับ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ หลังจากเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยมียอดจองมากกว่า 1,000 คัน ภายใน 10 วันนับจากวันเปิดตัว ประกาศเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป มร.อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “รู้สึกปลื้มใจ ที่ลูกค้าชาวไทยให้ความสนใจ และให้ความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของเรา โดย นิสสัน ยังคงมุ่งมั่นกับการทำตลาดรถยนต์รุ่นต่างๆ ในประเทศไทย และจากการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในระดับโลกของนิสสัน ซึ่งเห็นได้จากกระแสตอบรับ นิสสันคิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ที่ผ่านมา ทั้งนี้นิสสันต้องขอบคุณลูกค้าทุกๆ ท่าน ในความไว้วางใจดังกล่าว” สำหรับนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ รถคอมแพคเอสยูวีรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมสมรรถนะที่มากขึ้น กับเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่น 2 พร้อมระบบอี-เพดดัล สเต็ป (e-Pedal Step) ที่ทำให้การขับขี่ง่าย และราบรื่นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคันของ Nissan’s 360° SAFETY SHIELD แบบครบครัน พร้อมครั้งแรกในแรกในประเทศไทยของรุ่น AUTECH ที่ได้รับการปรับแต่งให้มีความพิเศษ เพิ่มความสปอร์ต และพรีเมี่ยม ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวทั้งภายนอก และภายใน นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ รุ่นล่าสุด ผลิตจากฐานการผลิตของนิสสันในประเทศไทย และส่งออกสู่ประเทศญี่ปุ่นรวมถึงประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ นิสสันยังได้เริ่มการประกอบแบตเตอรี่กำลังสูงสำหรับเครื่องยนต์ อี-พาวเวอร์ ที่โรงงานนิสสันในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของการผลิตและความพร้อมด้านทักษะฝีมือแรงงานในระดับโลกจากฐานการผลิตของ นิสสัน ประเทศไทย ได้เป็นอย่างดี นิสสันเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีโอกาสเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอตอร์ไฟฟ้า100% ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยราคาเริ่มต้นที่ 759,000 บาท ในรุ่นปกติ และราคาสูงสุดที่ 949,000 บาท สำหรับรุ่น AUTECH สำหรับผู้สนใจสามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมของผู้จำหน่ายนิสสัน ทั่วประเทศ หรือผ่านเว็บไซต์ นิสสัน ประเทศไทย https://www.nissan.co.th/
`วอลโว่ ขึ้นบัลลังก์อันดับ 3 รถหรู ในเมืองไทยอย่างไม่ต้องสงสัย
-จุดเด่น ยอดขาย วอลโว่ เติบโตขึ้นถึง 94% -วอลโว่ ในปีที่ผ่านมาจำหน่ายไปร่วม 2 พันคัน มีสัดส่วนรถ EV ถึง 30% -XC40 นับเป็นรถธงรุ่นเดียวของ วอลโว่ ที่มีทั้งรุ่นไฮบริด และรุ่น EV ที่ใช้ไฟฟ้า 100% -XC40 ของ วอลโว่ เป็นรถ EV ที่ขายดีอันดับ 1 จนต้องปิดรับการจอง -C40 นับเป็นรถ EV ตัวใหม่ของ วอลโว่ ประจำปี 2565 -ขณะนี้ EV ทุกรุ่นของ วอลโว่ ต้องจองไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หรือได้รถอย่างต่ำต้นปีหน้า -รถไฮบริดของ วอลโว่ นำเข้าจากโรงงานในมาเลเซีย และรถ EV นำเข้าจากโรงงานในจีน แต่รถทั้งสองประเภท มียอดจองมากกว่ายอดนำเข้า -ตลาดรวมรถ EV วอลโว่ มียอดจำหน่ายเป็นอันดับ 2 ของประเทศขณะนี้ -ภายในปี 2030 หรืออีก 7 ปีครึ่ง วอลโว่ จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 100% เพราะแนวโน้มในปีที่ผ่านมา วอลโว่ จำหน่ายรถ EV ถึง 40% และในปี 2565 จะมียอดจำหน่าย EV ราว 45-50% -ประเด็นน่าสนใจ เพราะ XC40 ในรุ่นไฮบริดราคาจำหน่ายประมาณ 2.3 ล้านบาท ขณะที่ XC40 แบบ EV ราคาอยู่ที่ ประมาณ 2.6 ล้านบาท ด้วยสภาวะน้ำมันแพง จึงทำให้ตัดสินใจเป็นเจ้าของรถ EV มีน้ำหนักมากขึ้น -รถ EV ของ วอลโว่ ได้รับการจองทาง on line คิดเป็น 100% แต่ยังคงไปดูรถตัวจริง ทดลองขับ ที่โชว์รูมของ ดีลเลอร์ วอลโว่ -ถึงแม้จะยังไม่มี วอลโว่ ลิซซิ่ง แต่ วอลโว่ ยืนยัน การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กับ กรุงศรี และธนชาติ ลูกค้ามีความแฮปปี้เป็นอย่างมาก -ปัจจุบันการจำหน่ายรถยนต์ วอลโว่…
ฮอนด้า ส่งต่ออนาคตที่คุณมั่นใจ
ฮอนด้าได้พัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั้งในด้านสมรรถนะและการประหยัดพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับเทคโนโลยีไฮบริดซึ่งนับเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงในปัจจุบันและเป็นเทคโนโลยีที่จะเชื่อมต่อไปสู่การขับเคลื่อนแห่งอนาคต ซึ่งระบบขับเคลื่อนแบบฟูลไฮบริด e:HEV ของฮอนด้าสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว เพราะนอกจากจะให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยมลพิษที่ต่ำ รวมทั้งความมั่นใจและความสะดวกสบายที่ได้รับจากการบริการหลังการขายจากเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรทั้ง 228 แห่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมการบริการจากทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ ฮอนด้าจึงสร้างสรรค์และภูมิใจที่จะส่งต่อเรื่องราวดี ๆ ผ่านซีรีส์ภาพยนตร์โฆษณา 5 เรื่อง ภายใต้แนวคิด“ฮอนด้า…เพื่ออนาคตที่คุณมั่นใจ” ที่คนไทยทั่วประเทศทั้ง 5 ภูมิภาค มั่นใจต่อการให้บริการหลังการขายจากเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจร ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อส่งมอบการบริการที่มีคุณภาพ และประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ซึ่งลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV รุ่น ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี และล่าสุด ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ จะได้รับความสะดวกสบายและอุ่นใจ ทุกที่ทุกเวลา มั่นใจกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV แรงทรงพลัง และประหยัดน้ำมัน ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายปี พ.ศ. 2593 ของฮอนด้าทางด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งไปสู่สังคมปลอดมลพิษ โดยติดตั้ง อยู่ในยนตรกรรมหลากหลายรุ่น อาทิ ฮอนด้า เอชอาร์–วี อี:เอชอีวี ใหม่ และฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยป้องกันและลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่สะท้อนความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยเพื่อสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุ สำหรับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เป็นการผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม–ไอออน ที่มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัดสามารถเก็บประจุไฟและช่วยชาร์จไฟโดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มอบการขับเคลื่อนที่ทรงพลัง ตอบสนองทันใจ ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ และสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่เพื่อให้เหมาะสมที่สุดในทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด ทั้งโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และ โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) มั่นใจกับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้ ยังมั่นใจได้ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ที่สำคัญคือ มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาใกล้เคียงกับรถที่ใช้น้ำมัน มั่นใจและอุ่นใจด้วยศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมทีมงานที่เชี่ยวชาญ มั่นใจมากยิ่งขึ้นเพราะสามารถเข้ารับบริการได้ที่เครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรทั้ง228 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ ที่ให้บริการด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ในระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV พร้อมทั้งบริการพิเศษที่มอบความสะดวกสบายและอุ่นใจ ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งการนัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้าผ่านทาง “Online Service Booking” บริการเช็กระยะแบบฝากกุญแจ “Honda Drop & Go” บริการเช็กระยะแบบเร่งด่วนตามระยะทาง “Honda Quick Service” รวมทั้งบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่24 ชั่วโมง ฯลฯ และนี่คือ “ความมั่นใจ” ที่ผู้บริโภคมีต่อ “ฮอนด้า” ซึ่งสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ การดำเนินชีวิต ผ่านระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งบริการหลังการขายและเครือข่ายศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมให้บริการด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ตอกย้ำความสำเร็จของฮอนด้าในฐานะผู้นำรถยนต์อันดับหนึ่งในหลายเซกเมนต์เป็นเวลายาวนาน
“เบนซ์ไพรม์มัส” เดินหน้าส่งมอบ Ultra Luxury SUV
“เบนซ์ไพรม์มัส” สร้างมาตรฐานบริการใหม่ เสริมภาพลักษณ์ซับแบรนด์สุดหรู Mercedes-Maybach มุ่งขยายฐานรับลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ เดินหน้าส่งมอบ Ultra Luxury SUV คันแรกในไทย ให้แก่ “ดิว-วีรวัฒน์ วลัยเสถียร” เจ้าของธุรกิจปลาสวยงาม คุณวีรวัฒน์ วลัยเสถียร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เฉียน หวู่ จำกัด ให้เกียรติรับมอบ Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium รถยนต์ Ultra Luxury SUV สีทูโทน คันแรก ที่จำหน่ายจากโชว์รูมและศูนย์บริการ “เบนซ์ไพรม์มัส” โดยมี “ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ” ประธาน, “จิระพล รุจิวิพัฒน์” กรรมการผู้จัดการ และ “ศราวิช ไชยมังกร” ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด ให้การต้อนรับและส่งมอบรถยนต์รุ่นดังกล่าว พร้อมถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน ณ โชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ Mercedes-Maybach บนถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา คุณณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz, Mercedes-AMG, Mercedes-EQ และ Mercedes-Maybach อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทแม่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” ได้มีนโยบายจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Maybach ซับแบรนด์ระดับUltra Luxury ของแบรนด์ Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยนำเข้าและเปิดตัวรถยนต์ SUV ระดับหรูขนาดใหญ่ รุ่นใหม่ล่าสุด Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium ซี่งถือเป็นรถยนต์ Flagship ในการสร้างภาพลักษณ์ที่สำคัญของ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” นอกจากนี้ ยังเป็นการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายระดับ Ultra Luxury และเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อการเพิ่มยอดจำหน่ายและการดำเนินธุรกิจของ “เบนซ์ไพรม์มัส” ที่ได้รับสิทธิ์เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์Mercedes-Maybach อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ล่าสุด “เบนซ์ไพรม์มัส” ได้ดำเนินการส่งมอบรถยนต์ Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium สีทูโทน คันแรก จากโชว์รูมและศูนย์บริการ Mercedes-Maybach ของเรา ให้แก่ลูกค้าคนพิเศษ “ดิว-วีรวัฒน์ วลัยเสถียร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เฉียน หวู่ จำกัด นักธุรกิจระดับชั้นแนวหน้าด้านการนำเข้าและส่งออกปลาสวยงาม ดิว-วีรวัฒน์ วลัยเสถียร กล่าวว่า ผมชื่นชอบและสนใจรถยนต์ Mercedes-Maybach มากว่า 10 ปี ด้วยความที่เป็น แบรนด์ระดับลักชัวรี่ที่มีประวัติยาวนาน มีเทคโนโลยีทันสมัย และที่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ คือ เป็นงานHandmade ทั้งงานไม้และงานหนัง ให้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร เมื่อ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” ได้นำแบรนด์ Maybach เข้ามาขายในไทย และแต่งตั้ง “เบนซ์ไพรม์มัส” เป็นดีลเลอร์ ผมจึงรู้สึกมั่นใจ เพราะ “เบนซ์ไพรม์มัส” เป็นดีลเลอร์ที่มีมาตรฐานการบริการสูง ดูแลเอาใจใส่ทุกคนเป็นคนพิเศษ มีรถให้เลือกและทดลองขับมาก ที่สำคัญ มีบริการครบวงจรและมีประสิทธิภาพ ผมจึงตัดสินใจเลือกซื้อรถรุ่นนี้กับที่นี่ ส่วน Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium คันนี้ เป็นรถ SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ทั้งความหรูหรา สะดวกสบาย และบ่งบอกตัวตนของผมได้อย่างชัดเจน จากสีและลายไม้ ที่ผมสามารถเลือก Mix & Match ได้ตามต้องการ ทำให้เป็นรถที่ผมชอบและถูกใจมาก” ดิว-วีรวัฒน์กล่าว คุณจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับ Mercedes-Maybach นับเป็นอัครยานยนต์ระดับ Ultra Luxury ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีและความหรูหราที่ผสานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในฐานะที่ได้รับสิทธิ์การเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Maybach เราจึงให้ความสำคัญและยกระดับการบริการ ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ลูกค้าคนสำคัญ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างและเหนือระดับในการเลือกชมและเป็นเจ้าของรถยนต์ Mercedes-Maybach อย่างแท้จริง พร้อมมอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่คัดสรรพิเศษ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบและครบถ้วน” นอกจากนี้ เราได้คัดสรรบุคลากรด้านการขายและบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ ประสบการณ์ความชำนาญ และผ่านมาตรฐานการรับรองจาก MBTh เพื่อจัดตั้งเป็นทีมงานพิเศษ สำหรับดูแลการบริการที่ครอบคลุมทุกมิติ ให้แก่ลูกค้าคนสำคัญของ Mercedes-Maybach ทุกท่าน รถยนต์ Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium เป็นรถยนต์ SUV ระดับหรู ที่ได้รับการประกอบขึ้นอย่างประณีตภายใต้ Concept One-Man One-engine อันเป็นเอกลักษณ์ ถ่ายทอดพละกำลัง ด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 Bi-Turbo ขนาด 3,982 ซี.ซี.พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้สามารถถ่ายทอดกำลังได้สูงถึง 557 แรงม้าและแรงบิด 730 นิวตันเมตร พุ่งทยานด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.9 วินาที พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยอย่างครบครัน มีให้เลือกทั้งสี Single Tone หรือสี Two Tone ในราคาจำหน่าย 18,500,000 ล้านบาท ผู้สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์ Mercedes-Maybach สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ “เบนซ์ไพรม์มัส” โทร. 02 095 5555, www.benzprimus.com , FB : Benz Primus และ LINE @benzprimus
VOLT รถไฟฟ้าตัวใหม่จากจีนเตรียมเข้าไทย
บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถ SUV มัลติแบรนด์แห่งแรกของไทย และเป็นผู้จัดจำหน่าย แบรนด์ DSFK หรือ DONGFENG ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของจีน แต่ผู้เดียวในประเทศไทย ได้ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่าจะเปิดตัวรถไฟฟ้าภายในปีนี้ ล่าสุดคณะผู้บริหารเตรียมพร้อมเปิดตัว Volt City EV โอกาสนี้ ใคร่ขอรบกวนพิจารณานำเสนอข้อมูลเผยแพร่ตามความเหมาะสม จักเป็นพระคุณยิ่ง คุณพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ อีวี ไพรมัส “ประกาศลุยเต็มสูบเมื่อต้นปี ซุ่มนำเข้ารถอีวีซิตี้คาร์ โวลต์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองมาเปิดตลาด ในราคาไม่เกิน 4 แสน โดยปล่อยรูปและสเปคคร่าวๆ ผ่านเฟซบุ้ค Volt City EV สร้างกระแสก่อนประกาศราคา สเปคแน่น ๆ พร้อมโปรโมชั่นอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้”