เอพี ฮอนด้า รวมความประทับใจของเดลิเวอรี่แมน ที่มาร่วมกันบอกเล่าถึงคุณสมบัติอันโดดเด่น จนเป็นที่กล่าวถึงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากกลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้บริการขนส่งสินค้าและอาหาร หรือที่เรียกโดยรวมว่ากลุ่มธุรกิจเดลิเวอรี่ ซึ่งถูกยกให้เป็นหนึ่งในฮีโร่ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ในขณะนี้
ไบค์เกอร์มาดเข้มจากสุรินทร์ “ไอซ์” จักรี พานาสันต์ ผู้ขับขี่ Honda WAVE 110i เผยถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่ทำให้ตัดสินใจเลือกใช้รถจักรยานยนต์ยอดฮิตอันดับหนึ่งของไทย ให้ความเห็นว่า “สำหรับรถวิ่งส่งของ ปัจจัยแรกที่เลือกใช้ก็ต้องดูที่อัตราการประหยัดน้ำมันครับ”
หรือจะเป็น หนุ่มแกร็บไบค์ วัย 24 ปี กล่าวว่า“มีแต่คนบอกว่ารถรุ่นนี้ประหยัดที่สุดแล้ว ผมเคยขี่ของเพื่อนอยู่พักใหญ่ๆ ก็เห็นว่าประหยัดดีครับ และพอต้องมาวิ่งแกร็บก็เลยเลือกใช้ ซึ่งพอได้ใช้แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ นอกจากประหยัดน้ำมันแล้ว ยังมีความทนทาน ใช้งานคล่องตัว บิดซิกแซกในเมืองสบายเลยครับ”
ทางด้านฮีโร่สาว “ฟิล์ม” นฤณี ชัยสาร ซึ่งตัดสินใจเลือกใช้ Honda WAVE 110i เช่นเดียวกัน เสริมว่า “เลือกใช้คันนี้เพราะประหยัดน้ำมัน ขี่สบายมากค่ะ ขนาดกำลังพอดี ผู้หญิงก็ขี่ได้คล่องตัว ควบคุมง่าย มุดรถติดพริ้วมาก ขี่ชิวเลยค่ะ ไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป จะผ่านรถเล็กรถใหญ่ก็ไม่ต้องกลัวชนกระจกด้วยค่ะ”
ขณะที่ “อะตอม” เอกกรวีร์ พันธุ์อำไพ หนุ่มแกร็บฟู้ด เผยว่า “ผมเริ่มขับขี่เดลิเวอรี่ได้ไม่นาน เนื่องจากงานประจำได้รับผลกระทบต้องพักไว้ก่อน จึงหันมาวิ่งขนส่งเป็นอาชีพเสริม ต่อวันขับขี่ระยะทางเฉลี่ย 150 กิโลเมตร รถที่ใช้อยู่คือ Honda CLICK ที่ซื้อไว้หลายปีแล้ว ปกติก็ดูแลตามระยะทาง ตอนนี้ใช้งานหนักขึ้นก็ไม่เคยทำให้หนักใจ แม้ซื้อมานานแล้วแต่ก็ยังใช้งานได้ดี ที่เลือกใช้เพราะมั่นใจแบรนด์ มั่นใจศูนย์บริการ ตัวรถมีความทนทาน อะไหล่ก็หาได้ง่าย การใช้งานก็ทำได้หลากหลายด้วยครับ อยากพูดถึงแคมเปญฮีโร่ก็ต้องการคนดูแลที่ฮอนด้าจัดให้ด้วยครับ เพราะถือว่ามาช่วยพวกเราได้ถูกเวลามากๆ ในช่วงนี้รถต้องใช้งานอย่างหนักก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ การช่วยเหลือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟรีก็ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้ดีทีเดียว แคมเปญนี้ของฮอนด้าถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ”
ขณะเดียวกัน “ต่อ” กษมา โคตรเสนา ผู้มีอาชีพประจำขับขี่รถจักรยานยนต์ส่งอาหารสังกัดเอ็มเคสุกี้ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้สิทธิพิเศษจากแคมเปญฮีโร่ โดยนำรถเก่ามาแลกซื้อรถใหม่ เปิดเผยว่า “ใช้รถเก่ามาแลกรถใหม่ ได้รับบัตรเติมน้ำมัน 2,000 บาท พร้อมทั้งการดูแลเปลี่ยนน้ำมันเครื่องฟรี 100,000 กิโลเมตรด้วย ถือว่าคุ้มค่าและช่วยได้มากเลยครับ ผมเลือกซื้อ Honda WAVE 110i เพราะเหตุผลหลักด้านความประหยัด