บริดจสโตนจัดโปรโมชั่น Bar B Q Plaza E-Voucher

บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด จัดโปรโมชั่นพิเศษเอาใจสายปิ้งย่าง กับโปรฉ่ำเด็ด เพียงซื้อผลิตภัณฑ์ยาง “DURAVIS R624 HEAVY DUTY” จำนวน 2 เส้นขึ้นไป และลงทะเบียนรับประกันยาง รับฟรี Bar B Q Plaza E-Voucher มูลค่า 300 บาท เพียงลูกค้าลงทะเบียนรับสิทธิ์ โดยสแกน QR Code หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์www.bridgestone.co.th ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2565 หรือจนกว่าของสมนาคุณจะหมด เงื่อนไขโปรโมชั่น 1)     ลูกค้าได้รับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ Bar B Q Plaza E-Voucher มูลค่า 300 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ยางDURAVIS R624 HEAVY DUTY จำนวน 2 เส้นขึ้นไป และลงทะเบียนรับประกันยาง พร้อมอัปโหลดใบเสร็จได้ถูกต้องและครบถ้วน 2)     ข้อมูลบนใบเสร็จต้องครบถ้วนสมบูรณ์ โดยมีรายละเอียด วันที่ใบเสร็จ, ชื่อร้านค้า, ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์มือถือ ทะเบียนรถ, รุ่นยาง, ขนาดยาง, จำนวนยาง และราคายาง 3)     ภายใน 5 วันทำการ บริษัทฯ จะจัดส่งลิงก์สำหรับดาวน์โหลด Bar B Q Plaza E-Voucher ผ่านทางระบบ SMS 4)     จำกัดบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ 1 สิทธิ์ ต่อ 1 ใบเสร็จ 5)     จำกัดสิทธิ์ 2,000 สิทธิ์ตลอดระยะเวลาโปรโมชั่น 6)     ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2565 7)     เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด 8)     บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Error! Hyperlink reference not valid. หรือสอบถามได้ที่แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 02-636-1555  

 
Read More

เชลล์ โกพลัส มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ลูกค้า

ใช้ เชลล์ โกพลัส เพียง 199 คะแนน แลกรับบัตรชมภาพยนตร์ “จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย” บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เดินหน้าเติมสุขให้กับลูกค้า ส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษ ให้สมาชิกเชลล์โกพลัสได้สัมผัสความตื่นเต้น เร้าใจ จากภาพยนตร์ชื่อดังที่ทุกคนรอคอยอย่าง “Marvel Studios’ Doctor Strange in the Multiverse of Madness: จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย” ได้อย่างง่ายดาย เพียงใช้คะแนนเชลล์ โกพลัส 199 คะแนน* แลกรับบัตรชมภาพยนตร์ “จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย” ทันที 1 ที่นั่ง! ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 15 มิถุนายน 2565 โดยสมาชิกเชลล์ โกพลัส สามารถรับคะแนนสะสมเป็นสองเท่าได้ง่าย ๆ เพียงเติมน้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์** และพิเศษสำหรับลูกค้าที่สมัครสมาชิกเชลล์ โกพลัสตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2565 รับฟรีทันที 130 คะแนน* รีบสะสมคะแนน แล้วร่วมเดินทางไปสู่มิติที่มิอาจหยั่งรู้ได้ กับเชลล์ โกพลัส ได้ตั้งแต่วันนี้เลย! ลูกค้าที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการสมัครสมาชิก และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่www.shell.co.th/shellgoplus  

 
Read More

เอ็มจี เผยยอดขายไตรมาสแรก โตเพิ่ม 11%

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2565ด้วยยอดขายรวมกว่า 8,394 คันหรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 11% โดยในส่วนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล            โตเพิ่มขึ้นถึง 24% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังสามารถกวาดยอดจองอีวีสูงกว่า 4,500 คัน ภายใน 1 เดือน หลังเข้าร่วมนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภาครัฐ สะท้อนการเป็นผู้นำตัวจริงของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมตอบสนองความต้องการของคนไทยด้วยการเปิดรับจองรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มทยอยส่งมอบรถตามกำหนดเดิม ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วงต้นปีนี้ มีความคึกคักมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่ง
เป็นผลมาจากงานมอเตอร์โชว์ โดยในไตรมาสแรก เอ็มจี สามารถทำยอดขายรวม ได้ถึง 8,394 คัน หรือคิดเป็นตัวเลขการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 11% โดยเฉพาะในส่วนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสามารถสร้างยอดขายโตสูงขึ้นกว่า 24% เป็นผลจากยอดที่เพิ่มขึ้นของ ALL NEW MG5 ประกอบกับทางภาครัฐได้ประกาศนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยเอ็มจี ถือเป็นแบรนด์แรกที่ตอบรับและพร้อมสนับสนุนมาตรการ ส่งผลให้ราคาจำหน่ายมีการปรับลดลงมากสุดถึงกว่า 246,000 บาท และได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างมาก ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน เอ็มจีกวาดยอดจองสูงถึงกว่า 4,500 คัน จากรุ่น NEW MG ZS EV คิดเป็นสัดส่วน 40% และ MG EP ด้วยสัดส่วน 60%ยืนหยัดการเป็น ผู้นำตัวจริง ของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยเอ็มจี จะเริ่มทยอยส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นให้กับลูกค้า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป และสำหรับผู้ที่สนใจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเอ็มจี เรายังเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถสั่งจองได้ สำหรับผู้ที่สั่งจอง  ณ วันนี้ จะมีกำหนดรับรถประมาณไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทั้งนี้ เอ็มจี ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจ
กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเอ็มจีเป็นอย่างดีในส่วนของไตรมาสที่ 2 เอ็มจีคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ จะปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น เห็นได้จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15% จากปีที่ผ่านมา” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่ Website: www.mgcars.com   

 
Read More

BREAK THE LIMIT OF THE NIGHT ROAD

ซัมซุง ร่วมกับ มินิ ประเทศไทย จัดกิจกรรม “BREAK THE LIMIT OF THE NIGHT ROAD” ชวนสื่อมวลชนมาร่วมฉีกทุกกฏไปพร้อมกันผ่านการเดินทางค้นพบความงามอันน่าตื่นเต้นของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนที่สนุกสนานและมีสีสันขึ้นทันตาด้วย The Freestyle โปรเจคเตอร์พกพาพร้อมสมาร์ททีวีฟีเจอร์ที่ปลดล็อคทุกข้อจำกัดด้านความบันเทิงผ่านเลนส์กล้องกลางคืนสุดเก่งของ Galaxy S22 Series ที่สามารถถ่ายทอดภาพบรรยากาศได้อย่างคมชัดไม่มีเบลอแม้ในที่แสงน้อย บนการเดินทางที่แตกต่างและไม่เหมือนใครจาก มินิที่ขับสนุกสไตล์ Go-Kart Feeling หลากหลายรุ่นที่มาให้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ประเดิมจุดหมายแรกกับการฉีกทุกกฏของการถ่ายภาพกลางคืนภายในอีเวนต์สุดฮอตประจำสัปดาห์ อย่างAwakening Khaosan ที่ทางซัมซุงได้สร้างสรรค์ห้อง S22 Ultra Verse เพื่อจัดแสดงผลงานศิลปะและแสงไฟ LED สุดอาร์ทเอาใจสายทำคอนเทนต์โดยเฉพาะ ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้ ทุกคนจะได้ทดสอบประสิทธิภาพของฟีเจอร์ Nightography ในGalaxy S22 Ultra จากการถ่ายภาพในที่แสงน้อยแบบจัดเต็มครบทุกเลนส์ ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ Wide หรือ Ultra Wide ไปจนถึงโหมด Night Portrait เพื่อถ่ายภาพบุคคลในที่มืด พร้อมรายละเอียดหน้าชัดหลังเบลอได้สวยแบบไม่มีหวั่นหรือจะลองเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ก็สวยคมชัดโดนใจ ตามด้วยการฉีกทุกกฏการขับขี่ที่สนุก เท่ ไม่ซ้ำใคร ในการทดลองขับมินิหลากหลายรุ่น ในยามค่ำคืน เติมแต่งเสน่ห์แห่งแสงสี ของการเดินทางให้กลางคืนของคุณไม่เงียบเหงาอีกต่อไป บนเส้นทางถนนข้าวสาร – ถนนเจริญกรุง ที่ทุกคนจะได้สัมผัสสมรรถนะของรถกันอย่างเต็มที่ ด้วยพลังสปอร์ต go-kart feeling ขับขี่สนุก คล่องตัว ขับขี่ในเมืองได้เป็นอย่างดี เข้าจอดได้อย่างสะดวก พร้อมฟีเจอร์สุดยูนิค อย่าง Ambient Lighting หรือว่าสีไฟในห้องโดยสาร ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนความสว่าง และเปลี่ยนสีได้ MINI Logo Projection ลูกเล่นไฟแบบ Welcome light จากบริเวณกระจกฝั่งคนขับ ที่จะฉายไฟโลโก้ มินิ ลงบนพื้นด้านนอกทุกครั้งที่ปลดล็อกรถหรือเปิดประตูรถและจะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นในที่แสงน้อย สำหรับดีไซน์ภายนอก โดดเด่นด้วยไฟท้ายลายยูเนียน แจ็ค ตอกย้ำความเป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษ มีความโดดเด่นด้วยรูปทรงและเส้นไฟ LED ทำให้ภาพรวมของท้ายรถมินิโดดเด่น สวยงาม ลงตัวและแสดงออกถึงความเป็นรถยนต์สัญชาติอังกฤษได้อย่างชัดเจน  

 
Read More

มิตซูบิชิ เปิดโชว์รูมแห่งใหม่บนถนนวิภาวดีรังสิต

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด สร้างความแข็งแกร่งในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพื่อมอบการบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า โดยร่วมมือกับ บริษัท มิตซู พระนคร ออโต้ จำกัดเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่อย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ มิตซู พระนคร วิภาวดี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการให้บริการแก่ลูกค้าที่พักอาศัยอยู่ในเขตบางเขน และเขตจตุจักร กรุงเทพฯ พร้อมความมุ่งมั่นในการส่งมอบยานยนต์และการบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า มร.เออิอิชิ โคอิโตะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในด้านการให้บริการ พร้อมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันเรามีโชว์รูมและศูนย์บริการที่พร้อมให้บริการและครอบคลุมครบทุกจังหวัดของประเทศไทย พร้อมกันนี้เรายังคงมุ่งมั่นร่วมมือกับเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อร่วมกันพัฒนาในด้านคุณภาพการบริการ เพื่อส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” บริษัท มิตซู พระนคร ออโต้ จำกัด ถือเป็นหนึ่งในเครือข่ายผู้จำหน่ายที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดยปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 3 สาขา ที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ สาขางามวงศ์วาน สาขาสายไหม และล่าสุดสาขาวิภาวดี มิตซู พระนคร วิภาวดี ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 9.3 ไร่ โดยเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจรที่เพียบพร้อมด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย ดำเนินงานโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย และฝ่ายบริการหลังการขายที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญพร้อมความมุ่งมั่นในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า โดยภายในโชว์รูมแห่งใหม่นี้สามารถจัดแสดงรถยนต์ มิตซูบิชิ รุ่นต่าง ๆ ได้มากถึง 6 คัน มีพื้นที่สำหรับให้บริการซ่อมบำรุงพร้อมอุปกรณ์ที่ครบครันมากถึง 19 ช่องซ่อม มิตซู พระนคร วิภาวดี ยังเป็นหนึ่งในโชว์รูมและศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส    ประเทศไทย ที่พร้อมจำหน่าย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และให้บริการแก่ลูกค้า รวมทั้งยังติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ และเครื่องชาร์จกระแสไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวก ทั้งนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ถือเป็นรถพีเอชอีวีที่ขายดีที่สุดในโลก ที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงการเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกเท่านั้น แต่ยังสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม พร้อมความสะดวกสบาย และสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้าอีกด้วยทั้งนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ยังสามารถขับขี่ได้ทั้งในโหมดไฟฟ้า (BEV) สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน และสามารถขับขี่แบบรถยนต์ไฮบริด (HEV) สำหรับการเดินทางระยะไกล โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลใจกับเรื่องการหาสถานีชาร์จไฟฟ้า พร้อมกันนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ยังตอกย้ำการเป็นผู้นำรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดอย่างแท้จริง ด้วยยอดจำหน่ายสูงสุดในทวีปยุโรปตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา มิตซู พระนคร วิภาวดี พร้อมแล้วที่จะเปิดให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่านด้วยความสะดวกสบาย มั่นใจได้ด้วยทีมงานคุณภาพ และครบครันด้วยบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม โดยภายในโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ยังตกแต่งด้วยดีไซน์มาตรฐานเดียวกันทั่วโลกของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่พร้อมมุ่งมั่นในการส่งมอบยานยนต์คุณภาพ การบริการและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลและร่วมค้นหาความสำเร็จใหม่ ๆ ภายใต้แนวคิดแบรนด์ระดับโลก ‘Drive your Ambition’   นอกจากการส่งมอบยานยนต์และบริการที่ดีมีคุณภาพแล้ว โชว์รูมและศูนย์บริการ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ ยังได้คำนึงถึงสุขอนามัยและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดขอโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ได้แก่ การตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้าศูนย์บริการ พนักงานที่ใกล้ชิดลูกค้าจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หมั่นเช็ดทำความสะอาดภายในโชว์รูมและศูนย์บริการโดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง ตลอดจนการทำความสะอาดภายในห้องโดยสารก่อนส่งมอบหลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกท่านจะมีความปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีเมื่อมาใช้บริการที่โชว์รูมและศูนย์บริการ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ  

 
Read More

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยรายงานความรับผิดชอบต่อสังคม

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยแพร่รายงานความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility Report) ประจำปีพ.ศ. 2564 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการร่วมขับเคลื่อนแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาด้วยนวัตกรรม ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน เดินหน้าพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะควบคู่ไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การสร้างสวัสดิการทางสังคมการพัฒนาบุคลากร ตลอดจนการสานต่อปณิธานองค์กรในการสร้างคุณค่าแก่สังคม พร้อมเร่งเครื่องสู่การเป็นบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก มุ่งมั่นสู่การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดีต่อสุขภาพ และยั่งยืนเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดและเป็นกลางทางคาร์บอน    ในปีพ.ศ. 2564 เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าขยายการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในด้านพลังงานที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำทั่วทั้งโลก และห่วงโซ่ระบบนิเวศหมุนเวียนคาร์บอนต่ำที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการวิจัยและพัฒนาระบบซัพพลายเชน การผลิตรถยนต์ การขนส่งและโลจิสติกส์ การขาย ไปจนถึงการทำลายแยกชิ้นส่วนและการรีไซเคิล เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตลอดทั้งกระบวนการ        แพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะ GWM L.E.M.O.N DHT Hybrid ในส่วนของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในกระบวนการผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ดำเนินมาตรการควบคุมการปล่อยมลพิษต่าง ๆ อย่างเคร่งครัดด้วยการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ยกระดับและปรับปรุงระบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยในการปกป้องสิ่งแวดล้อม เช่น สถานีบำบัดน้ำเสีย สถานีบำบัดก๊าซเสีย และเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะเดียวกันก็ยังสอดคล้องกับข้อจำกัดด้านการปล่อยมลพิษ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างเต็มรูปแบบ 100% ตัวอย่างเช่นที่ศูนย์กลางการผลิตของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในมณฑลเหอเป่ย์ สามารถควบคุมและลดค่าความเน่าเสียของน้ำเสียจากสารเคมี (COD) ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด คือ ต่ำกว่า 300 มก./ลิตร หรือคิดเป็น 60% จากที่กำหนดไว้ไม่เกิน 500 มก./ลิตร ปริมาณแอมโมเนียไนโตรเจนต่ำกว่า 40.5 มก./ลิตร หรือคิดเป็น 90% จากที่กำหนดไว้ไม่เกิน 45 มก./ลิตร ปริมาณก๊าซไฮโดรคาร์บอนที่ไม่ใช่มีเทน (NMHC) ต่ำกว่า 35 มก./ลบ.ม. หรือคิดเป็น 70% จากที่กำหนดไว้ไม่เกิน 50 มก./ลบ.ม. และยังสามารถลดการปล่อยของเสียอันตรายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ สามารถลดการผลิตกากตะกอนลงได้ 20% และลดการผลิตเศษผงสีลงได้ 15%  สำหรับด้านการใช้พลังงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ปรับปรุงกระบวนการและขั้นตอนในการใช้พลังงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการปรับปรุงอัตราการใช้ก๊าซแห้ง การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นของห้องพ่นสี โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้เข้าไปปรับปรุงกระบวนการเคลือบสีและการใช้ก๊าซแห้งภายในโรงงานผลิตรถยนต์ทั่วประเทศจีน ทำให้สามารถลดการปล่อยความร้อนตลอดทั้งปีลงได้ 24% และลดการใช้ก๊าซลงได้ 1,784ลบ.ม./ชม. นอกจากนี้ ด้วยมาตรการอนุรักษ์น้ำ เช่น การใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำเสียและการนำน้ำในบ่อบำบัดกลับมาใช้ใหม่ ทำให้สามารถนำน้ำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้มากกว่าหนึ่งล้านตัน ขณะเดียวกันในปีที่ผ่านมาเกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเดินหน้าขับเคลื่อนแผนการใช้พลังงานรูปแบบใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด โดยได้จัดตั้งสถานีผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังสุทธิ 263 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ทั้งสิ้น 71.27 ล้านกิโลวัตต์         

 
Read More

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมมือ ททท.

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดตัวโครงการ     เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไลฟ์โรด ทรูเปอร์ “ขับสนุกสุดใจ เที่ยวไปให้สุดทาง” พร้อมประเดิมทริปแรกด้วยการจัดคาราวานรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อท่องเที่ยวไป-กลับกรุงเทพฯ และหัวหินแบบรักษ์โลกระหว่างวันที่ 23 – 24 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง กระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น และสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเกรทวอลล์ มอเตอร์ ได้สนับสนุนรถยนต์ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV จำนวน 7 คัน เพื่อใช้ในการเดินทางตอกย้ำความมุ่งมั่นของของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่รับฟังเสียงผู้บริโภคและสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า มร.ไมเคิล จาง ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารแบรนด์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์มอเตอร์ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง ด้วยการนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว ไปพร้อมกับการมีปฎิสัมพันธ์กับชุมชนในพื้นที่และการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับความตั้งใจของเราในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน สำหรับทริปเปิดตัวโครงการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไลฟ์ โรด ทรูเปอร์ “ขับสนุกสุดใจ เที่ยวไปให้สุดทาง” เราเดินทางไปยังอำเภอหัวหินและอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย พร้อมจัดกิจกรรมสุดสนุกมากมายเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยจุดประกายผู้คนให้รู้สึกสนุกกับการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ เข้าถึงธรรมชาติ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ต่อไป” นอกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โครงการเกรท วอลล์ มอเตอร์ ไลฟ์ โรด ทรูเปอร์ ยังมีพันธมิตรอีก 6 หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้ ได้แก่ มูลนิธิส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เที่ยวไทย ฯลฯ และชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว โดยกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นตลอดทั้งปี 2565 เพื่อเชิญชวนลูกค้าและพาร์ทเนอร์มาร่วมเปิดเส้นทางใหม่กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกรุ่นของ GWM โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด Bio-Circular-Green Economic หรือ BCG Model ที่เป็นการนำจุดแข็งด้านความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมของประเทศไทยมาต่อยอดและยกระดับเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้โครงการ “GWM Initiative” ที่ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางสังคม การสืบสานความหลากหลายทางวัฒนธรรมรวมถึงการสร้างและพัฒนาชุมชน สำหรับทริปแรกของโครงการ ขบวนคาราวานได้เดินทางไปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ด้วยสิงโตอารมณ์ดี All New HAVAL JOLION Hybrid SUV รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบไฮบริด โดยออกเดินทางจาก GWM ATT U PARK บางนา ระหว่างทางมีการพักรับประทานอาหารเติมพลังในบรรยากาศริมทะเลกันอย่างเต็มอิ่ม ก่อนที่จะเดินทางไปทำกิจกรรมที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ภายใต้การประสานความร่วมมือจากมูลนิธิส่งเสริมลดก๊าซเรือนกระจกและหน่วยทหารพัฒนา โดยนาวาอากาศเอก ณรงค์ ขำเขียว หัวหน้าชุด ร่วมกับนางสาวสุพร พลพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นำทีมพาชมธรรมชาติ ส่องสัตว์ป่า พร้อมกับร่วมกิจกรรมปลูกป่ากันอย่างสนุกสนาน ที่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ กร.1 ป่ายาง อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จากนั้นจึงเดินทางเข้าพักและร่วมกิจกรรมในตอนกลางคืนสำหรับวันต่อมา คณะคาราวานได้ปั่นจักรยานไปหาดเขากะโหลกเพื่อร่วมกิจกรรมรักษ์โลก ลดขยะ พร้อมทำความสะอาดบริเวณชายหาดท่ามกลางลมเย็นสบาย โดยมีนายปรีดา สุขใจ นายอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์พร้อมคณะให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรม ก่อนจะไปรับประทานอาหารออร์แกนิค และเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ซึ่งตลอดทั้งทริปและการทำกิจกรรม เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนายอิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรหลักของโครงการเกรท วอลล์ มอเตอร์ ไลฟ์ โรดทรูเปอร์ “ขับสนุกสุดใจ เที่ยวไปให้สุดทาง” ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและพันธกิจของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองด้วยความร่วมมือกับภาคเอกชน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด BCG Model รวมถึงการกระตุ้นความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยว และเพิ่มความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ด้านสุขอนามัยให้แก่นักท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “Amazing วิถีใหม่ เที่ยวไทยไม่ตก Trend” พร้อมสร้างความตระหนักถึงการท่องเที่ยวที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม (Responsible Tourism) และลดมลพิษให้มากที่สุด(Zero Waste) ดิฉันเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ รวมทั้งกระตุ้นผู้บริโภคชาวไทยให้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเกิดความยั่งยืนได้เป็นอย่างดี” สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ มีโปรโมชั่นสุดพิเศษให้กับลูกค้าเกรท วอลล์ มอเตอร์ รับส่วนลดพิเศษจากผู้ประกอบการ ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ที่เข้าร่วมกิจกรรม สังเกตสัญลักษณ์กิจกรรม GWM ROAD LIFE TROOPER ตามสถานที่ไลฟ์สไตล์ชั้นนำ อาทิ ร้านอาหาร อยู่เย็น บัลโคนี หัวหิน โรงแรม Blue Lotus ปราณบุรี และร้านอาหาร Chicken & Bee สามร้อยยอด เพียงแสดงกุญแจรถยนต์ GWM รุ่นใดก็ได้ หรือแสดง GWM Application ก็สามารถรับส่วนลดพิเศษได้ทันที ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 นี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก GWM Thailand   นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังต่อยอดความร่วมมือด้วยการสนับสนุน ททท. ในการจัดกิจกรรม “TAT YEC Green Road Trip” ร่วมกับหอการค้าจังหวัดสมุทรสงคราม (Young Entrepreneur Chamber of Commerce) ด้วยการสนับสนุนรถยนต์ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV จำนวน 7 คัน เพื่อใช้ในการจัดคาราวานรถยนต์ไฟฟ้าท่องเที่ยวภาคกลาง ภาคตะวันออก ระหว่างจังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ระหว่างวันที่ 27 – 29 เมษายน2565 ตอกย้ำความตั้งใจของของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภายใต้ BCG Model โดยร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับคนไทยพร้อมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทยอย่างยั่งยืน  

 
Read More

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผนึกกำลัง 3 การไฟฟ้า

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จับมือ 3 หน่วยงานการไฟฟ้า ประกอบไปด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้าและพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้า โดยนำความเชี่ยวชาญของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ผสานกับความเชี่ยวชาญด้านพลังงานไฟฟ้าของทั้ง 3 หน่วยงาน เพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี โดยมี มร. ไมเคิล ฉง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และนายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นผู้ลงนาม ณ GWM Experience Center ไอคอนสยาม พร้อมด้วยทีมผู้บริหารระดับสูงจาก เกรท วอลล์มอเตอร์ ได้แก่ นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ และนายครรชิต ไชยสุโพธิ์ รองประธาน ฝ่ายกิจการองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า “การลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมสนับสนุนขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้าและพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า ระหว่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ กับ กฟผ. กฟน. และ กฟภ. แสดงให้เห็นถึงบทบาทสําคัญของภาครัฐและภาคเอกชนในการร่วมมือกันขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงพลังงาน พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ (Low-carbon Society) ส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในไทยให้เอื้อต่อการจําหน่ายและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ครอบคลุม เพื่อมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป” มร.ไมเคิล ฉง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “หลังจากที่ภาครัฐได้มีนโยบายในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้หลายภาคส่วนพร้อมผนึกกำลังร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมยนตรกรรมแห่งอนาคต เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เป็นแบรนด์รถยนต์กลุ่มแรกที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลไทยเพื่อผลักดันนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยความร่วมมือระหว่างเกรท วอลล์ มอเตอร์ กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งในแง่การดำเนินการสำรวจเชิงลึกเกี่ยวกับสถานีอัดประจุไฟฟ้า การแบ่งปันทักษะและความรู้ความชำนาญในการติดตั้ง รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และรูปแบบการบริการ ซึ่งในปี 2565 เกรท วอลล์ มอเตอร์มีแผนที่จะสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้เพิ่มขึ้นเป็น 55 แห่ง การร่วมมือกับการไฟฟ้าทั้ง 3 หน่วยงานนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้เราบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์ระดับภูมิภาค โดยตั้งเป้าให้ “ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง และขยายตลาดเข้าสู่อาเซียน” ส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน ในอนาคตเราจะทำงานร่วมกับพันธมิตรของเรา โดยอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคชาวไทยในการเดินทางด้วยยานพาหนะไฟฟ้า สำรวจรูปแบบ และโอกาสทางอุตสาหกรรมใหม่เพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของประเทศไทย รวมถึงการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียน” คุณบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน กฟผ. มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบไฟฟ้ามาตลอด52 ปี และมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของไทยมาอย่างต่อเนื่องให้กับผู้ประกอบการและผู้ผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว ทั้งด้านรถยนต์ไฟฟ้าและด้านเครือข่ายการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า การพัฒนาแอปพลิเคชันให้สามารถแบ่งปันข้อมูลกันได้ เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมและธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า โดย กฟผ. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ เช่น เกรทวอลล์ มอเตอร์ เพื่อร่วมสนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายที่จะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าให้มีจำนวน 30% ของการผลิตทั้งหมดในปี 2573 ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหามลภาวะทางอากาศและปัญหาภาวะโลกร้อน พร้อมช่วยสร้างสังคมสีเขียวให้กับประเทศไทยต่อไป ซึ่งในปัจจุบัน กฟผ. ได้เปิดให้บริการสถานี EleX by EGAT พร้อมสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้วจำนวน 49 สถานีทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จ EleX by EGAT ให้มีจำนวนรวมกว่า 120 สถานีให้ได้ภายในสิ้นปี 2565 นี้ เพื่อครอบคลุมการเดินทางทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น” คุณวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า “การไฟฟ้านครหลวงเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา กฟน. มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับเกรท วอลล์ มอเตอร์ สนับสนุนและผลักดันตามแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า นโยบาย 30@30 ของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ โดยกระทรวงพลังงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการสร้างระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน กฟน. ได้วางแผนปรับปรุงโครงข่ายระบบไฟฟ้าในพื้นที่จำหน่ายให้เป็นโครงข่ายอัจฉริยะ (Smart Metro Grid) และมีแผนขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พร้อมอำนวยความสะดวกในการให้บริการหัวชาร์จ MEA EV ที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าผ่าน MEA EV Application ที่ได้มีพัฒนาการใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งานมากขึ้น เชื่อมต่อบนแพลตฟอร์มระบบบริหารจัดการเครื่องอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติที่เกี่ยวข้องกับการชาร์จ สำหรับวางแผนการพัฒนาระบบไฟฟ้าและการให้บริการ เป็นการส่งเสริมสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมยินดีให้ความร่วมมือเอกชนทุกภาคส่วนส่งเสริมดำเนินตามนโยบายภาครัฐต่อไป” คุณศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวปิดท้ายว่า “จากความตั้งใจของ เกรท วอลล์มอเตอร์ ในการยกระดับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้ทัดเทียมในระดับสากล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงพร้อมสนับสนุนบริษัทฯ ในการขยายเขตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับปริมาณรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย กฟภ. ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานไฟฟ้าของไทยที่ให้บริการครอบคลุมทั้ง 75 จังหวัด ได้ขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าไปแล้ว 73 สถานี และมีแผนขยายจำนวนสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพิ่มอีก 190 สถานี รวมเป็น 263 สถานี ภายในปี 2566 รวมถึงพัฒนาการใช้แอปพลิเคชัน PEA VOLTA Application ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาตำแหน่ง นำทาง สั่งชาร์จ ชำระค่าบริการ และตรวจสอบประวัติการใช้งาน ได้สะดวกยิ่งขึ้น เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะผลักดันประเทศไทยให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้เกิดสังคมสีเขียว สร้างงานสร้างอาชีพ ไปพร้อมกับการพัฒนาเศรษฐกิจให้กับคนไทยต่อไป”  สำหรับความร่วมมือระหว่างเกรท วอลล์ มอเตอร์ กับ 3 หน่วยงานการไฟฟ้าในครั้งนี้จะครอบคลุมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้าเพื่อรองรับการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ทั้งการติดตั้งและการพัฒนาสถานีประจุไฟฟ้า การแบ่งปันองค์ความรู้ที่สำคัญในการดำเนินการ พร้อมยกระดับแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในอนาคต โดยมีรายละเอียดดังนี้ ·      การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.): ร่วมมือในการขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าในรูปแบบ Fast-charge พร้อมพัฒนา Charging Mobile Application ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ ทั้งการแลกคะแนนสะสมระหว่างแพลตฟอร์ม และการระบุเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ยังร่วมมือกันทางด้านการส่งเสริมการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านยานยนต์ไฟฟ้า การศึกษาวิจัยแนวโน้มของแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งการศึกษาความเป็นไปได้และโอกาสในรูปแบบธุรกิจอื่น ๆ ·    การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.): แลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิค และการศึกษาวิจัยความเป็นไปได้ในการนำแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ซ้ำและการรีไซเคิล รวมถึงการฝึกอบรมในด้านสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยเป็นพันธมิตรหลักในการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้กับสถานีชาร์จเร็ว (G-Charge) สถานีพาร์ทเนอร์ สโตร์ (Partner store) และสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบปลายทาง (Destination) พร้อมเชื่อมต่อการให้บริการในการจองสถานีและชำระเงินผ่านทั้งแอปพลิเคชันของ กฟน. และ GWM Application นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน ·    การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.): แลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิคของระบบการทำงานของยานยนต์ไฟฟ้า และระบบของสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน รวมถึงเป็นพันธมิตรหลักในการขยายเขตไฟฟ้า การติดตั้งหม้อแปลงให้กับสถานีพาร์ทเนอร์ สโตร์ (Partner store) และสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบปลายทาง (Destination) เพื่อสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า พร้อมสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาด และการพัฒนาแอปพลิเคชันให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลของสถานีอัดประจุไฟฟ้าและอำนวยความสะดวกในการจองสถานีชาร์จและชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันได้อีกด้วย ความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) ที่เห็นความสำคัญของการสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ผ่านการทำงานร่วมกับพันธมิตรในภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมผลักดันไทยให้ก้าวสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืนตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว  

 
Read More

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ เริ่มต้นที่ 799,000 บาท

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศราคาจำหน่ายสำหรับ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น GLS-LTD มีราคาจำหน่ายที่ 799,000 บาท และ รุ่นท็อป GT มีราคาจำหน่ายที่ 895,000 บาท มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 และได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ การยกระดับดีไซน์ภายนอกที่มอบความรู้สึก SUV มากขึ้น ความประณีตเหนือระดับของดีไซน์ภายในโฉมใหม่ และ สมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวลและสะดวกสบาย โดยผลสำรวจความคิดเห็น1 เผยว่า 83% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจต่างชื่นชอบ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ นี้ รถครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังคงคอนเซป ‘Expand Your Advanced Life’ ถือเป็นรถยนต์ที่เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการรถยนต์ที่มีห้องโดยสารกว้างขวาง ความอเนกประสงค์ครบครัน และสามารถขับขี่ไปทุกจุดหมายได้อย่างง่ายดาย พร้อมด้วยสมรรถนะการใช้งานในแบบรถเอสยูวีที่ช่วยสร้างทุกความเป็นไปได้ในชีวิตให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ด้าน มร.เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยอดจองรถยนต์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ถือว่าเหนือความคาดหมายไม่ใช่เฉพาะแค่งานนี้เท่านั้น เรายังได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วประเทศ ที่ต่างประทับใจกับ มิตซูบิชิเอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ นี้ หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่ตลาดรถยนต์ไทยเพียงหนึ่งเดือน มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ใหม่ มียอดจองรวมมากกว่า 2,500 คัน เรายังมีความยินดีที่จะแจ้งว่า ทางบริษัทฯ จะเริ่มดำเนินการส่งมอบ มิตซูบิชิเอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ให้แก่ลูกค้าได้ ตั้งแต่สิ้นเดือนเมษายนนี้ เป็นต้นไป”   

 
Read More

รองนายกรัฐมนตรี เยือนสำนักงานใหญ่ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น

มร.ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง และ มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หม่อมหลวงชโยทิตกฤดากร ผู้แทนการค้าไทยและที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และ คุณดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในโอกาสเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแผนแม่บทยานยนต์ไฟฟ้าของไทย การลงทุนเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต รวมถึงมาตรการของรัฐบาลไทยในการสนับสนุนการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า คุณสุพัฒนพงษ์ และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้เยี่ยมชมโชว์รูมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีการจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ไว้ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ ด้าน มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะผู้แทนจากประเทศไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้คณะผู้บริหารระดับสูงของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้พบปะหารือ พร้อมให้ข้อมูลทิศทางและเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของเราในอนาคต ตลอดการพูดคุยด้วยเนื้อหาสาระที่เกี่ยวกับแผนแม่บทและกลยุทธ์ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย เราชื่นชมที่รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดการปรับตัวสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นแรงผลักดันการขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของเรา การเดินทางเยือนของคณะผู้แทนรัฐบาลไทย ช่วยตอกย้ำถึงทิศทางกลยุทธ์และความมุ่งมั่นของเราที่จะส่งเสริมให้ลูกค้าชาวไทยใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกที่ผลิตเพื่อการจำหน่าย ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีหลักในการดำเนินธุรกิจของเรา  เรากำหนดยุทธศาสตร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเริ่มผลิตและจัดจำหน่าย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ที่มีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานและมีความเหมาะสมที่สุดสำหรับตลาดเมืองไทยในปัจจุบัน”  

 
Read More
Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed