เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่แบรนด์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คว้ารางวัล No.1 Brand Thailand 2020 ต่อเนื่อง 9 ปีซ้อน คุณมนสิชา สังข์สุวรรณ ผู้จัดการทั่วไปส่วนงานสื่อสารการตลาด บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เป็นตัวแทนขึ้นรับรางวัล No.1 Brand Thailand ในฐานะที่ฮอนด้าได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในกลุ่มรถจักรยานยนต์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน โดยงานนี้มี คุณเพิ่มพล โพธิ์เพิ่มเหม บรรณาธิการบริหารและผู้ก่อตั้งนิตยสาร Marketeer เป็นผู้มอบรางวัล ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ สำหรับรางวัล No.1 Brand Thailand จัดโดยนิตยสาร Marketteer ได้ทำการสำรวจแบรนด์ยอดนิยมในประเทศไทย โดยเก็บข้อมูลประชากรทั่วประเทศด้วยวิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ Stratified Sampling โดยอาศัยข้อมูลค่า GPP (Gross provincial product) จากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มาเป็นตัวกรองในการคัดเลือกตัวอย่าง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจข้อมูลประชากรจำนรวน 4,000 ชุด (ประมาณเชิงสถิติสามารถให้ข้อมูลครอบคลุม 45 ล้านคน) โดยกำหนดให้เป็นการสอบถามแบบเผชิญหน้ากับกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิง อายุ 12-59 ปี จากพื้นที่ทั่วประเทศ 5 ภาค ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล, ภาคกลาง, ภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ #No1BrandThailand #WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #APHonda #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า
Day: August 4, 2020
Charge to Change เพื่อโลก
รถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดโครงการ “Charge to Change” อย่างเป็นทางการ ชวนผู้ใช้รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทุกยี่ห้อร่วมกันชาร์จเพื่อเปลี่ยนโลก ลดปัญหา PM 2.5 สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น พร้อมสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นให้คนไทย บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวโครงการ “Charge to Change” อย่างเป็นทางการ ชวนผู้ใช้รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมกับพลังงานน้ำมันหันมา “ชาร์จเพื่อเปลี่ยนโลก” โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานมาชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้บ่อยขึ้น ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหา PM 2.5 สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น พร้อมทั้งสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นให้กับคนไทย มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โควิด-19 เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบกับผู้คนทั่วโลก นำไปสู่การที่พวกเราต้องเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อลดการระบาด ส่วนปัญหามลภาวะทางอากาศของฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้นั้นดูเหมือนจะบรรเทาเบาบางลงและไม่ได้รับการพูดถึงมากนัก ทว่าในความเป็นจริง ปัญหานี้ยังอยู่กับเรา ไม่ได้หายไปไหน และการเดินทางด้วยรถยนต์ก็เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิด PM 2.5 ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษระบุชัดเจนว่า มากกว่าร้อยละ 50 ของฝุ่นละออง PM 2.5 นั้นมาจากการเดินทางโดยรถยนต์ และเฉพาะในกรุงเทพฯ เพียงเมืองเดียวก็มีจำนวนรถยนต์จดทะเบียนอยู่มากกว่า 10 ล้านคัน ไม่ว่าจะมีโควิดหรือหลังจากโควิดผ่านพ้นไป ปัญหา PM 2.5 จะยังเป็นปัญหาใหญ่ที่คนไทยทุกภาคส่วนต้องหันมาร่วมมือกันแก้ไข สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้ามาลงทุนและทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เราได้กลับมาคิดทบทวนว่า จะมีทางใดที่เรายังสามารถใช้รถยนต์ต่อไปแต่ช่วยให้อากาศสะอาดขึ้นได้บ้าง ซึ่งเราพบว่า รถยนต์ EQ Power หรือรถยนต์รุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่เรามีนั้นสามารถมอบการเดินทางที่ปราศจากมลพิษให้กับผู้ขับขี่ได้ แต่การจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ในวงกว้างนั้นต้องมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจากผู้ใช้รถยนต์ทุกคน นี่จึงเป็นที่มาของการสร้างสรรค์โครงการ “Charge to Change” ขึ้นอย่างเป็นทางการในวันนี้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งผู้ใช้เมอร์เซเดส-เบนซ์และผู้ใช้รถยนต์ แบรนด์อื่น ๆ ตระหนักว่า คุณสามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนโลกให้สะอาดขึ้นพร้อมทั้งลดปัญหา PM 2.5 ได้เพียงหันมาชาร์จรถยนต์ของคุณให้บ่อยขึ้น…
อีซูซุ คิงออฟทรัคส์
อีซูซุ คิงออฟทรัคส์เมื่อ “แฟลช เอ็กซ์เพรส” ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทยแบบครบวงจร เลือกใช้รถบรรทุก “อีซูซุ คิงออฟทรัคส์” เพิ่มศักยภาพทางธุรกิจในการขนส่ง คุณคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทยแบบครบวงจร รับมอบรถบรรทุกอีซูซุ คิงออฟทรัคส์ (Isuzu King of Trucks) 4 ล้อ รุ่น NLR Lite และ 6 ล้อ รุ่น FTR จากกลุ่มตรีเพชร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งพัสดุ และสอดรับต่อการเติบโตของธุรกิจ E-commerce โดยมี มร.ทาเคชิ คาซาฮาระ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และบริษัท อีซูซุสงวนไทยมอเตอร์เซลส์ จำกัด เป็นผู้ส่งมอบรถ ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ถนนวิภาวดีรังสิต
ซูบารุ เดินหน้าสู่วิถีใหม่
นับว่าเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยหลังจากผ่านวิกฤตการณ์ที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว กับงานแสดงรถยนต์งานใหญ่งานแรกของปี Bangkok International Motor Show ครั้งที่41 ที่เพิ่งจบไป ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการกระตุ้น ให้ฟันเฟืองเศรษฐกิจกลับมาหมุนต่ออีกครั้ง คุณตวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผู้บริโภคยังคงให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจ ในแบรนด์รถยนต์ซูบารุ ทำให้งานครั้งนี้ ซูบารุสามารถปิดยอดขายได้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จ ทั้งในแง่ของยอดขาย และในแง่ของการที่ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคปรับตัวสู่ยุควิถีใหม่ได้ เป็นอย่างดี โดยซูบารุก็ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์พร้อมทั้งส่งมอบ 4 เทคโนโลยีหลักอันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุอันได้แก่เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ (Boxer Engine), ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive), ซูบารุโกลบอลแพลตฟอร์ม (Subaru Global Platform), และ ระบบเสริมความปลอดภัยอายไซต์ (EyeSight Drive Assist) อันเป็นที่ต้องการของลูกค้าต่อไป พร้อมรับรองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการพัฒนาบริการหลังการขายที่รวดเร็ว และได้มาตรฐาน ทดสอบและประเมินทักษะความเชี่ยวชาญของช่างซ่อม เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายศูนย์บริการทั่วทุกภูมิภาค” ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของ 4 เทคโนโลยีหลักอันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญและข้อเสนอต่างๆ ได้ที่โชว์รูมซูบารุทั่วประเทศ