MAZDA MX-5 รุ่นปี 2020

เพื่อยกระดับดีไซน์เติมเต็มความสปอร์ตพรีเมียม จากรถสปอร์ตที่เป็นตำนาน MAZDA MX-5 โดย บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด  การแนะนำรถ MAZDA MX-5 รุ่นปี 2020 ยนตรกรรมสปอร์ตโรดสเตอร์ แบรนด์ไอคอนเจเนอเรชั่นล่าสุด อันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า เจ้าตำนานแห่งความสนุกสนานในการขับขี่รุ่นหลังคาเปิดประทุนด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 อันทรงพลังที่ให้สมรรถนะความแรงสูงสุด 184 แรงม้า ยกระดับเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE อันเหนือระดับด้วยระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance พร้อมตรวจจับคนเดินถนน ตกแต่งภายในใหม่เสริมภาพลักษณ์สปอร์ตพรีเมียมด้วยเบาะหนังPerforated และเดินตะเข็บด้วยด้ายเย็บสีเทา เพิ่มคิ้วบันไดกันรอยสเตนเลสและกุญแจรีโมทดีไซน์ใหม่อันทันสมัย พร้อมตัวเลือกสีใหม่ สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ เอกลักษณ์ของมาสด้า และมอบข้อเสนอสุดพิเศษฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี และขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. ในครั้งนี้ มาสด้าได้มีโอกาสแนะนำ MX-5 รุ่นปี 2020 ซึ่งเหตุผลสำคัญในการปรับโฉมจากรุ่นที่เปิดตัวในปี 2017 และ 2018เพื่อทำให้รถ MX-5 มีคุณลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นและเป็นที่ปรารถนามากยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อเป็นการส่งมอบความสนุกสนานในการขับขี่ให้กับกลุ่มลูกค้าของมาสด้าที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ มาสด้าจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนารถ MX-5 เพื่อที่จะนำมาซึ่งความสุขที่มากยิ่งขึ้นของลูกค้าโดยมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนในเรื่องขององค์ประกอบของการออกแบบ ซึ่งตัวเลือกใหม่นี้รวมถึงสีตัวถังใหม่ สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ ที่แสดงถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามของรถ MX-5 โดยให้ความรู้สึกที่แข็งแรงอันแสดงถึงรถยนต์คุณภาพสูงและทรงพลัง MAZDA MX-5 รุ่นปี 2020 ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตที่ให้ความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่ ด้วยการออกแบบตามแนวคิด จินบะ อิไต (Jinba-Ittai) ที่ถ่ายทอดความรู้สึกความเป็นหนึ่งอันเดียวกันระหว่างคนกับรถ โดยยึดหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง ด้วยการนำเอาท่วงท่าการเดินที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์มาเป็นต้นแบบในการพัฒนาแต่ยังคงรักษาจุดเด่นของความเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขับสนุกที่สุด และโดดเด่นหรูหราด้วยรูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ทั้งสง่างาม และให้สมรรถนะทรงพลังอันมีเอกลักษณ์เฉพาะมาสด้าได้อย่างลงตัว การปรับโฉมในครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกของการก้าวเดินไปสู่อนาคตในปีที่ 31 ของ MX-5 ซึ่งมาสด้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาเพื่อที่จะนำเสนอคุณค่าที่เกินความคาดหมายให้แก่ลูกค้าและเสริมความแข็งแกร่งในจุดยืนของการเป็นแบรนด์ไอคอนของมาสด้า รวมถึงเพื่อตอกย้ำถึงพันธกิจนี้ต่อไปในอนาคต นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติม ดังนั้นการปรับโฉม MX-5 รุ่นปี 2020 จึงมาพร้อมกับการปรับแต่งภายในที่ทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยแนวทางการออกแบบตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ ที่เรียบง่ายแต่งดงาม ด้วยการปรับแต่งภายในใหม่ด้วยเบาะหนัง Perforated และเดินตะเข็บด้วยด้ายเย็บสีเทา พร้อมคิ้วบันไดกันรอยสเตนเลสเพิ่มความทันสมัยและให้ประโยชน์ใช้สอย ตกแต่งด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีดำเมทัลลิค รองรับการใช้งาน Apple CarPlay พร้อม Mazda Connect โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display ขนาด 7 นิ้ว ช่วยอำนวยความสะดวกในทุกการติดต่อ…

 
Read More

Honda Wave ขายดีสุดเพราะ…

เอ.พี. ฮอนด้า เปิดตัว  Honda Wave 100 สู่เมืองไทยเป็นครั้งแรกในปี 2540 และได้รับการตอบรับที่ดีอย่างรวดเร็วในทันที ก่อนที่รถในตระกูลเวฟจะกลายมาเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบครอบครัวที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานที่สุดกว่า 2 ทศวรรษ และยังคงยืนหนึ่งถึงยุคปัจจุบันในฐานะรถที่มียอดจำหน่ายสูงสุดที่สุดของประเทศไทย  ด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมถึง 15,277,287 คัน (นับถึงสิ้นปี 2019) แต่อะไรคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ Honda Wave มาได้ไกลขนาดนี้ ทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะตกจากความเป็นเบอร์หนึ่งได้ง่ายๆ พบกับความลับ 5 ข้อ ที่ใครๆ ที่ทำให้ Honda Wave กลายเป็นตัวเลือกแรกของคนไทย เมื่อคิดจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ที่คุ้มค่าสักคัน 1.ดีไซน์ทันสมัย สวยงามโดดเด่นทุกมุมมอง Honda Wave ทุกรุ่นได้รับการออกแบบให้โดนใจคนไทย สวยงามทันสมัย ดูลงตัวทั้งคันไม่ขาดไม่เกิน โดยเฉพาะ Honda Wave 110i ที่มีไฟหน้ารูปหัวใจเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากในด้านความสวยงาม และยังทำให้ Honda Wave กลายเป็นผู้นำเทรนด์ในเรื่องดีไซน์ของรถครอบครัวยุคใหม่ ล่าสุด Honda Wave รุ่นใหม่ ๆ ยังนำระบบไฟ LED มาใช้กับไฟหน้า ยิ่งเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีกระดับ ในขณะที่ตัวรถก็มีรูปทรงและเส้นสายที่ดูพริ้วไหวทันสมัย ทั้งยังมีจุดเด่นที่บังลมแบบเลเยอร์ดูมีมิติ และการใช้วัสดุประกอบที่ทนทาน 2.เครื่องยนต์อึด แรง ประหยัด Honda Wave วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 2540 ในชื่อ Honda Wave100 ก่อนที่ในปี 2542 จะอัพเกรดขึ้นมาเป็น Honda Wave110 และเปิดตัวรุ่นที่มีเครื่องยนต์ขนาด 125ซีซี ภายใต้ชื่อ Honda Wave125 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้ ต่อมาในปี 2546 ฮอนด้าได้นำระบบหัวฉีด PGM-FI มาติดตั้งกับ Honda Wave เป็นรุ่นแรกในประเทศไทย ซึ่งระบบหัวฉีดนี้สามารถทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะของฮอนด้าได้อย่างลงตัว ให้แรงต้นดี ออกตัวง่าย ในขณะที่น้ำมันถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่าทุกหยด หลังจากนั้นก็ยังได้รับการพัฒนาให้มีความล้ำสมัยอยู่เสมอจนถึงทุกวันนี้ โดย Honda Wave 110i รุ่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันมีอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 59.9 กม./ลิตร ในขณะที่ Honda Wave 125i มีอัตราประหยัดถึง 69 กม./ลิตร จากการวัดค่าตามมาตรฐานยูโร (EURO) ซึ่งใกล้เคียงกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันมากที่สุด 3.ทนทาน ดูแลรักษาง่าย อีกหนึ่งเบื้องหลังที่ทำให้ Honda Wave ได้รับความนิยมคือตัวรถที่มีความทนทานในทุกส่วนตั้งแต่เครื่องยนต์…

 
Read More
Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed