YAMAHA ?Tracer 900 GT

เริ่ม⚡️ผ่อนคลายล็อคดาวน์แล้ว หลายๆ คนกำลังมองหา รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจสักคัน ขับขี่ออกเที่ยวต่างจังหวัด ไปพักผ่อนชิลๆ คนเดียว ไปกับเพื่อน หรือพาแฟนซ้อนท้ายไปด้วยกัน YAMAHA ?Tracer 900 GT ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง แรง ครบ จบ เที่ยวได้ไกล ออกรถวันนี้ 0 บาท ไฟแนนซ์ผ่าน เก็บเสื้อผ้าพร้อมออกทริปได้เลย  #YamahaRidersclubThailand  #YamahaBigbike  #SportTouring  #Tracer900GT  

 
Read More

New Honda CT125 กับคอนเซปต์ ได้เวลา… ออกนอกเส้นทาง

เอ.พี. ฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย สร้างสรรค์เทรนด์การขับขี่รูปแบบใหม่ให้กับวงการ ฯ อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุด New Honda CT125 (นิว ฮอนด้า ซีทีหนึ่งสองห้า) รถเลเชอร์ไบค์ (Leisure Bike)ดีไซน์เฉพาะตัว สานตำนานอันโด่งดังจากยุค 60s ของ Original CT Series ผสานเทคโนโลยียุคใหม่ พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 125ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FIติดตั้งการ์ดเครื่องยนต์ (Engine Guard) ที่แข็งแกร่ง มาพร้อม CARRIER แร็คหลังขนาดใหญ่ และท่อไอเสียพร้อมกรองอากาศแบบยกสูง เพื่อการลุยน้ำลึกและการผจญภัยแบบเทรล (TRAIL) มั่นใจด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมระบบเบรกหน้าแบบ ABS และยางดูอัลเพอร์เพิส (Dual Purpose Tire) วางจำหน่ายที่เมืองไทยเป็นประเทศแรกของโลก New Honda CT125  ราคาแนะนำเพียง 84,900 บาท สำหรับรุ่นมาตรฐาน ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยเวอร์ชั่นเสริมชุดแต่งจาก H2C แบรนด์อะไหล่แต่งรถจากฮอนด้า มีให้เลือก 2 สไตล์ ได้แก่ City Trail ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน ราคาแนะนำ 95,900บาท และ Country Trekking มีจำนวนจำกัดเพียง 50 คัน ราคาแนะนำ 108,900 บาท ที่ร้านไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ CUB House ทุกสาขาทั่วประเทศ มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “เทรนด์ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคใหม่ รถในกลุ่มมูลค่าเพิ่มมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดใน 4 เดือนแรกของปี 2020 ก็ยังคงมีการเติบโตมากถึง 20% โดยหลักๆ แล้วการเติบโตนี้มาจากความนิยมในกลุ่มยังเจนที่เติบโตในยุคโซเชียลมีเดียและมีพฤติกรรมชอบความสนุกท้าทายโดยเฉพาะในมุมของการท่องเที่ยวแบบเอาท์ดอร์ลุยไปกับธรรมชาติ ไปยังสถานที่ๆ ใหม่ๆ…

 
Read More

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบข้อเสนอพิเศษ

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มอบข้อเสนอสุดพิเศษ ‘ขับฟรี 90 วัน’ สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นใดก็ได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และรับรถภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 นี้ เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อกับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ พิเศษสำหรับ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ โดยยังคงจำหน่ายในราคาพิเศษช่วงแนะนำ 899,000 บาท จนถึง 30 มิถุนายน 2563 เมื่อรับรถภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 นี้  พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี ฟรีรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ ฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สำหรับลูกค้าที่ซื้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่, มิตซูบิชิ ไทรทัน, มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์, มิตซูบิชิแอททราจ ใหม่ และ มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ สามารถเลือกรับข้อเสนอพิเศษ ‘ดาวน์ 0% และ มิตซูบิชิช่วยผ่อนนาน 10 เดือน’ พร้อมรับ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี ฟรีรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ ฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อนึ่ง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ ลูกค้าสามารถเลือกรับข้อเสนอพิเศษ ‘ดาวน์ 0%และ มิตซูบิชิช่วยผ่อนนาน 10 เดือน’ หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 2ปี พร้อมกันนี้ลูกค้ายังได้รับฟรีแพคเกจ 5 ปี ดูแลดีถึงใจ ประกอบด้วยฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี และ ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง…

 
Read More

ฟอร์ดพาคุณกลับสู่ท้องถนน

หลายเดือนที่ผ่านมา หลายคนคงไม่ได้ออกจากบ้านเป็นเวลานาน เพราะต้องงดออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายและการติดโรคโควิด-19 หลายคนรอคอยที่จะเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปร้านอาหารร้านโปรด หรือแม้กระทั่งไปท่องเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดกับครอบครัวหรือคนที่คุณรัก ดังนั้น คงไม่แปลกหากจำนวนรถบนท้องถนนจะสูงขึ้นหลังจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ที่มักจะมีการจราจรที่หนาแน่น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์  เพื่อความพร้อมและเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ หลังไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน การตรวจเช็ครถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมใช้งานก่อนออกเดินทางจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน  ฟอร์ด รวบรวมเคล็ดลับในการเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง และการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในรถยนต์ฟอร์ดที่สามารถช่วยให้คุณและครอบครัวเดินทางไปถึงจุดมุ่งหมายได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ยังต้องใช้รถใช้ถนนอย่างระมัดระวัง และเคล็ดลับต่อไปนี้ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายขณะขับขี่ได้อีกด้วยก่อนออกจากบ้าน อย่าลืมตรวจเช็คจุดต่างๆ ของรถยนต์ ดังนี้ 1.ตรวจสอบ แบตเตอรี่ ระบบไฟ น้ำมันหล่อลื่น น้ำหรือน้ำยาหล่อเย็น เบรก ลมยาง และน้ำมันเชื้อเพลิง 2.ปรับเบาะนั่ง กระจก และเข็มขัดนิรภัย ปรับเบาะนั่งคนขับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและรู้สึกสบายทันทีที่ขึ้นนั่งบนรถ ผู้ขับขี่ไม่ควรนั่งไกลจากพวงมาลัยเกินไปจนต้องยืดแขนเหยียดตรง ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ควรนั่งใกล้พวงมาลัยเกินไปจนไม่สามารถขยับแขนได้อย่างสะดวก คุณควรนั่งห่างจากพวงมาลัยพอประมาณเพื่อสามารถบังคับควบคุมพวงมาลัยได้และไม่รู้สึกเมื่อยแขนถึงแม้จะต้องขับรถทางไกล โดยระยะห่างที่เหมาะสมควรเป็นระยะห่างที่วางข้อมือของคุณเหนือพวงมาลัยได้อย่างสบาย และข้อศอกพับเพียงเล็กน้อยเมื่อมือของคุณอยู่ในตำแหน่งสามนาฬิกาและเก้านาฬิกา นอกจากนี้ คุณควรปรับกระจกมองหลังให้อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจน ปรับกระจกมองข้างให้สามารถมองเห็นตัวรถของคุณบริเวณขอบด้านในกระจกข้างเพียงเล็กน้อย ตั้งกระจกมองหลังของคุณเพื่อสะท้อนให้เห็นจุดกึ่งกลางของด้านหลังรถของคุณ โดยคุณควรมองเห็นรถคันอื่นด้านหลังของคุณตลอดเวลา และควรปรับกระจกหากมองไม่เห็นรถที่อยู่ด้านหลังระหว่างกระจกด้านแต่ละบานเพื่อกำจัดจุดบอดก่อนที่จะออกเดินทาง ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าคุณและผู้โดยสารทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว เด็กทารกจะต้องนั่งในเบาะรถยนต์นิรภัยสำหรับเด็ก (Car Seat) บนเบาะหลัง และเด็กเล็กจะต้องนั่งบนเบาะนั่งเสริม (Booster Seat) หากมีความสูงไม่ถึงตามข้อกำหนด  ระหว่างการเดินทาง เปิดใช้งานระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อช่วยป้องกันหรือหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ดังต่อไปนี้  1.ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping Aid) ระบบนี้จะใช้กล้องหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางของถนน ซึ่งสามารถตั้งค่าการใช้งานได้ถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ โหมดการแจ้งเตือน และโหมดการช่วยรักษาช่องทาง โดยโหมดการแจ้งเตือนจะเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถกำลังเบี่ยงออกจากช่องทางด้วยการสั่นที่พวงมาลัย ขณะที่โหมดการช่วยรักษาช่องทางจะบังคับพวงมาลัยเล็กน้อยเพื่อทำให้รถกลับสู่ตรงกลางของช่องทาง…

 
Read More

โตโยต้า เปิดตัวรถยอดนิยม ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่

สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ จากโครงการ IMV ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Innovative International Multi-purpose Vehicle” ทำให้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โด่งดังไปทั่วโลก พบกับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่…Wisdom of a Leader พร้อมกันนี้ โตโยต้าได้เปิดตัวรถอเนกประสงค์สุดหรูหรา อย่างเจ้า โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีด้วยยอดขายอันดับ 1 ในตลาด PPV ตลอดมา  

 
Read More

โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มต้นโครงการ IMV ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Innovative International Multi-purpose Vehicle”  เมื่อปี พ.ศ.2547 โดยเป็นการย้ายฐานการผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย เพื่อทำการผลิตและจำหน่ายทั้งภายในประเทศ และส่งออกจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในระยะเวลาอันรวดเร็ว  โครงการ IMV เป็นโครงการพัฒนา PICK UP และ PPV ซึ่งแน่นอน กระบะหรือปิคอัพนี้ ต้องบอกว่าเริ่มต้นจากชื่อรุ่น วีโก้ และล่าสุดกับรุ่น รีโว่ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม ห้องโดยสารกว้างขวาง สมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน เป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในทุกสภาพการใช้งาน ทนทาน อัตราการดูแลรักษาต่ำ และรองรับทุกรูปแบบการใช้งานตั้งแต่ กระบะบรรทุกมาตรฐาน – สมาร์ทแค็บ – ดับเบิ้ลแค็บ   พบกับ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่…พลังแกร่งเหนือนิยาม (THE UNBEATABLE)ดร.จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค กล่าวว่า “เราเริ่มพัฒนาโปรเจคนี้ด้วยเป้าหมายที่ต้องการ “สร้างรถที่ดีที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”  โดยการลงพื้นที่เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้รถจากทั่วทุกทวีป เพื่อให้ได้ข้อมูลในการออกแบบรถที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลกมากที่สุด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกที่เรานำเสนอรถในตระกูลนี้ถึง 5 รุ่น พร้อมกัน ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยฝีมือคนไทยตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการนำเอาข้อมูลท้ังหมดที่ได้รับจากการลงภาคสนาม นำมาสู่การพัฒนา รถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ภายใต้แนวคิด TOUGHNESS FOR EVERYONE ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ” จุดขายหลักของโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ คือ การออกแบบ (Design) มีความแข็งแกร่ง ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ที่ให้ความแข็งแกร่งในทุกมิติ…

 
Read More

BMW X4 new Profile

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เสริมทัพสมาชิกตระกูล Sports Activity Coupe ที่โดดเด่นทั้งในด้านเอกลักษณ์การดีไซน์สไตล์คูเป้ไม่ซ้ำใคร ประสิทธิภาพการขับขี่ และเทคโนโลยีล้ำสมัย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport X ที่พกพานวัตกรรมการขับขี่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยูมามอบความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่อย่างเต็มเปี่ยมกว่าเคย พร้อมเสริมประสิทธิภาพและลุคสปอร์ตให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Sport X ในราคาเดิม 3,999,000 บาท บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport X ยังคงตอกย้ำรูปโฉมที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคาลาดต่ำสไตล์คูเป้ตามแบบฉบับ Sports Activity Coupe โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Sport X ที่หลอมรวมกลิ่นอายความสปอร์ตและสมรรถนะออฟโรดเข้าไว้ได้อย่างลงตัว สร้างความสะดุดตาด้วยสเกิร์ตและซุ้มล้อสี Frozen Grey การขับขี่เฉียบคมยิ่งขึ้นด้วยคาลิเปอร์เบรก M Sport มาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ทั้งกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) ระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ (BMW Head-up Display) และระบบประมวลผลล่าสุด BMW Operating System 7.0 บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport X มาพร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double-spoke และไฟหน้า Adaptive LED พร้อมระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant) หลังคาลาดต่ำสไตล์คูเป้โดดเด่นด้วยกระจกพาโนรามาที่สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ดีไซน์ภายนอกพิเศษยิ่งขึ้นด้วยองค์ประกอบสี Frozen Grey ตัดกันอย่างลงตัวกับวัสดุสีดำเงา BMW Individual high-gloss Shadow Line ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport X มอบพละกำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์…

 
Read More

MAZDA MX-5 รุ่นปี 2020

เพื่อยกระดับดีไซน์เติมเต็มความสปอร์ตพรีเมียม จากรถสปอร์ตที่เป็นตำนาน MAZDA MX-5 โดย บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด  การแนะนำรถ MAZDA MX-5 รุ่นปี 2020 ยนตรกรรมสปอร์ตโรดสเตอร์ แบรนด์ไอคอนเจเนอเรชั่นล่าสุด อันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า เจ้าตำนานแห่งความสนุกสนานในการขับขี่รุ่นหลังคาเปิดประทุนด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 อันทรงพลังที่ให้สมรรถนะความแรงสูงสุด 184 แรงม้า ยกระดับเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE อันเหนือระดับด้วยระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance พร้อมตรวจจับคนเดินถนน ตกแต่งภายในใหม่เสริมภาพลักษณ์สปอร์ตพรีเมียมด้วยเบาะหนังPerforated และเดินตะเข็บด้วยด้ายเย็บสีเทา เพิ่มคิ้วบันไดกันรอยสเตนเลสและกุญแจรีโมทดีไซน์ใหม่อันทันสมัย พร้อมตัวเลือกสีใหม่ สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ เอกลักษณ์ของมาสด้า และมอบข้อเสนอสุดพิเศษฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี และขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. ในครั้งนี้ มาสด้าได้มีโอกาสแนะนำ MX-5 รุ่นปี 2020 ซึ่งเหตุผลสำคัญในการปรับโฉมจากรุ่นที่เปิดตัวในปี 2017 และ 2018เพื่อทำให้รถ MX-5 มีคุณลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นและเป็นที่ปรารถนามากยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อเป็นการส่งมอบความสนุกสนานในการขับขี่ให้กับกลุ่มลูกค้าของมาสด้าที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ มาสด้าจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนารถ MX-5 เพื่อที่จะนำมาซึ่งความสุขที่มากยิ่งขึ้นของลูกค้าโดยมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนในเรื่องขององค์ประกอบของการออกแบบ ซึ่งตัวเลือกใหม่นี้รวมถึงสีตัวถังใหม่ สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ ที่แสดงถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามของรถ MX-5 โดยให้ความรู้สึกที่แข็งแรงอันแสดงถึงรถยนต์คุณภาพสูงและทรงพลัง MAZDA MX-5 รุ่นปี 2020 ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตที่ให้ความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่ ด้วยการออกแบบตามแนวคิด จินบะ อิไต (Jinba-Ittai) ที่ถ่ายทอดความรู้สึกความเป็นหนึ่งอันเดียวกันระหว่างคนกับรถ โดยยึดหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง ด้วยการนำเอาท่วงท่าการเดินที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์มาเป็นต้นแบบในการพัฒนาแต่ยังคงรักษาจุดเด่นของความเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขับสนุกที่สุด และโดดเด่นหรูหราด้วยรูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ทั้งสง่างาม และให้สมรรถนะทรงพลังอันมีเอกลักษณ์เฉพาะมาสด้าได้อย่างลงตัว การปรับโฉมในครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกของการก้าวเดินไปสู่อนาคตในปีที่ 31 ของ MX-5 ซึ่งมาสด้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาเพื่อที่จะนำเสนอคุณค่าที่เกินความคาดหมายให้แก่ลูกค้าและเสริมความแข็งแกร่งในจุดยืนของการเป็นแบรนด์ไอคอนของมาสด้า รวมถึงเพื่อตอกย้ำถึงพันธกิจนี้ต่อไปในอนาคต นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติม ดังนั้นการปรับโฉม MX-5 รุ่นปี 2020 จึงมาพร้อมกับการปรับแต่งภายในที่ทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยแนวทางการออกแบบตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ ที่เรียบง่ายแต่งดงาม ด้วยการปรับแต่งภายในใหม่ด้วยเบาะหนัง Perforated และเดินตะเข็บด้วยด้ายเย็บสีเทา พร้อมคิ้วบันไดกันรอยสเตนเลสเพิ่มความทันสมัยและให้ประโยชน์ใช้สอย ตกแต่งด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีดำเมทัลลิค รองรับการใช้งาน Apple CarPlay พร้อม Mazda Connect โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display ขนาด 7 นิ้ว ช่วยอำนวยความสะดวกในทุกการติดต่อ…

 
Read More

Honda Wave ขายดีสุดเพราะ…

เอ.พี. ฮอนด้า เปิดตัว  Honda Wave 100 สู่เมืองไทยเป็นครั้งแรกในปี 2540 และได้รับการตอบรับที่ดีอย่างรวดเร็วในทันที ก่อนที่รถในตระกูลเวฟจะกลายมาเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบครอบครัวที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานที่สุดกว่า 2 ทศวรรษ และยังคงยืนหนึ่งถึงยุคปัจจุบันในฐานะรถที่มียอดจำหน่ายสูงสุดที่สุดของประเทศไทย  ด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมถึง 15,277,287 คัน (นับถึงสิ้นปี 2019) แต่อะไรคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ Honda Wave มาได้ไกลขนาดนี้ ทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะตกจากความเป็นเบอร์หนึ่งได้ง่ายๆ พบกับความลับ 5 ข้อ ที่ใครๆ ที่ทำให้ Honda Wave กลายเป็นตัวเลือกแรกของคนไทย เมื่อคิดจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ที่คุ้มค่าสักคัน 1.ดีไซน์ทันสมัย สวยงามโดดเด่นทุกมุมมอง Honda Wave ทุกรุ่นได้รับการออกแบบให้โดนใจคนไทย สวยงามทันสมัย ดูลงตัวทั้งคันไม่ขาดไม่เกิน โดยเฉพาะ Honda Wave 110i ที่มีไฟหน้ารูปหัวใจเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากในด้านความสวยงาม และยังทำให้ Honda Wave กลายเป็นผู้นำเทรนด์ในเรื่องดีไซน์ของรถครอบครัวยุคใหม่ ล่าสุด Honda Wave รุ่นใหม่ ๆ ยังนำระบบไฟ LED มาใช้กับไฟหน้า ยิ่งเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีกระดับ ในขณะที่ตัวรถก็มีรูปทรงและเส้นสายที่ดูพริ้วไหวทันสมัย ทั้งยังมีจุดเด่นที่บังลมแบบเลเยอร์ดูมีมิติ และการใช้วัสดุประกอบที่ทนทาน 2.เครื่องยนต์อึด แรง ประหยัด Honda Wave วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 2540 ในชื่อ Honda Wave100 ก่อนที่ในปี 2542 จะอัพเกรดขึ้นมาเป็น Honda Wave110 และเปิดตัวรุ่นที่มีเครื่องยนต์ขนาด 125ซีซี ภายใต้ชื่อ Honda Wave125 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้ ต่อมาในปี 2546 ฮอนด้าได้นำระบบหัวฉีด PGM-FI มาติดตั้งกับ Honda Wave เป็นรุ่นแรกในประเทศไทย ซึ่งระบบหัวฉีดนี้สามารถทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะของฮอนด้าได้อย่างลงตัว ให้แรงต้นดี ออกตัวง่าย ในขณะที่น้ำมันถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่าทุกหยด หลังจากนั้นก็ยังได้รับการพัฒนาให้มีความล้ำสมัยอยู่เสมอจนถึงทุกวันนี้ โดย Honda Wave 110i รุ่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันมีอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 59.9 กม./ลิตร ในขณะที่ Honda Wave 125i มีอัตราประหยัดถึง 69 กม./ลิตร จากการวัดค่าตามมาตรฐานยูโร (EURO) ซึ่งใกล้เคียงกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันมากที่สุด 3.ทนทาน ดูแลรักษาง่าย อีกหนึ่งเบื้องหลังที่ทำให้ Honda Wave ได้รับความนิยมคือตัวรถที่มีความทนทานในทุกส่วนตั้งแต่เครื่องยนต์…

 
Read More

นิสสันเผยแผนปฏิรูป

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ประกาศแผนระยะ 4 ปี เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน เสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงิน และความสามารถในการสร้างผลกำไร ภายในสิ้นปีงบประมาณปี พ.ศ. 2566 โดยแผนปฏิรูปการดำเนินธุรกิจนี้ยังครอบคลุมถึงการจัดการต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์ขององค์กรจากเดิมที่ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจมากจนเกินไป ภายใต้แผนระยะ 4 ปีนี้ นิสสันตัดสินใจที่จะปฏิรูปการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยลดธุรกิจที่ไม่ทำกำไรและโรงงานที่เกินความจำเป็นลง ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างองค์กร พร้อมลดต้นทุนคงที่ โดยพิจารณากำลังการผลิต รถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่จำหน่ายอยู่ทั่วโลก และรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ  ภายใต้การบริหารจัดการ           อย่างมีระเบียบแบบแผน บริษัทฯ มุ่งให้ความสำคัญและลงทุนในธุรกิจที่จะช่วยให้ฟื้นฟูองค์กรให้สร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนเท่านั้น นิสสัน คาดการณ์ว่าการดำเนินงานตามแผนดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรจากผลการดำเนินงานที่       ร้อยละ 5 และมีสัดส่วนทางการตลาดทั่วโลกคิดเป็นร้อยละ 6 เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณปีพ.ศ. 2566 ซึ่งรวมถึงสัดส่วนรายได้ที่มาจากการร่วมลงทุนร้อยละ  50 ในประเทศจีน มร.มาโคโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นิสสัน กล่าวว่า “แผนปฏิรูปของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้เกิดการเติบโตอย่างมั่นคง แทนที่จะให้ความสำคัญต่อการเพิ่มยอดขายมากจนเกินไป โดยนิสสันจะมุ่งเน้นเรื่องความสามารถหลักขององค์กร พร้อมยกระดับคุณภาพทางธุรกิจ และรักษาระเบียบวินัยทางการเงิน รวมถึงรายได้สุทธิต่อหน่วยเพื่อสร้างผลกำไรตามเป้าที่วางไว้ โดยทั้งหมดนี้จะมีการดำเนินงานควบคู่ไปกับการรื้อฟื้นวัฒนธรรม“ความเป็นนิสสัน” เพื่อเดินหน้าสู่ยุคใหม่ของนิสสันอย่างแท้จริง” แผนระยะ 4 ปีของนิสสัน วางอยู่บนกลยุทธ์ 2 ด้าน ที่อยู่บนชื่อเสียงของนิสสันที่มีรากฐานมาจากการเป็นผู้ริเริ่มด้านนวัตกรรม ฝีมือการผลิต การให้ความสำคัญแก่ลูกค้า และคุณภาพ และยังรวมไปถึงการปฏิรูปด้านวัฒนธรรมองค์กร 1.กระบวนการทำให้เกิดประสิทธภาพ: แนวทางปฏิบัติเพื่อปรับโครงสร้าง ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 2.การให้ความสำคัญกับตลาดหลักและรถยนต์รุ่นสำคัญ อย่างไรก็ตาม นิสสัน ต้องส่งมอบคุณค่าของแบรนด์ให้แก่ลูกค้าทั่วโลก โดยจะนำนวัตกรรม ทั้งด้านยานยนต์ เทคโนโลยี และเจาะตลาดที่ นิสสัน มีศักยภาพในการแข่งขัน นี่คือ DNA ความเป็นนิสสัน และในยุคใหม่    ของนิสสัน บุคลากรยังเป็นเรื่องสำคัญสูงสุดสำหรับนิสสัน…

 
Read More
Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed