บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ขอบคุณพลังความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าประกาศความสำเร็จยอดจอง ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยม กวาดยอดจองทั่วประเทศแล้วกว่า 6,500 คัน หลังจากการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพียง 1 เดือน ตอกย้ำการเป็นสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดe:HEV ที่มอบสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลังและประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ในทุกรุ่นย่อย พร้อมขับเคลื่อนความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดเอสยูวีในประเทศไทย กระแสตอบรับจากลูกค้าที่ท่วมท้นและความสำเร็จของ ฮอนด้า เอชอาร์–วี อี:เอชอีวี ใหม่ สะท้อนให้เห็นถึง การเป็นรถเอสยูวีที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนอย่างแท้จริงในทุกด้าน ทั้งดีไซน์ที่ลงตัวกับ ความอเนกประสงค์ สมรรถนะการขับขี่ Full Hybrid ที่ทรงพลังและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม ผสานด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่น และความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อฮอนด้า ในฐานะแบรนด์ที่สร้างสรรค์ยนตรกรรมคุณภาพ และบริการหลังการขาย ที่ได้มาตรฐานและครบวงจร ด้วยโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 229 แห่ง ฮอนด้า เอชอาร์–วี อี:เอชอีวี ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกัน ของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มอบสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก ทรงพลัง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน–เมตรประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร พร้อมทั้งสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการผ่านสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode โดยทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง(Honda SENSING) โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน กับเบาะนั่งด้านหลังที่ปรับพับได้เรียบและได้หลายรูปแบบ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานล้ำสมัยสไตล์รถเอสยูวี อาทิ ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) อีกทั้งเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและเทคโนโลยี เพื่อการขับขี่ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ดีไซน์ภายนอกสไตล์สปอร์ต Fastback สะกดทุกสายตา ยกระดับความสปอร์ตอีกขั้นกับรุ่น RS ในดีไซน์สปอร์ตเอกซ์คลูซีฟ รอบคัน ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายพร้อมเสริมความมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ลูกค้าที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของ ฮอนด้า เอชอาร์–วี อี:เอชอีวี ใหม่ กับข้อเสนอ ดอกเบี้ย 2.59%* ฟรีประกันภัย 1 ปี พร้อมรับฟรีหน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCare Gen 2 สีขาว พร้อมสายรัดหน้ากากฟอกอากาศมูลค่ารวม 7,080 บาท อีกทั้งแคมเปญพิเศษด้านการบริการ* ได้แก่ โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance) อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน2564 เป็นต้นไป สัมผัสกับ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ หรือสอบถามข้อมูลและข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.honda.co.th/hrvehev ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถทดสอบสมรรถนะได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
Category: Social
ร่วมสร้างสังคมคนขับรถดี – กระตุ้นภูมิขับดี ด้วยวินัย และน้ำใจ
โตโยต้าถนนสีขาว ร่วมสร้างสังคมคนขับรถดี รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ผ่านแนวคิด“กระตุ้นภูมิขับดี ด้วยวินัย น้ำใจ” และการจัดกิจกรรม #ขับดีได้ดี พร้อมส่งมอบความสุขให้คนไทย ผ่านการตรวจเช็กรถฟรี 24 รายการ ในเทศกาลปีใหม่ 2565 โครงการโตโยต้าถนนสีขาว โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ภายใต้แนวคิด “ร่วมสร้างสังคมคนขับรถดี – กระตุ้นภูมิขับดี ด้วยวินัย และน้ำใจ” เน้นย้ำให้ คนไทยเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย มีวินัย และน้ำใจ ตลอดการเดินทาง พร้อมส่งมอบความมั่นใจ ทั้งก่อนและหลังการเดินทางให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ด้วยการให้บริการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในห้องโดยสาร และตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 24 รายการ (ไม่จำกัดยี่ห้อรถยนต์) ที่ศูนย์บริการ ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการขับรถดี อันจะนำไปสู่ความสุขและความปลอดภัยบนท้องถนน โตโยต้า ได้จัดกิจกรรม #ขับดีได้ดี โดยการร่วมแชร์ภาพการขับรถดีผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เพื่อลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษต้อนรับเทศกาลปีใหม่2565 อีกด้วย หลังจากการผ่อนคลายมาตรการโควิด 19 ของรัฐบาล บริษัทฯ มีความตั้งใจ ในการรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนน ผ่านการกระตุ้นให้ผู้ใช้รถใช้ถนนกลับมาตระหนักถึงเรื่องการขับขี่อย่างมีวินัย และน้ำใจ ผ่านแนวทางการสื่อสาร “ร่วมสร้างสังคมคนขับรถดี – กระตุ้นภูมิขับดี ด้วยวินัย และน้ำใจ“ มุ่งเน้นให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เคารพกฎวินัยจราจร และแบ่งปันน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล ตลอดจนเป็น การเน้นย้ำให้ประชาชนตระหนักถึงการท่องเที่ยวแบบรักษาระยะห่าง ระหว่างบุคคลและรถยนต์ ไม่ขับกระชั้นชิด เพื่อความปลอดภัยทั้งคนทั้งรถ ตามแนวทางของรัฐบาล นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขและ ความปลอดภัยบนท้องถนนตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โตโยต้า ยังได้จัดกิจกรรม “ขับดีได้ดี” โดยการเชิญชวนผู้ใช้รถใช้ถนนมาร่วมแชร์ภาพการขับรถดี ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของตนเอง พร้อมติดแฮชแท็ก #ขับดีได้ดี เพื่อลุ้นรับของรางวัล E-Voucher Shopee มูลค่า 200 บาท/รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 48,000 บาทตลอดระยะเวลากิจกรรม โดยบริษัทฯ จะทำการคัดเลือกผู้ที่ได้รับรางวัลจำนวน 60 รางวัล ต่อเดือน โดยตัดสินจากรูปแบบการนำเสนอรูปภาพ และการเขียนที่มีความน่าสนใจ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ในระหว่างวันที่ 10 ธันวาคม 2564 – 31 มีนาคม 2565 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นไปอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง บริษัทฯพร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ จึงได้มีการให้บริการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในห้องโดยสาร และตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรี 24 รายการ ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปีใหม่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรถยนต์ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถนำรถยนต์ไปตรวจเช็กได้ตั้งแต่วันนี้ โดยมีรายการตรวจเช็ก 24 รายการ ดังนี้ 1. ตรวจเสียงเครื่องยนต์ขณะสตาร์ท 2. ที่ปัดน้ำฝน/น้ำล้างกระจก 3. ยางกันฝุ่นเพลาขับ 4. ลูกปืนล้อ 5. ลูกหมากปีกนก 6. สภาพยางรถยนต์ 7. สายพานต่างๆ 8. ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์ 9. รอยรั่วและความผิดปกติของท่อทางน้ำ 10. รอยรั่วและความผิตปกติของพวงมาลัยพาวเวอร์ 11. รอยรั่วและความผิดปกติของหม้อน้ำ 12. รอยรั่วและความผิดปกติของเกียร์ 13. รอยรั่วและความผิดปกติของเครื่องยนต์ 14. ระบบฟรีแป้นเหยียบ/คลัตช์/เบรกมือ 15. ระบบไฟส่องสว่าง/แตร 16. ระบบเครื่องปรับอากาศ พัดลม และน้ำยา 17. ระดับน้ำมันพาวเวอร์ 18. ระดับน้ำมันเกียร์ 19. ระดับน้ำมันเครื่อง 20. ระดับน้ำมันเบรก 21. ระดับน้ำในถังสำรอง/ระดับน้ำยาหล่อเย็น 22. เข็มขัดนิรภัย 23. แบตเตอรี่/ระดับน้ำกลั่น 24. โช้คอัพหน้าหลัง > ระดับน้ำมันเฟืองท้าย (เพิ่มเติม เฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว) > ระดับน้ำมันทรานเฟอร์ (เพิ่มเติม เฉพาะรถที่มีอุปกรณ์ดังกล่าว) โตโยต้า ขอเชิญชวนทุกท่านมาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างสังคมคนขับรถดี ผ่านการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ การขับขี่อย่างปลอดภัย มีวินัย เคารพกฎจราจร รวมถึงร่วมแบ่งปันน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง “ร่วมสร้างสังคมคนขับรถดี – กระตุ้นภูมิขับดี ด้วยวินัย และน้ำใจ” ให้ทุกคนเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย เพื่อขับเคลื่อนความสุขในการใช้รถใช้ถนนให้แก่คนไทยทุกคนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565
ฮอนด้า เดินหน้าเป็นองค์กรสร้างสังคมปลอดมลพิษ
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าเป็นองค์กรสร้างสังคมปลอดมลพิษ พร้อมคืนประโยชน์สู่สังคม ร่วมกับหน่วยงาน Less Plastic Thailand เข้าร่วมโครงการแยกขวดช่วยหมอ เพื่อเชิญชวนพนักงานฮอนด้า ระดมขวดพลาสติกใสใช้แล้ว มารีไซเคิลเป็นชุด PPE แบบใช้ซ้ำได้ 20 ครั้ง และส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ใน 4 โรงพยาบาลสวมใส่ขณะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันโควิด-19 บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า ได้ดำเนินธุรกิจ ด้วยความใส่ใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นที่จะปกป้องสภาพแวดล้อมรวมถึงเพื่อนมนุษย์จากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเสมอมา ด้วยมาตรการลดปริมาณและกำจัดของเสียและวัสดุที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ รวมทั้งสนับสนุนให้พนักงานฮอนด้าลดปริมาณขยะในชีวิตประจำวัน ทำให้สามารถช่วยลดปริมาณขยะและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการทำลายหรือจัดการขยะพลาสติก โดยเฉพาะขวดพลาสติกใส (PET) ที่สามารถนำมารีไซเคิลแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายชนิด รวมทั้งชุด PPE ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญ ที่ช่วยปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบัน ฮอนด้า ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการแยกขวดช่วยหมอ และขอขอบคุณเพื่อนพนักงานฮอนด้า ที่ช่วยกันรวบรวมขวดพลาสติกใสที่ใช้ระหว่างวันเป็นจำนวนมากกว่า 3,600 ขวด แล้วนำไปรีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นชุดป้องกันส่วนบุคคล หรือ PPE แบบใช้ซ้ำได้ 20 ครั้ง (Reusable PPE) ให้บุคลากรทางการแพทย์ ได้ถึง 200 ชุด โดยได้ทำการส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ใน 4 โรงพยาบาลที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ได้แก่ โรงพยาบาลวังน้อยและโรงพยาบาลเสนา ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในจังหวัดปราจีนบุรี
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3เอ็ม
เมื่อ 3M จัดแคมเปญพิเศษสุดว้าว!! ลุ้นรับ iPhone13 และสร้อยคอทองคำ มูลค่ากว่า 4 แสนบาท เปรียบเทียบแคมเปญเดียวกันกับคู่แข่ง หวังชนหงายท้อง ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ 3เอ็ม ผู้นำนวัตกรรมฟิล์มกรองแสงรายแรกของโลก ส่งแคมเปญโชค 2 ชั้น เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงและฟิล์มเปลี่ยนสีรถยนต์ 3เอ็ม โดยพบกับโชคชั้นที่ 1 ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ รุ่น เซรามิค อัลตร้า เคลียร์ ในราคาเดียวสำหรับรถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ เพียง 8,900 บาท (PPV, MPV, รถตู้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ต่อด้วยโชคชั้นที่สองเมื่อติดตั้งฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม รุ่น เซรามิค อัลตร้า เคลียร์, เซรามิค เอส อิดิชั่น หรือ ไพรเวซี่ พลัส มีสิทธิ์ลุ้นรับ iPhone13 ขนาด 128GB จำนวน 10 รางวัล มูลค่ารวม 299,000 บาท และสร้อยคอทองคำ หนัก 25 สตางค์จำนวน 20 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 142,000 บาท จำกัด 1 สิทธิ์ ต่อ 1 คัน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ ผู้รับสิทธิ์จะต้องติดตั้งฟิล์มตามรุ่นที่ระบุ ตั้งแต่วันนี้ – 21 มกราคม 2565 เท่านั้น ร่วมลุ้นรับโชคสองชั้นกับ ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3เอ็ม เพียงลงทะเบียนจองสิทธิ์โปรโมชันและนัดหมายติดตั้งได้ที่https://bit.ly/3vUqGGY หรือสามารถตรวจสอบ ร้านค้าที่ร่วมรายการ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชัน และกิจกรรมต่างๆ ได้ทาง Facebook : 3M Auto Film ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3เอ็ม
Thailand Energy Awards
รางวัลสำคัญ เชลล์ คว้า 2 รางวัลชั้นนำด้านพลังงานไทย จากการประกวด Thailand Energy Awards 2020 และ 2021 ตอกย้ำความมุ่งมั่นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด คว้า 2 รางวัลดีเด่นด้านพลังงานไทยจากการประกวด Thailand Energy Awards 2020 และ 2021 ได้แก่ รางวัลด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารควบคุม สำหรับสำนักงานใหญ่ บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทยจำกัด และรางวัลด้านพลังงานทดแทน ประเภทโครงการที่ไม่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า สำหรับโครงการเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ที่หลังคาและโรงจอดรถ สำนักงานใหญ่ จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ตอกย้ำเป้าหมายการเป็นธุรกิจพลังงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ใน พ.ศ. 2593 ภายใต้กลยุทธ์”Powering Progress” คุณปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เชลล์ในฐานะที่เป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เราเร่งขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งจากการการดำเนินธุรกิจของเรา และจากผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงและพลังงานอื่นๆ ที่เราจำหน่ายให้กับลูกค้าด้วย อีกทั้งทำงานร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทยเพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างมีประสิทธิภาพด้วยโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่เรากำลังดำเนินการในประเทศไทย โดยเรายังคงความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตลอดเส้นทางของการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ซึ่งมีวิธีการและโอกาสใหม่ๆ ที่หลากหลาย” ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านพลังงาน เชลล์จัดสรรทรัพยากรด้วยความเอาใจใส่ และให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกมาอย่างต่อเนื่อง เชลล์ได้เน้นแนวทางการออกแบบสำนักงานที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอาทิ การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ทั้งบริเวณภายในและภายนอกสำนักงาน มีการติดตั้งแผงโซลาร์ตามจุดต่างๆ ทั้งบนอาคารและที่จอดรถ เพื่อนำพลังงานเข้ามาใช้ในออฟฟิศ ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาดเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้ารวมของอาคารโดยเฉลี่ย 30% และสูงสุดถึง 85% ทำให้สามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศลงได้ถึงประมาณ 431 ตันต่อปี นับเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเชลล์ในด้านการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ขานรับ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมรุกจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจวาระเปิดประเทศ ประเดิมงานแรก “ดีพร้อม มอเตอร์ โชว์” จังหวัดลำปาง ฟื้นกิจกรรมท่องเที่ยว – งานแฟร์ในระดับภูมิภาค พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม ขานรับมาตรการกระทรวงอุตสาหกรรมในการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ รุกจัดกิจกรรม DIPROM MOTOR SHOW ณ จังหวัดลำปาง ระหว่างวันที่ 9 – 15 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อสร้างมูลค่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งผลักดันให้มีการจัดนิทรรศการและงานแฟร์ได้อย่างต่อเนื่องกระตุ้นการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ พร้อมดึงผู้ประกอบการในโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือ คพอ. ในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 40 รายเข้าร่วมงาน ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบ ซึ่งคาดว่าตลอดการจัดงานในครั้งนี้ จะมีเงินสะพัดภายในงานกว่า 115 ล้านบาท คุณณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า “อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องด้วยไทยยังคงเป็นฐานสำคัญในการผลิตทั้งชิ้นส่วนยานยนต์ การประกอบรถยนต์ รวมถึงการผลิตรถยนต์เชิงพาณิชย์ ซึ่งสถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี2564 ที่ผ่านมานั้นพบว่าเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีการผลิตรถยนต์ 1.6 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 แบ่งเป็นขายในประเทศ 0.75 ล้านคัน และส่งออกต่างประเทศ 0.85 ล้านคัน ส่วนในปี2565 ได้ประมาณการว่าจะมีการผลิตรถยนต์ 1.7-1.8 ล้านคัน ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญทั้งการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากขึ้น มาตรการส่งเสริมการลงทุนและสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ รวมถึงการส่งออกที่ขยายตัวตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ดังนั้น ดีพร้อม จึงได้จับมือกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รวมถึงภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน ร่วมจัดงาน“DIPROM MOTOR SHOW” ซึ่งจะจัดขึ้นที่อาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำปาง ระหว่างวันที่ วันที่ 9-15 กุมภาพันธ์ 2565 และเป็นครั้งแรกที่ ดีพร้อม ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อกระตุ้นตลาดยานยนต์โดยเฉพาะในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ และเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมีค่ายรถยนต์และจักรยานยนต์ชั้นนำเข้าร่วมมากกว่า 15 แบรนด์ ซึ่งคาดว่าจากการจัดกิจกรรมนี้จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบภาคการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้กว่า 100 ล้านบาท”
MG EP รถยนต์ไฟฟ้า100% ต้องการแหล่งพลังงาน
บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ (กลางขวา) ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า MG EP จำนวน 14 คัน ให้กับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) โดยมี นายพีรเวท ณ ระนอง ผู้จัดการส่วนพัฒนาตลาดรัฐและพาณิชย์ (กลางซ้าย) เป็นผู้รับมอบ ณ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สาขาพระโขนง บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100% สู่องค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน ล่าสุดส่งมอบถึงมือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) จำนวน 14 คัน เพื่อการใช้ในกิจกรรมภายในองค์กรพร้อมร่วมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ของไทย เดินหน้ายกระดับประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า “MG EP เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100% ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั้งจากกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าองค์กร ทั้งนี้การส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงอย่างรุ่น MG EP ให้กับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคุณภาพที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานได้จริงในทุกรูปแบบ พร้อมอรรถประโยชน์ที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครัน ซึ่งเอ็มจี รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทพลังงานชั้นนำในกลุ่มปตท. ที่พร้อมร่วมกันสร้างสังคมยานยนต์ไฟฟ้าให้เติบโตขึ้นและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมไทยเกิดการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวอีกทั้งยังเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของภาครัฐที่ได้มีการวางเป้าหมายหลักในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero greenhouse gas emission) ภายในหรือก่อนปี พ.ศ. 2608 MG EP ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “EVeryone” ด้วยองค์ประกอบพื้นฐานของการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างแท้จริง ทั้งขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางรองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของ สมรรถนะของ EV ที่ตอบสนองได้อย่างทันใจไม่ต้องรอรอบ ระบบความปลอดภัย ที่ให้มาอย่างครบครัน เสริมความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ ด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และค่าบำรุงรักษาที่ต่ำช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว จึงเหมาะกับการใช้งานสำหรับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับทั้งสมรรถนะของตัวรถและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป” ทั้งนี้ นอกเหนือจากตัวรถที่เอ็มจีออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานได้จริงในทุกรูปแบบ พร้อมอรรถประโยชน์ที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบครันแล้ว เอ็มจียังได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นใจในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในทุกๆ มิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าภายใต้ชื่อ MG Super Charge ที่ให้บริการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charge) ซึ่งปัจจุบันติดตั้งไปแล้วกว่า 120 แห่ง ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าให้มีสถานีชาร์จในทุกๆ 150 กิโลเมตรเพื่อให้คนไทยมั่นใจในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นในอนาคต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่ Website: www.mgcars.com
ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่
ฮอนด้า เปิดตัวโครงการ “ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่” มอบแพคเกจเรียนขับขี่ปลอดภัย พร้อมทดสอบเพื่อรับใบขับขี่ฟรี! รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ผู้นำวงการขับขี่ปลอดภัยของเมืองไทย เปิดตัวโครงการ “ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่” มอบแพคเกจเรียนขับขี่ปลอดภัย พร้อมเข้ารับการทดสอบเพื่อรับใบขับขี่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าใน 10 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า “กว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ให้ความสำคัญกับเรื่องขับขี่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ด้านการขับขี่อย่างปลอดภัยสู่สังคมไทย แนวทางของไทยฮอนด้า สอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกันกับทางฮอนด้ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ประกาศวิสัยทัศน์ถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เอาไว้อย่างชัดเจนเมื่อไม่นานมานี้ นั่นคือการลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจากยานยนต์ฮอนด้าลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 และลดลงให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 สำหรับในเมืองไทย ผลโครงการวิจัยเพื่อเมืองไทยไร้อุบัติเหตุ โดยศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทยหรือ TARC ได้เปิดเผยให้เห็นว่าผู้ใช้รถจักรยานยนต์ชาวไทยมากกว่า 90% ยังขาดทักษะขับขี่ที่ถูกต้อง และยังมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์อีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีใบขับขี่ ไทยฮอนด้าได้ตระหนักถึงปัญหาและต้องการเข้ามาร่วมแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เป็นที่มาของการเปิดตัวโครงการพิเศษ ‘ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่’ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะมอบทักษะขับขี่ปลอดภัยให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า และลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ” ฮอนด้าพร้อมเดินหน้าโครงการ “ฮอนด้าจัดให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ต้องมีใบขับขี่” ให้กับผู้ที่ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นใน 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, นนทบุรี, ปทุมธานี, ภูเก็ต, พังงา, เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยมอบแพคเกจเรียนขับขี่ปลอดภัย พร้อมเข้ารับการทดสอบเพื่อรับใบขับขี่ โดยใช้เวลาเรียนทั้งสิ้น 15 ชั่วโมง ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ สามารถเข้าเรียนได้ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัย Honda Safety Riding Park ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ, ภูเก็ต และเชียงใหม่…
New CBR250RR SP Tri-Color
การดีไซน์ใหม่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากรถแข่งระดับโลก New CBR250RR SP Tri-Color ซึ่งรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถสปอร์ตอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว New CBR250RR SP รถสปอร์ตตระกูล Racing Replica ที่มาพร้อมลวดลายใหม่แบบไตรคัลเลอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Honda Racing ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากรถแข่งระดับโลกสู่ท้องถนน อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อประสบการณ์ในการขับขี่แบบเรซซิ่งสปอร์ตขนานแท้ New CBR250RR SP มาพร้อมคอนเซปต์ The Rush to The Race ถ่ายทอด DNA จาก CBR Fireblade ซูเปอร์ไบค์ระดับเรือธงของฮอนด้า โฉบเฉี่ยวด้วยสไตล์ลิ่งแบบ Tri-Color ที่ตัดกับตัวรถสีแดงอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยกราฟิก RR ที่สะท้อนความเป็นเรซซิ่งสปอร์ตตัวจริง New CBR250RR SP มอบความแรงเต็มพิกัดด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่ง แรงกว่าด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง แบบ Parallel Twin DOHC 4 วาล์ว พิกัด 250 ซีซี หัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบเกียร์แบบสปอร์ต 6 สปีด อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การขับขี่แบบเรซซิ่งสปอร์ตเต็มขั้น ประกอบด้วย -ระบบคันเร่งไฟฟ้า Throttle by Wire มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ Sport+, Sport และ Comfort ให้ความเร้าใจในทุกรูปแบบการขับขี่ – ระบบ Assist Slipper Clutch ลดอาการท้ายสะบัดและป้องกันล้อล็อกขณะเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ -เสริมสมรรถนะการควบคุมด้วย Quick Shifter ให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องบีบคลัตช์ -เรือนไมล์ดีไซน์สปอร์ต LCD Digital Meter แสดงข้อมูลครบถ้วน พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์นักแข่ง ด้วย Lap Timer โหมดจับเวลาต่อรอบในสนามแข่งขัน -โช้กอัพหน้าแบบหัวกลับ เพิ่มความยาวขึ้นอีก 5 มิลลิเมตร รองรับแรงกดจากการเบรกที่รุนแรงได้ดียิ่งขึ้น -โช้กอัพหลังแบบ Pro-Link สามารถปรับได้ 5 ระดับ ให้การขับขี่นุ่มนวลพร้อมการยึดเกาะอย่างดีเยี่ยมในทุกสภาพถนนและสนามแข่งขัน -โครงสร้างตัวรถแบบ Truss Frame หรือเฟรมถัก ออกแบบด้วยเทคโนโลยี CAE-Computer Aided Engineering ทำงานร่วมกับ…
TOYOTA PRETTY เปิดรับสมัครแล้ว
พบกับมิติใหม่ TOYOTA PRETTY 2022 ร่วมคัดเลือกเป็นทีมงานโตโยต้าพริตตี้พร้อมรับรายได้ และสิทธิประโยชน์มากมาย รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท คุณสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดประกาศรับสมัครผู้มีบุคลิกภาพดี มากความสามารถ ร่วมคัดเลือกเป็นทีมงาน “โตโยต้า พริตตี้” พร้อมบทบาทการนำเสนอสินค้า และโอกาสใหม่ที่จะก้าวมาเป็น “Online influencer” ในแบบคุณบนทุกPlatform ที่จะสะท้อนความสมาร์ทในตัวคุณอย่างแท้จริง พร้อมรายได้ และสิทธิประโยชน์มากมาย รวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท เปิดรับสมัครแล้ววันนี้! ถึงวันที่ 16 มกราคม 2565 คุณสมบัติผู้สมัคร : 1.เพศหญิง อายุ 18 -25 ปี (อายุต้องไม่ถึง 26 ปี ในวันตัดสิน วันที่ 8 ก.พ. 2565) 2.ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 165 เซนติเมตร 3.สถานภาพโสด 4.บุคลิกภาพดี มีความมั่นใจในตัวเอง และมนุษย์สัมพันธ์ดี 5.กำลังศึกษา หรือจบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป 6.มีความสามารถในการนำเสนองานได้ดี (Presentation Skill) 7.สามารถเดินทางไปปฏิบัติงานต่างจังหวัดได้ 8.สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ หากมีความสามารถพิเศษอื่นๆ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ วิธีการสมัคร : ผู้สนใจเข้าร่วมการคัดเลือกสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ www.toyotapretty2022.com โดยต้องดำเนินการตามรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1.แนบรูปถ่ายสี เต็มตัว, ครึ่งตัวหน้าตรง และ ครึ่งตัวด้านข้าง อย่างละ 1 รูป (ห้ามใช้รูปที่มีการปรับแต่ง หรือ Retouch และรูปต้องเป็นไฟล์นามสกุล JPG ขนาดไม่ต่ำกว่า 500 KB และต้องเป็นรูปที่ถ่ายมาไม่เกิน 2 เดือน) 2.ทำคลิป Video แนะนำตัวเอง พร้อมแนะนำสินค้า 1 ผลิตภัณฑ์ (***หากเป็นสินค้ารถยนต์ ให้เป็นโตโยต้าเท่านั้น) ความยาวคลิปไม่เกิน 45 วินาที จำนวน 1 คลิป เพื่อแสดงถึงทักษะในการสื่อสาร และการนำเสนอสินค้า ตาม Concept “Be Smart Be You” 3.กรอกข้อมูลการสมัครในเว็บไซต์ให้ถูกต้อง และครบถ้วน รับสิทธิพิเศษ…เหนือใคร : -รายได้กว่า 600,000 บาท ตลอดระยะเวลาการทำงาน 13 เดือน -รับค่าถ่ายทำคลิปโปรโมทรถยนต์ และอุปกรณ์สำหรับการถ่ายทำครบชุด -ใช้รถยนต์โตโยต้าสำหรับเดินทางไปทำงานฟรี! ตลอดอายุสัญญาจ้าง -เข้าร่วมการอบรมพัฒนาบุคลิกภาพ และอบรมพิเศษหลักสูตรพัฒนาการเป็น Youtuber -ชุดแต่งกายโตโยต้าพริตตี้ โดดเด่น เสริมภาพลักษณ์ -ประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพตลอดอายุสัญญาจ้าง รอบการพิจารณาตัดสิน : รอบคัดเลือก ( “รอบที่ 1” ) วันที่ 17-19 มกราคม 2565 ประกาศผลผู้เข้ารอบที่ 1 จำนวน 200 คน ในวันที่ 20 มกราคม 2565 ผ่านเว็บไซต์ www.toyotapretty2022.com รอบที่ 2 วันที่ 24-25 มกราคม 2565 ประกาศผลผู้เข้ารอบที่ 2 จำนวน 100 คน ในวันที่ 26 มกราคม 2565 ผ่านเว็บไซต์ www.toyotapretty2022.com รอบแสดงความสามารถพิเศษ วันที่ 28 มกราคม 2565 ประกาศผลผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 2 จำนวน 100 คน จะต้องเข้าร่วมกิจกรรมที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สำนักงานการตลาด (บางนา) เพื่อรับการคัดเลือกให้เหลือ 20 คน รอบตัดสิน วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ทำการคัดเลือกและประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น TOYOTA PRETTY 2022 จำนวน 8 คน สมัครเข้าร่วมการคัดเลือกได้ที่ : เว็บไซต์ www.toyotapretty2022.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : บริษัท ซีทีจี 2002 จำกัด (สำนักงานใหญ่) หมู่บ้าน บี สแควร์ พระราม9 เหม่งจ๋าย 600/7-8 ซอยรามคำแหง 39 (เทพลีลา1) แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 หมายเลขโทรศัพท์ : 082-689-8097 Line Official Account…