เพื่อนๆ ในกลุ่มก็เลือกใช้รุ่นนี้ทั้งนั้น ส่วนใหญ่คิดว่าที่เลือกก็เพราะประหยัดน้ำมัน ในการใช้งานจริงผมเติม 40 บาท วิ่งได้ทั้งวัน นี่พึ่งออกรถไม่นานขี่ไป 600 กว่ากิโลเมตรแล้ว” พนักงานขนส่งจากร้านสุกี้ เล่าต่อ “ก่อนหน้านี้ใช้รุ่นอื่น แต่ไม่สะดวกเท่าไร รวมถึงช่วงนี้งานเยอะขึ้นเพิ่มอีกเท่าตัว เพราะผมมีวิ่งเสริมไลน์แมนด้วย วิ่งเยอะขึ้น รถใช้งานหนักขึ้น ก็อยากใช้รถที่คุ้มค่า ซึ่งจากรายได้ตอนนี้ทำได้ประมาณ 1,500 บาท ต่อวัน ขยันหน่อยแต่ก็คุ้มครับ”
ฝั่งนักบิดผู้เสิร์ฟความอร่อยอย่างฟู้ดแพนด้า “บอล” สุรัตน์ โพธิ์หอม วัย 25 ปี เจ้าของ Honda CLICK150i เล่าว่า เหตุผลที่เลือกรถรุ่นนี้ เพราะหน้าตาการออกแบบมีเอกลักษณ์ บ่งบอกความเป็นตัวเอง ถึงแม้จะเป็นรถ เอ.ที. แต่ก็มีสไตล์ที่ร้อนแรง ดุดัน ให้อารมณ์สปอร์ตเร้าใจ“ผมชอบรูปทรงที่โฉบเฉี่ยว กะทัดรัด ไม่ใหญ่เกินไป ไม่เล็กจนเกินไป ที่สำคัญคือ คุณสมบัติโดดเด่น ในด้านอัตราเร่ง ช่วงบิดแซงทำได้ดี อีกทั้งยังซิกแซกในยามที่การจราจรติดขัดในบ้านเราอย่างดีเยี่ยม ส่วนอัตราการประหยัดน้ำมัน ต้องบอกเลยว่าให้ความประหยัดมากด้วย มองไปทางไหนก็จะเห็นว่าคนที่วิ่งส่งของใช้รุ่นนี้เยอะ เพราะใช้งานดีบิดคล่องตัวครับ”
ด้าน “ปอนด์” ณัฐนันท์ ชุ่มเมืองเย็น แกร็บไบค์หนุ่มจากเชียงราย บอกว่า “Honda Scoopy i ของตัวเองที่ใช้อยู่ดูแลรักษาง่าย ศูนย์บริการฮอนด้ามีอยู่ทุกที่ หรือหากกรณีฉุกเฉินต้องเข้าร้านทั่วไปก็หายห่วง เนื่องจากช่างที่ไหนก็มีความคุ้นเคยกับรถฮอนด้าเป็นอย่างดีอยู่แล้ว สบายใจเรื่องการเซอร์วิสครับ อะไหล่หาง่าย ให้ความประหยัด ขนาดเครื่องยนต์พอเหมาะ ผมมีเพื่อนใช้รถ เอ.ที. ยี่ห้ออื่น ลองถามเรื่องอัตราประหยัดน้ำมัน รุ่นนี้ถือว่าทำได้ดีกว่าชัดเจนครับ”
ปิดท้ายกันที่นักบิดสายสปอร์ต “แทน” ชัยสันติ สิงห์ชาติ ผู้เป็นเจ้าของสปอร์ตไบค์ไซส์กลาง Honda CBR500R จากเพจ Grabzing ให้ความเห็นไว้ว่า ตนเองเลือกใช้รถรุ่นนี้เพราะชื่นชอบรูปทรงที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ส่วนที่นำมาวิ่งใช้งานด้วย เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ จะบิดไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้ ดังนั้น จึงนำมาใช้วิ่งหาเงินดีกว่าจอดอยู่บ้านเฉยๆ “จุดประสงค์การเลือกใช้รถของแต่ละคนแตกต่างกันครับ ผมเองมองว่ารถที่ใช้ขี่เที่ยวได้ก็น่าจะใช้หาเงินได้ด้วย อย่างน้อยก็ได้ค่าน้ำมัน ได้ค่าบำรุงรักษา หรือมากกว่านั้นก็อาจได้ค่างวดด้วยครับ ถามว่าใช้บิ๊กไบค์วิ่งส่งของจะคุ้มมั้ย จริงๆ ก็ใช้ได้นะครับ เพียงแต่ตัวเงินที่เหลือจากค่าใช้จ่ายจะน้อยกว่าใช้รถเล็กทั่วไป ยังดีที่ค่าเซอร์วิสและอะไหล่ของศูนย์ฮอนด้าราคาไม่แรง อีกทั้งศูนย์บริการมาตรฐานมีให้เลือกเยอะ ขี่ไปไหนก็อุ่นใจ ใช้ได้ยาวๆ ครับ”
ทั้งหมดนี้คือเสียงสะท้อนจากบรรดาฮีโร่ ที่ต่างก็ให้ความไว้วางใจในรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น รถครอบครัว รถ.เอ.ที. และรถสปอร์ต ที่มีทั้งความประหยัด คล่องตัว ดูแลรักษาง่ายและมีศูนย์บริการให้เลือกมากมาย ทำให้ทุกภารกิจสำเร็จได้อย่างมั่นใจ