เมื่อก่อนเราก็เรียกกันว่า เทอร์โบคู่ แต่ยุคนี้ ไบเทอร์โบ มันใช่เทอร์โบคู่หรือไม่ คำตอบ คือ ใช่ และไม่ใช่ เนื่องจากเทอร์โบคู่ยุคนี้ ไม่ได้มีขนาดและกำลังขับพอๆ กันทั้ง 2 ลูก ดังเช่นเมื่อก่อน แต่เป็นลูกใหญ่ลูกหนึ่งสำหรับพละกำลัง และอีกลูกหนึ่ง สำหรับการนำพลังงานกลับมาเผาไหม้ให้หมดจรด เพิ่มพละกำลังแต่ประหยัดมากขึ้น
ยกตัวอย่าง ฟอร์ด มีเครื่องยนต์ ไบเทอร์โบ และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด จากรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ขึ้นไปอีกระดับด้วยบททดสอบการทำงานของเครื่องยนต์ใหม่แบบBi-Turbo (เทอร์โบคู่) และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ในฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ซึ่งทีมผู้ทดสอบ ฟอร์ด ต่างปลาบปลื้มกับผลทดสอบเป็นอย่างยิ่ง แร็พเตอร์ จะเป็นผลมาจากการพัฒนาโครงรถและระบบกันสะเทือน แต่ระบบส่งกำลังใหม่ในเรนเจอร์ แร็พเตอร์ก็เป็นหัวใจสำคัญซึ่งได้นำไปใช้กับฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ด้วย
เครื่องยนต์เทอร์โบคู่และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มีลักษณะการทำงานที่หลากหลาย ถ้าใช้กับเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ซึ่งโหมดการขับขี่มีอิทธิพลต่อพลังการขับเคลื่อนและระดับแรงบิด จะทำให้สามารถขับขี่ออฟโรดแบบความเร็วสูงได้ ถ้าใช้กับฟอร์ด เอเวอเรสต์ คุณก็จะพบกับประสบการณ์การขับขี่ที่ผ่อนคลาย เหนือระดับ และประหยัดเชื้อเพลิง ถ้าใช้กับฟอร์ด เรนเจอร์ รถจะมีกำลังสูงพร้อมลุยในการขับขี่แบบออฟโรด ทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ได้ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เป็นระบบเกียร์ของรถระดับตำนานอย่าง ฟอร์ด แร็พเตอร์ เอฟ-150 และฟอร์ด มัสแตง ซึ่งผ่านการทดสอบบนถนนและการทดสอบที่หนักหน่วงมามากกว่า 5 แสนกิโลเมตร ในส่วนของเครื่องยนต์ Bi-Turbo ซึ่งพัฒนาในสหราชอาณาจักรนั้น ก็ผ่านการทดสอบเทอร์โมไซเคิล (thermo-cycle) สุดหฤโหดมาแล้วเช่นกัน ผลของการรวมตัวระหว่างเครื่องยนต์และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด จึงน่าประทับใจอย่างยิ่ง
ระบบเกียร์ของ ฟอร์ด ที่มาพร้อมวิศวกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่และระบบขับเคลื่อนต่างๆ ทำให้รถสามารถรองรับการเดินทางได้ดีเหมือนกันทุกสภาพการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับรถฝ่าทะเลทราย การขับรถในเมือง หรือจะเป็นการลากพ่วง เมื่อเครื่องยนต์เทอร์โบคู่มารวมตัวกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด จะส่งผลทันทีกับพลังในการขับเคลื่อนและแรงบิด ผนวกกับสไตล์การขับขี่ของแต่ละคน เช่น การใช้เกียร์ทุกสปีดเพื่อประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงขั้นสูงสุด หรือการเหยียบคันเร่งแรงๆ ระบบจะชิฟต์ข้ามเกียร์ เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ระดับสูง เป็นต้น ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงขุมพลังที่อยู่ในฟอร์ด เรนเจอร์ สุดยอดสมรรถนะในเรนเจอร์ แร็พเตอร์ และประสบการณ์การขับขี่ชั้นเลิศในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ช่างเป็นประสบการณ์ที่มหัศจรรย์จริงๆ
การทำงานของระบบส่งกำลังที่หลากหลายของ ฟอร์ด ความสามารถในการมอบกำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า ระดับแรงบิดมากถึง 500 นิวตันเมตร แรงลากจูงถึง 3.5 ตันสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ถ้าได้ลองขับเอง คำว่าเครื่องยนต์เทอร์โบคู่และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดก็จะเป็นเพียงแค่คำพูดและตัวเลขทั่วไป แต่การได้ลองสัมผัสด้วยตัวคุณเอง คุณจะสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่น่าจดจำกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่เหนือระดับ ทั้งยังมอบการขับขี่ที่เพลิดเพลินอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ฟอร์ด ประเทศไทย