เคล็ดลับการบรรจุสัมภาระ

การบรรทุกของลงท้ายกระบะ หากไม่วางแผนดีๆ แล้วล่ะก็ กระบะที่ว่ากว้างๆ ก็อาจจะใส่ของเพียงน้อยนิดไม่พอก็เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า แม่ขาย นักจัดสวน หรืออาชีพอื่นๆ ต่างหันมาใช้รถกระบะกันมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายรถกระบะโดยรวมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 5.9 เปอร์เซ็นต์ หรือมีปริมาณการขาย 169,975 คัน ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา

สิ่งสำคัญ คือ ไม่ว่าจะขับรถกระบะมาเป็นเวลานาน หรือเพิ่งได้เป็นเจ้าของรถเมื่อไม่นานมานี้ เคล็ดลับง่ายๆ จะช่วยให้การบรรทุกสัมภาระ ลงในกระบะ มีปริมาณมากขึ้น คุ้มค้ามากที่สุด รวมไปถึงการช่วยให้ทั้งคุณและเพื่อนร่วมถนนปลอดภัย ไม่มีวัสดุ อุปกรณ์ใดๆ ตกลงใส่รถคันหลังได้ โดยแนะนำ 7 ขั้นตอน ดังนี้

1.ใช้แผ่นยางรองกระบะถ้าคุณกังวลว่าของจะกลิ้งไปมาและเกิดความเสียหาย การวางแผ่นยางรองที่พื้นกระบะคือวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยให้สัมภาระปลอดภัยแล้ว ยังป้องกันไม่ให้สิ่งของกระเด็นออกนอกกระบะไปบนถนนอีกด้วย
2.ใส่ของชิ้นเล็กๆ ไว้ในกล่อง ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่าการต้องลงจากรถมาเพื่อควานหาสิ่งที่คุณต้องการตามมุมต่างๆ ของรถอีกแล้ว การใส่สิ่งของชิ้นเล็กๆ รวมกันไว้ในกล่องจะช่วยให้กระบะท้ายของคุณเป็นระเบียบ และไม่ต้องปวดหัวเพราะหาของที่ต้องการไม่เจออีกด้วย
3.วางของหนักไว้ด้านหน้า ถ้าคุณต้องบรรทุกของที่มีน้ำหนักมาก ให้วางของเหล่านั้นไว้ที่ส่วนหน้าของกระบะเพื่อให้ศูนย์ของรถมั่นคง เพิ่มความปลอดภัยแก่ทั้งตัวคุณและสิ่งของในกระบะท้าย
4.คลุมสัมภาระอย่างแน่นหนา เทปกาว สายรัด และแผ่นฟิล์มคลุมสิ่งของ (Cling Film) คืออุปกรณ์ใกล้ตัวที่ช่วยยึดสิ่งของไว้ด้วยกันอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้กระเด็นหลุดและสร้างปัญหาระหว่างการเดินทาง
5.รัดของให้แน่นหนา ถ้ามีสิ่งของที่น่าจะเลื่อนไปมาได้ ควรใช้สายรัดผูกตรึงให้เรียบร้อย เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งของเหล่านั้นจะไม่เคลื่อนที่ไปมาเมื่อขับรถเข้าโค้งหรือเมื่อเจอถนนขรุขระ 6.ติดธงไว้ที่ของชิ้นใหญ่ ถ้าคุณบรรทุกของที่กินพื้นที่ออกมานอกกระบะท้าย อย่าลืมติดธงสีแดงหรือสีเหลืองไว้เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่คันอื่นๆ หรือคนข้ามถนนมองเห็นสิ่งของนั้นได้อย่างชัดเจน และช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุขึ้นด้วย
7.ยึดสัมภาระทุกชิ้น เมื่อขนของขึ้นกระบะท้ายเรียบร้อยแล้ว ยึดสายรัดบนสัมภาระทั้งหมดอย่างแน่นหนาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีสิ่งของกระเด็นหลุดออกนอกกระบะ และสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือเงินในกระเป๋าของคุณ หากคุณไม่มีสายรัด สามารถใช้เชือกแทนได้เช่นกัน

 

Related posts

Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed