BENZ PRIMUS ประกาศต้อนรับหน้าฝนนี้ ด้วยสิ่งดีๆ สำหรับลูกค้า “เบนซ์ไพรม์มัส“ เพิ่มความมั่นใจ ขับขี่ปลอดภัยไร้ COVID มอบโปรรับหน้าฝน ตรวจเช็กสภาพรถ ฟรี! 72 รายการ ส่วนลดอะไหล่แท้สูงสุด 20% มอบ Premium Gift ทันที เมื่อมียอดใช้จ่าย 5,000บาทขึ้นไป เร่งขานรับนโยบายรัฐ ส่งพนักงานทุกคนฉีดวัคซีน COVID-19 ครบ แถมบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคในรถ ฟรี! เริ่ม 1 มิ.ย. – 31 ก.ค.64 เฉพาะที่ “เบนซ์ไพรม์มัส” เท่านั้น คุณณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด บริษัทในเครือทีโอเอ เวนเจอร์โฮลดิ้ง (TOAVH) ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่างเป็นทางการ เปิดเผยว่า จากนโยบายของ “เบนซ์ไพรม์มัส” ที่มุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจสูงสุด ทั้งด้านการขายและบริการหลังการขายให้แก่ลูกค้าเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องการดูแลรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยในทุกเส้นทางการขับขี่ ที่สำคัญ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้านบริการหลังการขายกับบริการมาตรฐานระดับโลก ด้วยการจัดแคมเปญพิเศษต้อนรับฤดูฝน โดยเชิญชวนลูกค้า “เมอร์เซเดส-เบนซ์” และ “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” นำรถยนต์เข้ารับบริการตรวจเช็กสภาพ พร้อมส่วนลดและข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ มากมาย ที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ “เบนซ์ไพรม์มัส” พร้อมขานรับนโยบายของภาครัฐ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ด้วยการให้พนักงานทุกภาคส่วนเข้ารับการฉีดวัคซีน COVID-19 ครบทุกคน และเพิ่มบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรค ภายในห้องโดยสารรถยนต์ทุกคัน ทั้งก่อนและหลัง เข้ารับบริการ ที่ศูนย์บริการฯ “เบนซ์ไพรม์มัส” โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น คุณจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยความห่วงใยด้านความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงฤดูฝน ทาง “เบนซ์ไพรม์มัส” จึงขอเชิญชวนลูกค้า “เมอร์เซเดส-เบนซ์” และ “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” นำรถยนต์เข้ารับบริการภายในศูนย์บริการฯ “เบนซ์ไพรม์มัส” รับมอบแคมเปญพิเศษ…
Year: 2021
โครงการ ‘i-rEzEPT’
จากการที่คนใช้ นิสสัน ลีฟ โดยการเชื่อมต่อรถยนต์ไฟฟ้าเข้ากับระบบโครงข่ายไฟฟ้าของภาครัฐ และเอกชนได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจในระหว่างการทดลองระบบ เป็นเวลากว่าหนึ่งปีที่ผู้เข้าร่วมโครงการไม่เพียงแต่จะได้รับความพึงพอใจในด้านการขับขี่ แต่ยังได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้าที่สร้างขึ้นเองเพื่อใช้สำหรับที่พักอาศัย ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ให้สัมภาษณ์ และรีวิวการใช้งานที่ผ่านมาอีกด้วยการทดสอบภาคสนามในฐานะผู้บุกเบิกด้านยานยนต์ไฟฟ้านิสสัน ได้นำ ลีฟ รถยนต์ไฟฟ้า 100% และอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไปติดตั้งที่บ้าน 13 หลังในประเทศเยอรมนี โดยทุกหลังจะต้องมีระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์อยู่แล้ว โดยเป้าหมายคือการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ผลิตเองในครัวเรือนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการใช้พลังงานจากระบบโครงข่ายไฟฟ้า และลดค่าใช้จ่ายสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การใช้ประโยชน์จากการชาร์จแบบสองทิศทางถือเป็นเอกลักษณ์ของนิสสัน ลีฟ หรือที่เรียกว่า V2G(vehicle-to-grid) เทคโนโลยีถ่ายเทพลังงานจากยานพาหนะสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้า โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ สามารถใช้นิสสัน ลีฟสำหรับเก็บพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ของแผงโซลาเซลล์บนหลังคาบ้านในแบตเตอรี่ของนิสสัน