บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดกิจกรรมสุดพิเศษ “วีออส เรามีเรา ข้ามไทย” พิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์นั่งยอดนิยมขนาดเล็ก “โตโยต้า วีออส” ข้ามพรมแดนอารยธรรมของ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย-ลาว-เวียดนาม พร้อมเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของแต่ละประเทศ รวมระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร
อนึ่ง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ถือโอกาสแนะนำรถยนต์นั่งขนาดเล็ก “VIOS” รุ่นแรกในชื่อ “SOLUNA” เข้าสู่ตลาดเมืองไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2540 ภายใต้ความร่วมมือของวิศวกรชาวไทยและชาวญี่ปุ่นที่วิจัยและพัฒนารถยนต์ โซลูน่า ให้เป็นรถยนต์นั่งรุ่นแรกที่สร้างขึ้นมาเพื่อตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะ ต่อมาในปี พ.ศ. 2546ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นที่ 2 ในนาม “Soluna VIOS” มาจนถึงรุ่นที่ 3 ในปี พ.ศ. 2550 และรุ่นที่ 4 ในปี พ.ศ. 2556 โดยใช้ชื่อว่า “VIOS” เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาโตโยต้าได้มีการออกแบบและพัฒนารถยนต์ VIOS ให้เป็นสุดยอดยนตรกรรมคุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า และครองความนิยมในฐานะรถยนต์นั่งขนาดเล็กเคียงคู่สังคมไทยมาโดยตลอด
โครงการ วีออส เรามีเราข้ามไทย ผ่าน 3 พรมแดนอารายธรรม ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2561 นี้ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์คุณภาพของ วีออส…รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่มาพร้อมกับสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ DUAL VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร ให้สมรรถนะเต็มพลัง พร้อมรองรับน้ำมัน E85 เน้นการประหยัดน้ำมัน เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ตอบสนอง ต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี และทำให้การขับขี่นุ่มนวลราบรื่น และมาตรฐานระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประชาคมอาเซียน (AEC) ไทย-ลาว-เวียดนาม แหล่งอารยธรรมพันปีแห่งอาเซียน: วัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง มรดกโลก ล้านช้างไทย-ลาว ข้ามทิวเขาหิมาลัยขึ้นเหนือสู่วัฒนธรรมลุ่มน้ำแดง เวียดนาม-จีน โดยจะออกเดินทางจาก “จังหวัดขอนแก่น” จุดยุทธศาสตร์เชื่อมต่อวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง แอ่งโคราช-สกลนคร ในไทย กับล้านช้าง-จำปาสัก ในลาว จุดตัดผ่านถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข2) และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (ถนนสายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก/EWEC: East-West Economic Corridor เชื่อมทะเลจีนใต้กับมหาสมุทรอินเดีย เริ่มจากท่าเรือดานัง เวียดนาม ไปสุดที่เมืองมะละแหม่ง พม่า) เส้นทางสำคัญในการเดินทางจาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางสู่ทิศใต้ของประเทศลาว สู่ “จังหวัดอุดรธานี” แหล่งโบราณสถานมรดกโลกบ้านเชียง วัฒนธรรมแอ่งสกลนคร หัวใจอารยธรรมลุ่มน้ำโขง พิสูจน์การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ กว่า 5,000 ปี ศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญของโลกยุคโบราณ ศูนย์กลางการเมืองการปกครองอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เชื่อมโยงประเทศในภูมิภาคอาเชียน มีความสำคัญตั้งแต่อดีตเรื่อยมาจนปัจจุบัน จากนั้นข้ามพรมแดนแม่น้ำโขงสู่ประเทศลาวทางทิศใต้ ที่ “จังหวัดหนองคาย” ณ จุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ระยะทาง 1.17 กิโลเมตร เส้นทางสำคัญสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและส่งเสริมความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างประเทศไทยและลาว ซึ่งรัฐบาลไทย-ลาว-ออสเตรเลีย ร่วมมือกันสร้างเป็นประตูสู่อินโดจีน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน เปิดใช้งานครั้งแรกปี 2537 โดยเส้นทางส่วนใหญ่ที่วิ่งในประเทศไทยจะเป็นเส้นทางตรงที่สามารถพิสูจน์ขุมกำลังของเครื่องยนต์ DUAL VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ที่ตอบสนองทุกการขับขี่ได้แรงเต็มสมรรถนะ นอกจากนี้ด้วยการออกเบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) และดีไซน์หลังคาแบบ Catamaran ช่วยลดแรงประทะของลมได้เป็นอย่างดี ทำให้การขับขี่ราบรื่นและนุ่มนวลกว่าที่เคย
อย่างไรก็ตาม แม่น้ำโขง บ่อเกิดแห่งชีวิตและวัฒนธรรม แม่น้ำโขง ได้รับการขนานนามเป็น แม่น้ำนานาชาติ เพราะไหลผ่านถึง 6 ประเทศคือ จีน พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และลงทะเลที่ประเทศเวียดนาม รวมความยาว 4,880 กม. ครอบคลุมพื้นที่รับน้ำ 795,000 ตร.กม. หรือ 496.865 ล้านไร่ นับความยาวเป็นอันดับ 10 และมีความหลากหลายของชนิดพันธุ์ปลามากเป็นอันดับ 3 ของโลก มีความหลากหลายของวิถีชีวิตของผู้คนกว่า 100 ชนเผ่า ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านคน และยังเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมโบราณ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ อาทิ แหล่งอารยธรรมบ้านเชียง 5,000 ปี นครวัดนครธม-โตนเลสาบ 1,300 ปี เมืองหลวงพระบาง 1,200 ปี โดยแม่น้ำโขงเป็น 1 ในแม่น้ำ 3 สายที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกับแม่น้ำแยงซี และแม่น้ำสาละวิน มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีต้นกำเนิดจากการละลายของน้ำแข็งและหิมะที่บริเวณที่ราบสูงธิเบต ไหลผ่านภูเขาและที่ราบสูงในประเทศจีน ผ่านมณฑลยูนาน เข้าบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ พรมแดนประเทศลาว-พม่า-ไทย ที่จังหวัดเชียงราย และเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างลาว-ไทย แล้วไหลลงสู่ประเทศลาว กัมพูชา/โตนเลสาบ และก่อนออกสู่ทะเลที่ประเทศเวียดนาม สู่แผ่นดินประเทศลาว “นครหลวงเวียงจันทน์” เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของลาว สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่ที่ผสมผสานความทันสมัยอย่างลงตัว ทั้งยังมุ่งสู่ “ประตูไซ” สัญลักษณ์แห่งสันติ อนุสรณ์สถานใจกลางนครเวียงจันทน์ ท่ามกลางสวนสาธารณะ มีน้ำพุสวยงาม มีวงเวียนถนนสายหลักและถนนสายใหญ่ล้อมรอบ ก่อสร้างขึ้นเพื่อสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศ เอกราชจากประเทศฝรั่งเศส ในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรูปแบบและแนวคิดการก่อสร้างได้รับอิทธิพลจากประตูชัยในประเทศฝรั่งเศส แต่ได้ผสมผสานด้วยศิลปะแบบล้านช้าง และแนวคิดหลักการปกครองประเทศตามหลักพุทธศาสนา แสดงเป็นสัญลักษณ์บนอาคาร 5 ยอดด้านบน คือ พันธมิตร การผ่อนปรนยืดหยุ่น ความซื่อสัตย์ การให้เกียรติ และความรุ่งเรือง“วังเวียง” หรือ กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว ตั้งอยู่ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์และหลวงพระบาง โดดเด่นและมีชื่อเสียงด้านสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ตราตรึงใจ จุดหมายนักท่องเที่ยวยุคใหม่เพื่อสัมผัสความเรียบง่ายและใกล้ชิดธรรมชาติที่สวยงาม ตัวเมืองมีแม่น้ำซองไหลผ่าน ห้อมล้อมด้วยทิวทัศน์ภูเขาและหน้าผาหินปูนที่เรียงรายเป็น แนวยาว ไร่นาแบบขั้นบันได และหมู่บ้านชนพื้นเมืองเผ่าต่างๆ รวมกับเป็นองค์ประกอบทางธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์ มีศักยภาพดึงดูดและสามารถเพิ่มอัตรานักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
จากนั้น เข้าสู่ “เมืองหลวงพระบาง” เมืองมรดกโลก แสดงถึงความสวยงามและความเจริญขีดสุดของวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านช้าง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงบรรจบกับแม่น้ำคาน ที่ “ปากคาน” ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม เมืองหลวง พระบางได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2538 เพราะมีสุดยอดสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์และทรงคุณค่าต่อมนุษยชาติ และยังสามารถเป็นพื้นฐานให้คนสามารถดำรงชีวิตตามแบบแผนขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงามจนปัจจุบัน มรดกโลกเมืองหลวงพระบาง ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่ได้รับการปกป้องรักษาดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินทางขึ้นเหนือสู่ “เมืองอุดมไซ” เมืองกึ่งกลางของลาวเหนือ ชุมทางการเดินทางสู่แขวงตอนเหนือต่างๆในประเทศลาว สามารถผ่านกลับไปหลวงพระบาง ขี้นต่อไปพงสาลี หลวงน้ำทา หรือหัวพันได้ กลางเมืองมีแม่น้ำแบงไหลผ่าน เมืองนี้จึงเป็นจุดแวะพักสำคัญของทั้งคนและเรือ สมัยสงคราม ช่วงปี 2513 เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางที่จีนใช้ส่งความช่วยเหลือผ่านไปยังขบวนการประเทศลาว โดยเส้นทางส่วนใหญ่ที่วิ่งประเทศลาว เป็นทางคดเคี้ยว ขับลัดเลาะขึ้น-ลง ภูเขา ซึ่งเป็นอีกจุดที่สามารถทดสอบสมรรถนะการขับขี่ และช่วงล่างที่นุ่มนวมและมั่นคง จากระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง ส่งผลให้ทรงตัวดีทั้งทางตรง และทางโค้ง มีเสถียรภาพในทุกสภาะถนนและทุกสถานการณ์ของการขับขี่ ข้ามพรมแดนแนวเทือกเขาหิมาลัย สู่ประเทศเวียดนามที่ “เดียนเบียนฟู” จังหวัดชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม ห่างจากชายแดนลาว 35 กม. ห่างจากกรุงฮานอย 200 กม. พื้นที่รายล้อมด้วยภูเขาสูง สมรภูมิรบอันลือลั่นช่วงสงครามอินโดจีนระหว่างกองทัพฝรั่งเศสกับกองทัพเวียดมินห์ เพื่อขับไล่เหล่าผู้รุกรานและสงครามครั้งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์เวียดนาม ที่สามารถเอาชนะมหาอำนาจได้ ประกอบด้วย จีน ฝรั่งเศจ และสหรัฐอเมริกา ด้วยความที่ภูมิประเทศบริเวณนี้ เต็มไปด้วยที่ราบสูง ทำให้เส้นทางส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นโค้งใหญ่ โค้งตัวเอส สลับกับขึ้นเขาลงเขา“ซาปา” สวิสเซอร์แลนด์แห่งเวียดนาม เทือกเขาแอลป์แห่งอ่าวตังเกี๋ย เมืองเล็กๆ แสนโรแมนติกแห่งเวียดนามเหนือ จุดมุ่งหมายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติและความเงียบสงบติดกับชายแดนประเทศจีน ตั้งอยู่ในจังหวัดหล่าวกาย รายล้อมด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ มีธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงามไม่ว่าฤดูกาลไหน ตั้งอยู่ใกล้กับยอดเขาฟานซีปัง หรือหลังคาแห่งอินโดจีน นับเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเวียดนามและอินโดจีน (3,143 เมตร) และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย อากาศเย็นสบายตลอดปี และในบางปีจะมีหิมะตกในบางวัน อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 15 องศา ในอดีต เมืองนี้เป็นเมืองตากอากาศของเจ้านายชั้นสูงชาวฝรั่งเศสที่มาทำงานในเวียดนาม มีสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนและการวางผังเมืองแบบอาณานิคมฝรั่งเศส มีพื้นที่การทำนาขั้นบันได พร้อมกับทะเลหมอกสีขาวละมุน สามารถชมได้เกือบทุกมุมของเมือง จนได้ชื่อว่ามีพื้นที่การทำนาขั้นบันไดที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มุ่งสู่ทิศตะวันออก ลงสู่ใจกลางที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง “กรุงฮานอย” 1,000 ปี นครหลวงเก่าแก่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมืองหลวงของประเทศเวียดนามที่ยังคงอยู่ต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน
ตามประวัติศาสน์ ฮานอย แปลว่า แม่น้ำไหลผ่าน มีชื่อเดิมว่า ทังลอง มีความหมายว่า มังกรเหินฟ้า ได้รับการก่อสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 และเปลี่ยนชื่อเป็น “ฮานอย” เมื่อปี พ.ศ.1553 ดังนั้นเมื่อปี พ.ศ.2553 (2010) ทางการฮานอยจึงได้จัดพิธีเฉลิมฉลองครบรอบอายุ 1,000 ปี นครหลวงเก่าแก่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในยุคอาณานิคม ฮานอย ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดในเอเชีย เรียกกันว่า Little Paris เพราะเป็นเมืองหลวงที่ได้รับการวางผังเมืองไว้อย่างดี มีทะเลสาบและแม่น้ำล้อมรอบเมือง มีถนนหนทางที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ มีอาคารสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในอินโดจีน แม่น้ำแดง หรือแม่น้ำโฮ่ง (Hong He River) เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่สุดของเวียดนามตอนเหนือ มีความยาวรวม 1,150 กม. เป็นเส้นแบ่งเขตแดนประเทศจีน-เวียดนาม ตอนบนของแม่น้ำอยู่ในประเทศจีนเรียกว่า แม่น้ำหยวน ระยะทาง 620 กม. ต้นน้ำอยู่ที่ภูเขาหวางต้วน ในเมืองต้าลี้ ตอนเหนือของมณฑลยูนาน ไหลลงมาทางใต้ผ่านเขตปกครองตนเองอาว่าและอี๋ หงเหอ ไปยังชายแดนจีน-เวียดนามเข้าสู่จังหวัดหล่าวกาย และไหลลงสู่ทะเลที่อ่าวตังเกี๋ย แม่น้ำแดงส่วนที่อยู่ในเวียดนาม ระยะทาง 541 กม. ไหลผ่าน 9 จังหวัดภาคเหนือของเวียดนาม ช่วงที่ไหลผ่านที่ราบและภูเขามีความลาดชันถึง 800 กม. ดังนั้นในฤดูฝนน้ำจะไหลเชี่ยวกราดมาก เมื่อไหลลงสู่พื้นราบน้ำไหลเอื่อย เกิดเป็นที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง ถมตะกอนสองฝากฝั่งสร้างที่ราบลุ่มที่อุดมสมบูรณ์ให้ กรุงฮานอยเหมาะกับการปลูกพืชผักให้ผลผลิตสูง และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งอารยธรรมข้าวนาดำของเขตที่ราบภาคเหนือ
สำหรับคาราวาน “วีออส เรามีเราข้ามไทย” เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์คุณภาพและสมรรถนะของรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่จะพาทุกท่านเปิดโลกการเดินทางแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ไม่เหมือนใคร เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2561 คอยติดตามกันเร็วๆ นี้