ลีฟ และหากจำเป็นก็สามารถนำพลังงานไฟฟ้าจากรถไปใช้ในครัวเรือนหรือย้อนกระแสไฟฟ้าคืนสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้า นิสสันเปิดตัวโครงการ “i-rEzEPT” ย่อมาจาก “intelligent regenerative electric vehicles for self-power maximisation and primary control market participation” หมายถึง รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่นำพลังงานกลับมาใช้ใหม่เพื่อเพิ่มพลังในตัว และสามารถกำหนดการมีส่วนร่วมในตลาด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย และยังเน้นถึงบทบาทของรถยนต์ไฟฟ้าในการรักษาเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้าของภาครัฐและเอกชน ซึ่งได้ร่วมกับ บ๊อช ไอโอ (Bosch.IO) สถาบันฟรอนโฮเฟอร์ ไอเอฟเอเอม (Fraunhofer Institutes IFAM) และ ไอเอโอ (IAO) การร่วมทุนครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งสหพันธรัฐเยอรมนี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการระดมทุนสำหรับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่มีมูลค่ารวมถึง 2.39ล้านยูโร สเตฟาน ซอนน์ทาก ผู้จัดการโครงการการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (E-Mobility) จาก นาว จีเอ็มบีเอช (Stefan Sonntag, Program…
รถจักรยานยนต์ฮอนด้าชวน “ฝึกคิด ขี่ฉลาด”
ในการเรียนรู้การคาดการณ์อุบัติเหตุ ฝึกง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์โครงการ APT โดยศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ห่วงใยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ใช้ท้องถนนในเมืองไทย ร่วมเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุผ่านโปรแกรมฝึกทักษะคาดการณ์อุบัติเหตุ ภายใต้แนวคิด “ฝึกคิด ขี่ฉลาด” บนเว็บไซต์ www.hondasafetyAPT.com ที่จำลองสถานการณ์หลากหลายรูปแบบให้เข้าใจง่ายและได้ความรู้ สามารถช่วยเสริมสร้างทักษะในการตัดสินใจ หวังลดความเสี่ยงจากการประเมินสถานการณ์ผิดพลาดของผู้ขับขี่ จากผลโครงการวิจัยเพื่อเมืองไทยไร้อุบัติเหตุ จัดทำโดยศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย (Thailand Accident Research Center-TARC) ภายใต้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เมื่อเร็วๆ นี้ได้ทำการวิจัยจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริงจำนวน 1,000 กรณีศึกษา ระหว่างปี 2559-2563 โดยผลการวิจัยระบุว่า ในกลุ่มอุบัติเหตุที่มีสาเหตุจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 49 เกิดจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด (Perception Failure) รองลงมาร้อยละ 32 เกิดจากผู้ขับขี่ตัดสินใจผิดพลาดขณะเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉิน (Decision Failure) และร้อยละ 13 เกิดจากผู้ขับขี่ควบคุมรถผิดพลาด (Reaction Failure) สำหรับสาเหตุหลักนี้สะท้อนว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ยังขาดทักษะด้านการคาดการณ์อุบัติเหตุ อีกทั้งไม่สามารถตัดสินใจได้ทันที และทำการควบคุมรถเพื่อหลบหลีกการชนหรืออุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ในฐานะผู้นำในการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2532 จึงเสนอหนึ่งในวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ผู้ขับขี่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ คือ โครงการ APT (Accident Prediction Training) หรือฮอนด้าฝึกทักษะการคาดการณ์อุบัติเหตุ ภายใต้แนวคิด “ฝึกคิด ขี่ฉลาด” ผ่านการใช้โปรแกรมฝึกทักษะคาดการณ์อุบัติเหตุในรูปแบบ Interactive Animation ที่เข้าใจง่าย ได้ความรู้ และมีความสนุกสนานเหมือนกำลังเล่นเกมบนเว็บไซต์ www.hondasafetyAPT.com โดยเนื้อหาในเว็บไซต์ประกอบด้วยแบบจำลองอุบัติเหตุถึง 70 เคส ที่จำลองสถานการณ์ต่างๆ จากผลวิจัยอุบัติเหตุ ให้ผู้ใช้งานได้เห็นกระบวนการก่อนเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงฝึกประเมินจุดเสี่ยงและรับฟังคำแนะนำวิธีการขับขี่ เสริมสร้างทักษะให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาเมื่อพบกับสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่คาดคิด ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเรียนรู้ฝึกทักษะคาดการณ์อุบัติเหตุ เพื่อช่วยการตัดสินใจอย่างแม่นยำขณะใช้รถใช้ถนน สามารถคลิกเข้าไปได้ที่ www.hondasafetyAPT.com รวมถึงติดตามข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้าได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก : facebook.com/HondaSafetyThailand และเว็บไซต์ : hondasafety.thaihonda.co.th…
มาสด้าปรับทัพ
การบริหารองค์กร เพื่อรองรับการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล มาสด้า ดัน ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กำหนดกลยุทธ์การขาย การตลาด ดีลเลอร์และลูกค้าขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูง มาสด้าปรับทัพผู้บริหารรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลที่กำลังรุกคืบเข้าสู่สังคมไทยอย่างรวดเร็ว โดยมอบหมายให้ นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ขยับขึ้นดำรงตำแหน่ง รองประธานบริหารอาวุโส เพื่อเข้ามากำกับดูแลในส่วนของการกำหนดกลยุทธ์การขาย การตลาด และการพัฒนาธุรกิจของมาสด้า เนื่องจากปัจจุบันโลกของธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่หยุดนิ่ง เกิดโอกาสใหม่ เกิดความท้าทาย และความเป็นไปได้มากมาย มาสด้าต้องยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้นการปรับทัพในครั้งนี้จะทำให้องค์กรสามารถปรับตัวเข้ากับการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล และขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เร่งสร้างการเติบโตให้ยั่งยืนภายใต้การทำงานเป็นทีม หรือ One Mazda ปัจจุบัน นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ดำรงตำแหน่ง รองประธานบริหาร กำกับดูแลรับผิดชอบในส่วนงานการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ ถูกแต่งตั้งให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รองประธานบริหารอาวุโส เพื่อกำกับดูแลในส่วนสำคัญขององค์กรระหว่างประเทศ ทั้งสายงานด้านการขาย กลยุทธ์ด้านการตลาด การกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารงานองค์กร การพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ การสื่อสารการตลาด การตลาดดิจิทัล การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาธุรกิจและเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ และรัฐกิจสัมพันธ์ ที่สำคัญคือการมุ่งมั่นเพื่อที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดและสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป คุณชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แสดงวิสัยทัศน์ในการเข้ามาบริหารองค์กรระหว่างประเทศท่ามกลางวิกฤตที่คนทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ว่า “ด้วยสปิริตและความมุ่งมั่นที่เป็นเสมือนดีเอ็นเอมาสด้ามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า การปรับทัพเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโลกการค้าเสรียุคดิจิทัลในครั้งนี้ จะสามารถนำพาให้องค์กรก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกยุคดิจิทัลมีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทั้งในการเลือกซื้อรถและความพึงพอใจของลูกค้า…
ยามาฮ่าเดินหน้าร่วมต้านโควิด-19
ในการสนับสนุนลังกระดาษสำหรับการสร้างเตียงสนามเพื่อผู้ป่วยโควิด จำนวน 100 เตียง จากยามาฮ่า คุณสมเกียรติ พูลขวัญ รองผู้จัดการใหญ่ด้านบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ทำการส่งมอบลังกระดาษจำนวนกว่า 1,800 กิโลกรัม ให้กับ คุณพิชิต สมบัติมาก ผู้ช่วยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยลังกระดาษที่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมมอบในครั้งนี้จะถูกส่งต่อไปให้กับ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท SCG Packaging นำไปรีไซเคิลเพื่อทำเป็นเตียงสนามสำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 100 เตียง และทำการส่งต่อให้กับโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ สำหรับการส่งมอบลังกระดาษสำหรับทำเตียงสนามช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้ มีขึ้น ณ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด นับเป็น 1 ในโครงการ ”ยามาฮ่าร่วมใจต้านภัยโควิด-19” ที่ยามาฮ่าดำเนินมาอย่างต่อเนื่องโดยเริ่มต้นโครงการนี้ตั้งแต่การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย
ยามาฮ่า รับประกัน 5 ปี
ยามาฮ่า” มั่นใจคุณภาพสินค้า กล้ารับประกัน 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตรเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียว ตอกย้ำความเป็นผู้นำแบรนด์อย่างโดดเด่นและแตกต่าง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำในแบรนด์รถจักรยานยนต์ของประเทศไทยที่กล้ารับประกันคุณภาพสินค้าทั้งคันตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 5 หมื่นกิโลเมตร สำหรับลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกรุ่นขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 500 ซีซี ที่ได้ลงทะเบียนรับประกันคุณภาพสินค้าหลังจากวันที่ซื้อสินค้า จะได้สิทธิ์รับประกันคุณภาพทุกชิ้นส่วนเป็นเวลา 5 ปี หรือ 50,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ไม่รวมอะไหล่สึกหรอตามอายุการใช้งาน ทั้งนี้ต้องนำรถเข้าตรวจเช็กตามระยะที่บริษัทฯกำหนด โดยสามารถรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2564 นอกจากนี้ ยังยกระดับมาตรฐาน สู่การบริการระดับโปรแคร์ พร้อมบริการหลังการขายให้รถจักรยานยนต์พร้อมใช้งานตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนด และเพิ่มความมั่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมเพิ่มบริการ Road Side Service “มากกว่า…ด้วยความอุ่นใจ บริการคุณ ทุกช่วงเวลาฉุกเฉิน” ในกรณีที่รถเกิดปัญหาฉุกเฉินไม่สามารถขับขี่ต่อได้ โดยลูกค้ายามาฮ่าทุกคันจะได้รับสิทธิ์การบริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี หรือ 12,000 กม. เพียงติดต่อที่ Yamaha Call Center : 0-2263-9999
เมษายน โตโยต้า ยอดขายเพิ่มเกือบ 100%
ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2564 เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มีปริมาณการขาย58,132 คัน เพิ่มขึ้น 93.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 92.4% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 93.1% โดยได้รับปัจจัยบวกจากข้อเสนอพิเศษ และกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มีการแข่งขันกันกันอย่างรุนแรงในช่วงงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อลูกค้าในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์รุ่นที่อยู่ในความสนใจ และมีความต้องการในการใช้งาน โดยยอดจองในงานดังกล่าว รวมทั้งที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ทั่วประเทศกำลังทยอยส่งมอบถึงมือลูกค้า คุณสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2564 เติบโตทะลุ 90% ทุกตลาด โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 58,132 คัน เพิ่มขึ้น 93.1% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 16,988 คัน เพิ่มขึ้น 92.4% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 41,144 คัน เพิ่มขึ้น 93.1% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 32,605 คัน เพิ่มขึ้น 94.9% ส่วนตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมมีแนวโน้มชะลอตัว สืบเนื่องจากความกังวลต่อการระบาดของไวรัส COVID 19 ในรอบที่ 3 มีความรุนแรงกว่าที่คาดการไว้ ส่งผลด้านลบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม และทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีจากความพยายามของภาครัฐ โดยกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การสนับสนุนเป็นอย่างดีจากองค์กรเอกชนทุกภาคส่วน ผนึกกำลังในการร่วมคลี่คลายสถานการณ์ ทำให้ยังพอมองเห็นทางออกในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ รวมทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีโอกาสกลับมาได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ หลังจากการดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้รับการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2564 ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 58,132 คัน เพิ่มขึ้น 93.1% อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,150 คัน เพิ่มขึ้น 72.8% ส่วนแบ่งตลาด 32.9% อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,953 คัน เพิ่มขึ้น 117.8% ส่วนแบ่งตลาด 25.7% อันดับที่ 3 ฮอนด้า 5,419 คัน เพิ่มขึ้น 104.6% ส่วนแบ่งตลาด 9.3% ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 16,988 คัน เพิ่มขึ้น 92.4% อันดับที่ 1 โตโยต้า 4,956 คัน เพิ่มขึ้น 70.5% ส่วนแบ่งตลาด 29.2% อันดับที่ 2 ฮอนด้า 4,437 คัน เพิ่มขึ้น 99.1% ส่วนแบ่งตลาด 26.1% อันดับที่ 3 มาสด้า 2,296 คัน เพิ่มขึ้น 114.2% ส่วนแบ่งตลาด 13.5% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 41,144 คัน เพิ่มขึ้น 93.1% อันดับที่ 1 อีซูซุ 14,953 คัน เพิ่มขึ้น 117.8% ส่วนแบ่งตลาด 36.3% อันดับที่ 2 โตโยต้า 14,194 คัน เพิ่มขึ้น 73.6% ส่วนแบ่งตลาด 34.5% อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,777 คัน เพิ่มขึ้น 130.5% ส่วนแบ่งตลาด 6.7% ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ…
เบนซ์ สตาร์แฟลก ไอเดียสุดปัง เปิดบริการวิถีใหม่สุดเอ๊กซ์คลูซีฟ
“Private Showroom” เป็นครั้งแรกกับการชมรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี แบบส่วนตั๊วส่วนตัว เพิ่มความปลอดภัยยิ่งกว่า และดีลพิเศษที่ดีกว่า เริ่มต้น 1 มิถุนายนนี้ เบนซ์ สตาร์แฟลก ชวนเปิดประสบการณ์ใหม่กับการบริการวิถีใหม่สุดเอ๊กซ์คลูซีฟ “Private Showroom”เปิดโซนพิเศษให้ลูกค้าได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เพื่อสัมผัสกับรายละเอียดความโดดเด่น ล้ำสมัย ของรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ในดวงใจแบบส่วนตัวมากๆ พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสุดๆ คุณชยุส ยังพิชิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่างเป็นทางการ กล่าวว่า “ควบคู่ไปกับการบริการวิถีใหม่ #STAYHOME Service ในการบริการนำรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี รุ่นใหม่ๆ ไปให้ลูกค้าได้ลองขับถึงบ้าน ซึ่งได้รับความสนใจและลูกค้ามีความพึงพอใจกับบริการนี้มาก ล่าสุด เบนซ์ สตาร์แฟลก ยังได้เพิ่มบริการใหม่สุดเอ๊กซ์คลูซีฟ “Private Showroom” เปิดโซนพิเศษให้เป็นโชว์รูมส่วนตัว เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการเดินทางมาชมรถแต่ละรุ่นที่สนใจมีความปลอดภัยและสบายใจ โดย เบนซ์ สตาร์แฟลก ยังจัดโปรโมชั่นเพิ่มให้เป็นพิเศษด้วย “Private Showroom” เป็นการจัดพื้นที่ Private Area บนชั้น 6 ของ เบนซ์ สตาร์แฟลก ให้เป็นเสมือน Private Gallery ส่วนตัวของลูกค้า โดยในแต่ละครั้งที่นัดหมายลูกค้าสามารถขอชมรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี รุ่นใหม่ๆ ที่ต้องการชมพร้อมๆ…
GPI สมทบทุนรพ.บุษราคัม
คณะผู้บริหารบริษัทกรังด์ปรีซ์ฯ มอบเงิน 200,000 บาท สมทบทุนรพ.บุษราคัม รักษาผู้ป่วยโควิด-19 บริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้นำสื่อด้านยานยนต์ และผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ พร้อมส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ด้วยการมอบเงินสมทบทุนจำนวน 200,000 บาท ให้กับโรงพยาบาลบุษราคัม กระทรวงสาธารณสุข ที่อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านการตลาดและการขาย, คุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านพัฒนาธุรกิจ และคุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านผลิตสื่อ ร่วมมอบเงินสมทบทุนช่วยเหลือ 200,000 บาท โดยนายแพทย์มณเฑียร เพ็งสมบัติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมคณะทำงานของโรงพยาบาลบุษราคัม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 สำหรับโรงพยาบาลบุษราคัม ทางกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งขึ้นที่อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี…
ROLLS-ROYCE ‘BOAT TAIL’ อัครยานยนต์เพียงหนึ่งเดียว
Rolls-Royce เผยโฉมสุดยอดยนตรกรรมสั่งผลิตตัวถังพิเศษ ‘Boat Tail’ สำหรับ ‘Boat Tail’ คือยนตรกรรมที่รังสรรค์ขึ้นพิเศษอย่างแท้จริง เป็นตัวแทนของความร่วมมือแนวทดลองของความหรูหรา งานออกแบบ และวัฒนธรรมระหว่างแบรนด์และลูกค้า การรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษ (Coachbuild) อนุญาตให้ลูกค้าแสดงศักยภาพในการแสดงออกถึงรสนิยมส่วนบุคคล แผนก Rolls-Royce Coachbuild คือการมีส่วนร่วมของลูกค้าในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมร่วมสมัยอย่างแท้จริง Rolls-Royce ตอบรับกระแสการรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษเมื่อปีพ.ศ. 2560 ด้วยการเปิดตัว ยนตรกรรม‘Sweptail’ การย้อนกลับไปในอดีต การรังสรรค์ตัวถังรถเป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ Rolls-Royce ในการเล่าเรื่องเกี่ยวกับ Rolls-Royce ของยุคปัจจุบันถูกเล่าผ่านปรัญชาของการบริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) แต่ครั้งนี้เป็นมากกว่าบีสโป๊ก เมื่อแผนก Rolls-Royce Coachbuild พาเราย้อนกลับไปยังรากเหง้าของแบรนด์ ที่สะท้อนถึงโอกาสสำหรับลูกค้าบางรายที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ที่สุดของผลงานที่มีเอกลักษณ์บ่งบอกถึงการสั่งผลิตพิเศษเฉพาะบุคคลที่จะเป็นประวัติศาสตร์สำคัญในอนาคตRolls-Royce รับฟังลูกค้าคนสนิทอย่างตั้งใจ ลูกค้าผู้ซึ่งแสดงเจตจำนงในการสานสัมพันธ์กับแบรนด์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ท้าทายที่บ่งบอกถึงความหรูหราที่แท้จริง Rolls-Royce Boat Tail ไม่ใช่เป็นเพียงแนวคิดที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อพาลูกค้าย้อนยุคกลับไปในอดีต แต่ในทางตรงข้าม Rolls-Royce มีความเชื่อในยนตรกรรมที่สั่งผลิตพิเศษ และ Boat Tail คือสุดยอดแห่งความร่วมมือตลอดระยะเวลา 4 ปีระหว่างแบรนด์และลูกค้าคนพิเศษสุด ลูกค้าของแผนกRolls-Royce Coachbuild จะมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนในการสร้างสรรค์และงานวิศวกรรม เราทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างกลมเกียวเพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งในความแตกต่างระหว่างบุคลิกและตัวตนของพวกเขา เพื่อถ่ายทอดคุณสมบัติเหล่านี้สู่องค์ประกอบต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องการที่จะสั่งทำขึ้นพิเศษ มีเพียงสำนักงานใหญ่ของโรลส์-รอยซ์เท่านั้นที่สามารถมอบโอกาสสุดพิเศษแก่ลูกค้าของแผนกตัวถังรถแบบ สั่งทำพิเศษในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมครั้งสำคัญแห่งประวัติศาสตร์สำหรับอนาคต นี่คือพื้นฐานของความมีเอกลักษณ์เมื่อเจ้าของยนตรกรรมสามารถมีส่วนร่วมในทุกรายละเอียดของการรังสรรค์ผลงาน นี่คือแก่นแท้ของความหรูหรา นี่คือการมีส่วนร่วมของลูกค้าในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมร่วมสมัยอย่างแท้จริง นี่คือ Rolls-Royce Coachbuild”